![]() |
จะกล่าวกลอนสอนสูทุกหมู่ศิษย์
|
|
อุตส่าห์คิดข้อความไปตามกลอน |
| อันสัญชาตินักเลงมิใช่ชั่ว | แต่ล้วนตัวปลิ้นปลอกทั้งหลอกหลอน |
| ทนสบถปดไปไม่แน่นอน | ทำยอกย้อนแยบคายเป็นหลายกล |
| ทำปราณีที่รักนี่หนักหนา | กล่าววาจาป้อยอต่อนุสนธ์ |
| เรียกพ่อพ่อลวงล่อให้หลงลน | แต่พอจนมันก็ช้ำจนสิ้นตัว... |
| ...ชาตินักเลงแล้วก็เหลืออย่าเชื่อเลย | เป็นคนเคยพูดจามารยายอ |
| ลางคนซื่อถือว่าเป็นพวกเพื่อน | มันกลับเชือนเอาไปบาทเสียอ้อต้อ |
| ทำหน้าจนต้องจำระยำพอ | เพราะเชื่อพ่อหรือมิใช่อ้ายเจ๊กอื้อ |
| บ้างวางโขลงโยงคลอพอเข้าบ่อน | เอาปี้ผ่อนส่งไว้ให้ช่วยถือ |
| แล้วแทงก่อนผ่อนส่งจนเต็มมือ | ทำหารือว่าจะแทงก็ตามใจ |
| เอาปี้เราที่เจ้าถือนั้นแทงเถิด | ถ้าถั่วเกิดแล้วก็ตามอัชฌาสัย |
| ถึงเสียเล่าก็ไม่เอาให้เจ้าใช้ | อย่าตกใจเลยนะเจ้าจงแทงลง |
| ที่เสียเล่าก็ไม่เอาเหมือนปากว่า | ที่ได้มาเล่าก็ให้ให้ใจหลง |
| เห็นพอควรแล้วก็ชวนให้นั่งลง | แล้วยุส่งให้เข้าทำจนเกินการ |
|
|
มันเที่ยวไปทั้งบ่อนตำบลบ้าน |
| เห็นผู้ดีมีทรัพย์ทำกราบกราน | เอาคาวหวานเข้าไปล่อแต่พองง |
| ขอตั้งบ่อนลงได้ดังในนึก | แล้วตรองตรึกที่จะให้เจ้าบ้านหลง |
| ทำพูดจาพาทีให้งวยงง | เชิญให้ลงไปบ่อนแล้วผ่อนปรน |
| ทำอุบายแยบคายเป็นหลายท่า | เหมือนที่ว่ามาแล้วแต่ข้างต้น |
| ให้เจ้าบ้านเสียทรัพย์จนอับจน | กลับเป็นคนปลิ้นปลอกทำซอกซอน... |
|
|
แต่พอเมาจับตาพาเข้าบ่อน |
| ...ช่วยกันสวดบวชเสียด้วยลมลิ้น | จนหมดสิ้นข้าวของต้องจำนำ |
| ลางทีเล่าเล่นตรุษสงกรานต์ส่ง | แล้วตั้งวงเล่นเลยไปยังค่ำ |
| เพลินเล่นเบี้ยเสียทรัพย์ยับระยำ | เพราะไม่จำคำครูผู้สอนมา |
| หนึ่งแปะโปแปดเก้านั้นเล่าหนอ | ช่างขี้ฉ้อล่อลวงที่หนักหนา... |
| ....ยังพวกฝิ่นกินยาทำหน้าซื่อ | ไม่อึงอื้อเหมือนกับคนไม่รู้เที่ยว |
| ทำเดินเลาะเดาะไปแต่ผู้เดียว | เห็นที่เปลี่ยวแล้วก็นั่งชำเลืองแล |
| ถ้าเห็นเด็กเดินมาทำปราศัย | เห็นผู้ใหญ่แล้วนั่งไม่แยแส |
| ทำพูดจางุบงิบขยิบแล | มานี่แน่ข้าจะบอกที่ของดี |
| เอายาฝิ่นส่งให้เห็นพอหอมหอม | แล้วกล่าวกล่อมว่าจะลองก็มานี่ |
| ไม่รู้รสดอกหรือน้องเป็นของดี | ลองสักทีเถิดนะพ่อมิเป็นไร |
| มันตั้งเพียรเวียนลอบมาหาบ่อย | เอาของเล่นเล็กน้อยมาอ่อยให้ |
| ล่อให้เชื่องแล้วก็ชักให้ติดใจ | เที่ยวคบไว้พอได้กินเมื่อสิ้นอด |
| เจ้าเด็กรักลักส่งไม่วายวัน | ทั้งผ้าผ่อนจอกขันมันไม่ลด |
| ทั้งพ่อแม่พี่น้องเงินทองหมด | ด้วยมันอดเข้าไม่ได้อายใจตน |
| มันรักเพื่อนยิ่งกว่าพ่ออ้ายคอยา | ถึงครูบาก็ไม่เว้นทำเข็ญค่น... |
| ...ยังพวกเหล่ากัญชาทำหน้าเซอะ | ขี้ฟันเลอะอกแห้งมักอยากหวาน |
| ทำตาปรือลือกันประสาพาล | ไม่ทำการเที่ยวหากินกัญชาเชือน |
| เอาไฟดุ้นเข้าจ่อชักคอก่ง | พอตกเพลาะแล้วก็ส่งให้พวกเพื่อน |
| ทำหน้าเงยเหมือนจะเสยเอาดวงเดือน | ใครทำเหมือนแล้วก็ชมกันว่าดี |
| บ้างอัดอั้นควันไว้มิใคร่ปล่อย | เรียกทองย้อยตั้งน้ำไปตามที่ |
| เรียกมังกรล่อแก้วนั้นก็มี | ทำท่วงทีส่ายหน้าท่ามังกร |
| ควันกัญชาเข้าคอหัวร่อแห้ง | ทั้งเรี่ยวแรงเล่าก็หมดมือตีนอ่อน |
| ทำตาเล็กซึมเซาเหมือนหาวนอน | แลเห็นขอนก็ว่าคนหนีซนไป |
| แลเห็นเชือกก็ว่างูไม่รู้จัก | ใครร้องทักก็ให้กลัวไม่อยู่ได้ |
| เห็นมือชี้เล่าก็หนีออกไปไกล | ให้ตกใจเหมือนตั้งจ่อเข้าตรงตา... |
|
|
เที่ยวรอบลี้ฉกชิงวิ่งเอาผ้า |
| เห็นที่เปลี่ยวเที่ยวคอยคนเดินมา | เห็นชอบท่าแล้วก็ชิงวิ่งหนีไป |
| ลางทีเห็นเด็กน้อยใส่ปิ่นปัก | ทำเดินเคียงเข้าไปชักเอาจนได้ |
| ลางทีทำพูดผลอล่อเอาไป | คัดกำไลตีนมือแล้วปล่อยมา... |
|
|
มันปลิ้นปลอกลวงเอาเป็นหลายท่า |
| เห็นพระสงฆ์บิณฑบาตท่านเดินมา | ทำมารยาเข้านิมนต์เหมือนคนดี |
| ว่าคุณยายจะถวายซึ่งข้าวสงฆ์ | นิมนต์คุณเดินตรงขึ้นเรือนนี้ |
| รับบาตรได้ไพล่ลัดไปทันที | พระสงฆ์รี่ขึ้นเรือนแล้วนั่งลง |
| เจ้าเรือนรู้ให้รับไปตามหา | ว่าใครมาแต่ไหนมาลวงสงฆ์ |
| อ้ายขี้ฉ้อล่อลวงเอาตรงตรง | มันจะลงนรกตกเวจี |
|
|
กล่าวมายาว่าดิฉันตกเว็จขี้ |
| จะขอรดน้ำมนต์พ้นอัปรีย์ | ยังสองทีก็สิ้นจังไรไป |
| ได้ห้าวัดแล้วเจ้าคุณเอาบุญเกิด | เหมือนดังโปรดให้เกิดเอาชาติใหม่ |
| จะขอยืมเอาบาตรเจ้าคุณไป | ได้ตักน้ำมาให้ทำน้ำมนต์ |
| พระพาชื่อส่งบาตรให้ทันที | บัดเดียวใจมันก็หนีไม่เห็นหน |
| อ้ายเจ้าเล่ห์ล่อลวงเป็นหลายกล | แต่ล้วนคนคอฝิ่นกินสุรา... |
|
|
เห็นเขาทำทอดกล้วยอยู่ฉ่าฉ่า |
| คิดได้การแล้วก็กล่าวเป็นมารยา | ว่าได้ยินเขาว่าน่าสงสัย |
| กระทะทอดกล้วยตั้งดั่งท่านทำ | อ้ายเจ้ากรรมมันลักเอาไปได้ |
| นางแม่ค้าร้องว่าทำอย่างไร | มันบอกไปว่าจะทำให้ท่านดู |
| ส่งพายมาให้เถิดข้าจะทำ | นางเจ้ากรรมสงสัยจะใคร่รู้ |
| หยิบพายส่งจงใจจะใคร่ดู | มันคอนหูพาหายไปทันที... |
|
|
ทำอาการร้องไห้อยู่อู้อี้ |
| พระไปสรงน้ำคิดจิตปราณี | ว่าอ้ายนี่อยู่ที่ไหนร้องไห้มา |
| มันบอกว่าพ่อข้ามาบางกอก | เขาชวนบอกว่าจะพามาหา |
| ฉันไม่รู้เล่ห์กลคนมารยา | ลงเรือมากับเขาไม่เข้าใจ |
| พระชีต้นมีจิตคิดสงสาร | มานี่หลานกูจะคิดช่วยแก้ไข... |
|
|
กินข้าวเหมือนจะกลืนลงไม่ได้ |
| ชีต้นปลอบว่าเองอย่าเสียใจ | กินเข้าไปให้อิ่มเถิดหลานชาย |
| ครั้นรุ่งเช้าก็เข้าไปบิณฑบาต | อ้ายมารยามันก็กวาดเอาง่ายง่าย |
| ครั้นกลับมาเรียกหาเห็นผ้าหาย | ทีนี้ร้ายแล้วสิเราอ้ายเจ้ากล... |
|
|
ถือพานหมากขึ้นมาเข้าตามก้น |
| ทำอย่างสุกกระสารเข้าปลอมพล | เข้าปะปนอยู่กับเขาที่เข้ามา |
| สีกาส่งเภสัชให้ประเคน | แล้วพาเณรกลับคืนมาตีนท่า |
| มันทำดีทีตามเขาลงมา | พอลับตาแล้วก็กลับเข้าไปใหม่ |
| ว่าท่านใช้ให้เอาพานลงไปด้วย | เจ้าคุณช่วยโปรดถ่ายส่งมาให้ |
| พอได้พานแล้วก็ลงบันไดไป | อ้างจังไรเช่นนี้ก็ดีพอ... |
|
|
ช่างพูดจาแปรผันเชิงขี้ฉ้อ |
| ทั้งน้ำคำเล่าก็เพราะเสนาะพอ | นำไปรออยู่ที่ร้านบ้านผู้ดี |
| ว่าดิฉันเอาของมากราบเท้าท่าน | แต่โต๊ะพานไม่มีมาน่าบัดสี |
| จะได้โต๊ะที่ไหนมาใส่ดี | เอ็นดูทีเถิดนะแม่ช่วยแก้ไว |
| นางหนึ่งนั่งอยู่ที่ร้านคิดว่าจริง | ให้คนวิ่งไปเอาโต๊ะมาส่งให้... |
| ...อีมารยามันก็เห็นจะเหลือมือ | |
| จึงยืมเอากระจาดเจ้าของร้าน | ใส่โต๊ะพานพาไปเหมือนใจซื่อ |
| อีลาวว่าส่งมาข้าขะช่วยถือ | จะช่วยหรือเอาพานนี่แน่ไป |
| ครั้นมาถึงท่าน้ำตะพานมอญ | ว่าหยุดก่อนคอยเรือประเดี๋ยวได้ |
| อีลาววางพานลงส่งเบี้ยไพ | ว่าเจ้าไปซื้อหมากเขามากิน |
| อีลาวซื่อซื้อหมากมิทันมา | อีมารยามันก็ยกเอาไปสิ้น |
| อีเจ้ากรรมทำกลเที่ยวหากิน | มันสุดสิ้นข้อคดขี้ปดคน |
|
|
แล้วว่าข้าจะพาขึ้นไปขน |
| เอ็นดูด้วยช่วยแจวไปบ้านบน | ให้มันขนแล้วจึ่งคิดราคากัน |
| ครั้นถึงที่จอดท่าเดินขึ้นไป | ถามว่าท่านไปไหนเจ้าคุณฉัน |
| เอาฟืนมากราบเท้าสักสองพัน | พ่อคนนั้นช่วยไปเรียนกับท่านที... |
| ...เจ้าคนลวงได้ทีก็ขึ้นไป | คำนับไหว้แล้วหมอบลงตรงหน้า |
| ว่าดิฉันเป็นบ่าวของคุณมา | ก็ตั้งหน้าทำมาหากินไป... |
| ...เอาฟืนมาให้สักสองพัน | |
| ยังข้าวของอยู่ที่เรือตรงนี้ข้าม | จะเอามาก็ไม่งามในใจฉัน |
| ให้ขนฟืนไปพลางจะช้าวัน | ตัวดิฉันจะไปเอาข้าวของมา |
| ขอยืมโต๊ะโตกพานสักห้าใบ | จะเอาไปใส่ของพองามหน้า |
| ท่านผู้หญิงก็ให้คนขนลงมา | มันก็ลาจากเรือนลงมาเรือ |
| ร้องว่าให้เขาขนขึ้นไปก่อน | ฟืนร่อนนี้กระไรดุ้นใหญ่เหลือ |
| ข้าข้ามไปเอาของที่ในเรือ | เห็นจะเหลือโต๊ะพานที่เอามา |
| ลงเรือน้อยข้ามตรงไปสูญหาย | ตะวันบ่ายแล้วก็วุ่นกันหนักหนา |
| ทั้งเจ้าฟืนก็จะเอาซึ่งราคา... | |
| ...มันน่าอายนี่กระไรทุกเส้นขน | |
| ทั้งเสียโต๊ะเสียหน้ามารยาคน | อ้ายเจ้ากลเจ้ากรรมมันทำดี |
|
|
นั่งต้นท่าร้องถามไปตามที่ |
| ว่าอิฐใหญ่ได้ขนาดชนิดนี้ | เผาสุกดีอยู่หรือจะซื้อเอา |
| ถนนข้าสร้างไว้ฝากข้างโน้น | วัดประโดนหลังแพนั้นแน่เจ้า |
| ทำบุญด้วยกันเกิดพี่น้องเรา | เจ้าจะเอาราคาข้าเท่าไร |
| มอญบอกราคาพอสมควร | ทำกระบวนว่าพออัชฌาสัย |
| ทำบุญด้วยกันบ้างเกิดเป็นไร | แต่พอให้พระสงฆ์เดินสบาย |
| ต่อราคากันแล้วก็ลงเรือ | เจ้ามอญเชื่อถอยเรือรับไปง่ายง่าย |
| ครั้นถึงใกล้ท่าวัดที่แพราย | กล่าวอุบายบอกมอญเข้าจอดเรือ |
| ขึ้นซื้อผ้าว่าท่านจะทำบุญ | เจ้าประคุณนี่กระไรศรัทธาเหลือ |
| แต่ว่าท่านจะใคร่ดูให้รู้เนื้อ | ขอยืมเรือไปหน่อยประเดี๋ยวใจ... |
| ...เจ้าคนร้ายลงเรือเลี้ยวหลังแพ | เห็นรับแลแล้วก็พายขยุ้มใหญ่ |
| ข้างชาวแพคอยคอยเห็นช้าไป | ก็ตกใจได้คิดขึ้นทันที |
| ถามเรืออิฐว่าคนนั้นเขาไปไหน | เขาขึ้นไปข้างบนเมื่อกี้นี่... |
| ...ข้านึกว่าเจ้ามอญรู้จักกัน | คิดไม่ทันจึงให้ไปเฉยเลย |
| จะทำกระไรเล่าเจ้ามอญเอย | มันหนีเลยไปแล้วโอ้อกเรา... |