ธนบัตรแบบที่ ๑
- พิมพ์จากบริษัทโทมัสเดอลารูของอังกฤษ รวมราคาทั้งสิ้น ๘ ล้านบาท พิมพ์ด้านหน้าด้านเดียว
จึงมีชื่อว่า ธนบัตรหน้าเดียว ภาษาอังกฤษเรียก Currency Note มี ๕ ราคาด้วยกันคือ
๕ บาท ๑๐ บาท ๒๐ บาท ๑๐๐ บาท และ ๑๐๐๐ บาท
- ชนิดราคา ๕ บาท มีอยู่ ๔ รุ่น ออกใช้เมื่อปี พ.ศ.๒๔๔๕ , ๒๔๔๙ , ๒๔๕๐ และ
พ.ศ.๒๔๕๔ ตามลำดับ
- ชนิดราคา ๑๐ บาท มีอยู่ ๔ รุ่น ออกใช้เมื่อปี พ.ศ.๒๔๔๕ , ๒๔๔๗ , ๒๔๕๐
และ พ.ศ.๒๔๕๓ ตามลำดับ
- ชนิดราคา ๒๐ บาท มีอยู่ ๔ รุ่น ออกใช้เมื่อปี พ.ศ.๒๔๔๕ , ๒๔๔๗ , ๒๔๕๑
และ พ.ศ. ๒๔๕๓ ตามลำดับ
- ชนิดราคา ๑๐๐ บาท มีอยู่ ๕ รุ่น ออกใช้เมื่อปี พ.ศ.๒๔๔๕ , ๒๔๔๗ , ๒๔๕๓
, ๒๔๕๗ และ พ.ศ.๒๔๖๐ ตามลำดับ
- ชนิดราคา ๑๐๐๐ บาท มีอยู่ ๓ รุ่น ออกใช้เมื่อปี พ.ศ.๒๔๔๕ , ๒๔๕๒ , และ
พ.ศ.๒๔๕๕ ตามลำดับ
- ตามพระราชบัญญัติธนบัตร ร.ศ.๑๒๑ (พ.ศ.๒๕๔๕) กรมธนบัตรจะออกธนบัตรได้ฉบับละไม่ต่ำกว่า
๕ บาท เนื่องจากขณะนั้นมีเงินเหรียญบาทใช้อยู่ แต่ต่อมาในปี พ.ศ.๒๔๕๙ - ๒๔๖๐
ราคาโลหะเงินสูงขึ้นจนมูลค่าโลหะเงินที่ใช้ทำเหรียญบาท ๑ เหรียญ เกือบจะมีราคามากกว่า
มูลค่า ๑ บาท จึงได้ออกพระราชบัญญัติเพิ่มเติม พ.ศ.๒๔๖๑ ให้เสนาบดีกระทรวงพระคลังมหาสมบัติผลิตธนบัติชนิด
ราคา ๑ บาทได้ ตามที่เห็นสมควร จึงได้มีการพิมพ์ธนบัตรราคา ๑ บาท ออกมา ๕
รูป ในปี พ.ศ.๒๔๖๒ , ๒๔๖๓ , ๒๔๖๔ , ๒๔๖๕ , และ พ.ศ.๒๔๖๗ ตามลำดับ
- ธนบัตรชนิดราคา ๕๐ บาท รุ่นแรกออกใช้เมื่อไป พ.ศ.๒๔๖๑ ตามความต้องการธนบัตรที่เพิ่มมากขึ้นมีอยู่
๒ รุ่นออกในปีเดียวกัน