| ย้อนกลับ | หน้าต่อไป |
กรมทหารอาสาสมัคร(กรม อสส.)

           กองทัพบกรับผิดชอบดำเนินการจัดกำลังทางบก ได้ทำการเรียกพลจากผู้ที่มาสมัครและรับสมัครทหารกองหนุน และทหารกองเกิน โดยให้มณฑลทหารบก จังหวัดทหารบก รวมทั้งกรมทหารราบที่๒๑ รักษาพระองค์ เป็นหน่วยรับสมัคร มีผู้มาสมัครเป็นจำนวนมาก
           กองทัพบกได้มีคำสั่งแต่งตั้ง พันเอก สนั่น  ยุทธสารประสิทธิ์  เป็นผู้บังคับการกรมทหารอาสาสมัครและใช้อาคารกองพันทหารปืนใหญ่ ที่ ๒๑ รักษาพระองค์ เป็นที่ตั้งกองบังคับการกรมทหารอาสาสมัครมีกำลังทั้งสิ้น ๒,๒๐๗ คน และกำลังทดแทนร้อยละ ๕ เมื่อได้ทำการฝึกเสร็จในเดือนกรกฎาคม๒๕๑๐ แล้วก็ได้เริ่มออกเดินทางเป็นส่วน ๆ ส่วนล่วงหน้าเดินทางเมื่อ ๑๐ สิงหาคม๒๕๑๐ และส่วนสุดท้ายเดินทางเมื่อ ๑๙ ตุลาคม ๒๕๑๐ กำลังส่วนใหญ่เดินทางโดยเรือ
           กรมอาสาสมัครได้รับคำสั่งให้เป็นหน่วยขึ้นตรงกองพลทหารราบที่ ๙ สหรัฐฯ ตั้งอยู่ที่ค่ายแบร์แคตอำเภอลองถั่น จังหวัดเบียนหว่า อยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ของกรุงไซ่ง่อนห่างออกไปประมาณ ๔๐ กิโลเมตร ได้รับมอบภารกิจในการตั้งรับ แบบยึดพื้นที่ด้านตะวันออกและด้านใต้ของอำเภอโนนทรัค เพื่อเสริมที่มั่นให้แก่พื้นที่ส่วนหนึ่งของพื้นที่สนใจทางยุทธวิธี(Tactical Area of Interest) ของกองพลทหารราบที่ ๙ สหรัฐฯ ด้วยการปฏิบัติการลาดตระเวนพื้นที่และเส้นทางอย่างกว้างขวางการซุ่มโจมตี การทำลายเป้าหมายอย่างฉับพลัน และการยุทธส่งทางอากาศเพื่อทำลายกำลังและที่ตั้งของพวกเวียดกง ช่วยเหลือหน่วยทหารเวียดนามใต้ในการระวังป้องกันพื้นที่ตั้งและเส้นทางคมนาคม ตลอดจนสนับสนุนโครงการพัฒนาพื้นที่ในเขตรับผิดชอบปฏิบัติการช่วยเหลือประชาชน และปฏิบัติการจิตวิทยา
พื้นที่ปฏิบัติการ(Area of Operation - AO)
           กรมทหารอาสาสมัครได้รับมอบพื้นที่ปฏิบัติการ (Area of operation - AO) ในบริเวณอำเภอโนนทรัคและอำเภอลองถั่น จังหวัดเบียนหว่า บนฝั่งขวาของแม่น้ำดองไน ลักษณะภูมิประเทศส่วนใหญ่เป็นป่าละเมาะและสวนยางพื้นที่เป็นที่ราบลุ่ม มีลำน้ำเล็ก ๆ หลายสายไหลลงสู่แม่น้ำดองไน ผ่านเข้าไปในพื้นที่ปฏิบัติการพื้นที่บริเวณนี้ฝ่ายเวียดกงได้ใช้เป็นเส้นทางลำเลียงอาวุธยุทธภัณฑ์ และเสบียงอาหารจากชายฝั่งทะเลไปยังพื้นที่ปฏิบัติการทางสหรัฐฯเคยส่งกองพันทหารราบ เข้ายึดพื้นที่บริเวณนี้มาแล้วครั้งหนึ่ง ทหารในกองพันถูกเวียดกงสังหารเสียชีวิตหมดทั้งกองพันจนไม่มีทหารฝ่ายโลกเสรีชาติใดกล้าเข้าไปตั้งอยู่ในพื้นที่แห่งนี้
แผนการยุทธและการปฏิบัติการ

           กรมทหารอาสาสมัครได้เริ่มแผนการยุทธขึ้นใช้ชื่อว่า แผนยุทธการนเรศวรและได้แบ่งออกเป็นแผนย่อยอีก ๑๘ แผน ให้ชื่อต่างๆ ไว้ทุกแผน ได้วางกำลังตามอัตราการจัดส่วนใหญ่ไว้ที่บังคับการกรมในค่ายแบร์แคตเมื่อมีเหตุการณ์รบเกิดขึ้น จึงจัดกำลังใหม่ให้เหมาะสมแก่การตอบโต้กับข้าศึกในแต่ละครั้งแล้วเคลื่อนกำลังไปวางยังจุดที่มีเหตุการณ์เกิดขึ้น
          ระหว่าง ๕ กันยายน - ๙ ตุลาคม ๒๕๑๐ กรมทหารอาสาสมัคร ได้รับมอบภารกิจให้ป้องกันค่ายแบร์แคตจากการถูกเวียดกงโจมตีจึงได้ส่งหน่วยลาดตระเวนออกค้นหาและทำลายเวียดกงในพื้นที่ทางตอนเหนือของค่ายซึ่งเป็นสวนยางอันเวียง กรมอาสาสมัครใช้แผนยุทธการบางแสนโดยตั้งฐานกองร้อยแล้วส่งกำลังขนาดหมวดออกลาดตระเวน และซุ่มโจมตีข้าศึก สามารถค้นหาและทำลายที่กำบังปิด(Bunker) และทุ่นระเบิด ได้เป็นจำนวนมาก
          ๑๐ - ๑๕ ตุลาคม ๒๕๑๐ กรมทหารอาสาสมัคร ได้รับมอบภารกิจในการลาดตระเวนค้นหาและกวาดล้างข้าศึกในพื้นที่บริเวณหมู่บ้านอันเวียงซึ่งเป็นที่ลุ่มมีลำน้ำหลายสายไหลผ่าน เต็มไปด้วยป่าละเมาะรกทึบ พื้นที่บริเวณนี้ทหารไทยเราเรียกกันว่าทุ่งทองกรมทหารอาสาได้กำหนดแผนยุทธการลาดหญ้าสำหรับการเคลื่อนย้ายกำลังทางอากาศเพื่อสนับสนุนกำลังทางพื้นดิน เนื่องจากพื้นที่นั้นอยู่ไกลเกินระยะยิงของปืนใหญ่เบากระสุนวิถีโค้งขนาด ๑๐๕ มิลลิเมตร ของกองร้อยปืนใหญ่สนาม ผลการปฏิบัติทำให้เวียดกงต้องถอนตัวออกไปจากทุ่งทอง
          ๒๐ - ๓๑ ตุลาคม ๒๕๑๐ กรมทหารอาสาสมัคร ได้รับมอบภารกิจให้เสริมสร้างความมั่นคงในเขต อำเภอโนนทรัคซึ่งมีเวียดกงปฏิบัติการกระจายอยู่ทั่วไป จึงกำหนดแผนยุทธการนเรศวรขึ้น จึงวางกำลังกระจายเต็มพื้นที่ซึ่งอยู่ในอิทธิพลของเวียดกง ปฏิบัติการจิตวิทยาพร้อมไปกับการกวาดล้างเวียดกงได้มีการปะทะกับเวียดกงหลายแห่ง และหลายครั้ง ยึดอาวุธกระสุน และทำลายที่กำบังปิดได้หลายแห่ง
          พฤศจิกายน ๒๕๑๐ กรมทหารอาสาสมัคร ได้รับมอบภารกิจให้ขยายพื้นที่ปฏิบัติการออกไปอย่างกว้างขวางการรบทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น ฝ่ายเราสามารถทำลายที่ตั้งฐานปฏิบัติการ ที่ซ่อนอาวุธและเสบียงอาหารของเวียดกงได้เป็นจำนวนมาก
          ธันวาคม ๒๕๑๐ การปฏิบัติการคงเป็นไปตามแผนนเรศวร ผลการปฏิบัติปรากฏว่าฝ่ายเวียดกงต้องตกเป็นฝ่ายตั้งรับตลอดเวลาและสูญเสียอิทธิพลที่เคยมีอยู่เหนือประชาชนในพื้นที่
           ฐานปฏิบัติการที่กำลังทหารไทยตั้งอยู่ มีสภาพแวดล้อมที่เกื้อกูล และทั้งไม่เกื้อกูลในบางประการแก่ทั้งสองฝ่ายฝ่ายเวียดกงจะส่งหน่วยทหารช่างสังหาร(Sapper)  ขนาดหมวด เข้าไปก่อวินาศกรรมฐานที่ตั้งของไทยโดยอาศัยความรกทึบของป่าเป็นที่หลบซ่อนกำบังตัว กรมทหารอาสาสมัครจึงเตรียมการป้องกันโดยถากถางป่ารอบๆ ฐานที่ตั้งทุกแห่งไม่ให้เวียดกงใช้ประโยชน์ได้  และเป็นประโยชน์ต่อการตรวจการณ์และพื้นที่การยิงของฝ่ายเรา เป็นการปฏิบัติตามแผนสมเกียรติได้มีการปิดล้อม และตรวจค้น หมู่บ้านฟุกโถ ๑ ครั้ง หมู่บ้านบาบอง ๑ ครั้งเพื่อค้นหา และทำลายกำลังกองโจรและกำลังหลักของเวียดกง โดยมีกำลังตำรวจเวียดนามใต้เข้าร่วมปฏิบัติการด้วย
การปฏิบัติการรบที่ฟุกโถ(๒๐ - ๒๑ ธันวาคม ๒๕๑๐)

           พื้นที่บริเวณบ้านฟุกโถ ส่วนใหญ่เป็นที่ลุ่มน้ำท่วมขัง เมื่อน้ำลดจะกลายเป็นโคลนสภาพทั่วไปเป็นทุ่งนา ป่า สวน แม่น้ำ ลำคลอง มีหญ้าคาขึ้นสูงท่วมศีรษะ ป่าส่วนมากเป็นป่าละเมาะป่าไผ่ ป่าชายเลน สวนยาง และสวนมะม่วงหิมพานต์  ชาวบ้านส่วนใหญ่เป็นคนชราสตรีมีครรภ์ และเด็ก ซึ่งเป็นฝ่ายเวียดนามใต้ แต่ชายฉกรรจ์ทุกคน ถูกเวียดกงบีบบังคับให้เป็นผู้ส่งเสบียงให้เวียดกงซึ่งจำใจต้องทำเพื่อความอยู่รอดของครอบครัว ต้องไปหลบซ่อนตัวอยู่ตามป่าตามเขาไม่ปรากฏตัวออกมาให้เห็น เมื่อถึงฤดูเก็บเกี่ยวกองร้อยอาวุธเบาของไทยที่อยู่ในพื้นที่ต้องส่งกำลัง๑ หมู่ออกไปช่วยเก็บเกี่ยว และให้ความคุ้มครองชาวบ้านเหล่านี้
           ฐานที่ตั้งกองร้อยอาวุธเบาที่ ๑ คร่อมทับอยู่บนถนนสาย ๓๑๙ ทางทิศใต้ของหมู่บ้านฟุกโถวางแนวที่มั่นตั้งรับเป็นวงกลม เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ ๓๐๐ เมตร มีคูติดต่อถึงกันรั้วใช้ลวดหนามหีบเพลงเป็นเครื่องกีดขวางตลอดแนวที่มั่น ฝ่ายเราได้ดำรงการเกาะเวียดกงตลอดเวลาทั้งการตรวจการณ์และการลาดตระเวน ด้วยการออกไปลาดตระเวนและซุ่มโจมตี หมุนเวียนกันทั้งกลางวันและกลางคืน ผลัดกลางวันเรียกว่า ชุดซุ่มโจมตี(Ambush) ผลัดกลางคืนเรียกว่า ชุดเฝ้าตรวจ(Watching)
           ในคืนวันที่ ๑๘ ธันวาคม ๒๕๑๐ เวลา ๒๒ .๑๐ น. เวียดกงได้เริ่มระดมยิงฐานกองร้อยด้วยเครื่องยิงลูกระเบิดขนาด ๘๒ มิลลิเมตร อย่างรุนแรง เวียดกงได้ใช้กำลังขนาดใหญ่บุกเข้าโจมตีกองร้อยอาวุธเบาที่๑ ถึงสามด้านพร้อมกัน เวียดกงได้ระดมกันเข้าทำลายรั้วลวดหนามหีบเพลง และสามารถตีเจาะเข้าไปในหมวดปืนเล็กที่๑ ได้เป็นส่วนใหญ่ แต่ถูกยิงตายเป็นจำนวนมากเวียดกงไม่สามารถเจาะเข้าไปถึงที่บังคับการกองร้อยได้ ด้านหมวดปืนเล็กที่๒ เวียดกงได้ส่งกำลังบุกเข้าโจมตีเต็มกว้างด้านหน้าเป็นหลายระลอกระลอกแรกใช้ระเบิดขว้างทำลายลวดหนาม แต่เจาะแนวเข้ามาไม่ได้ มีกำลังบางส่วนบุกเข้าตรงรอยต่อระหว่างหมวดแล้วใช้ทุ่นระเบิดวงเดือนทำลายรั้วลวดหนาม สามารถเจาะผ่านแนวรั้วลวดหนาม และผ่านคูติดต่อเข้าไปจึงเกิดการรบขั้นตะลุมบอน แนวรั้วลวดหนามบางแห่งเวียดกงใช้ไม้กระดานพาดแล้วปีนข้ามไปแต่เนื่องจากพวกเวียดกงไม่คุ้นกับสภาพของฐานที่มั่นของไทย จึงเหยียบถูกลูกระเบิดและสะดุดกับพลุส่องแสงที่วางไว้รอบฐาน ระหว่างนั้นเครื่องบินสปุ๊คกี้(Spooky)ก็ได้ไปทิ้งพลุส่องสว่าง ปืนใหญ่ของกรมทหารอาสาสมัครได้ช่วยยิงกระสุนส่องแสงทำให้บริเวณฐานที่ตั้งสว่างไสวไปทั่ว ฝ่ายเราจึงมองเห็นฝ่ายเวียดกงได้ชัดเจนจึงเป็นฝ่ายได้เปรียบสามารถสังหารเวียดกงได้เป็นจำนวนมาก ข้าศึกส่วนใหญ่ติดอยู่ที่คูติดต่อไม่สามารถเจาะผ่านเข้าไปได้ด้านหมวดปืนเล็กที่ ๓ การต่อสู้เป็นไปอย่างรุนแรงจนเที่ยงคืน ข้าศึกจึงถอยกลับไปแล้วก็กลับรวมกำลังเข้าโจมตีอีก แต่ไม่สามารถผ่านแนวต้านทานเข้าไปได้
           การต่อสู้ดำเนินไปเป็นเวลาเกือบ ๕ ชั่วโมง เมื่อถึงเวลา ๐๓.๐๐ น. ข้าศึกจึงเริ่มถอนตัวออกจากแนวต้านทานของหมวดปืนเล็กต่างๆ ของไทย ต่อมาเมื่อเวลา ๐๔.๐๐ น. เมื่อการยิงของพวกเวียดกงเบาบางลงผู้บังคับกองร้อยจึงส่งกองหนุนบรรทุกรถสายพานลำเลียงพล๒ คัน ออกปฏิบัติทางด้านเข้าตีหลักของเวียดกง และขอให้ปืนใหญ่เลื่อนฉากการยิงออกไปเพื่อทำลายกำลังและสกัดกั้นการถอนตัวของเวียดกง การรบยุติลงเมื่อเวลา ๐๕๓๐น.
           ผลการรบฝ่ายเราเสียชีวิต ๖ คน บาดเจ็บสาหัส ๙ คน ฝ่ายเวียดกงเสียชีวิตนับศพได้๙๕ ศพ เสียชีวิตแต่นำศพกลับไปได้ ๙๐ ศพ (ตามคำให้การของเชลยศึก) บาดเจ็บ ๘๐คน ถูกจับเป็นเชลย ๒ คน ยึดอาวุธฝ่ายเวียดกงได้เป็นจำนวนมาก
           การรบที่ฟุกโถ  นับเป็นการรบที่กรมทหารอาสาสมัครของไทยประสบชัยชนะอย่างเด็ดขาดถือได้ว่าเป็นวันแห่งชัยชนะของไทย ในสมรภูมิต่างแดน และยังผลในการสร้างขวัญกำลังใจแก่ทหารเวียดนามใต้เป็นอันมาก
           กรมทหารอาสาสมัครของไทยได้รับคำชมเชยจากพลเอกเวสท์มอร์แลนด์  ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการช่วยเหลือทางทหารสหรัฐฯประจำเวียดนามใต้ และพลเอกเถาวันเวียน ประธานคณะเสนาธิการผสม กองทัพเวียดนามใต้
คำชมเชยที่ได้รับของกรมทหารอาสาสมัคร
           การปฏิบัติการของกรมทหารอาสาสมัคร ที่รู้จักกันดีในฉายาจงอางศึก ตลอดระยะเวลา๑ ปี ในสมรภูมิเวียดนาม เป็นที่ชื่นชมและได้รับคำยกย่องสรรเสริญจากหน่วยเหนือและบรรดากองกำลังชาติพันธมิตรฝ่ายโลกเสรีเป็นอันมาก  นอกจากนี้กองทัพบกสหรัฐฯยังได้มอบเกียรติบัตรชมเชยการปฏิบัติการเป็นหน่วย (Award of the MeritoriousUnit Commendation) แก่กรมทหารอาสาสมัครเมื่อ วันที่ ๙ สิงหาคม ๒๕๑๑


กองพลทหารอาสาสมัคร(พล.อสส.)

           กองทัพบกได้ออกคำสั่งจัดตั้งกองพลทหารอาสาสมัคร เมื่อวันที่ ๑๔ มกราคม ๒๕๑๑จำนวนกำลังพลทั้งสิ้น ๑๑,๓๐๐ คน ที่ตั้งปกติอยู่ที่ค่ายกาญจนบุรีตำบลลาดหญ้า อำเภอเมือง ฯ จังหวัดกาญจนบุรี โดยมีศูนย์ดำเนินกรรมวิธีทหารไปรบต่างประเทศ(ศกน.) กรมยุทธศึกษาทหารบก เป็นหน่วยให้การสนับสนุนในด้านธุรการ และส่งกำลังบำรุงกับมีเจ้าหน้าที่ประสานงานของสหรัฐฯ (Detachment I) เป็นที่ปรึกษา โดยบรรจุมอบเป็นหน่วยขึ้นตรงกองทัพบกแต่ฝากการบังคับบัญชาไว้กับกรมยุทธศึกษาทหารบก กำลังของกองพลทหารอาสาสมัครแบ่งเป็นผลัดๆ ละ ๑ ปี
กองพลทหารอาสาสมัครผลัดที่ ๑
           จัดตั้งเมื่อ ๒๒ มกราคม ๒๕๑๑ มีพลตรี ทวี ดำรงหัด เป็นผู้บัญชาการกองพล แบ่งออกเป็น๒ ผลัด เคลื่อนย้ายเข้าที่ตั้งปกติ ในค่ายกาญจนบุรีในวันที่ ๑๖ เมษายน ๒๕๑๑
           การฝึก แบ่งออกเป็น ๓ ตอน ใช้เวลา ๒๕ สัปดาห์ เมื่อฝึกเสร็จแล้วทุกฐานกำเนิดส่งกำลังพลเข้ารวมพลที่ค่ายกาญจนบุรีเพื่อรับการฝึกหลักขั้นการฝึกเป็นกองร้อยต่อไป
           การเดินทาง แบ่งออกเป็น ๔ ส่วนคือ ส่วนเตรียมการ ส่วนล่วงหน้าส่วนใหญ่ และส่วนหลัง การเดินทางไปเสร็จสิ้นเมื่อ ๓๐ สิงหาคม ๒๕๑๑ และเข้าที่ตั้งที่ค่ายมาตินค๊อกซ์(Camp Matincox)  ซึ่งเรียกกันทั่วไปว่าค่ายแบร์แคต (Camp Bear Cat) ในเขตอำเภอลองถั่น จังหวัดเบียนหว่า ค่ายนี้มีพื้นที่ประมาณ ๙ ตารางกิโลเมตร กองพลทหารอาสาสมัคร ผลัดที่ ๑ ขึ้นอยู่ในบังคับบัญชาของกองกำลังทหารไทย ในสาธารณรัฐเวียดนามและขึ้นในความควบคุมทางยุทธการของกองทัพสนามที่ ๒ สหรัฐฯ (US II Field ForceVietnam)  ซึ่งรับผิดชอบร่วมกับกองทัพน้อยที่ ๓ เวียดนามใต้ ในการป้องกันเขตรับผิดชอบทางยุทธวิธีของกองทัพน้อยที่๓ (III Corps Tactical Zone)
ภารกิจ
           กองทัพสนามที่ ๒ สหรัฐฯ  ได้มอบกิจเฉพาะให้กองพลทหารอาสาสมัคร ผลัดที่๑ เฉพาะที่สำคัญดังนี้
               ๑.  ปฏิบัติการทางยุทธวิธีเพื่อค้นหา ทำลายกำลัง และยุทโธปกรณ์ของเวียดกงกองทัพประจำการของเวียดนามเหนือ และกำลังกองโจรประจำถิ่น ในพื้นที่รับผิดชอบทางยุทธวิธีด้วยการลาดตระเวนระยะไกล และการลาดตระเวนด้วยกำลังมากในพื้นที่รับผิดชอบ การปิดล้อมและตรวจค้นหมู่บ้านการซุ่มโจมตีเป็นตำบลและพื้นที่ กับการรบร่วมกับกองกำลังชาติพันธมิตร
               ๒.  ปฏิบัติการจิตวิทยาเพื่อการสนับสนุนและการปฏิบัติการทาวยุทธวิธีโครงการพัฒนาชนบท และโครงการต้อนรับผู้กลับใจ ปฏิบัติการช่วยเหลือประชาชนการให้การรักษาพยาบาล
               ๓.  ป้องกันและรักษาเส้นทางคมนาคม สะพาน และที่ตั้งสำคัญๆในพื้นที่รับผิดชอบ
               ๔.  สนับสนุนหน่วยทหารและตำรวจแห่งชาติเวียดนามใต้ในการป้องกัน และควบคุมประชาชนตลอดจนทรัพยากร
               ๕.  ป้องกันฐานยิงสนับสนุนในพื้นที่รับผิดชอบ ป้องกันอำเภอลองถั่น และการปฏิบัติการซุ่มโจมตีรวมทั้งการรักษาความปลอดภัยค่ายแบร์แคต
การสนับสนุน
           กองพลทหารอาสาสมัคร  ได้รับการสนับสนุนทางการส่งกำลังบำรุงจากสหรัฐฯตามข้อตกลงโดยกองทัพสหรัฐฯ  ได้จัดหน่วยแยกทางการส่งกำลังบำรุง จากหน่วยสนับสนุนทางการส่งกำลังบำรุงที่๒๙ สหรัฐฯ ไปตั้งประจำอยู่ที่ค่ายแบร์แคต สนับสนุนอุปกรณ์ทุกประเภท เว้นสิ่งอุปกรณ์สายแพทย์ซึ่งหน่วยจะเบิกตรงจากหมวดส่วนหน้าของคลังแพทย์ที่ ๓๒ ซึ่งตั้งอยู่ที่ลองบินห์สิ่งอุปกรณ์ประเภท ๕ เบิกตรงกับคลังกระสุนของกองพันสรรพาวุธที่ ๓ สหรัฐฯ ที่ลองบินห์ การเบิกชิ้นส่วนซ่อม และการซ่อมเครื่องบิน หรือเฮลิคอปเตอร์ ประสานงานโดยตรงกับกองร้อยขนส่ง(สนับสนุนโดยตรง) ที่ ๕๖ สหรัฐฯ การเบิกแผนที่ แผนผัง และวัสดุอื่น ๆ เกี่ยวกับแผนที่ เบิกตรงกับหมวดช่างที่ ๕๔๗ สหรัฐฯ ที่ลองบินห์ สาธารณูปโภคในค่ายแบร์แคตได้รับการสนับสนุนจากหน่วยช่างก่อสร้างภาคพื้นแปซิฟิก
           กองทัพเวียดนามใต้ ให้การสนับสนุนข้าวและเกลือ ส่วนอาหารแห้งและเสบียงพิเศษกองบัญชาการทหารสูงสุดส่วนหน้า สนับสนุนให้
การปฏิบัติการ
           ได้เข้าปฏิบัติการแทนที่กองพลทหารราบที่ ๙ สหรัฐฯ  โดยได้รับมอบพื้นที่รับผิดชอบทางยุทธวิธีเฉพาะอำเภอลองถั่นส่วนพื้นที่สนใจทางยุทธวิธี ได้รับมอบพื้นที่บางส่วนของจังหวัดเบียนหว่า และจังหวัดลองคานห์ซึ่งติดกับพื้นที่รับผิดชอบทางยุทธวิธีของกองพล
           ลักษณะภูมิประเทศโดยทั่วไป ของพื้นที่รับผิดชอบเป็นทุ่งนา หนองน้ำ ป่าไม้โกงกางป่าละเมาะ สวนยาง ป่าทึบ ไปจนถึงเนินเขา มีลำน้ำหลายสายไหลผ่าน เกือบครึ่งหนึ่งของพื้นที่เป็นทุ่งนาซึ่งอยู่ตอนกลาง
           การปฏิบัติการนับว่ามีความยากลำบากมาก เนื่องจากไม่สามารถแบ่งแยกฝ่ายข้าศึกได้ชัดเจนการปฏิบัติการหลักประการหนึ่งคือ การปฏิบัติการตามโครงการสันติสุข  ซึ่งมีการปฏิบัติการทั้งทางยุทธวิธีและทางจิตวิทยาควบคู่กันไป ได้จัดตั้งฐานยิงสนับสนุนขึ้น ให้สามารถใช้อำนาจการยิงครอบคลุมเต็มพื้นที่รับผิดชอบทางยุทธวิธี
การรบที่บินห์สัน (Binh Son)

           ครั้งที่  ๑
               ในวันที่ ๒๑ กันยายน ๒๕๑๑  เวลาประมาณ ๐๓.๑๕ น. เวียดกงประมาณ ๑ กองพันได้เข้าโจมตีที่ตั้งกองร้อยที่  ๒ และ ๓ ของกองพันทหารราบที่ ๓ ของไทย โดยเข้าตี ๕ ทิศทางเป็น ๒ ระลอก โดยใช้การยิงนำด้วยเครื่องยิงลูกระเบิด แล้วโจมตีด้วยจรวดอาร์พีจี ฝ่ายเราขอกำลังสนับสนุนจากปืนใหญ่กองพล จากฐานยิงสนับสนุน และชุดเฮลิคอปเตอร์ติดอาวุธปืนใหญ่สามารถยิงขัดขวางฝ่ายเวียดกง แนวหน้าที่มั่นฝ่ายเราเพียง ๑๘๐ - ๒๐๐หลา สามารถยังยั้งและสังหารข้าศึกได้เป็นจำนวนมากจนต้องถอยกลับไป
               ผลการรบ ฝ่ายไทยเสียชีวิต ๕ คน บาดเจ็บสาหัส ๑๑ คน บาดเจ็บไม่สาหัส ๑๕ คน ฝ่ายเวียดกงเสียชีวิตนับได้ ๖๕ ศพ คาดว่านำศพกลับไปประมาณ ๓๐ ศพ  ยึดอาวุธได้เป็นจำนวนมาก
           ครั้งที่ ๒
               ในวันที่ ๑๒ พฤษภาคม ๒๕๑๒ เวลาประมาณ ๐๑.๓๕ น.  เวียดกงประมาณ ๑ กองพันได้เข้าตีที่ตั้งกองร้อยที่ ๓ กองพันทหารราบที่ ๓ ของไทย เป็น ๒ ทิศทาง ฝ่ายไทยเตรียมวางกำลังต่อสู้ในทางลึก เพื่อให้สามารถทำลายข้าศึกได้ตั้งแต่ระยะไกลได้ใช้ปืนใหญ่กองพลยิงสนับสนุน ขัดขวางการรุกของข้าศึกสมทบ ด้วยการยิงของเครื่องบินสปุ๊กกี้พร้อมกับทิ้งพลุส่องสว่าง ทำให้เวียดกงประสบกับความสูญเสียเป็นจำนวนมาก และยุติการรบลงในเวลาอันสั้นเมื่อเวลา ๐๓.๐๐ น. ผลปรากฏว่าฝ่ายเราเสียชีวิต ๑ คน บาดเจ็บสาหัส ๑ คน บาดเจ็บไม่สาหัส๔ คน ฝ่ายเวียดกงเสียชีวิตนับได้ ๔๑ ศพ ยึดอาวุธได้เป็นจำนวนมาก
           ครั้งที่ ๓
               ในคืนวันที่ ๑๓ พฤษภาคม ๒๕๑๒ เวลาประมาณ ๐๐.๒๕ น. เวียดกงได้เข้าโจมตีกองร้อยที่๓ กองพันทหารราบที่ ๓ โดยแบ่งกำลังเข้าตีพร้อมกัน ๓ ทิศทาง
               กรมทหารราบที่ ๓๑ ได้ใช้ปืนใหญ่กองพลและเครื่องบินสปุ๊กกี้สนับสนุนอย่างได้ผลฝ่ายเวียดกงได้รับความเสียหายหนัก จนรุ่งเช้าจึงได้ร่นถอยกลับไป
               ผลการรบ ฝ่ายไทยทุกคนปลอดภัย ฝ่ายเวียดกงเสียชีวิตนับศพได้ ๘๗ ศพ ยึดอาวุธยุทโธปกรณ์ได้เป็นจำนวนมาก
การรบที่ล็อคอัน (Loc An)
           กรมทหารราบที่ ๑ ได้จัดกำลังไปตั้งฐานปฏิบัติการบริเวณหมู่บ้านล็อคอัน เพื่อสะกัดกั้นกองกำลังเวียดกงหมู่บ้านล็อคอันเป็นหมู่บ้านร้าง อยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของอำเภอลองถันรอบพื้นที่เป็นที่ลุ่มป่าชายเลนและสวนยาง มีลำห้วยหลายสายไหลผ่าน
          ครั้งที่ ๑
               ในวันที่ ๑๖ มีนาคม ๒๕๑๒ เวลาประมาณ ๐๒.๑๕ น.  เวียดกงประมาณ ๑ กองพันเพิ่มเติมกำลังได้เข้าตีที่ตั้งกองร้อยทหารไทยทั้ง ๒ กองร้อย  โดยเริ่มจากการยิงเตรียมด้วยเครื่องยิงลูกระเบิดและอาร์พีจี แล้วใช้กำลังส่วนใหญ่เข้าโจมตีเป็น ๓ ทิศทาง  ฝ่ายไทยขอรับการสนับสนุนจากปืนใใหญ่กองพลและชุดเฮลิคอปเตอร์ติดอาวุธของกองวทัพสนามที่ ๒ สหรัฐฯ  กองพลทหารอาสาสมัครก็ได้ส่งกำลังมาเสริมเมื่อเวลา๐๔.๓๐ น.  การรบดำเนินไปอย่างรุนแรงจนใกล้รุ่ง  ฝ่ายเวียดกงจึงถอยร่นกลับไป ฝ่ายเราได้ไล่ติดตามไปจนถึงเวลา ๐๗.๐๐ น. จึงเลิกติดตาม
               ผลการรบ ฝ่ายไทยเสียชีวิต ๒ คน บาดเจ็บสาหัส ๑๙ คน บาดเจ็บไม่สาหัส ๘ คน ฝ่ายเวียดกงเสียชีวิตนับศพได้ ๑๑๖ ศพ จับเป็นเชลยได้ ๓ คน ยึดอาวุธยุทโธปกรณ์ได้เป็นจำนวนมาก
           ครั้งที่ ๒
               กองร้อยที่ ๑ และกองร้อยที่ ๔ กองพันทหารราบที่ ๒ กรมทหารราบที่ ๑ ได้รับคำสั่งให้ไปตั้งฐานปฏิบัติการที่บริเวณหมู่บ้านล็อคอันเมื่อ ๑๖ มิถุนายน ๒๕๑๒ เวลาประมาณ ๐๐.๔๕ น. เวียดกง ๑ กรมหย่อนกำลัง ได้เข้าตีฐานปฏิบัติการของทหารไทยเริ่มด้วยการยิงเตรียมด้วยเครื่องยิงลูกระเบิด และอาร์พีจีอย่างหนัก แล้วส่งกำลังเข้าตี๓ ทิศทาง  ฝ่ายเราได้ขอรับการสนับสนุนจากปืนใหญ่กองพล ๖ กองร้อย และเฮลิคอปเตอร์ติดอาวุธกับเครื่องบินสปุ๊กกี้จากกองทัพสนามที่ ๒ สหรัฐฯ และการยิงสนับสนุนทางอากาศอย่างใกล้ชิดเวียดกงได้เข้าตีถึง ๓ ครั้ง แต่ไม่สำเร็จ และถอนตัวกลับไปเมื่อเวลาประมาณ๐๕.๐๐ น. ฝ่ายเราออกติดตามกวาดล้างจนถึงเวลา ๐๘.๐๐ น.
               ผลการรบ ฝ่ายไทยเสียชีวิต ๒ ศพ บาดเจ็บสาหัส  ๙ คน บาดเจ็บไม่สาหัส ๒๕คน  ฝ่ายเวียดกงเสียชีวิตนับศพได้ ๒๑๕ ศพ คาดว่าเสียชีวิตแล้วนำศพกลับไป๔๐ ศพ จับเป็นเชลยได้ ๒ คน ยึดอาวุธยุทโธปกรณ์ได้เป็นจำนวนมาก
สรุปผลการปฏิบัติการ
               การปฏิบัติการระหว่างวันที่ ๑๕ สิงหาคม ๒๕๑๑ ถึงวันที่ ๕ กรกฎาคม ๒๕๑๒ สรุปผลได้ดังนี้
          การปฏิบัติการรบ
               ปะทะกับเวียดกง ๓๒๘ ครั้ง สังหารเวียดกงเสียชีวิต ๙๔๔ คน  คาดว่าเวียดกงเสียชีวิต๔๐๒ คน จับเชลยศึกได้ ๑๗ คน จับผู้ต้องสงสัยได้ ๓๓๕ คน ผู้เข้ามอบตัว ๓ คน
               ยึดอาวุธประจำการได้ ๒๔๕ กระบอก อาวุธประจำหน่วย ๑๒ กระบอก กระสุน ๕๗,๐๐๐นัด ทุ่นระเบิด ๒๐๒ ลูก ทุ่นระเบิดแสวงเครื่อง ๑๘๐ ทุ่น ลูกระเบิดขว้าง ๑,๔๙๒ลูก เครื่องยิงอาร์พีจี ๕๔ ชุด จรวดอาร์พีจี ๕๔๕ ลูก
               ยึดข้าวสารได้ ๑๓,๙๐๐ กิโลกรัม ทำลายที่กำบัง ๑,๙๓๗ แห่ง เรือสำปั้น ๔๒ ลำอุโมงค์ ๑๖๕ แห่ง และยึดเอกสารต่าง ๆ ได้ ๔,๔๒๔ ฉบับ
               การสูญเสียของฝ่ายไทยจากการปฏิบัติการรบ ๕ ครั้ง มีผู้เสียชีวิต ๑๔ คน บาดเจ็บสาหัส๔๖ คน บาดเจ็บไม่สาหัส ๕๒ คน
การช่วยเหลือประชาชน
           ได้ดำเนินการช่วยเหลือประชาชนชาวเวียดนามใต้ในการก่อสร้างสาธารณูปโภค จัดชุดแพทย์และทันตแพทย์เคลื่อนที่ไปรักษาพยาบาลประชาชน  พอประมวลได้รายการที่สำคัญดังนี้
           ตัดถนนยาว ๗,๓๐๐ เมตร  ถากถางพื้นที่และปรับพื้นที่ ๑๐๖,๗๐๐ เมตร รักษาพยาบาลผู้ป่วยเจ็บ ๓๐,๙๖๔ ราย จัดชุดปฏิบัติการจิตวิทยา ๓๑๙ ครั้ง
การผลัดเปลี่ยนและการเดินทางกลับ
           กองพลทหารอาสาสมัคร ผลัดที่ ๑ ส่วนที่ ๑ ปฏิบัติการอยู่ในเวียดนามใต้ ได้๖ เดือน ผลัดที่ ๑ ส่วนที่ ๒ จึงเดินทางไปสมทบในเดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๑๒ และปฏิบัติการร่วมกันเป็นเวลา๖ เดือน  จากนั้นผลัดที่ ๒ ส่วนที่ ๑ จึงได้เดินทางไปสับเปลี่ยนกับกำลังของผลัดที่๑ ส่วนที่ ๑ เป็นส่วน ๆ ตามลำดับ  เสร็จแล้วจึงทยอยเดินทางกลับโดยเครื่องบินลำเลียงของสหรัฐฯ
คำชมเชยจากต่างประเทศ

           รัฐบาลเวียดนามใต้และกองทัพสหรัฐฯ ได้สดุดีเกียรติประวัติของกองพลทหารอาสาสมัครผลัดที่ ๑ ส่วนที่ ๑ว่า ได้ปฏิบัติการรบอย่างกล้าหาญยิ่งยวด ทำให้เวียดกงประสบความสูญเสียอย่างหนัก กองกำลังทหารบกไทย ได้คุ้มครองป้องกันประชาชนชาวเวียดนามใต้ในพื้นที่รับผิดชอบไม่ให้ฝ่ายเวียดกงทำอันตรายได้ควบคู่ไปกับการปฏิบัติการทางทหาร  ได้ช่วยเหลือในด้านการรักษาพยาบาลและช่วยเหลือให้ประชาชนมีความเป็นอยู่ดีขึ้น และได้ปฏิบัติต่อชาวเวียดนามฉันญาติพี่น้อง
           ดังนั้นรัฐบาลเวียดนามใต้ถึงได้มอบแพรแถบเชิดชูเกียรติคุณหน่วยประดับธงชัยเฉลิมพลของกองพลทหารอาสาสมัครรวม ๒ แถบ และรัฐบาลสหรัฐฯ ได้มอบเกียรติบัตรชมเชยดังนี้

เวียดนามใต้
TheUnit Citation Streamer Colkor of Gallantry Cross with Palm
แพรแถบเชิดชูเกียรติคุณหน่วยกางเขนแห่งความกล้าหาญประดับใบปาล์ม
TheUnit Citation Streamer Color of the Civic Action Medal with Oakleaf
แพรแถบเชิดชูเกียรติคุณหน่วยเหรียญกิจการพลเรือนประดับใบโอ๊ค
สหรัฐอเมริกา
TheUS Meritorious Unit Commendation
เกียรติบัตรชมเชยการปฏิบัติงานดีเด่น


| ย้อนกลับ | หน้าต่อไป | บน |