| ย้อนกลับ | หน้าต่อไป | |
พวกเราชายชาญเหล่าทหารของชาติ องอาจเชื้อนักรบกล้า |
ตายไหนตายกันไม่ประหวั่นวิญญา เหล่าทหารต้องกล้าศัตรู |
แม้นผู้ใดไม่เกรงมาข่มเหงดูหมิ่น สู้จนเลือดหมดสิ้น ไม่ให้ใครลบหลู่ |
เกียรติศักดิ์นักรบไทย ต้องให้เชิดชู เป็นตายต้องสู้สุดลมหายใจ |
ข้าขอปฎิญาณสาบานตน หากใครมาผจญพลีชีพให้ |
เลือดเนื้อทุกหยาด เพื่อเอกราชของไทย ขอให้ชาติไทยคงอยู่ |
ยุคโบราณนานมานามคู่ฟ้าแดนทอง ผยองเกียรติชื่อก้อง ไม่ให้ใครลบหลู่ |
เกียรติอันดับรับต่อมา รักษาเชิดชู เป็นตายต้องสู้ไม่ยอมเสียไป |
ทหารพระนเรศวร
ภูเขาสูง แผ่นดินกว้าง ทางรก เรายกทัพฝ่ากล้าหาญ |
ใครขวางฟันฟาดแหลกราน ล้างผลาญปี้ป่นวอดวาย |
ชีวิตอุทิศเพื่อชาติ เราต่อสู้เพื่อราษฎร์ทั้งหลาย |
ชาติเสือแล้วต้องไว้ลาย ชาติชายแล้วต้องต่อกร |
เปรี้ยง เปรี้ยง ดังเสียงฟ้าฟาด โครม โครม พินาศพังสลอน |
เปรี้ยง เปรี้ยง ลูกปืนกระเด็นกระดอน โครม โครม ดัสกรกระเด็นไกล |
ถ้าสิ้นชาติสิ้นแผ่นดินสิ้นกษัตริย์ เห็นสุดจะยืนหยัดอยู่ได้ |
จะเป็นตายร้ายดีก็เป็นไป ขอป้องกันเอาไว้ให้สุดฤทธิ์ |
เปรี้ยง เปรี้ยง ดังเสียงฟ้าฟาด โครม โครม พินาศพังสลอน |
เปรี้ยง เปรี้ยง ลูกปืนกระเด็นกระดอน โครม โครม ดัสกรกระเด็นไกล |
ไทยควรคำนึง
ชนเชื้อชาวไทยทั่วทั้งแผ่นดิน แหลมทองของเราทั้งสิ้น ท่านควรถวิลใจฟัง |
แดนทองดินไทยเลือดไทยเคยใหลหลัง วีระชนไทยต่าง สิ้นสูญวายวางเพื่อถิ่นไทย |
ควรคิดคำนึงให้ซึ้งจิตเรา ครั้งวีรชนคนเก่า ถูกชาติอื่นเขาทำลาย |
จึงรวมใจกันฝ่าฟันลงทางใต้ รวมเชื้อชนชาวไทย อยู่ในแหลมทองด้วยอกระกำ |
น่าอนาถชาติไทย เวรหรือกรรมซ้ำให้ ถิ่นทองแดนไทยจนเหลือจำ |
คิด ๆ ดูซีช่างมีเวรกรรม เราหนีมาต่ำ อยู่ถิ่นไทยงามแสนไกล |
ยังเขาตามมาจองผลาญพวกเรา ยึดทางหากินเหมือนเก่า สุดจะอับเฉาดวงใจ |
เชิญมองตาเยือนบ้านเรือนน้อยใหญ่ เป็นของไทยเท่าไหร่ ตึกสวยวิลัยใครเล่าเขาครอง |
ถนนงามตาเคหาน่าชม ร้านรวงสองทางนั้นข่ม เกียรติไทยขื่นขมตรมทรวง |
คนไทยใจดีไม่มีใจแหนหวง จนหลายปีเลยล่วง จึงรู้ในทรวงโอ้อกชาติไทย |
มัวหลงระเริงยุ่งเหยิงต่อกัน เขาปองผลาญเราทุกวัน ก่อเกิดบุตรหลานเรื่อยไป |
ลงแรงทำกินเพื่อกลืนดินแดนไทย เคยคิดดูหรือไม่ พี่เอยน้องไทยใยไม่เหลียวแล |
หากจะมัวดูดาย คอยคิดความมักใหญ่ ถิ่นทองแดนไทยคงสูญแน่ |
สรวลเสกันอยู่ไม่รู้เหลียวแล คงเหลือเพียงแต่ ชื่อไทยแน่เข้าแหลมทอง |
ทนฝืนดูไปเลือนหายที่กิน ทุกทางเขาจองไว้สิ้น กอบโกยแต่สินเนืองนอง |
จนรวยตามกันไม่นานเราต้อง มีสายตาแลจ้อง สู่น้ำแล้วตรองแดนสิ้นแล้วไทย |
ไทยครั้งเก่าถูกชาติอื่นทำลาย จึงฝ่าลงใต้ มาอยู่ในแหลมทองแสนไกล |
ยังเขาตามมากำทางหากินสิ้น มัวระเริงยุ่งเหยิงต่อกัน ไทยคงสูญแน |
ไทยเทิดไทย
คำร้อง ศรีสวัสดิ์ พิจิตรวรการ
ทำนอง เอื้อ
สุนทรสนาน
ไทยเทิดไทย ชูเชิดเทิดไทยให้ดี เพื่อเกียรติภูมิเสรี รักสามัคคีพร้อมใจ |
มาเพื่อนมา มาร่วมชะตาชาติไทย เพื่อชาติเพื่อชนพ้นภัย สัมพันธ์ขวัญไชยมวลชน |
ขวัญกล้า เลือดโลมอุราร้อนรน เพราะภัยผจญ รอบเมืองกมลรำไร |
ขวัญแก้ว เราพร้อมกันแล้วขอให้ ไทยสู้เพื่อไทย เพราะไทยล้มไปไทยลาญ |
น้องพี่ เลือดไทยก็มีทุกคน หรือยอมอับจน เมื่อมารผจญเมืองไทย |
น้องพี่ สยามยามนี้ขอให้ ไทยสู้เพื่อไทย เพราะไทยล้มไปไทยมลาย |
ไทยใหญ่
ไทยที่ลงมาทางขวานั้นกล้านัก ยังจงรักเลือดไทยอยู่เต็มที่ |
พากันเคลื่อนตรงไปได้ทุกที่ ไทยใหญ่รี่ลงไปหาสาละวิน |
ตั้งสิบเก้าเจ้าฟ้าอาณาจักร เข้าปกปักครองที่แถบนั้นสิ้น |
ขยายเขตต์เพิ่มทวีที่ทำกิน ออกไปจนถึงถิ่น อิราวดี |
ไทยน้อย
เมื่อถูกรุกสุดสู้อยู่ไม่ได้ ไทยก็แตกแยกกันไปหลายวิถี |
ไทยอิสานเลื่อนลงโขงนที ไทยใหญ่หนีร่นมาสู่สาลวิน |
พวกไทยน้อยพลอยเลื่อนเคลื่อนลงมา อยู่แม่น้ำทั้งห้าทางทักษิณ |
คือยม น่าน ปิง วัง ตั้งทำกิน พวกไทยกลางยึดถิ่นเจ้าพระยา |
ไทยรวมกำลัง
พระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้า
ฯ
อย่าเห็นแก่ตัวมัวพะวง ลุ่มหลงริษยาไม่ควรที่ |
อย่าต่างคนต่างแข่งกันแย่งดี อย่าให้ช่องไพรีที่มุ่งร้าย |
แม้เราริษยากันและกัน ไม่ช้าพลันจะพากันฉิบหาย |
ระวังการยุยงส่งร้าย นั้นแหละเครื่องทำลายสามัคคี |
คณะใดศัตรูผู้ฉลาด หมายมาดทำลายให้เร็วรี่ |
ก็ยุแยกให้แตกสามัคคี เช่นกษัตริย์ลิจฉวีวงศ์โบราณ |
พราหมณ์ผู้เดียวรับใช้ไปยุแหย่ สาระแนยุญาติให้แตกฉาน |
จนเวลาศัตรูจู่ไปราญ มัวเกี่ยงกันเสียการเสียนคร |
ฉะนั้นไซร้ขอไทยจงร่วมรัก จงร่วมสมัครสโมสร |
เอาไว้เผื่อเมื่อมีไพรีรอน จะได้สู้ดัสกรด้วยเต็มแรง |
ไทยรวมกำลังตั้งมั่น จะสามารถป้องกันขันแข็ง |
ถึงแม้ว่าศัตรูผู้มีแรง มายุทธแย้งก็จะปลาศไป |
ขอแต่เพียงไทยเราอย่าผลาญญาติ ร่วมชาติร่วมจิตเป็นข้อใหญ่ |
ไทยอย่ามุ่งร้ายทำลายไทย จงพร้อมใจพร้อมกำลังระวังเมือง |
ให้นานาภาษาเขานิยม ชมเกียรติยศฟูเฟื่อง |
ช่วยกันบำรุงความรุ่งเรือง ให้ชื่อไทยกระเดื่องทั่วโลกา |
ช่วยกันเต็มใจใฝ่ผดุง บำรุงทั้งชาติศาสนา |
ให้อยู่จนสิ้นดินฟ้า วัฒนาเถิดไทยไชโย |
นครเชียงใหม่
พิงคะนคร สมนามกร นครเชียงใหม่ |
รุ่งเรืองช้านาน เป็นเมืองโบราณ แต่ยังสดใส |
มีดอยสูงเด่น เสมือนจะเป็น เครื่องเทอดเกียรติไทย |
ดอกไม้ก็สวย บ้านเมืองก็งาม สมศักดิ์สมนาม ของลานนาไทย |
พิงคะนคร สมนามกร นครเชียงใหม่ |
เขตต์ไทยขยาย พ่อขุนเม็งราย มาสร้างขึ้นไว้ |
พ่อขุนรามคำแหง ช่วยดัดช่วยแปลง รูปเมืองให้ใหม่ |
พม่าเข้าครอง ตั้งสองสามครั้ง เชียงใหม่ก็ยัง เป็นเลือดเนื้อไทย |
พิงคะนคร สมนามกร นครเชียงใหม่ |
เป็นเมืองศีลธรรม คนดียิ่งล้ำ ไม่แพ้เมืองใด |
แหล่งวัฒนธรรม มีศิลปกรรม สมเป็นเมืองใหญ่ |
อันเมืองเชียงใหม่ หัวใจสยาม เรืองชื่อลือนาม มิ่งขวัญของไทย |
นเรศวรมหาราช
นเรศวร พระมหาวีรราชเจ้าจอมไทย |
กู้อิสสระภาพ ปราบเสี้ยนหนามไพรี พระต้านต่อตี กู้ศรีอโยธยา |
พระทรงรบศึก ฮึกไปข้างหน้า พระเผด็จศึกเข็ญเข่นฆ่า ปราบปัจจาทุกที |
ได้ชื่อว่าเป็น ยอดวีรบุรุษ พระเกียรติเชิงยุทธ เฟื่องสุดปฐพี |
ห้าวหาญเข้ารุดยุทธหัตถี ยุทธวิธีเป็นที่เฉิดฉันท์ |
หาญกล้า พระนำทัพไทยรบปัจจา ออกหน้าประจัญ |
สิ่งใดขวางกั้น รุกรอนเข้าฟอนฟัน บุกเข้าไปข่มขวัญทันใด |
รบรากล้าตาย พระทรงมุ่งหมายล้างอายให้ไทย |
แย้งยุทธสุดใจ พระรวมชาติไทยสมไทยสืบมา |
กอบกู้อิสสระ ยอดวีระชนไทย เชื้อชาติชาวไทย เทอดไว้ด้วยใจศรัทธา |
ทุกคนสาบานจะหาญและกล้า เหมือนดังมหาวีระจอมไทย |
ที่เกียรติไกลทรงนามนเรศวรนั้นเทอญ |
ในน้ำมีปลาในนามีข้าว
ในน้ำมีปลาในนามีข้าว แผ่นดินของเรา นี่แสนอุดมสมบูรณ์ |
บ้านเมืองราบคาบ ด้วยอานุภาพพ่อขุน รามคำแหงค้ำจุน ให้ชาติไทยไพศาล |
สร้างทำนาไร่ ทั่วแคว้นแดนไทย เราไถเราหว่าน |
หมากม่วงหมากขาม พืชผลต่าง ๆ ล้วนงามตระการ |
สร้างบ้านแปลงเมือง ให้เกียรติไทยลือเลื่อง ไปทั่วทุกถิ่นฐาน |
จูงวัวไปค้า ขี่ม้าไปขาย ปวงราษฎร์ทั้งหลาย ได้อยู่เป็นสุขสราญ |
บัวงาม
คำร้อง แก้ว อัจฉริยะกุล
ทำนอง เวส สุนทรจามร
หญิงไทยเก่งกาจอาจหาญชาญชัย แต่ไหนแต่ไรไทยก็ยอมน้อมนำ |
แท้จริงหญิงไทยใช่เกียรติต่ำ กลับซ้ำงามล้ำแต่ก่อนกาล |
หลักการวิชาเกรียงไกร ผู้หญิงชาวไทยสวยวิไลอ่อนหวาน |
เรียบร้อยในการงาน อีกทั้งการทหาร ก็เชื้อชาญเรืองนาม |
คำเปรียบเทียบหญิงไทย เป็นดอกไม้บัวงาม |
ใครว่าหญิงเลวทราม เขาแกล้งประนาม ทั้งเหยียดทั้งหยามความดี |
ชายเหล็กเพชรยังยอม มาอ่อนน้อมนารี |
ยอมพ่ายแพ้โดยดี หญิงไทยเรานี้ มีฝีมือลือไกล |
ศึกมีมาอาสาฝ่าสงคราม ไม่เคยขามเกรงผู้ใด |
หมิ่นผู้หญิงทำไม เกียรติผู้หญิงเกรียงไกร ใช่จะไร้ซึ่งปัญญา |
อันเกียรติหญิงชาวไทย ควรเทอดไว้บูชา |
เป็นที่น้อมนำมา ทั้งปวงประชา ยังผูกใจรักฝักใฝ่ |
คุณค่าหญิงบันลือ มือหนึ่งถือเปลไกว |
มือหนึ่งคุ้มแดนไทย ฝีมือหญิงไทยที่กู้เมืองไว้ยังมี |
ดังได้เห็นกันมา ท้าวสุรนารี |
ไทยผ่านพ้นไพรี ถึงจนบัดนี้ก็สตรีชาวไทย |
เกียรติสตรีที่เห็นเด่นและงาม อย่ามาหยามกันต่อไป |
หมิ่นผู้หญิงทำไม เกียรติผู้หญิงเกรียงไกร เทอดเอาไว้ให้ประชา |
ยิ่งกว่านั้นความดี ดังกล่าวชี้กันมา |
เป็นมิ่งมิตรภรรยา ทั้งเป็นมารดา เทอดเกียรติเถิดหนาอย่าหมิ่น |
บ้านเกิดเมืองนอน
คำร้อง แก้ว
อัจฉริยะกุล ทำนอง เอื้อ
สุนทรสนาน
บ้านเมืองเรารุ่งเรืองพร้อมอยู่หมู่เหล่า พวกเราล้วนพงศ์เผ่าศิวิไลซ์ |
เพราะฉะนั้นควรจะยินดี เปรมปรีดิ์ดีใจเรียกตนว่าไทย แดนดินผืนใหญ่มิใช่ทาษเขา |
ก่อนนี้มีเขตแดนนับว่ากว้างใหญ่ ได้ไว้พลีเลือดเนื้อแลกเอา |
รบ รบ รบ ไม่หวั่นใคร มอบความเป็นไทยพวกเรา แต่ครั้งนานกาลเก่า ชาติเราเขาเรียกชาติไทย |
บ้านเมืองควรประเทืองไว้ดั่งแต่ก่อน แน่นอนเนื้อและเลือดพลีไป |
เพราะฉะนั้นเราควรเปรมปรีดิ์ มีความภูมิใจแดนดินถิ่นไทย รวบรวมไว้ได้แสนจะยากเข็ญ |
ยากแค้นเคยกู้แดนไว้อย่างบากบัน ก่อนนั้นเคยแตกฉานซ่านเซ็น |
แม้กระนั้นยังร่วมใจ รวบรวมชาวไทยให้ร่มเย็น บัดนี้ไทยดีเด่น ร่มเย็นผาสุกเรื่อยมา |
อยู่กินบนแผ่นดินท้องถิ่นกว้างใหญ่ ชาติไทยนั้นเคยใหญ่ในบูรพา |
ทุก ๆ เช้าเราดูธงไทย ใจจงปรีดาว่าไทยอยู่มา ด้วยความผาสุกถาวรสดใส |
บัดนี้ไทยเจริญวิสุทธิ์ผุดผ่อง พี่น้องจงแซ่ร้องชาติไทย |
รักษาไว้ให้มั่นคง เทอญธงไตรรงค์ให้เด่นไกล ชาติเชื้อเรายิ่งใหญ่ ชาติไทยบ้านเกิดเมืองนอน |
| ย้อนกลับ | หน้าต่อไป | บน| |