| หน้าแรก | ชาติ | ศาสนา | พระมหากษัตริย์ |
| พันธุ์ไม้ดอกของไทย | ไม้ดอกชนิดเป็นพุ่ม | ไม้ดอกชนิดเป็นเถา | ไม้ยืนต้นที่ให้ดอก | หน้าต่อไป |

ทองหลางใบมน
เป็นไม้ต้นผลัดใบขนาดกลางสูงประมาณ ๑๕ เมตร ลำต้นสีเทา เปลือกเป็นลายคล้ายเปลือกแตกตืน ๆ สีเทาอ่อน เรือนยอดกลม ใบเป็นประเภทใบประกอบชนิดที่มี ๓ ใบย่อย ใบย่อยเป็นรูปไข่หรือรูปไข่กึ่งขนมเปียกปูน สีเขียว ผิวใบเกลี้ยงเป็นมัน
ออกดอกเป็นช่อใหญ่ตามปลายกิ่ง ดอกสีแดงและแดงแสด ยาวประมาณ ๖ เซนติเมตร ฝักยาวประมาณ ๒๕ เซนติเมตร  เป็นข้อ ๆ สีน้ำตาลเข้ม เมล็ดสีแสด ออกดอกระหว่างเดือนธันวาคมถึงกุมภาพันธ์ เป็นไม้ปลูก
ขยายพันธุ์ด้วยการเพาะเมล็ด

ทองหลางด่าง
เป็นไม้ต้นผลัดใบขนาดกลางสูงประมาณ ๑๐ เมตร ลำต้นสีเทา เปลือกลำต้นเป็นลายคล้ายเปลือกแตกตื้น สีเทาอ่อน เรือนยอดกลม ใบเป็นใบประกอบชนิดสามใบย่อย ใบย่อยเป็นรูปไข่ หรือรูปไข่กึ่งขนมเปืยกปูนสีเขียวและมีลายเหลือง
ออกดอกเป็นช่อใหญ่ตามปลายกิ่ง มักสลัดใบหมดต้น ก่อนออกดอก  เป็นไม้ปลูก
ขยายพันธุ์ด้วยการปัก ชำกิ่งและการตอนกิ่ง

เทียนกิ่ง
เป็นไม้ต้นขนาดเล็กสูงประมาณ ๔ เมตร ทรงพุ่ม ใบออกตรงข้ามกัน มีสัณฐานรูปไข่แคบ ๆ ขนาดประมาณ ๓ เซนติเมตร
ดอกมีขนาดเล็กมาก สีขาวหรือสีแดง กลิ่นหอมเย็นเป็นช่อตามปลายกิ่ง กลีบดอกเล็กย่น เกสรตัวผู้มี ๘ อัน ผลกลมขนาดเล็ก ภายในมีเมล็ดสีดำเล็ก ๆ เป็นเหลี่ยม ออกดอกเดือนสิงหาคมถึงกันยายน
ขยายพันธุ์ด้วยการตอน
            "เทียนเอ๋ยเทียนกิ่ง                     ออกกระจุ๋มกระจิ๋มเป็นนักหนา
ออกติดกันเป็นช่อละออตา กลิ่นเย็นจับวิญญาน่าชื่นชม"

นนทรี
เป็นไม้ต้นผลัดใบสูงประมาณ ๒๕ เมตร เปลือกลำต้นสีเทาเรียบ ตามกิ่งและยอดอ่อนมีขนสีน้ำตาลแดงทั่วไป เรือนยอด เป็นรูปร่ม ใบเป็นประเภทใบประกอบแบบขนนก ๒ ชิ้น มี ๔-๑๓ คู่ แต่ละคู่มีใบย่อย ๑๐-๒๒ คู่ ใบย่อยไม่มีก้านใบ ใบมีสัณฐานรูปไข่
ออกดอกเป็นช่อที่ปลายกิ่ง  ช่อดอกเป็นรูปทรงเจดีย์ ยาวประมาณ ๓๐ เซนติเมตร กลีบรองดอกด้านนอกมีขนสีน้ำตาลแดง ดอกสีเหลือง ผลเป็นฝักแบน ปลายฝักรูปรี โดยฝักสอบแหลม สีน้ำตาลแดง เมื่อฝักแก่จะเป็นสีดำ แต่ละฝักมี ๑-๔ เมล็ด ออกดอกเดือนกุมภาพันธ์ถึงมีนาคม
ขยายพันธุ์ด้วยการเพาะเมล็ด

บุนนาค
เป็นไม้ต้นขนาดกลาง สูงประมาณ ๒๐ เมตร ไม่ผลัดใบ เรือนยอดเป็นพุ่มทึบรูปเจดีย์ทรงต่ำ  ลำต้นเปลาตรง เปลือกเรียบ สีน้ำตาลปนเทา  ใบรูปหอกหรือขอบขนาน ด้านบนสีเขียวด้านล่างสีเขียวอมขาว ใบอ่อนสีชมพู
ดอกสีขาวหรือสีเหลืองอ่อน  ออกเดี่ยวหรือเป็นกระจุก ๒-๓ ดอก กลีบรองดอกสีเขียวเข็งและติดเป็นผล เกสรตัวผู้สีเหลืองมีจำนวนมาก ผลทรงรูปไข่เมื่อผลแก่มักแตกเป็น ๒ ซีก ภายในมีเมล็ด ๒-๓ เมล็ด ผิวสีน้ำตาลมัน
ขยายพันธุ์ด้วยการเพาะเมล็ด

ปีบ
เป็นไม้ต้นขนาดกลางสูงประมาณ ๒๐ เมตร เปลือกลำต้นสีเทาขรุขระ ใบเป็นประเภทใบประกอบแบบขนนก ๒-๓ ชิ้น ใบย่อยมีสัณฐานรูปไข่แกมรูปหอก ปลายใบแหลม ออกดอกเป็นช่อใหญ่ตั้งตรงยาวประมาณ ๓๐ เซนติเมตร ดอกจะทยอยกันบาน กลีบอดกสีขาวที่โคนกลีบเชื่อมติดกันเป็นหลอดยาวประมาณ ๖ เซนติเมตร ส่วนปลายแยกเป็น ๕ กลีบ
ดอกจะบานและมีกลิ่นหอมตอนเย็นถึงกลางคืน  ผลเป็นฝักแบน  มีเมล็ดมาก  เมื่อฝักแก่จะแตกออกเมล็ดจะมีปีก ร่อนไปได้  ออกดอกเดือนตุลาคมถึงธันวาคม
ขยายพันธุ์ด้วยการเพาะเมล็ด การสลัดรากหรือชำรากลำต้นใต้ดิน

ปีบทอง
เป็นไม้ต้นผลัดใบขนาดกลางสูงประมาณ ๑๐ เมตร เรือนยอดเป็นพุ่มทึบ  ใบเป็นประเภทใบประกอบแบบ ๒-๓ ชิ้น ใบย่อยรูปไข่ปลายใบแหลม
ออกดอกเป็นช่อสั้น ๆ เป็นกลุ่มตามลำต้น และกิ่งก้านมีประมาณ ๕-๑๐ ดอก ดอกบานไม่พร้อมกัน ดอกสีเหลืองแสดเป็นหลอดสั้น ๆ ปลายกลีบแยกเป็น ๕ แฉก ผลเป็นฝักกลมยาวผิวเกลี้ยงยาวประมาณ ๔๐ เซนติเมตร เมื่อฝักแก่จะแตกออกเมล็ดในฝักมีปีกบาง ๆ ออกดอกเดือนมกราคมถึงเมษายน ขณะออกดอกมักทิ้งใบหมดต้น เป็นไม้ที่พบตามเขาหินปูนที่ชุ่มชื้นทางภาคเหนือ
ขยายพันธุ์ด้วยการเพาะเมล็ด

ประดู่แดง
เป็นไม้ต้นผลัดใบสูงประมาณ ๒๐ เมตร เรือนยอดแผ่กว้าง กิ่งลู่ลงดิน ใบเป็นประเภทใบประกอบ มีใบย่อย ๖-๑๐ คู่ ใบที่อยู่ปลายยอดจะเป็นคู่ที่ใหญ่ที่สุด ใบย่อย 2 ข้างมีขนาดไม่เท่ากัน ใบมีสัณฐานรูปไข่หรือรูปหอกผิวใบเกลี้ยง
ออกดอกเป็นช่อเกาะเป็นกระจุกตามกิ่ง ๓-๕ กระจุก แตะละกระจุกมีประมาณ ๓-๕ ดอก กลีบรองดอกมี ๔ กลีบสีแดง กลีบคุ่มเหมือนเรือ เกสรสีแดง มีขนาดความยาวไม่เท่ากัน ผลเป็นฝักแบนรูปขอบขนานโค้งเล็กน้อยยาวประมาณ ๗ เซนติเมตร แต่ละฝักมี ๑ เมล็ด ออกดอกเดือนมกราคมถึงเดือนกุมภาพันธ์ ดอกจะบานประมาณ ๒ สัปดาห์
ขยายพันธุ์ด้วยการเพาะเมล็ด

ประดู่บ้าน
เป็นไม้ต้นผลัดใบขนาดใหญ่สูงประมาณ ๒๐ เมตร  ลำต้นเปลาตรง เรือนยอดเป็นพุ่มทรงกลมหรือรูปเจดีย์ทรงต่ำทึบ เปลือกลำต้นสีน้ำตาลมีรอบแตกตามทางยาว กิ่งก้านทอดลงต่ำ ใบเป็นประเภทใบประกอบแบบขนนก มีใบย่อยประมาณ ๗-๑๓ ใบ ใบย่อยเป็นรูปขอบขนานแกมรูปไข่ ผิวใบเกลี้ยง โคนใบกว้างมนกลม และปลายใบเรียว
ออกดอกเป็นช่อตามใบใกล้ยอด กลีบรองดอกเขียวกลีบดอกสีเหลืองอมส้มขนาดประมาณ ๑ เซนติเมตร ผลเป็นฝักกลมแบนมีปีกโดยรอบ แต่ละฝักมี ๑ เมล็ด เมื่อฝักแก่จะแห้งแต่ไม่แตก ขึ้นตามป่าเบญจพรรณชื้น
ขยายพันธุ์ด้วยการเพาะเมล็ด

พฤกษ์
เป็นไม้ต้นผลัดใบขนาดใหญ่ สูงประมาณ ๒๕ เมตร เรือนยอดแบน เปลือกลำต้นขรุขระสีเทาเข้มแตกเป็นร่องรูปเหลี่ยม ใบเป็นประเภทใบประกอบแบบขนนก มี ๒-๔ คู่ แต่ละคู่มีใบย่อยประมาณ ๓-๖ คู่ ใบย่อยไม่มีก้านใบ มีสัณฐานรูปรีแกมรูปไข่กลับ โคนใบกลมหรือเบี้ยว ผิวใบเกลี้ยง
ออกดอกเป็นช่อกลม เกสรสีขาวนวล  มีกลิ่นหอม ช่อดอกออกตามง่ามใบใกล้ปลายกิ่ง มี ๑-๔ ช่อ ผลเป็นฝักแบนบาง สีเทาอมเหลืองรูปขอบขนานหัวท้ายบน  แต่ละฝักมี ๔-๑๒ เมล็ด ออกดอกประมาณเดือนมีนาคมถึงเมษายน มีขึ้นตามป่าเบญจพรรณทั่วไป
ขยายพันธุ์โดยการเพาะเมล็ด


| พันธุ์ไม้ดอกของไทย | ไม้ดอกชนิดเป็นพุ่ม | ไม้ดอกชนิดเป็นเถา | ไม้ยืนต้นที่ให้ดอก | หน้าต่อไป | บน |