อุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร
| หน้าแรก
|
เมืองกำแพงเพชร เป็นเมืองเก่าแก่อีกเมืองหนึ่ง
มีอายุไม่ต่ำกว่า ๗๐๐ ปีมาแล้ว มีศักดิ์เป็นเมืองลูกหลวงและเมืองพญามหานคร
ของอาณาจักรสุโขทัยมาตามลำดับ
ก่อนที่จะมีชื่อว่ากำแพงเพชร
เมืองนี้มีชื่อเดิมอยู่ ๒ ชื่อ คือ เมืองชากังราว
และเมืองนครชุม ทั้งสองชื่อนี้มีปรากฏอยู่ใน
ศิลาจารึกหลักที่ ๒ และศิลาจารึกเขาสุมนกูฎ
เมืองทั้งสองนี้ตั้งอยู่ใกล้กัน คืออยู่ทางฝั่งตะวันตกหรือฝั่งขวาของแม่น้ำปิง
คนละฝั่งกับเมืองปัจจุบัน ในสมัยพญาเลอไทยแห่งกรุงสุโขทัยได้มาบูรณะเมืองชากังราว
เมื่อประมาณปี พ.ศ. ๑๘๐๐ และยกฐานะขึ้นเป็นเมืองลูกหลวง
เช่นเดียวกับเมืองศรีสัชนาลัยและได้โปรดเกล้า
ฯ ให้พระราชโอรสพระองค์หนึ่งมาครองเมืองนี้
ต่อมาแม่น้ำปิงได้เปลี่ยนทางเดิน เป็นผลให้ซากเมืองเก่าพังทะลายหมดไปจากการกัดเซาะของกระแสน้ำ
เมื่อพระเจ้าอู่ทองได้ตั้งกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานีของอาณาจักรทางใต้
ปี พ.ศ. ๑๘๙๓ ล่วงมาถึงรัชสมัยของ สมเด็จพระบรมราชาธิราชที่
๑ (ขุนหลวงพะงั่ว) รัชกาลที่ ๓ ของกรุงศรีอยุธยา
พระองค์ได้ยกทัพมาตีกรุงสุโขทัยได้
ผลจากสงครามเขตการปกครองของกรุงสุโขทัยได้ถูกแบ่งออกเป็นสองส่วน
คือดินแดนทางริมฝั่งแม่น้ำปิงส่วนหนึ่ง
และดินแดนทางริมฝั่งแม่น้ำยมและแม่น้ำน่านอีกส่วนหนึ่ง
ทางด้านแม่น้ำปิงได้รวมเมืองชากังราวและเมืองนครชุมเข้าเป็นเมืองเดียวกัน
แล้วเปลี่ยนชื่อใหม่เป็นเมืองกำแพงเพชร
ยกฐานะขึ้นเป็นเมืองราชธานีปกครองดินแดนทางลุ่มแม่น้ำปิงในย่านนี้
ส่วนทางลุ่มแม่น้ำยมและแม่น้ำน่าน
ให้เมืองพิษณุโลกเป็นราชธานี และโปรดเกล้า
ฯ ให้พญาไสลือไทย หรือพระมหาธรรมราชาที่
๒ เป็นเจ้าเมือง
ล่วงมาถึงรัชสมัยพระบรมราชาธิราชที่
๒ (เจ้าสามพระยา) ทรงพิจารณาเห็นว่าการแบ่งเขตการปกครองออกเป็นสองส่วน
และต่างไม่ขึ้นแก่กันดังกล่าวเกิดผลเสีย
มีเรื่องไม่สงบเกิดขึ้นอยู่เสมอ จึงได้รวมเขตการปกครองทั้งสองเข้าด้วยกัน
เมื่อปี พ.ศ. ๑๙๘๑ โดยยุบเมืองกำแพงเพชรจากฐานะเดิมแล้วให้ทุกเมืองขึ้นต่อเมืองพิษณุโลกเพียงแห่งเดียว
วัดมหาธาตุนครชุม
วัดนี้พญาเลอไท
สร้างเมื่อปี พ.ศ. ๑๘๕๘ ได้มีการบูรณะกันหลายครั้ง
จนเกือบไม่เหลือร่องรอยของ ศิลปสุโขทัยที่สร้างไว้แต่เดิม
องค์พระมหาธาตุสันนิษฐานว่า เดิมน่าจะเป็นพระเจดีย์ทรงพุ่มข้าวบิณฑ์
แต่ปัจจุบันเป็นพระเจดีย์ทรงมอญ
วัดพระแก้ว
วัดนี้เป็นวัดใหญ่และสำคัญมากในอดีต
แต่ปัจจุบันเป็นวัดร้างจากหลักฐานพบว่า
เมื่อพระยายุธิษฐิระ ราชบุตรบุญธรรมของสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่
๑ (ขุนหลวงพระงั่ว) ได้ครองเมืองกำแพงเพชร
สมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ ๑ ได้พระราชทานพระแก้วมรกต
ให้มาประดิษฐานที่เมืองกำแพงเพชร จึงได้บูรณวัดนี้จากวัดเดิมให้ใหญ่โตสวยงาม
วัดช้างรอบ
เป็นวัดที่สร้างขึ้นสมัยสุโขทัยตอนปลาย
มีพระเจดีย์ใหญ่อยู่กลางลานวัด ที่ฐานทักษิณซึ่งมีรูปช้างครึ่งตัว
ยืนอยู่โดยรอบองค์พระเจดีย์ มีกำแพงแก้วก่อด้วยศิลาแลงล้อมอยู่โดยรอบ
สูงประมาณเมตรครึ่ง
ป้อมและประตูเมืองกำแพงเพชร
สร้างด้วยศิลาแลง นอกกำแพงมีคูกว้างและลึก
มีอยู่ ๘ ห้อมด้วยกัน สร้างติดกับกำแพงเมือง
๗ ป้อม อีกป้อมหนึ่งอยู่ใกล้สะพานกำแพงเมือง
บนสันกำแพงมีทางเดินกว้างพอให้ทหารเดินสวนกันได้
ใต้ใบเสมาของกำแพงมีช่องรูปสี่เหลี่ยมสำหรับใช้ยิงปืนออกมา
ประตูเมืองมีอยู่ ๘ ประตู
วัดเก่ายุคสุโขทัยอื่น
ๆ ได้แก่วัดธาวาสใหญ่
วัดตึกพระพมณ์ วัดสี่อริยาบท หรือวัดมณฑปสี่หน้า
เมืองไตรตรึงส์
ตั้งอยู่ห่างจากตรีเมืองกำแพงเพชรไปทางใต้ประมาณ
๑๒ กม. อยู่บนฝั่งขวาของแม่น้ำปิง ตามตำนานสิงหนวัติกุมารมีว่า
เมื่อประมาณ ปี พ.ศ. ๑๕๔๗ พระเจ้าไชยศิริ กษัตริยเมืองเชียงรายได้อพยพผู้คนหนีภัยสงคราม
มาสร้างเมืองไตรตรึงส์ ใช้เป็นเมืองชั่วคราว
ต่อมาภายหลังเมื่อมีผู้อพยพลงมามากขึ้นเห็นว่าทำเลดีจึงได้สร้างเป็นเมืองใหญ่
ปัจจุบันยังพบซากกำแพงเมืองคูเมืองและพระเจดีย์เก่า
ๆ อยู่มากเมืองเทพนคร
ตามตำนานกล่าวว่า ท้าวแสนปมได้สร้างเมืองนี้ขึ้นเมื่อปี
พ.ศ. ๑๘๖๒ ปัจจุบันยังค้นไม่พบซากเมืองเก่า
แต่มีหมู่บ้านชื่อบ้านเทพนคร อยู่ห่างตัวเมืองประมาณ
๙ กม.ทุ่งเศรษฐี
อยู่ใกล้ตัวเมืองกำแพงเพชรปัจจุบันติดกับถนนพหลโยธิน
บริเวณนี้เป็นที่ตั้งของบรรดาวัดวาอารามเก่าแก่หลายแห่งด้วยกัน
เช่น วัดพิกุล วัดหม่องกาเล วัดฤาษี เป็นต้น เป็นบริเวณที่พบพระเครื่องที่มีชื่อของเมืองกำแพงเพชร
คือพระซุ้มกอและพระปางลีลาเม็ดขนุน
ชื่ออื่นของพระเครื่องดังกล่าวคือพระทุ่งเศรษฐี
ซึ่งคงจะมีที่มาจากที่ได้มาจากทุ่งเศรษฐี
และพระกำแพงเขย่งซึ่งน่าจะมีที่มาจากเป็นพระเครื่องที่พบที่จังหวัดกำแพงเพชรเป็นปางลีลา
ซึ่งมีอากับกิริยาคล้ายกำลังเขย่งพระบาท
| หน้าแรก
| บน |