สถานการณ์ ๓ + ๑ จชต.
๑ – ๓๐ พ.ย.๕๒

          การเคลื่อนไหวที่น่าสนใจใน ๓+๑ จชต.ในช่วง ๑-๓๐ พ.ย.๕๒ ได้แก่การเคลื่อนไหวของแนวร่วมอิสลามและ sympathizer ทุกระดับ ที่เป็นไปอย่างสอดประสาน เพื่อส่งนัยให้เห็นว่า ในพื้นที่ ที่มีไทยอิสลามเป็นคนส่วนใหญ่ของพื้นที่ พร้อมแล้วสำหรับการปกครองตนเองตามวิถีอิสลาม อันจะนำมาซึ่งการแยกการปกครองในพื้นที่ ๓ จชต.เป้นอันดับแรก โดยมีความเปราะบางทางการเมืองที่ทำให้รัฐบาลต้องเทิดทูนอิสลาม เป็นปัจจัยหนุนช่วยอันทรงพลัง โดย สื่ออิสลาม เร่งโหมปูกระแสแบ่งแยกการปกครองในพื้นที่ ที่มีไทยอิสลามเป็นคนส่วนใหญ่ของพื้นที่ เพื่อส่งลูกให้นักการเมืองอิสลามเข้ามารับช่วงเพิ่มแรงกดดันต่อรัฐบาล ด้วยรูปธรรมของการแสดงการมีพรรคการเมืองไทยอิสลามเป็นของตนเองแล้ว ขณะที่กลุ่มผู้นำศาสนาอิสลาม แยกไปรุกหนักเรียกร้องให้รัฐสนับสนุนกิจกรรมทางศาสนาเพื่อนำไทยอิสลาม ออกสู่การรับรู้และรับรองของโลกภายนอก ส่วน กลุ่มทุนอิสลามขนาดใหญ่ กำลังรุกคืบเข้าคุมวิถีชีวิตของคนใน ๓ จชต.ด้วยการสร้างอาณาจักรอิสลามแบบครบวงจรขึ้นที่ใจกลางเมืองปัตตานี หลังจาก กลุ่มปฏิบัติการอิสลาม ได้ใช้การก่อเหตุร้ายซึ่งแม้จะถูกควบคุมการเคลื่อนไหวอยู่ ทั้งการ ยิง ระเบิด เผา ทำลาย ขู่บังคับซื้อที่ดิน จนคนไทยพุทธถอยร่นออกจาก ๓ จชต. แม้กระทั่งในพื้นที่หลังพิงสุดท้ายของไทยพุทธ คือ อ.โคกโพธิ์ และแม้แต่ที่ดินผืนสุดท้ายที่หน้าวัดช้างให้ สัญญลักษณ์ของความเป็น “ไทยพุทธ”ก็กำลังจะหลุดจากมือไทยพุทธคนสุดท้าย และสุดท้าย องค์กรเอกชนกำลังรุกเข้าคุมมวลชนระดับรากหญ้าเพื่อเตรียมรับการเลือกตั้ง
         ความเคลื่อนไหวของรัฐบาล จนท.ผู้ปฏิบัติในพื้นที่ และนักการเมืองไทย พบว่ารัฐบาลยังคงพยายามซื้อใจอิสลามต่อไป ตั้งแต่การแสดงท่าทีตอบรับข้อเสนอของนายกรัฐมนตรีมาเลเซียที่จะพิจารณาแยกการปกครองใน ๓ จชต. รวมทั้งการส่งเสริมกิจกรรมทางศาสนาและธุรกิจของอิสลามอย่างเต็มที่ เช่นเดียวกับนักการเมืองไทยที่พยายามแทรกรัฐบาลเข้าไปแข่งกันซื้อใจไทยอิสลาม ดังเช่น ที่มีผู้เสนอให้ตั้งนครปัตตานีและสร้างมัสยิดใหญ่ที่สุดในภูมิภาคขึ้น เพื่อรื้อฟื้นความภาคภูมิใจของไทยอิสลาม ขณะที่จนท.ผู้ปฏิบัติในพื้นที่ยังคงสามารถป้องปรามการเคลื่อนไหวก่อเหตุของแนวร่วมได้ในระดับที่น่าพอใจ แม้ว่าจะยังมีปัญหาที่ต้องคอยชี้ชาวบ้านกรณีผู้ก่อเหตุเป็นฝ่ายเพลี่ยงพล้ำบาดเจ็บหรือเสียชีวิต อันเป็นวิธีการที่แตกต่างจากพื้นที่อื่นๆที่อยู่ในประเทศเดียวกัน

แนวโน้มของสถานการณ์ เสถียรภาพของรัฐบาล ประกอบกับการหาเสียงของพรรคไทยอิสลามมาตุภูมิในลักษณะเลือกไทยอิสลามเพื่อไทยอิสลาม และในช่วงที่หน่วยงานหลักที่รับผิดชอบปัญหาจชต.โดยตรงก็ยังสับสน ไม่ลงตัว โดยเฉพาะ เมื่อ การแยกอำนาจการใช้งบประมาณของศอ.บต.ออกจากกอ.มน.ที่ยังคาราคาซังอยู่ กำลังส่งผลกระทบอย่างยิ่งต่อขวัญกำลังใจและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของคนส่วนน้อยไทยพุทธ และความสับสนอย่างยิ่งต่อจนท.ผู้ปฏิบัติในพื้นที่ ด้วยเหตุนี้ จนท.ผู้ปฏิบัติในพื้นที่จะต้องไม่หวั่นไหว จึงจะคุมสถานการณ์ไว้ได้ โดยเฉพาะต้องเฝ้าระวังและแจ้งเตือนการรุกไล่ไทยพุทธ ด้วยการบุกรุก กว้านซื้อและบังคับซื้อที่ดินจากคนไทยพุทธ และที่ดินที่ใกล้ที่อยู่/ที่ทำกินของไทยพุทธ โดยอ้างการสร้างมัสยิดและปอเนาะ ซึ่งดูเหมือนเพิ่มขึ้นอย่างผิดสังเกตุ

ข้อพึงตระหนัก การปิดล้อมเพื่อรุกไล่คนกลุ่มน้อยไทยพุทธให้ถอยร่นออกจาก ๓ จชต.ของกลุ่มอ้างการรื้อฟื้นรัฐปัตตานีปรากฏรูปธรรมชัดเจนขึ้นตามลำดับ
.....จากการก่อเหตุฆ่าฟันไทยพุทธและไทยอิสลามที่ยังมีเยื่อใยต่อไทยพุทธจนสามารถปิดล้อมทางสังคมควบคู่กับการปิดล้อมทางการเมืองต่อคนไทยพุทธจนสำเร็จแล้ว ก็ได้รุกคืบสู่การปิดล้อมทางเศรษฐกิจด้วยการเลิกทำธุรกรรมค้าขายและทำลายธุรกิจขนาดเล็กมาสู่ใหญ่ของไทยพุทธจนถอยร่น เพื่อเปิดทางสู่การสร้างอาณาจักรอิสลามครบวงจรซึ่งจะสามารถควบคุมทั้งเศรษฐกิจ การเมือง และสังคม ของผู้คนใน ๓ จชต.ไว้ในกำมือ(อิสลาม) ในที่สุด ซึ่งมาตรการปิดล้อมทางเศรษฐกิจดังกล่าวดูเหมือนว่ากำลังดำเนินไปอย่าง เข้มข้นและอย่างสอดประสานอย่างน่าวิตก โดยได้มีการรุกเข้าสู่พื้นที่ ซึ่งเป็นหลังพิงสุดท้ายของคนพุทธแล้ว คือ จ.ปัตตานี อันเป็นพื้นที่เตรียมก่อตั้งอาณาจักรอิสลาม และโดยเฉพาะที่อ.โคกโพธิ์ซึ่งเป็นพื้นที่ ที่ไทยพุทธและไทยอิสลามมีจำนวนใกล้เคียงกัน โดยการโหมก่อเหตุอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการลอบวางระเบิดงานชักพระที่กลางเมืองโคกธิ์ เมื่อ ๕ ต.ค.๕๒ ซึ่งส่งผลกระทบทางด้านจิตวิทยาอย่างรุนแรงในวงกว้างโดยเฉพาะผู้ที่ไม่มีถิ่นกำเนิดใน ๓ จชต.จนเริ่มมีการประกาศขายบ้านและที่ดินกันแล้ว แต่ที่สำคัญที่สุดคือ การประกาศ ขายที่ดินหน้าวัดช้างไห้ จำนวน ๑๐๐ ไร่ ของเจ้าของที่ดินไทยพุทธคนสุดท้ายแล้ว

สถิติและนัยของการก่อเหตุ
         การก่อเหตุใน ๓+๑ จชต.ในช่วง ๑-๓๐ พ.ย.๕๒ เท่าที่รวบรวมได้ สรุปได้ว่ามีการก่อเหตุ รวมทั้งสิ้น ๕๘ เหตุการณ์ ทั้งนี้ จ.ปัตตานี ยังคงมีการก่อเหตุมากที่สุด ๒๖ เหตุการณ์ โดย อ.หนองจิก และอ.มายอ มีการก่อเหตุมากที่สุด พื้นที่ละ ๕ เหตุการณ์ รองลงมาคือ อ.เมือง อ.ปะนาเระ และ อ.โคกโพธิ์ พื้นที่ละ ๓ เหตุการณ์ ขณะที่ จ.นราธิวาส มีการก่อเหตุ ๑๗ เหตุการณ์ โดย อ. ระแงะ มีการก่อเหตุมากที่สุด ๕ เหตุการณ์ รองลงมาคือ อ.จะแนะ ๔ เหตุการณ์ ส่วนจ.ยะลา มีการก่อเหตุ ๑๔ เหตุการณ์ โดย อ. บันนังสตา มีการก่อเหตุมากที่สุด ๕ เหตุการณ์ รองลงมาคือ อ.เมือง ๔ เหตุการณ์ และ จ.สงขลา ๑ เหตุการณ์ ที่ อ.สะเดา ทั้งนี้ การก่อเหตุ ทั้ง ๕๘ เหตุการณ์ แยกเป็นการลอบยิงตัวบุคคล ๔๗ เหตุการณ์ รองลงมาคือการวางระเบิด ๗ เหตุการณ์ ซึ่งเป็นการกระทำต่อทั้ง Soft และ Hard target การซุ่มยิง/ซุ่มโจมตี ๒ เหตุการณ์ และการเผาอาคาร/สถานที่ ๒ เหตุการณ์

ข้อพิจารณา
         การก่อเหตุ ทั้ง ๕๘ เหตุการณ์ ในช่วงระหว่าง ๑-๓๐ พ.ย.๕๒ สามารถสรุปนัยของเหตุการณ์ได้ ดังนี้
         ๑. จำนวนการก่อเหตุที่ลดลง โดยเฉพาะการลอบวางระเบิดแสดงให้เห็นว่าการเคลื่อนไหวของแนวร่วมยังคงถูกจำกัดด้วยการปฏิบัติการของจนท.และจากสภาพอุทกภัย
         ๒. การยิงรถนักเรียน ซึ่งเป็น soft target ที่ต้องโดนประนาม แสดงให้เห็นถึงความจนตรอกที่ต้องก่อเหตุเพื่อรักษาสถิติไม่ให้ลดลง
         ๓. เป้าหมายของการก่อเหตุส่วนใหญ่เป็นการมุ่งกระทำต่อ soft target ถึง ๕๒ เหตุการณ์จากการการก่อเหตุทั้งหมด ๕๘ เหตุการณ์ ขณะที่การกระทำต่อ hard target เพียง ๖ เหตุการณ์ นั้น ๔ เหตุการณ์เป็นการลอบวางระเบิดดัก ซึ่งมีพลาดเป้าบ้าง แสดงให้เห็นว่า ผู้ก่อเหตุพยายามหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้า เพื่อความปลอดภัยของตนเองเป็นที่ตั้ง
         ๔. เป้าหมายของการก่อเหตุมุ่งอยู่ที่ชีวิตและทรัพย์สินของทั้งคนไทยพุทธทั้งชาวบ้านและ จนท.เป้นหลัก โดยมีการก่อเหตุกับชาวบ้านอิสลามในลักษณะของการคงไว้/รักษาสถิติ โดยในช่วงรายงานคนไทยพุทธ บาดเจ็บและเสียชีวิตรวมทั้งสิ้น ๓๕ คน แยกเป็น เสียชีวิต ๙ คน บาดเจ็บ ๒๖ คน ขณะที่ไทยอิสลามบาดเจ็บและเสียชีวิตรวมทั้งสิ้น ๔๒ คน แยกเป็นเสียชีวิต ๒๘ คน บาดเจ็บ ๑๔ คน และไม่ทราบเชื้อชาติและศาสนา ของผู้บาดเจ็บ อีก ๑ คน
         ๕. การรุกก่อเหตุในพื้นที่สีเขียว อันเป็นหลังพิงสุดท้ายของไทยพุทธ คือ อ.โคกโพธิ์ ยังคงเป็นไปอย่างอย่างต่อเนื่องจาก ต.ค.๕๒ อย่างผิดสังเกตุ จนเริ่มทำให้คนไทยพุทธที่ไม่ได้ทีรากฐานอยู่ในพื้นที่เริ่มถอดใจ ขายที่อยู่และที่ดินแล้ว ที่น่าวิตกอย่างยิ่ง คือการบอกขายที่ดิน๑๐๐ ไร่หน้าวัดหลวงพ่อทวดของคนไทยพุทธ
         ๖. การก่อเหตุมีลักษณะของการกระตุ้นให้เกิดความแค้นและการแก้แค้นระหว่างพุทธและอิสลาม เพื่อเสี้ยมความบาดหมางพุทธ อิสลาม โดยการยิงทั้งนักเรียนพุทธ สลับอิสลาม กล่าวคือ เมื่อ ๑๖ พ.ย.๕๒ ยิงรถนักเรียนไทยพุทธ บนถนนสายสาบัน- อ.ปะนาเระ ม.๔ ต.บ้านนอก อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานีทำให้ นายอำนาจ จันทร์อินทร์ อายุ ๑๘ ปี นักศึกษา ปวช. วิทยาลัยเทคนิคปัตตานี ,นายปรีชา พรหมสะอาด อายุ ๑๙ ปี นักศึกษา ปวส.วิทยาลัยการอาชีพปัตตานี และ เด็กหญิงพิจิตรา ชุมคง อายุ ๑๒ ปี ประถมศึกษาปีที่ ๖ โรงเรียนแหลมทองอุปถัมภ์ ทั้ง ๓ คนบาดเจ็บ ต่อมา เมื่อ ๑๗ พ.ย.๕๒ ยิงรถรับจ้างรับส่งนักเรียนอิสลาม บนถนนสายบ่อทอง-ม่วงเตี้ย ม.๓ บ้านออเลาะปีแน ต.ดาโต๊ะ อ.หนองจิก ทำให้นายมามะ มีนา คนขับรถ เสียชีวิต
         ๗. การรุกคืบเข้ายึคที่ดินไทยพุทธที่อยู่กันเป็นจำนวนน้อย โดยการฆ่าผู้นำและผู้ที่เป็นกำลังหลักของชุมชน ดังเช่นการฆ่านายชนะ ณ สงคราม และนายพนา ไสลเพ็ชร ที่ ม.๒ บ.ไอร์แยง ต.ศรีบรรพต อ.ศรีสาคร เมื่อ ๒๑ ต.ค.๕๒ ซึ่งทำให้คนไทยพุทธในพื้นที่นี้เริ่มทยอยขายที่ดินกันแล้ว เพราะขาดผู้นำ

การแข่งขันซื้อใจอิสลามของรัฐบาลและนักการเมือง
         ความพยายามซื้อใจอิสลามด้วยการรับข้อเสนอของนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย เพื่อแยกการปกครองในพื้นที่ ที่มีอิสามเป็นคนส่วนใหญ่ของพื้นที่ กำลังทำให้รัฐบาลตกเป็นฝ่ายตั้งรับการรุกกดดัน/เร่งรัดและเร่งเร้าของนักการเมืองอิสลามใน ๓ จชต.
         ปชป.โดยนรม. เมื่อ ๒๗ ต.ค.๕๒ ได้ประกาศรับข้อเสนอ แยกการปกครองในพื้นที่ ที่มีไทยอิสลามเป็นคนส่วนใหญ่ ออกจากประเทศไทย ของมาเลเซีย และจะผลักดันให้สำเร็จ โดยจะมีการหารือและลงพื้นที่ร่วมกับนรม. มาเลเซียใน ธ.ค.๕๒ และให้สัญญาจะดูแล/ส่งเสริมขนบธรรมเนียมประเพณี และกิจกรรมทางศาสนาของอิสลามอย่างสุดความสามารถโดยเฉพาะอย่างยิ่งให้การสนับสนุนการก่อสร้างมัสยิดกลางประจำจ.สงขลา จนแล้วเสร็จ
         พท.โดยประธานพรรค ประกาศ เมื่อ ๒ พ.ย.๕๒ ว่า จะผลักดันแนวทางนครปัตตานี ที่มีลักษณะคล้ายกับนครเชียงใหม่ คือให้มีการออกพระราชบัญญัติให้ประชาชนสามารถดูแลตัวเอง เพราะปัญหา ๓ จชต. เกิดจากความคับแค้นเพราะการเมืองการปกครองที่ไม่เป็นธรรม และต้องตั้งนครปัตตานี เพื่อแสดงถึงเกียรติและศักดิ์ศรีของคนมลายูมุสลิม "เราผิดด้วยหรือที่พวกเราจะรวมกันเพื่อยกย่องเอาเกียรติศักดิ์ของบรรพบุรุษที่สร้างเอาไว้กลับคืนมาอีกครั้งหนึ่งให้เป็นที่ประจักษ์ ดังนั้น จำเป็นต้องสร้างการศึกษาและสร้างพิธีการทางศาสนา หรือระบบที่แสดงออกถึงอัตลักษณ์ของประชาชนในนครปัตตานีแห่งนี้ ผมจึงเสนอให้สร้างนูซันตารา ซึ่งเป็นมัสยิดที่ยิ่งใหญ่เพื่อเป็นศูนย์กลางในภูมิภาคแห่งนี้ ในการประกอบพิธีทางศาสนา เพราะถ้าสร้างในสมัยนี้ไม่ได้ อย่าได้หวังว่าจะไปสร้างเมื่อใดอีก"

ความเคลื่อนไหวของแนวร่วมและ sympathizer อิสลาม
         ความเคลื่อนไหวของแนวร่วมและ sympathizer อิสลาม ในช่วงเวลารายงานเป็นไปอย่างสอดประสานเพื่อนำสู่การแยกการปกครองในพื้นที่ ที่มีอิสลามเป็นคนส่วนใหญ่ของพื้นที่ โดยสื่ออิสลาม เร่งโหมปูกระแสแบ่งแยกการปกครองในพื้นที่ เพื่อส่งลูกให้นักการเมืองอิสลาม เข้ามารับช่วงเพิ่มแรงกดดันต่อรัฐบาล ด้วยรูปธรรมของการประกาศความพร้อมในการที่จะปกครองตนเอง โดยการประกาศเปิดตัวหัวหน้าพรรคไทยอิสลามมาตุภูมิ คือ นายทหารอิสลาม แม้จะมีส่วนน้อยที่เริ่มฉุกคิดและตั้งสติได้ว่าการเร่งแบ่งแยกการปกครอง ขณะที่ยังไม่พร้อมจะทำให้คนไทยทั้งประเทศ เริ่มตระหนักถึงภัยคุกคามจากอิสลามก่อนเวลาอันควร ขณะที่กลุ่มผู้นำศาสนาอิสลาม แยกไปรุกหนักเรียกร้องให้รัฐสนับสนุนกิจกรรมทางศาสนาเพื่อนำมลายูอิสลาม ออกสู่การรับรู้ของโลกภายนอก อันจะนำมาซึ่งการรับรองและการสนับสนุนการแยกการแยกการปกครองในที่สุด ส่วน กลุ่มทุนอิสลามขนาดใหญ่ กำลังรุกคืบเข้าคุมวิถีชีวิตของคนใน ๓ จชต.ด้วยการสร้างอาณาจักรอิสลามแบบครบวงจรขึ้นที่ใจกลางเมืองปัตตานี หลังจาก กลุ่มปฏิบัติการอิสลาม ได้ใช้การก่อเหตุร้าย ทั้งการ ยิง ระเบิด เผา ทำลาย ขู่บังคับซื้อที่ดิน จนคนไทยพุทธถอยร่นออกจาก ๓ จชต. แม้กระทั่งในพื้นที่หลังพิงสุดท้ายของไทยพุทธ คือ อ.โคกโพธิ์ และแม้แต่ที่ดินผืนสุดท้ายที่หน้าวัดช้างให้ สัญญลักษณ์ของความเป็น “ไทยพุทธ”ก็กำลังจะหลุดจากมือไทยพุทธคนสุดท้าย และสุดท้าย องค์กรเอกชน กำลังรุกเข้าคุมมวลชนระดับรากหญ้าเพื่อเตรียมรับการเลือกตั้ง

การเคลื่อนไหวกรณีการจัดตั้งนครปัตานี
         สถาบันอิศรา กำลังโหมกระแส แบ่งแยกการปกครองของ ๓ จชต. จนทำให้เกิดความเสียขวัญต่อชนกลุ่มน้อยไทยพุทธ และจนท.ในพื้นที่อย่างยิ่ง และอย่างไม่สมควร จนน่าวิตก ผ่านบทความต่างๆ ได้แก่
          บทความ นายกฯมาเลย์แนะให้ ๓ จังหวัดใต้ปกครองตนเอง ปัดหนุนกลุ่มหัวรุนแรงละเมิดกฎหมายไทย เมื่อ ๒ พ.ย. ๕๒ เพื่อยกย่องนายกมาเลเซียกรณี ที่กล้าเสนอแนะให้ ๓ จชต.ปกครองตนเอง
          บทความ “อภิสิทธิ์”เห็นตามนายกฯมาเลย์ ให้ ๓ จังหวัดใต้ปกครองตนเองบางระดับ เมื่อ ๒ พ.ย.๕๒ เพื่อโน้มน้าวให้เห็นว่าแม้นายกไทยกยังเห้นด้วยต่อข้อเสนอให้ ๓ จชต.แยกไปปกครองกันเองตามที่นายกมาเลเซียเสนอแนะมา และย้ำถึงความเป็นไปได้อย่างยิ่ง เมื่อนายกของทั้ง ๒ ประเทศจะเดินทางลงดูพื้นที่ ในธ.ค.๕๒
          บทความ รองประธานพูโล : เราพร้อมเจรจาแบบไร้เงื่อนไขกับรัฐบาลไทย เมื่อ ๒ พ.ย.๕๒ เพื่อแสดงนัยของการยอมรับการมีตัวตนของขบวนการปลดปล่อย ๓ จชต. และยกฐานะของขบวนการผิดกม.ขึ้นเทียบเท่ารัฐบาลไทย
          บทความ ถอดรหัส “นครปัตตานี” ไขปม “บิ๊กจิ๋ว” ลงพื้นที่ชายแดนใต้ เมื่อ ๓ พ.ย.๕๒ เพื่อชี้นำให้เห็นว่านักการเมื่องไทยก็เห็นด้วยกับแก้ปัญหาความรุนแรงใน ๓ จชต.ด้วยการให้มลายูอิสลามปกครองกันเอง
          บทความ เทศมองไทย...แนะรัฐดับไฟใต้ด้วย “เจรจา” เมื่อ ๘ พ.ย.๕๒ ซึ่งเป็นการนำความคิดของผู้ที่เห็นด้วยกับการแก้ไขปัญหาด้วยการเจรจา ระหว่างการประชุมสานเสวนาเกี่ยวกับศาสนา ความเชื่อ และวัฒนธรรม ครั้งที่ ๕ ของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก (๕th Regional Interfaith Dialogue) ที่เมืองเพิร์ธ ประเทศออสเตรเลีย เมื่อปลายเดือน ต.ค. ๕๒ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นอสลามมาลงตีพิมพ์
          บทความ น้ำตาของครอบครัวนักเรียนปอเนาะพ่อมิ่ง...ขอความยุติธรรมให้เด็กผู้บริสุทธิ์ เมื่อ ๑๓ พ.ย.๕๒ เพื่อส่งนัยว่าการกราดยิงนักเรียนปอเนาะพ่อมิ่ง เมื่อ ๘ พ.ย.๕๒ เป็นฝีมือของเจ้าหน้าที่
          บทความ จับตายคนร้าย... (อาจ) ไม่ใช่ความสำเร็จ! เมื่อ ๑๗ พ.ย.๕๒ แสดงความไม่เห็นด้วยกับการจับกุมที่คนร้ายต่อสู้จนเสียชีวิต
          บทความ บทเรียนการ "ทุ่มงบ-พัฒนา" ที่ไร้ผลแก้ปัญหาความไม่สงบ เมื่อ ๒๒ พ.ย.๕๒ เพื่อจะสื่อนัยว่า ปัญหาความไม่สงบ ไม่ได้เกิดขึ้นจากความยากจนหรือความขาดแคลน หากเกิดจากการขาด รัฐบาลที่ดีและสะอาด ดังนั้นการส่งงบประมาณลงไปก็ยิ่งทำให้เกิดปัญหาความขัดแย้งรุนแรงขึ้น
         มุสลิมไทย ดอทคอม ส่งนัย เตือนให้รัฐบาลยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ผ่านบทความ Muslimthai Focus : หลายอย่างที่ยังคงเหมือนเดิม
         นักการเมือง และ นักวิชาการอิสลาม กำลังขานรับและรุกเร้าให้มีการแยกการปกคองพื้นที่ที่มีอิสลามเป็นคนส่วนใหญ่ของพื้นที่อย่างคึกคัก และขยายออกไปถึงการเรียกร้องให้มีการเลือกตั้ง ผู้ว่าราชการสำหรับ ๓ จชต.อีกด้วย โดยพยายามอ้างว่าการปกครองที่เป็นอยู่ในปัจจุบันไม่สอดคล้องกับวิถีชีวิตอิสลาม เพราะก่อให้เกิดความไม่เป็นธรรม อันนำมาซึ่งความไม่สงบในพื้นที่อิสลามเป็นใหญ่
          ผศ.ดร.... นักวิชาการจากมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี (ม.อ.ปัตตานี) เสนอแนะให้ มีการรับฟังความคิดเห็นอย่างกว้างขวางทั้งในพื้นที่ชายแดนใต้และพื้นที่อื่นทั่วประเทศ เพื่อให้การจัดรูปการปกครองแบบใหม่ที่ปลายด้ามขวานได้รับการยอมรับจากประชาชนทุกภาคส่วนอย่างแท้จริง แต่ยังมีข้อแม้ตามประสาNGO ที่ต้องให้อิสลามพอใจด้วย
          นาย... ส.ส.สัดส่วน และประธานคณะทำงานเฉพาะกิจชายแดนภาคใต้ของพรรคประชาธิปัตย์ ชี้นำให้เห็นว่า ฝ่ายความมั่นคงรับไม่ได้กับการปกครองกันเอง
          พล.อ.... อดีตผู้บัญชาการทหารบก ....ให้ความเห็นเมื่อ ๓ พ.ย.๕๒ ว่า อิสลามทั้งในและนอก พื้นที่ ๓ จชต. คงไม่เห็นด้วยเรื่องการจัดตั้งนครปัตตานี เพราะในพื้นที่ ๓ จชต.ก็มีผู้นำท้องถิ่นไม่น้อยกว่า ๙๐% เป็นชาวมุสลิม อยู่แล้ว หากควรตั้งหน่วยงานขึ้นมาดูแลพื้นที่ ๓ จชต.เป็นการเฉพาะ
         นพ.... ส.ส.นราธิวาส พรรคเพื่อแผ่นดิน (พผ.) จากสนับสนุนการตั้งเขตปกครองพิเศษหรือเขตปกครองตนเอง อย่างเต็มที่ โดยอ้างว่า ประเทศอินโดนิเซียก็ประสบความสำเร็จในการใช้วิธีแบ่งแยกการปกครอง แก้ปัญหาความไม่สงบมาแล้ว คือที่อาเจะห์ แล้วยังแสดงนัยของงการเร่งให้มีการเลือกตั้ง ผวจ.โดยตรง ในพื้นที่ ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้
         นาย... ส.ส.พรรคมาตุภูมิ สนับสนุนการตั้งรัฐปัตตานี โดยอ้างว่า คนไทยในพื้นที่ชายแดนภาคใต้ที่มีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับหลักการเมืองการปกครอง หรือ หลักทางรัฐศาสตร์ และนิติศาสตร์ สามารถเข้าใจและรู้มิติของแนวทางที่พล.อ.ชวลิตเสนอต่อสังคมในการแก้ไขปัญหาพื้นที่ ๓ จังหวัด ถ้ารัฐบาลนี้ไม่รับ ก็ริรัฐบาลหน้า
         นาย... สส.นราธิวาส พรรค ปชป. ประธานกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ ไม่เห็นด้วยกับการตั้งนครรัฐปัตตานี
         นาย... โฆษกพรรคมาตุภูมิ ไม่พอใจที่รัฐบาลต่อต้านแนวคิดจัดตั้ง นครรัฐปัตตานีเพื่อแก้ไขความไม่สงบในพื้นที่ ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพราะมีการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่นให้กับองค์การบริหารส่วนตำบล จังหวัด และเทศบาลทั่วประเทศ ซึ่งเป็นการปกครองตนเองในระดับหนึ่งอยู่แล้ว
         นาย... ส.ส.ยะลา ยืนยันสนับสนุนจัดตั้งนครปัตตานี ถ้าพรรคเพื่อไทยมีอำนาจในการบริหารประเทศ จะใช้ทฤษฎีดอกไม้หลากสีเข้าไปแก้ปัญหาและเคารพความแตกต่างของคนในพื้นที่ เป็นนโยบายในการหาเสียง
          นาย...ประธานภาคใต้ของพรรคเพื่อไทย ใช้โอกาสจากสถานการณ์ เสนอนโยบาย "ศาสนานำการเมือง"
          นาย... รองประธานองค์กรภาคประชาชนเศรษฐกิจพอเพียง จ.ปัตตานี สนับสนุนแนวคิดการตั้งนครรัฐปัตตานี ของ พล.อ.ชวลิตฯ อย่างเต็มที่
          นาย... จากองค์กรภาคประชาสังคม สนับสนุนการตั้งเขตปกครองพิเศษหรือนครปัตตานี
         นาย... ที่ปรึกษาสมาคมยุวมุสลิมแห่งประเทศไทย (ยมท.) สนับสนุนการแยกการปกครอง ๓ จชต.แล้เรียกร้องให้มีการส่งเสริมความเข้มข้นของมลายูอิสลาม
         นาย... อดีตคณะกรรมการอิสระเพื่อความสมานฉันท์แห่งชาติ (กอส.) สนับสนุนการตั้งนครรัฐปัตตานี อย่างเต็มที่ ทั้งยังเรียกร้องให้มีการ ใช้กฎหมายอิสลาม อย่างเต็มรูปแบบ ยกเลิก พรก.ฉุกเฉิน และลดกำลังทหารลง
         นาย...ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดนราธิวาส ยังวางตัวเป้นกลางแต่ต้องการให้ มีการพิจารณาให้รอบครอบเสียก่อน และต้องฟังความเห็นของคนในพื้นที่ด้วย

ผู้นำศาสนา
         นาย... ผู้นำศาสนาและประธานเสริมสร้างสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ (สสส.จชต.) ของศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ยังแบ่งรับแบ่งสู้ หากต้องการให้มีการนิยามคำจำกัดความให้ชัดเจน และควรมีการจัดสัมนาระดมความคิดเห็นถึงผลกระทบจากข้อเสนอดังกล่าว จากผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทุกระดับ
         นาย... ประธานคณะกรรมการอิสลาม จังหวัดสมุทรปราการและเป็นคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย สรุปว่าการตั้งนครปัตตานี แก้ปัญหาภาคใต้ไม่ได้ เพราะปัญหา ไม่ได้เกิดจากรูปแบบการปกครอง แต่เกิดจากการปกครองโดยเจ้าหน้าที่รัฐ ซึ่งอ้างว่ามีทั้งการละเมิดสิทธิ ความอยุติธรรม ความมีอคติ การหาผลประโยชน์ ความขัดแย้งทางผลประโยชน์ในสิ่งผิดกฎหมาย
         นาย... ประธานสภาสันติสุขจังหวัดยะลา และอดีตรองประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดยะลา แสดงนัยเห็นด้วยกับการจัดตั้งนครรัฐปัตตานี พร้อมกับกระตุ้นให้เกิดผลเป็นรูปธรรม
         ประเด็นอื่นๆ พบว่า องค์กรเอกชน กำลังเร่งสร้างมวลชนระดับรากหญ้า ในลักษณะเพื่อการต่อรองทางการเมืองเมื่อมีการหาเสียงเลือกตั้ง ดังเช่น คณะทำงานยุติธรรมเพื่อสันติภาพ ของนางอังคณา นิลไพจิตร ซึ่งกำลังรุกคืบเข้าคุมมวลชนคนรุ่นใหม่ ระดับชาวบ้านแล้ว ด้วยการทำโครงการสัมนาทุกวันศุกร์ ที่สำนักงาน ของตนเองที่ในตัวเมืองปัตตานี โดยเริ่มตั้งแต่ ๒๓ ต.ค.๕๒

การจัดตั้งพรรคการเมืองไทยอิสลาม
         แนวร่วมได้มีการเตรียมตั้งพรรคการเมือง มาตุภูมิ เพื่อรองรับการแยกการปกครอง ไว้เรียบร้อยแล้ว และเริ่มแข็งแกร่งขึ้นตามลำดับจากการเข้ามารวมตัวกันของกลุ่มวาดะห์ และล่าสุด คือการเข้ามาดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคของ พล.อ.สนธิ บุณยรัตกลิน เมื่อ ๑๘ พ.ย.๕๒

การรุกหนักขยายกิจกรรมทางศาสนาเพื่อการปรากฏตัวต่อโลกอิสลาม
         นาย... รองประธานมูลนิธิเพื่อการศึกษาโรงเรียนอามานะศักดิ์ ผู้แสวงบุญชาวไทยจากจังหวัดปัตตานี ยังไม่พอใจที่รัฐบาลเห็นชอบให้มีการจัดตั้งสำนักกิจการฮัจญ์แห่งประเทศไทย เท่านั้น หากยังต้องการให้มีอำนาจของบประมาณได้ด้วยตนเอง อีกด้วย
         นาย... รองประธานมูลนิธิเพื่อการศึกษาโรงเรียนอามานะศักดิ์ จังหวัดปัตตานีเรียกร้องให้รัฐบาลไทยให้ความสำคัญต่อการการตลาดในช่วงเทศกาลฮัจย์เป็นอย่างมาก เนื่องจากในแต่ละปีจะมีผู้แสวงบุญจำนวน ๓,๕๐๐,๐๐๐ คน จากกว่า ๒๐๐ ประเทศเดินทางมาประกอบพิธีฮัจย์ และทุกคนที่มาเป็นผู้ที่มีอำนาจซื้อสูงทั้งสิ้น ภายใน ๔๕ - ๕๐ วันในช่วงเทศกาลฮัจย์

การรุกคืบทางเศรษฐกิจของทุนอิสลาม
         นาย... ที่ปรึกษาโครงการปัตตานีเพลส กำลังรุกคืบสร้างศูนย์การค้าและการศึกษาอิสลาม มูลค่าการลงทุน ๕๐๐ ล้านบาท กลางเมืองปัตตานี เข้าแทนที่ธุรกิจธุรกิจและไทยพุทธกำลังถอยร่นจากการเป็นเป้าหมายของการก่อเหตุ และหลังจากนักเรียนและนักศึกษาไทยพุทธได้ถอยร่นออกจากสถานศึกษาระดับวิทยาลัยและมหาวิทยาลัย ใน ๓ จชต.อย่างต่อเนื่องแล้ว
         โครงการนี้จะตั้งอยู่บนที่ดินผืนใหญ่ขนาด ๑๐ ไร่ ริมถนนเจริญประดิษฐ์ ต.รูสะมิแล อ.เมือง จ.ปัตตานี ห่างจาก ม.อ.ปัตตานี เพียง ๒๐๐ เมตร ภายในโครงการประกอบด้วย IEC หรือ International Education Center เป็นอาคารสูง ๕ ชั้นสำหรับบริการด้านการศึกษานานาชาติแห่งใหม่ในภาคใต้ ประกอบด้วย สถาบันทดสอบทางภาษา เช่น TOEFL, IELT และศูนย์ของมหาวิทยาลัยจากต่างประเทศ ….นอกจากนั้นยังมีโรงแรมระดับ ๔ ดาวชื่อ Pattani Hotel (ปัตตานี โฮเต็ล) ขนาด ๖๐ ห้อง พร้อมห้องสัมมนาขนาดใหญ่ มี Condotel หรือคอนโดมีเนียมจำนวน ๔ อาคาร เพื่อบริการที่พักสำหรับนักศึกษาและบุคคลทั่วไป ทั้งยังมีโฮมออฟฟิศอีก ๑๓ ยูนิตสำหรับเป็นสถานที่ให้บริการของสถาบันกวดวิชา ร้านค้าอุปกรณ์ทางการศึกษา (Stationary ) และอื่นๆ พร้อมด้วย Hall Outdoor หรือลานกลางแจ้งสำหรับจัดกิจกรรมทางการศึกษา นิทรรศการ และงานแสดงสินค้าอีกด้วย

การกว้านยึดที่ดินรุกไล่ไทยพุทธ ในช่วงรายงานพบว่า อิสลามกำลังบุกรุก กว้านซื้อ และบังคับซื้อที่ดินจากคนไทยพุทธ และที่ดินที่ใกล้ที่อยู่/ทำกินของไทยพุทธ โดยอ้างการสร้างมัสยิดและปอเนาะ ซึ่งดูเหมือนเพิ่มขึ้นอย่างผิดสังเกตุ
         -การบังคับซื้อที่ดินจำนวน ๓๐ ไร่ ของนายมนตรี ที่บ.นาค้อใต้ ต.มะกรูด อ.โคกโพธิ์ เพื่อทำปอเนาะ เมื่อนายมนตรีปฏิเสธจึงถูกคุกคาม จนไม่สามารถเข้าพื้นที่ได้
         -การบังคับซื้อที่ดินประมาณ ๑๐๐ ไร่ ที่บริเวณหน้าวัดช้างไห้ตก อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี เพื่อสร้างมัสยิด
         -การกว้านซื้อที่ดิน ที่ ม.๒ บ.ไอร์แยง ต.ศรีบรรพต อ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส เพื่อสร้างปอเนาะใกล้ที่ไทยพุทธ ทั้งๆที่บริเวณนั้นไม่มีอิสลามอยู่
         -การกว้านซื้อที่ดิน ๒,๐๐๐ ไร่ ที่ ม.๕ บ.คลองทราย ต.ยุโป อ.เมืองยะลา จ.ยะลา เพื่อสร้างนครเมกกะห์

ความเคลื่อนไหวที่ส่งผลกระทบต่อ ๓ จชต.ของมาเลเซีย
         ความเคลื่อนไหวที่ส่งผลกระทบต่อ ๓ จชต.ของมาเลเซียในช่วงรายงาน ได้แก่ การรุกเร้าให้มีการแยกการปกครอง ๓ จชต. และ การเสนอให้มีการท่องเที่ยวให้สอดคล้องกับวิถีอิลามซึ่งจะกระตุ้นความเป็นมลายูทึ่ไม่สามารถอยู่ร่วมสังคมเดียวกันกับคนต่างเชื้อชาติและศาสนาอันนำมา(ซึ่งการเรียกร้องขอปกครองตนเองของมลายูอิสลามทั่งประเทศ
         นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ดาโต๊ะศฺรีนาจิ๊บ ตนราซัก กล่าวเมื่อ ๒๕ ต.ค.๕๒ ว่า ไทยควรให้สิทธิปกครองตนเองแก่ประชาชนซึ่งเป็นชาวมุสลิมในพื้นที่ที่พวกเขาเป็นชนกลุ่มใหญ่ ... “ท่านนายกฯอภิสิทธิ์เชิญผมไปเยือนภาคใต้ น่าสนใจจริงๆ ผมอาจถือโอกาสนี้พูดคุยกับผู้นำมุสลิมภาคใต้ รวมทั้งดูสถานการณ์ในพื้นที่ด้วย”…และต่อมา เมื่อ ๙ พ.ย.๕๒ เว็บไซต์ของหนังสือพิมพ์เดอะ สตาร์ของมาเลเซียรายงานอ้างการเปิดเผยของดาโต๊ะ อานิฟาห์ อามัน รัฐมนตรีต่างประเทศมาเลเซีย ยืนยัน ว่า ดาโต๊ะ สรี นาจิบ ราซัค นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ได้รับเชิญจากนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้เข้าร่วมพบปะกับผู้นำในพื้นที่ ๓ จังหวัดชายแดนใต้ของไทย "เรารู้สึกซาบซึ้งในการดำเนินการของนายกรัฐมนตรีไทยที่เคารพในสถานะของเรา"
         นางฮัสนาห์ อับดุล เลาะห์มาน เลขาธิการจัดนิทรรศการการประชุมว่าด้วยการท่องเที่ยวแบบอิสลามิกสากล ๒๐๐๙ หรือ จีไอทีซี ๒๐๐๙ ในกรุงกัวลาลัมเปอร์ เมืองหลวงมาเลเซีย เรียกร้องประชาคมโลก กำหนดให้มีการท่องเที่ยวของชาวมุสลิมในสถานที่ต่าง ๆ ทั่วโลก ให้สอดคล้องกับวิถีชีวิตของชาวมุสลิม โดยแนะให้มีการจัดตั้งองค์การการท่องเที่ยวสำหรับชาวมุสลิมทั่วโลก ทั้งนี้ นิทรรศการการท่องเที่ยวของชาวมุสลิม หรือ จีไอทีซี ๒๐๐๙ กำหนดจัดขึ้นที่ศูนย์การประชุมซันเวย์ ระหว่างวันที่ ๗-๑๐ ธ.ค.๕๒ ภายในงานจะมีการประชุมเรื่องอาหารฮาลาล รวมถึงการส่งเสริมสินค้า และบริการสำหรับชาวมุสลิมด้านต่าง ๆ ด้วย

การตรวจค้น/จับกุม
         การตรวจค้น/จับกุม ของ จนท.ผู้ปฏิบัติในพื้นที่ ยังคงเป็นไปอย่างต่อเนื่อง จริงจัง และอย่างสัมฤทธิผล ในการป้องปรามการเคลื่อนไหวของแนวร่วมในระดับที่น่าพอใจ สวนทางกับความอ่อนแอของรัฐบาล ทั้งนี้ การตรวจค้นจับกุมที่ทำให้ชาวบ้านผู้บริสุทธิ์มีขวัญกำลังใจดีขึ้น และน่าจะนำมาซึ่งความร่วมมือจากชาวบ้านเพิ่มขึ้น อาทิ
         การควบคุมตัว ๓ ผู้ต้องหาซึ่งเป็นสมาชิกแนวร่วมกลุ่มกองกำลังติดอาวุธ RKKคือ นายซุปยาน หลงแดวา อายุ ๒๗ ปี นายอามรัง บากา อายุ ๒๓ ปีและนายบารูดิง อายุ ๑๙ ปี เมื่อ ๓ พ.ย. ๕๒ พร้อมอาวุธปืนสงคราม เอ็ม๑๖ จำนวน ๓ กระบอก พร้อมกระสุนปืนเกือบ ๓๐๐ นัด รวมทั้งระเบิดแสวงเครื่อง ๑ ลูก ที่เตรียมใช้ถล่มและวางระเบิดดักสังหารชุด รปภ.ครู สภ.รือเสาะในช่วงเช้าของวันที่ ๔ พ.ย. ๕๒
         การจับกุมตัว นายอดุลย์ อาแว อายุ ๒๘ ปี ภูมิลำเนาบ้านเลขที่ ๒๑๔ หมู่ ๔ บ.ตันหยงเปาว์ ต.ท่ากำชำ อ.หนองจิก จ.ปัตตานี ผู้ต้องสงสัยว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่อเหตุในพื้นที่อำเภอหนองจิก และหลบหนีหมาย จับ ได้เมื่อ ๑๒ พ.ย.๕๒
         การปิดล้อมตรวจค้น บ้านเลขที่ ๑๙๒/๓ ม.๕ ต.ควนโนรี อ.โคกโพธิ์ จนสามารถวิสามัญหัวหน้า RKK ระดับสั่งการ และลูกของผู้ใหญ่บ้านได้ จำนวน ๖ คน เมื่อ ๑๗ พ.ย.๕๒
         การจับกุมตัวนายอับดุลเลาะ เด็ง อายุ ๓๐ ปี อยู่บ้านเลขที่ ๕๒/๑ ม.๕ ต.ปะโด อ.มายอ จ.ปัตตานี ซึ่งเป็นผู้ต้องหามี หมายจับ เมื่อ ๑๒ พ.ย.๕๒
         การปิดล้อมตรวจค้นในพื้นที่บริเวณขนำ ในป่าสวนยางพารา ม.๖ ต.บาโร๊ะ อ.ยะหา จ.ยะลา จนสามารถวิสามัญ นายมาหามะ มะระ อายุ ๒๘ ปี อยู่บ้านเลขที่ ๖๘/๑ ม.๖ ต.บาโร๊ะ อ.ยะหา จ.ยะลาได้เมื่อ ๒๑ พ.ย.๕๒ การปิดล้อมตรวจค้น ภายในซอย ๑ ถนนโรงเหล้า ต.สะบารัง อ.เมืองปัตตานี ซึ่งสามารถจับกุมนายอับดุล กามะ อายุ ๓๔ ปี แกนนำแนวร่วมคนสำคัญและมีหมายจับของศาลจังหวัดปัตตานี ที่ ๓๐/๒๕๔๗ คดีระเบิดหน้า บริษัท พิธาน จำกัด ปัตตานี ทำให้ตำรวจชุดกู้ระเบิดเสียชีวิต ๒ นาย และหมายจับที่ ๓๖๓/๒๕๔๗ คดียิงนายระพิน เรือนแก้ว ผู้พิพากษาศาลปัตตานี เสียชีวิต หมายจับที่ ๓๙๘/๒๕๕๑ คดีลอบวางระเบิดโรงแรมซีเอสปัตตานี และหมายจับ ที่ ๖๕๔/๒๕๕๒ คดียิงและเผานายอรุณ และนายหิรัญ สุดมาส สองพี่น้อง ได้ เมื่อ ๒๐ พ.ย.๕๒

                                               ............................................