| หน้าแรก | ชาติ | ศาสนา | พระมหากษัตริย์ |
| พันธุ์ไม้ดอกของไทย | ไม้ดอกชนิดเป็นพุ่ม | ไม้ดอกชนิดเป็นเถา | ไม้ยืนต้นที่ให้ดอก |

ลำดวน
เป็นไม้ต้นสูงประมาณ ๑๕ เมตร ลำต้นโปร่งตรง  เรือนยอดทึบรูปกรวยทรงต่ำ ใบดอกออกเดี่ยวสีเขียวเข้ม  หลังใบสีนวล
ดอกสีนวล  ชั้นนอกมี ๓ กลีบ แผ่แบนออก ชั้นในหุ้มเข้าหากัน มีลักษณะรูปทรงคล้ายสายเหลี่ยม กลีบชั้นในเป็นคลื่น  เริ่มส่งกลิ่นหอมเวลาเย็นถึงเข้าวันรุ่งขึ้น  ผลเมื่อสุกจะเป็นสีดำ มีรสหวานอมเปรี้ยว
ขยายพันธุ์ด้วยการเพาะเมล็ด และกิ่งตอน
        ลำดวนหวลหอมตระหลบ                     กลิ่นอายอบสบนาสา
นึกถวิลกลิ่นบุหงา-                     รำไปเจ้าเศร้าถึงนาง

ศรีตรัง
เป็นไม้ต้นขนาดกลางสูงประมาณ ๑๐ เมตร  ทรงต้นโปร่ง  ใบเป็นประเภทใบประกอบรูปขนนก ใบย่อยรูปทรงรี  ปลายแหลม
ดอกสีน้ำเงินปนม่วง  ออกเป็นช่อ  แต่ละดอกเป็นรูปกรวย  ปลายแยกเป็น ๕ กลีบ  ดอกยาวประมาณ ๓ เซนติเมตร
ออกดอกในเดือนธันวาคม  อาจจะออกในเดือนอื่นบ้างประปราย เมื่อออกดอกมักจะทิ้งใบหมดทั้งต้น  ผลรูปทรงกลม แบน และบาง  เมื่อผลแก่จะแตกออกทั้ง ๒ ด้าน เมล็ดขนาดเล็ก มีปีกและเบามาก
ขยายพันธุ์ด้วยการเพราะเมล็ด

สารภี
เป็นไม้ต้นขนาดกลางสูงประมาณ ๑๓ เมตร  ไม่ผลัดใบ  เรือนยอดเป็นพุ่มทึบ  เปลือกลำต้นสีเทาปนดำ  แตกล่อนเป็น สะเก็ด  แผ่นใบหนาทรงรูปไข่กลับแกมรอบขนาน ปลายมน
ดอกมีกลีบสีขาว  กลิ่นหอม  เกสรสีเหลืองมีจำนวนมาก  ผลรูปทรงกระสวย  เมื่อผลสุกจะออกสีเหลือง  เมล็ดเดี่ยวแข็ง
ออกดอกระหว่างเดือนมกราคมถึงกุมภาพันธ์  เป็นต้นไม้ที่มีถิ่นกำเนิดในไทย  ขึ้นในป่าเบญจพรรณและป่าดิบใน ภาคเหนือ  ภาคตะวันออก  และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ขยายพันธุ์ด้วยการเพาะเมล็ด

ส้านใหญ่
เป็นไม้ต้นผลัดใบขนาดใหญ่สูงประมาณ ๓๕ เมตร  ใบรูปไข่กลับยาวประมาณ ๓๐ เซนติเมตร  ปลายป้าน  ใบเรียวเป็นครีบจนถึงโคนใบ
ดอกสีเหลืองออกตามกิ่งข้าง  เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ ๑๕ เซนติเมตร  เกสรตัวผู้เรียง ๒ ชั้น ดอกมักจะออกขณะผลัดใบ หมดต้น หรือกำลังแตกใบอ่อน  ผลสีเหลืองอมส้ม  ทรงกลม  เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ ๔ เซนติเมตร  ภายในมีเมล็ดมาก  ขึ้นตามป่าเบญจพรรณหรือชายป่าดงดิบภาคใต้
ขยายพันธุ์ด้วยการเพาะเมล็ด

สุพรรณิการ์
เป็นไม้ต้นผลัดใบสูงประมาณ ๑๒ เมตร  กิ่งก้านคดงอ  ใบรูปหัวใจ  แผ่นใบแยกเป็น ๕ แฉก  ปลายแฉกทั้ง  ๕  แหลม  ขอบในเป็นคลื่น
ดอกสีเหลืองกลิ่นหอม กลีบบาง  เกสรสีเหลือง รังไข่มีขน
ออกดอกเป็นช่อกระจายที่ปลายกิ่งบานทีละดอก ผลทรงกลม เมื่อผลแก่จะแตกออกเป็นหลายพู ภายในมีเมล็ดรูปไตสีน้ำตาล  หุ้มด้วยปุยขาวคล้ายปุยฝ้าย
ขยายพันธุ์ด้วยการเพาะเมล็ด และการปักชำกิ่ง

เสลา
เป็นไม้ต้นผลัดใบสูงประมาณ ๑๒ เมตร เรือนยอดกลม ใบดก กิ่งน้อมลงรอบ ๆ ทรงพุ่มเปลือกลำต้นสีดำ  แตกเป็นร่องเล็ก ๆ ตามแนวยาวของลำต้น ใบเป็นประเภทใบเดี่ยวออกตรงกันข้ามมีขนทั้งสองด้าน ใบรูปไข่ถึงรูปขอบขนาน ปลายใบแหลม
ดอกสีม่วงอมชมพูหรือม่วงและขาว  ขนาดประมาณ ๓ เซนติเมตร  ออกดอกเป็นช่อใหญ่ที่ปลายกิ่งและกิ่งข้าง ผลทรงกลมรี  เมื่อผลแก่ออกสีน้ำตาลดำแตกเป็นหลายพู เมล็ดสีน้ำตาลเข้มมีปีก
ออกดอกระหว่างเดือนพฤศจิกายนถึง มกราคม พบตามป่าเบญจพรรณทั่วไป
ขยายพันธุ์ด้วยการเพาะเมล็ด

หางนกยูงไทย
เป็นไม้ต้นขนาดเล็กสูงประมาณ ๓ เมตร ทรงพุ่มกลม ใบเป็นประเภทใบประกอบแบบขนนกสองชั้น ประกอบด้วย ๔-๑๐ ช่อใบ ใบย่อยมีประมาณ ๑๐ คู่ อยู่ตรงกันข้ามใบย่อยยาวประมาณ ๒ เซนติเมตร
ออกดอกเป็นช่อที่ปลายกิ่งหรือกิ่งข้าง กลีบดอกมีขนาดไม่เท่ากัน มีหลายสีได้แก่ สีเหลือง แดง และชมพู ผลเป็นฝักมี ๔-๘ เมล็ด  ออกดอกตลอดปี

อโศกน้ำ
เป็นไม้ต้นสูงประมาณ ๒๐ เมตร เรือนยอดกลมทึบ เปลือกสีดำ ใบเป็นประเภทใบประกอบมี ๑-๗ คู่ ใบทรงรูปไข่ หรือรูปหอก ปลายใบแหลม โคนใบมน ผิวใบเกลี้ยง
ออกดอกเป็นช่อ กลีบรองดอกมี ๔ กลีบ รูปไข่กลับ แกมขอบขนาน แต่ไม่มีกลีบดอก  เกสรตัวผู้มี ๖-๘ อัน ผลเป็นฝักรูปขอบขนานถึงรูปหอกยาวประมาณ ๒๐ เซนติเมตร กว้างประมาณ ๕ เซนติเมตร
ออกดอกระหว่างเดือนมกราคมถึงกุมภาพันธ์ มักขึ้นริมน้ำตามป่า ปลูกเป็นไม้ประดับ
ขยายพันธ์ด้วยการเพาะเมล็ด

อโศกเหลือง
เป็นไม้ต้นสูงประมาณ ๑๐ เมตร เรือนยอดกลมทึบ  ใบยาวรูปขอบขนานหรือรูปหอก  ปลายแหลม ผิวใบเกลี้ยง
ดอกสีเหลือง ช่อดอกใหญ่ประมาณ ๓๐ เซนติเมตร กว้างประมาณ ๖ เซนติเมตร ผลเป็นฝัก เมื่อฝักแก่จะแตกออก ภายในมีเมล็ดสีแดงคล้ำ  ดอกบานระหว่างเดือนพฤศจิกายนถึงธันวาคม
ขยายพันธุ์ด้วยการเพาะเมล็ด

อินทนิลน้ำ
เป็นไม้ต้นกึ่งผลัดใบขนาดกลาง สูงประมาณ ๑๒ เมตร เรือนยอดแผ่กว้างเป็นพุ่มกลม เปลือกลำต้นหนาสีเทา ใบเป็นประเภทใบเดี่ยวออกตรงกันข้าม  ใบยาวทรงรูปไข่กึ่งขอบขนาน ผิวใบเรียบเป็นมัน
ดอกสีม่วงสด ม่วงปนชมพู ชมพู หรือขาว ออกเป็นช่อที่ปลายกิ่งและกิ่งข้างช่อยาวประมาณ ๑๐-๕๐ เซนติเมตร ดอกขนาดใหญ่มีกลีบดอก ๖ กลีบ ขนาดประมาณ ๗ เซนติเมตร มีเกสรตัวผู้เป็นจำนวนมาก ผลทรงรูปไข่ เมื่อผลแก่จะออกสีน้ำตาล  แตกเป็น ๖ พู เมล็ดมีปีก
ออกดอกระหว่างเดือนพฤษภาคมถึงกรกฎาคม ชอบขึ้นตามริมน้ำในป่าดิบหรือป่าเบญจพรรณ
ขยายพันธุ์ด้วยการเพาะเมล็ด

      ....ลมรำเพยพัดโชยมาระรื่น                     ชุ่มชื่นเร้าใจให้เริงอารมณ์
พันธุ์ดอกไม้ดูน่าชิดชม เคล้ามาตามลมพาให้ชื่นชู ....
      ....ลมเย็นเย็นพัดโชยมาชื่นฉ่ำ                     ใกล้ค่ำหอมชื่นกลิ่นพันธุ์บุปผา
ชื่นยิ่งนักเมื่อลมพัดมา แสนชื่นอุราพาใจเบิกบาน


| พันธุ์ไม้ดอกของไทย | ไม้ดอกชนิดเป็นพุ่ม | ไม้ดอกชนิดเป็นเถา | ไม้ยืนต้นที่ให้ดอก | | บน |