อุทยาน
ประวัติศาสตร์พิ
มาย
|
หน้า
แรก
|
ระเบียง
คด
เป็น
กำแพง
ชั้น
ใน
รูป
สี่
เหลี่ยม
ผืน
ผ้า เหมือน
กับ
กำแพง
ชั้น
นอก มี
ซุ้ม
ประตู
ทั้ง
สี่
ทิศ ซึ่ง
อยู่
ตรง
กับ
ซุ้ม
ประตู
ใหญ่
ของ
กำแพง
ชั้น
นอก ระเบียง
ทาง
ด้าน
ทิศ
ตะวัน
ออกและ
ทิศ
ตะวัน
ตก ยาว ๘๐ เมตร ด้าน
ทิศ
เหนือ
และ
ทิศ
ใต้
ยาว ๗๒ เมตร ภาย
ใน
ระเบียง
คด
มี
ทาง
เดิน
ทะลุ
ถึง
กัน
โดย
ตลอด
กว้าง ๒ เมตร
เศษ หลัง
คา
มุง
ด้วย
หิน
ทราย
สี
แดง
เป็น
รูป
โค้ง
ครึ่ง
วง
กลม
บรรณา
ลัย
ตั้ง
อยู่
ใกล้
กับ
ซุ้ม
ประตู
กำแพง
ชั้น
นอก
ด้าน
ทิศ
ตะวัน
ตก สร้าง
ด้วย
หิน
ทรายและ
ศิลา
แลง
ขนาด
กว้าง ยาว ด้าน
ละ
ประมาณ ๒๖ เมตร ลักษณะ
คล้าย
ธรรม
ศาลา
ที่
อยู่
ภาย
นอก
ปราสาท คือ
มี
ระเบียง
ล้อม
รอบ
และ
ระเบียง
ผ่าน
กลาง สันนิษฐาน
ว่า
สร้าง
ใน
สมัย
พระ
เจ้า
ชัยวร
มัน
ที่ ๗ และ
คง
จะ
ใช้
เป็น
ที่
ประทับ
ชั่ว
คราว
ของ
กษัตริย์ และ
ผู้
ตาม
เสด็จ เพื่อ
มา
ประกอบ
พิธี
ทาง
ศาสนา หรือ
อาจ
จะ
ใช้
เป็น
ที่
เก็บ
สรรพ
ตำรา
สระ
มี
อยู่
หลาย
สระ ทั้ง
ภาย
ใน
และ
ภาย
นอก บริเวณ
ปราสาท สระ
ที่
อยู่
ภาย
ใน
บริเวณ
ปราสาท
มี
อยู่
สี่
สระ อยู่
ที่
มุม
ลาน
ชั้น
นอก สระ
เหล่า
นี้
สันนิษฐาน
ว่า
เป็น
สัญลักษณ์
ของ
แม่
น้ำ
ที่
สำคัญ
ของอินเดีย
ทั้ง
สี่ คือ แม่
น้ำ
คงคา ยม
นา สินธุ และ
พรหม
บุตร ซึ่ง
ถือ
ว่า
ไหล
มา
จาก
แดน
สวรรค์ นำ
ไป
แม่
น้ำ
ดัง
กล่าว
เป็น
น้ำ
ศักดิ์
สิทธิ์ อาบ
แล้ว
ชำระ
บาป
ได้ ดัง
นั้น
น้ำ
ใน
สระ
เหล่า
นี้
จึง
ใช้
ใน
พิธี
ทาง
ศาสนา
กำแพง
และ
ประตู
ชั้น
นอก
ของ
ปราสาท
สร้าง
ด้วย
หิน
ทราย
สี
แดง และ
ใช้
ศิลา
แลงเป็น
ราก
ฐาน เป็น
รูป
สี่
เหลี่ยม
ผืน
ผ้า ด้าน
ทิศ
เหนือและ
ทิศ
ใต้ กว้าง
ประมาณ ๒๒๐ เมตร ด้าน
ตะวัน
ออก
และ
ตะวัน
ตก ยาว
ประมาณ ๒๗๘ เมตร สูง
ประมาณ ๘ เมตร มี
ซุ้ม
ประตู
ที่
กำแพง
แต่
ละ
ด้าน
ทั้ง
สี่
ทิศ ซุ้ม
ประตู
ด้าน
ทิศ
ใต้
เป็น
ด้าน
หน้า
ของศา
สน
สถาน
หน้า
ซุ้ม
ประตู
ทำ
เป็น
สะพาน
นาค ยาว
ประมาณ ๓๒ เมตร กว้าง
ประมาณ ๔ เมตร
สูง
ประมาณ ๒.๕๐ เมตร มี
บัน
ใด
ลง
สู่
พื้น
ดิน
แยก
ออก
เป็น
สาม
ทาง เชิง
บัน
ใด
มี
รูป
สิงห์
ตั้ง
อยู่
ธรรม
ศาลา (คลัง
เงิน)
อยู่
ทาง
ทิศ
ตะวัน
ตก
เฉียง
ใต้
ของ
ซุ้ม
ประตู
ด้าน
ใต้ ตัว
อาคาร
สร้าง
จาก
หิน
ทราย
และ
ศิลา
แลง
เป็น
รูป
สี่
เหลี่ยม
ผืน
ผ้า กว้าง
ประมาณ ๒๖ เมตร ยาว
ประมาณ ๓๕ เมตร โบราณ
วัตถุ
ที่
ยัง
อยู่
ภาย
ใน
อาคาร
แห่ง
นี้
ใน
ระดับ
ความ
ลึก
ต่าง ๆ กัน
ได้
แก่ หม้อ
ดิน
เผา
เคลือบ
สมัยลพ
บุรี กระดิง
สำริด กำไร
สำริด พระ
พุทธ
รูป
และ
เทวรูป
สำริด แม่
พิมพ์
พระ
ดิน
เผา หิน
บด
ยา เครื่อง
ประดับ
กาย
ทำ
ด้วย
ทอง
คำ
สี
ดอก
บวบ เป็น
แหวน
และ
สาย
สร้อย ฐาน
รูป
เคารพ
ทำ
ด้วย
หิน
ทราย
การ
ที่
ได้
ชื่อ
ว่า
ธรรม
ศาลา สันนิษฐาน
ว่า
ที่
นี่
อาจ
จะ
ใช้
เป็น
ที่
สา
ธาร
ณะ
ของ
คน
ทั่ว
ไป และ
อาจ
จะ
ใช้
เป็น
สถาน
ที่พยาบาล
คน
เจ็บ
ป่วย รวม
ทั้ง
ใช้
ทำ
พิธี
ทาง
ศาสนา ส่วน
ที่
เรียก
ว่า
คลัง
เงิน
นั้น เนื่อง
จาก
ได้
มี
ผู้
พบ
เหรียญ
สำริด
จำนวน
หนึ่ง ตัว
เหรียญ
ด้าน
หนึ่ง
ทำ
เป็น
รูป
ครุฑ
หรือ
หงส์ อีก
ด้าน
หนึ่ง
เป็น
ตัว
อักษร
โบราณ จึง
ได้
เรียก
ว่า
คลัง
เงิน
ตั้ง
แต่
นั้น
มา
ธรรม
ศาลา
นี้ สันนิษฐาน
ว่า
สร้าง
ขึ้น
ใน
สมัย
พระ
ชัยวร
มัน
ที่ ๗ เพราะ
มี
หลัก
ฐาน
ทาง
ประวัติศาสตร์
หลาย
ประการ บ่ง
ให้
เชื่อ
ได้
เช่น
นั้น
เมรุ
พรหมทัต
เป็น
เนิน
ดิน
ขนาด
ใหญ่ มี
เส้น
ผ่า
ศูนย์
กลาง
ประมาณ ๕๙ เมตร สูง
ประมาณ ๓๐ เมตร บน
เนิน
ดิน
เป็น
สิ่ง
ก่อ
สร้าง
รูป
สี่
เหลี่ยม
ผืน
ผ้า กว้าง
ประมาณ ๙ เมตร ยาว
ประมาณ ๑๓ เมตร สูง
ประมาณ ๗ เมตร สร้าง
ด้วย
อิฐ นิยาย
พื้น
เมือง
มี
ว่า สถาน
ที่
นี้
เป็น
ที่
ถวาย
พระ
เพลิง
พระ
ศพ
ท้าว
พรหมทัต สันนิษฐาน
ว่า
สร้าง
ใน
สมัย
อยุธยา
กำแพง
และ
ประตู
เมือง
กำแพง
เมืองพิ
มาย เป็น
รูป
สี่
เหลี่ยม
ผืน
ผ้า กว้าง
ประมาณ ๓๖๕ เมตร ยาว
ประมาณ ๑,๐๓๐ เมตร อยู่
ใน
พื้น
ที่
ที่
เกือบ
จะ
มี
ลำ
น้ำ
ล้อม
รอบ ตัว
กำแพง
สร้าง
เป็น
คัน
ดิน ประตู
เมือง
มี
สี่
ประตู สร้าง
ด้วย
ศิลา
แลง ประตู
ด้าน
ทิศ
ใต้
นี้
เรียก
ว่า
ประตู
ชัย เป็น
ด้าน
หน้า
ของศา
สน
สถาน
|
หน้า
แรก
|
บน
|