| ย้อนกลับ | หน้าต่อไป |
| พัฒนาทางประวัติศาสตร์ | มรดกทางธรรมชาติ | มรดกทางวัฒนธรรม | มรดกทางพระพุทธศาสนา |

                วัดพิชัยสงคราม  อยู่ในตำบลปากน้ำ อำเภอเมือง ฯ เดิมชื่อวัดโพ หรือวัดนอก สร้างสมัยอยุธยา เมื่อประมาณปี พ.ศ.๒๒๕๓ มีมาก่อนวัดกลาง ฯ ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา ตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๒๕๓ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เคยเสด็จมาพระราชทานผ้าพระกฐิน เมื่อปี พ.ศ.๒๓๖๖ มีศิลปกรรม และสถาปัตยกรรมเดิมเช่น อุโบสถหลังเก่า เจดีย์ทรงสูง จอมแหแคบทรงเครื่อง และกุฎิเรือนไทยรุ่นเก่า

                    อุโบสถ  ลักษณะเด่นคือมีฐานทรงสำเภา กว้าง ๙ เมตร ยาว ๒๑ เมตร คล้ายอุโบสถวัดสุวรรดาราม เครื่องบนประดับหน้าบันประดับด้วยไม้แกะสลัก ช่อฟ้า ใบระกา เป็นเครื่องไม้ทั้งหมด หน้าบันที่เป็นพื้นไม้ประดับกระจกสี ไม้แกะสลักที่ประดับเป็นลายกนกก้านขดเทพพนม

                    ซุ้มประตู อุโบสถ เป็นซุ้มปราสาท เป็นแบบปูนปั้น ลักษณะคล้ายปูนปั้นประดับซุ้มประตูอุโบสถ วัดปราสาท จังหวัดนนทบุรี

                    เจดีย์ทรงเครื่อง   เป็นเจดีย์ทรงกลมสูง จอมแหแคบ ทรงเครื่อง เป็นเอกลักษณ์ที่บ่งบอกฝีมือช่างว่า วัดพิชัยมีมาแต่ครั้งปลายสมัยอยุธยา

               วัดชัยมงคล   อยู่ในตำบลปากน้ำ อำเภอเมือง ฯ สร้างสมัยสุโขทัยตอนปลาย ต่อกับสมัยอยุธยาตอนต้น ประมาณปี พ.ศ.๑๘๙๓  ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา ตั้งแต่ปี พ.ศ.๑๘๙๓  มีพระพุทธรูปสมัยสุโขทัย เป็นเอกลักษณ์ทางศิลปกรรม สามารถศึกษาด้านพุทธลักษณะของพระพุทธปฎิมา

                วัดอโศการาม   อยู่ในตำบลบางปู  ท้ายวัดติดกับชายทะเล พื้นที่โดยรอบเป็นป่าชายเลน มีนกน้ำอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก วัดอโศการามสร้างเมื่อปี พ.ศ.๒๔๙๗  มีพื้นที่ประมาณ ๕๓ ไร่

                    พระธุตังคเจดีย์   สร้างเมื่อปี พ.ศ.๒๕๐๕  เพื่อเป็นอนุสรณ์ถึงการธุดงควัตร มีลักษณะเป็นพระเจดีย์หมู่ ๑๓ องค์  ตั้งอยู่ในพื้นที่สี่เหลี่ยม มีองค์พระเจดีย์ใหญ่เป็นประธาน บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ มีเจดีย์บริวารล้อมรอบ สามชั้น ๆ ละสี่องค์

                    ศาลาพระสุธิธรรมรังษี   เป็นศาลาจตุรมุข เป็นสถาปัตยกรรมที่มีความสวยงาม ทั้งงานปูนปั้น งานปิดทอง งานประดับกระจกสี และงานไม้แกะสลัก  ภายในเป็นลายไทยประดับบนพื้นที่ส่วนต่าง ๆ  สวยงามแบบลงตัวกับสถาปัตยกรรม

                วัดในสองวิหาร  อยู่ในตำบลปากน้ำ อำเภอเมือง ฯ  สร้างเมื่อปี พ.ศ.๒๑๗๐  มีศิลปกรรมที่แปลกไปจากที่อื่นคือ มีการสร้างอุโบสถใหม่ครอบทับหลังเดิม  แปลงรูปลักษณ์โดยนำศิลปกรรมต่าง ๆ มาผสมผสานกันจนแปลกตา มีวิหารทรงเก๋ง มีศิลปกรรมที่เป็นเอกลักษณ์คือ เจดีย์เหลี่ยมย่อมุมไม้สิบสอง  มีความสวยงามแปลกตากว่าเจดีย์องค์อื่น ๆ
                    องค์เจดีย์ยังคงมีสภาพที่สมบูรณ์  เหนือฐานขึ้นไปมีซุ้มปราสาท ประดับด้วยเครื่องลายคราม และเครื่องเบญจรงค์ ระดับที่อยู่เหนือซุ้มประตูขึ้นไป มียักษ์แบกฐานสิงห์ ซึ่งอยู่ใต้จากบัวกลุ่ม  และทั้งหมดอยู่ใต้ระฆังครอบ องค์ระฆังเป็นแบบเหลี่ยมย่อมุมไม้สิบสอง ปล้องไฉนใช้บัวเถาแทนการใช้ปล้องไฉนแบบเรียบ ๆ  เป็นส่วนให้เจดีย์องค์นี้สวยสง่า มีคุณค่าทางศิลปกรรมเป็นอย่างมากอีกองค์หนึ่ง สวยงามแปลกตากว่าองค์อื่น ๆ

                วัดด่านสำโรง   อยู่ในตำบลสำโรงเหนือ  อำเภอเมือง ฯ  มีอุโบสถที่มีความสวยงามทางสถาปัตยกรรม หลังคาเป็นสองลด สามซ้อน  มีเสานางเรียงที่ระเบียงโดยรอบ รับน้ำหนักเครื่องบนของหลังคาไว้  อุโบสถไม่มีช่อฟ้า แต่ใช้ปูนปั้นเป็นรูปพญานาค แทนช่อฟ้าใบระกาทุกจุด
                ลายปูนปั้นที่หน้าบัน  และซุ้มประตูหน้าต่าง ปั้นแปะติดผนังด้วยลายเครือเถา ที่แสดงความสมบูรณ์ของกิ่งช่อใบไม้ และดอกไม้ ที่นำมาจัดไว้เป็นองค์ประกอบของศิลปะบนสถาปัตยกรรม เป็นความสวยงามที่เป็นส่วนเสริมให้ สถาปัตยกรรมนี้สวยเด่นขึ้น
| ย้อนกลับ | บน | หน้าต่อไป |