| หน้าแรก | ย้อนกลับ | หน้าต่อไป |

เพลงไทยให้ความรัก

กำศรวลรัก
คำร้อง แก้ว อัจฉริยะกุล      ทำนอง สริ ยงยุทธ

         เมื่อคร่ำคราญ  หวลคิดถึงคู่      ไม่ชื่นชูยามรักไกล
โอ้ยอดชู้..... อยู่หนไหน     จากกันไปแล้วไม่มา
         โน่นดวงดาววับวาวพราวเกลื่อน     แต่ดวงเดือนเลือนลับตา
ก่อนเคยเห็น..... เด่นบนฟ้า     เหตุใดหนาฟ้ามืดไป
         เดือนเอ๋ยจากเลยลาไปก็ไกลนัก     ฉันใคร่เอ่ยรักฝากไว้
ขอเดือนโปรดจำน้ำคำแล้วนำไป     แต่เดือนเลือนไกลหม่นหมอง
         โอ้อาวรณ์ร้อนใจไกลคู่     อยากชื่นชูไม่สมปอง
ยอดชีวิต..... จิตร่ำร้อง     เมื่อเราสองต้องไกลกัน
          ก่อนจากกันทุกวันเคยปลื้ม     ไม่เลือนลืมเลยสักวัน
สั่งกระซิบ..... เมื่อคืนนั้น     ว่าเธอฉันรักมั่นใจ
         หริ่งเรไรร้องฟังดังก้อง     ได้แต่มองตามเสียงไป
ดั่งคำรัก..... ฝากกันไว้     โอ้อยู่ไหนใยไม่มา
         ดึกแล้วแว่วเสียงเรไรให้สอดคล้อง    เหมือนเธอกู่ร้องเรียกหา
เสียงช่างกล่อมใจเหมือนใครร้องเรียกมา    ยิ่งฟังยิ่งพาให้หวล
        ห่างแต่ตัวหัวใจยังใกล้     โอ้ดวงใจคอยร้องครวญ
โอ้ยอกรัก.....โศกกำศรวล     เฝ้าแต่หวลครวญคำนึง

กำศรวลสวาท
คำร้อง แก้ว อัจฉริยกุล      ทำนอง เอื้อ สุนทรสนาน

         ดึกดื่นราตรีระทมฤดีโหยอ่อน     จะหลับจะนอนร้าวรอนอ่อนใจ
ต้องตื่นภวังค์เสียงดังนั่นเสียงใคร     หรีดหริ่งเรไรร้องไปหรอกหนา
         หรีดหริ่งเรไรจะครวญหาใครกันนั่น     สุดโศกรำพันทุกวันเวลา
แต่ข้าครวญไปเสียดายในรักรา     เจ็บปวดอุราน้ำตาร่วงริน
         เฝ้าแต่ดูยอดชู้คู่ใจ     สอดส่ายทั่วไปทั้งในแผ่นดิน
เฝ้าแต่อุตส่าห์ใฝ่หาจนสิ้น     ต้องทุกข์อาจินต์ถวิลอาวรณ์
         หรีดหริ่งระงมยังพลอยระทมไปได้     ยิ่งดึกลงไปแล้วใยไม่นอน
ยิ่งดึกยิ่งตรมระทมให้ร้าวรอน     ยิ่งโศกอาวรณ์ฝืนนอนเศร้าใจ

กลิ่นสะไบนาง
คำร้อง ชอุ่ม ปัญจพรรค์      ทำนอง สมพงษ์ ทิพยกลิน

         กลิ่นสะไบนางหอม     หอมดอกพะยอมไม่เทียบเปรียบปาน
หอมดอกคัดเค้ารื่นเร้าจิตหวาน     เมื่อมาประมาณ  กลิ่นไม่เทียบทานสะไบ
         กลิ่นสะไบนวลนาง     แม้ห่างยังหอมไม่ชืดจืดใจ
ฉันจากถิ่นฐานมาเสียห่างไกล     โอ้กลิ่นสะไบ  เจ้ายังร่ำไรไม่จืดจาง
         กลิ่นสะไบใช่แล้วอกเอย     กลิ่นนี้พี่เคย  เหมือนกลิ่นที่เคยจูบปราง
เจ้าปัดให้พี่วาง พลัดปรางแนบใจ     พี่ชื่นสะไบบัวทอง
         กลิ่นสะไบนุ่มนวล     เหมือนอบลำดวนมะลิก่อนครอง
หอมยิ่งจิตให้คิดใฝ่ปอง     แม้อยู่ห่างน้อง  กลิ่นเจ้าร่ำร้องตามมา

กิ่งฟ้า

      กิ่งฟ้าช่อนี้หรือมีคนปอง          กิ่งทองเจ้าสูง เปรียบไม้ยางยูงเจ้าสูงลอย
หลงเฝ้าเพ้อมอง อยากปองเอื้อมสอย          แต่บุญพี่น้อยจึงพลอยระทม
      ...กิ่งฟ้าช่อนี้หรือมีราคา          หากพี่จะคว้า พี่คงได้มาแค่เพียงลม ๆ
ได้แต่แหงนมอง ยิ่งปองยิ่งตรม          อกต้องขื่นขมได้ชมเพียงเงา
      ...จนปัญญาพี่แล้ว กิ่งแก้วทูนหัว          รักเจ้าเผลอตัวมัวเมา
เพราะรักโง่งม หลงชมเพียงเจ้า          จึงปวดใจร้าวอยู่ชั่วนิรันดร์
      ...กิ่งฟ้าเจ้าเอ๋ยเจ้าเลยไกลพี่          สิ้นกันเพียงนี้ บุญพี่ไม่มีพอเทียมทัน
รักเจ้านั้นปาน ประหนึ่งชีวัน          แต่พรหมเท่านั้นกั้นรักเราเอย
      กิ่งฟ้าเจ้าเอ๋ย เจ้าเลยไกลพี่          สิ้นกันเพียงนี้ บุญพี่ไม่มีพอเทียมทัน
รักเจ้านั้นปาน ประหนึ่งชีวัน          แต่พรหมเท่านั้นกั้นรักเราเอย..

กุหลาบในมือเธอ

      ใจพี่ หาย วาบ  เมื่อเห็น กุหลาบกลีบ กระจาย           จำกลิ่น ได้คลับคล้าย ว่าดอกที่ ถือ ในมือเธอ
พี่เพ้อ ขอมานาน          เจ้าให้ หลัง พี่ เพราะเจ้ามีที่ ต้องการ
      ...แต่ว่า เดี๋ยว นี้ ดอกถูกขยี้ ทิ้ง กระจาย           พี่แสน จะเสียดาย เพราะไปหมายอื่น ให้เขาชื่นชม
เขาดมเล่นแล้วทิ้ง           ผู้ที่ หวัง จริง ก็เลยต้องยิ่งหัว ใจลาญ
      ใจพี่ หายวาบ เมื่อเห็นกุหลาบ กลีบกระจาย          จำกลิ่น ได้คลับคล้าย ว่าดอกที่ถือ ในมือเธอ
พี่เพ้อ ขอมานาน          เจ้าให้ หลัง พี่ เพราะเจ้ามีที่ ต้องการ
      ...แต่ว่า เดี๋ยว นี้ ดอกถูกขยี้ทิ้ง กระจาย           พี่แสน จะเสียดาย เพราะไปหมายอื่น ให้เขาชื่นชม
เขาดมเล่นแล้วทิ้ง          ผู้ที่ หวัง จริง ก็เลยต้องยิ่งหัว ใจราญ...

ไก่ฟ้า

      ไก่ฟ้าเอย โสภิณ          ข้อยได้ยินสมนาม  ว่าเจ้างามจริงหนอ
หลอกให้พระลอ  พบเลยก่อลำเค็ญ          เที่ยวตามยากเย็น  เพราะเป็นด้วยมนต์สุดา
      ...ไก่ฟ้าเอย  โสภิณ          ข้อยได้ยินสมนาม  ว่าเจ้างามจริงหนา
โอ้เจ้าขวัญตา  สวยสง่าไฉน          ข้อยสู้ตามถึงแดนดงไพรซอกซอน
      ...โศกเอยบ่เคยพบเจ้า          ข้อยหลงแต่เงา  ข้อยเฝ้าเป็นทุกข์อาวรณ์
คิดไปใจข้อยสะท้อน           ร้าวรอนมิวายอาวรณ์อ่อนใจ
      ...ไก่ฟ้าเอย  โสภิณ          ข้อยได้ยินสมนามว่าเจ้างามไฉน
โอ้เจ้าขวัญใจ  ขอจงได้กู่ขาน          อย่าได้ทรมาน  สงสารข้าบ้างเถิดเอย
      ไก่ฟ้าเอย  โสภิณ          ข้อยได้ยินสมนาม  ว่าเจ้างามจริงหนอ
หลอกให้พระลอ  พบเลยก่อลำเค็ญ          เที่ยวตามยากเย็น  เพราะเป็นด้วยมนต์สุดา
      ...ไก่ฟ้าเอย  โสภิณ          ข้อยได้ยินสมนาม  ว่าเจ้างามจริงหนา
โอ้เจ้าขวัญตา  สวยสง่าไฉน          ข้อยสู้ตามถึงแดนดงไพรซอกซอน
      โศกเอยบ่เคยพบเจ้า          ข้อยหลงแต่เงา  ข้อยเฝ้าเป็นทุกข์อาวรณ์
คิดไปใจข้อยสะท้อน          ร้าวรอนมิวายอาวรณ์อ่อนใจ
      ...ไก่ฟ้าเอย  โสภิณ          ข้อยได้ยินสมนามว่าเจ้างามไฉน
โอ้เจ้าขวัญใจ  ขอจงได้กู่ขาน          อย่าได้ทรมาน  สงสารข้าบ้างเถิดเอย...

ขวัญใจคนจน

      ดวงใจของคนจนจนเช่นฉัน ช่างงามโสภาผ่องพรรณ ทำไมใจฉันจึงฝันถึงเธอ
ยามนิทราแนบหมอนฉันนอนละเมอ ติดตามเรียกนามของเธอ ตื่นเพ้อว่าเธอแอบอิง
      ดวงใจฉันเอยเพียงเคยพูดกัน โซ่ทองคล้องใจผูกพัน เป็นจอมใจขวัญจนฉันรักจริง
ดังสำเนียงกระซิบน้ำทิพย์แม่ปิง หลั่งไหลจากใจยอดหญิง เป็นมิ่งขวัญใจคนจน
      เหน็ดเหนื่อยเมื่อยพับหลับไหล ฝันถึงจอมใจฉันสุขในกมล
สร้างสรรค์สวรรค์ประสาจน วิมานรักเรามีสองคน เป็นความสุขล้นฉันมีจอมใจ
      ดวงใจฉันมีเทวีสวรรค์    ยากจนก้มหน้า        ฝ่าฟันพาดวงใจฉันลอยฝันแสนไกล
มีรักเดียวเหนี่ยวโน้มประโลมหัวใจ  เทิดทูนบูชารักไว้ขอให้รักนิรันดร (ซ้ำ *)

ข้องจิต
คำร้อง ชอุ่ม ปัญจพรรค์      ทำนอง อ.ป.ส.

         รักเอยรักเคยชื่นเชยชูใจ     บัดนี้รักห่างร้างไกลให้คะนึง
รักเป็นอย่างไรใฝ่ถึง     ข้ายังคะนึงข้องจิตไม่วาย
         รักแรมร้างราจะพาใจนาง     ชื่นชืดจืดจางห่วงนางไม่หาย
ทิ้งให้ครวญคิดข้องจิตเศร้าอยู่ไม่วาย     รักแรมไกลไม่เคยสบายสักวัน
         ฟังถ้อยคำพร่ำฝากลมมา     โอ้อนิจจาข้องจิตกลัวจิตเหหัน
จิตน้องเฝ้าปองหนึ่งรักเท่านั้น     ทุกคืนวันหวังชื่นใจไม่หน่ายเลย

ขอรักคืน
คำร้อง สมศักดิ์ เทพานนท์      ทำนอง เอื้อ สุนทรสนาน

      สุดสวาทขาดลมลอย     โอ้รักยังคงคอย  คอยด้วยใจร้อนเร่า
ดวงใจดังมีไฟแผดเผา     เขาพรากรักเรา  ต้องอับเฉาร้าวทรวง
      ยากนักเหลือที่จะหักใจ     ความรักนี่ไฉน  เกิดกับใครก็หวง
จนตายก็ยังรักแนบทรวง     ใจรักใจหวง  ห่วงอาลัยให้รักคืน
      ห่วงสวาทขาดจากใจ     ถูกเขาเอาคืนไป  หมองหม่นใจไร้ชื่น
ทำไมให้มาแล้วเรียกคืน     มิยั่งมิยืน  ต้องกล้ำกลืนฝืนตรม
      พรากรักควักใจไปจากทรวง     พรากรักที่หวง  เจ็บในทรวงขื่นขม
ทรมานด้วยคิดถึงคู่ชม     บุญน้อยไม่สม  ต้องตรอมตรมในหัวใจ

ขุ่นลำโขง

      โขงไหลแรง ฝุ่นสีแดงสองฝั่งฟ้า  เหมือนตาที่ให้เหมือนใจที่รอ โอ้ละหนอนวลเอย
สองข้างตลิ่งห่างเสียจริงเจียวหนอ  คิดไปใจพี่ท้อพี่นี้รอเดียวแด โอ้ละหนอแม่คุณเอย
      ขุ่นโขงแต่ว่าไหลเย็น เจ้าเห็นสิไม่เหลียวแล        น้ำใจไม่เที่ยงแท้ พี่ขอแพ้นวลละออ โอ้ละหนอนวลเอย
*โขงไหลรินได้อาบกินชุ่มใจคอ  สูญรักพี่ไม่ท้อพี่จะรอแทบฝั่งโขงเอย        โอ้ลำโขงเจ้าเอย  (ซ้ำ*)

| หน้าแรก | ย้อนกลับ | หน้าต่อไป | บน |