อลังการ

            ผมเคยได้ยินชื่อโรงละครไทย "อลังการ" เปิดใหม่อยู่ที่พัทยา ทราบว่าเป็นการแสดงที่ยิ่งใหญ่คล้าย ๆ กับภูเก็ตแฟนตาซี คล้ายกับสยามนิรมิต ซึ่งทั้งสองแห่งนี้ผมเคยไปชมและนำมาเล่าให้ทราบ ที่ภูเก็ตนั้นไปชมถึง ๒ ครั้ง เพราะไปครั้งหลังเขาเปลี่ยนฉากการแสดงพอดีได้ดูของใหม่ ไม่ซ้ำเดิม ส่วนสยามนิรมิตนั้นไม่ทราบว่าเปลี่ยนใหม่แล้วหรือยัง ตั้งใจจะไปชมอลังการให้ได้สักครั้งว่าเป็นอย่างไร เพราะฟังแต่ชื่อต้องไม่ใช่ธรรมดา พอดีไปงานสัปดาห์ไทยเที่ยวไทยที่ศูนย์สิริกิติ์ เขามีบัตรมาขายในราคาพิเศษคือซื้อ ๑ แถม ๑ ในราคาบัตรละ ๙๙๙ บาท เลยรีบตะครุบซื้อเอาไว้ก่อน ซื้อเอาไว้ ๕ เดือนจวนจะหมดอายุจึงมีเวลาไปชม ชมแล้วก็ขอบอกว่าดีจริง ๆ แต่น่าจะอ่อนประชาสัมพันธ์ไปหน่อยจึงมีผู้มาซื้อบัตรชมน้อยไป แต่น่าจะอยู่ได้เพราะทัวร์ลงมากเหลือเกิน วันที่ผมไปชมนี้มีรถทัวร์พานักท่องเที่ยว ส่วนใหญ่เป็นชาวจีนมาชมไม่น้อยกว่าสิบคันรถ ทำให้ผู้ชมมากพอสมควร และประทับใจในการต้อนรับเป็นอย่างยิ่ง
            ที่ตั้งของโรงละครไทยอลังการ ไปพัทยาตามเส้นทางมอเตอร์เวย์แล้วเข้าทางหลวงแผ่นดินสาย ๗ ไปพัทยา วิ่งต่อไปตามถนนสุขุมวิทผ่านพัทยาเหนือ พัทยากลาง พัทยาใต้ จอมเทียน ไปจนถึง กม.๑๕๕ ของถนนสุขุมวิท มีป้ายบอกก็เลี้ยวซ้ายเข้าไปหน่อยจะถึงลานจอดรถ ที่กว้างขวางของโรงละคร จองบัตร ๐๓๘ ๒๕๖ ๐๐๗
            เมื่อไปถึงลานจอดรถ เป็นรถส่วนบุคคลคันแรกที่เข้ามาจอด พนักงานสาวเดินมาต้อนรับถึงรถ เล่นเอาตกใจพาไปขึ้นตั๋ว เพราะผมซื้อบัตรจากงานไทยเที่ยวไทยมาแล้ว และได้รับคำแนะนำมาว่าตอนมาขึ้นตั๋วให้เลือกเอาที่นั่งแถว M N  จะได้ที่นั่งที่ดีที่สุด ผมก็บอกพนักงานสาว (สวย) ไปตามนั้น เมื่อได้บัตรแล้วเดินเข้าชั้นใน ก่อนผ่านทางเข้ามีช่างภาพมาขอถ่ายรูปคู่ แบบถ่ายไปอัดลงจานผมก็เลยอุดหนุนเขาไป นาน ๆ จะถ่ายภาพคคู่กับเลขา ฯ สักที รูปภาพมาเลือกรับเอาได้ตอนละครเลิก ใครจะเอาก็จ่ายภาพละ ๒๔๙ บาท อัดลงในจานสวย เราเต็มใจให้เขาถ่ายภาพจึงออกมาดี ไม่เหมือนตอนไป อช.ป่าหินงาม ตอนเดินไปสุดแผ่นดินที่ช่างงภาพ ๕ - ๖ คน วิ่งตรูกันมาถ่ายไม่บอก ไม่กล่าว ภาพออกมาหน้าตาจึงเหมือนยักษ์เพราะตกใจ ที่นี่ช่างภาพคนเดียว ขอถ่ายโดยดี ภาพจึงดูดี ไม่ดีเราก็ไม่เอา พอเข้าไปข้างใน (ยังไม่ได้เข้าโรงละคร) ที่ลานมีช้าง ๒ เชือกมาต้อนรับ พร้อมกับคนขายกล้วยหวีละ ๒๐ บาท เลยซื้อกล้วยเลี้ยงช้าง เดินต่อไปมีตุ๊กตาคนมาต้อนรับ ชี้ไม้ชี้มือให้ถ่ายรูปด้วย ส่งเลขา ฯ ไปถ่าย ไม่ได้คิดเงิน คิดทองอะไรถ่ายฟรี (แต่หากตอนละครเลิกแล้ว ตัวละครจะมาถ่ายรูปด้วย ถ้าเราถ่ายกับดาราต้องจ่ายเงินให้เขารูปละ ๔๐ บาท ใช้กล้องของเราถ่าย) จากนั้นก็เลือกเอา อาจจะไปกินอาหารที่จัดแบบบุปเฟ่ต์อยู่ทางริมลานทางขวามือหัวละ ๒๐๐ บาท จัดอาหารไว้เป็นซุ้ม แต่เนื่องจากไม่ใช่เวลามื้อเย็นของผมเพราะพึ่งห้าโมงเศษ (แสดงเวลา ๑๘.๐๐)  จึงไม่ได้ลองชิมอาหารของเขา ส่วนริมลานทางซ้ายมีมินิคอนเสริท์ทั้งเต้นทั้งร้อง ทันไปชมเขาเต้นอยู่ ๑ เพลง ฟังร้องอีก ๑ เพลง จากนั้นเดินชมสถานที่มองไม่ออกว่าจะเข้าโรงตรงไหน เพราะข้างหน้าที่แน่ใจว่าเป็นโรงละครนั้น ทำเหมือนประตูถ้ำแต่ปิดสนิท ก็เลยเดินชมสถานที่ไปพราง ๆ พอเวลาประมาณ ๑๗.๔๕ ก็มีพลุจุดขึ้นฟ้าเสียงดังสนั่น ถ้ำที่มองเห็นข้างหน้าก็เปิดประตูถ้ำพร้อม ๆ กันหลายประตู เดินเข้าไปในถ้ำทีนี้มืดดี พาไปนั่งตามเลขที่นั่งที่จองได้มาคือแถว M
            เริ่มการแสดงด้วยตลก ๒ คน แต่งกายแบบตลกฝรั่ง ออกมาพร้อมลูกโป่งใบใหญ่เอามากลิ้ง มาหลอกมาล่อและเหวี่ยงมายังคนดูให้โต้กลับไป ตลกแบบละครฝรั่ง
                ฉาก ๑ ร่องรอยแห่งอารยธรรมไทย  ปรากฎให้เห็นยุคบ้านเชียง เมืองมรดกโลก มนุษย์ในยุคก่อนประวัติศาสตร์ ฉากนี้มีผู้แสดงคงบจะสักครึ่งร้อย
                ฉาก ๒ พญานาค  ออกมาตัวโตเป็นสัตว์ที่มีฤทธิ์เดชเหนือสัตว์ทั้งปวงเชื่อในเรื่องการเกิดมีพระพุทธศาสนา และคลายฤทธิ์ลง เมื่อได้รับแสงธรรมแห่งพระพุทธศาสนา ทำให้เกิดประเพณีคู่แผ่นดินไทยเช่นแห่เทียนเข้าพรรษา ไหลเรือไฟ บั้งไฟพญานาค เสียงดนตรีจะดังกระทึ่ม แสงสี งดงามมาก และจะเปลี่ยนฉากอย่างรวดเร็ว ไม่ต้องมีการรอคอย ไม่ต้องมีแสดงหน้าฉาก เพื่อรอเวลาเปลี่ยนฉาก แค่ดับไฟหรือให้แสงสลัว ๆ แต่เสียงดนตรียังก้องอยู่ ก็จะเปลี่ยนฉากใหญ่ ๆ ได้แล้ว
                ฉาก ๓ เป็นมนต์เสน่ห์แห่งศิลปวัฒนธรรม  ความงดงามของ ๔ ภูมิภาค
                ฉาก ๔ โขน ฉากนี้แสดงโขนตอน  "ยกรบ" ฝ่ายธรรมรบกับฝ่ายอธรรม
                องคฺ ๓ แต่ละฉาก แสดงออกถึงความภูมิใจในความเป็นชาติไทยมี ๓ ฉากคือ
                ฉาก ๕ สุโขทัย  ชื่อสุโขทัยแปลว่า รุ่งอรุณแห่งความสุข แสดงให้เห็นการเกิดมีตัวหนังสือไทย ในยุคพ่อขุนรามคำแหงมหาราช ขบวนแห่นางนพมาศ การลอยกระทง ขบวนช้างของกษัตริย์ทียกขบวนมาลอยกระทง ฉากนี้มีช้างมาแสดงหลายตัว สงสัยอ้ายตัวที่ซื้อกล้วยให้กินคงจะมาแสดงด้วย แต่ตอนนี้ช้าง คน แต่งตัวสวยมาก สวย ทุกฉาก ไม่มีการพูดจา นอกจากเสียงเพลง และการบรรยายเป็นภาาาจีนและภาษาอังกฤษ
                ฉาก ๖ อยุธยา สะท้อนให้เห็นวิถีชีวิตของชาวบ้าน เช่นการแห่ขบวนขันหมาก แสดงความสามัคคี ในการป้องกันประเทศ ฉากสำคัญคือการต่อสู้กับข้าศึกบนหลังช้าง ชนช้างนั่นแหละ ช้างแสดงเก่งมาก เป็นฉากมหาสงครามยุทธหัตถี
                ฉาก ๗ รัตนโกสินทร์ ฉากนี้มีความอลังการสมชื่อโรงละคร เพราะชื่อเมืองคือเมืองแห่งเทพ จึงมีฉากที่มีนางฟ้ามาเหาะเหินอยู่บนหัวของเรา ท่ามกลางไฟสลัว ๆ เพื่อไม่ใให้เห็นสายที่โยงตัวนางฟ้าที่เหาะอยู่นั้น มีขบวนแห่พยุหยาตราทางชลมารค มีเรือสุพรรณหงส์ที่ลอยล่องอย่างอลังการ เรียกว่าฉากนี้ยิ่งใหญ่จริง ๆ
                ใช้เวลาแสดงติดต่อกันไปประมาณ ๑ ชั่วโมง จบอย่างอลังการ จบแล้วออกมาที่ลานนอก ใครอยากถ่ายรูปกับดารา ก็ถ่ายกันตอนนี้ เดินผ่านออกไปก็จะผ่านชั้นที่เขาวางจานที่อัดรูปถ่ายลงไว้ รูปของใครก็ดูเอา ชอบใจก็ควักจ่ายเขาไป ๒๔๙ บาท
                ผมยังไม่ได้กินอาหารเย็น พอละครเลิกก็พอดีเวลาอาหารเย็น ผมพักที่โรงแรมใกล้ ๆ โรงละครอลังการคือแถว ๆ กม.๑๕๕ โรงแรมแอมบาสเดอร์ ซิตี้ โรงแรมนี้ใหญ่มากสมกับมีคำว่าซิตี้ต่อท้าย มีห้องพักประมาณ ๕,๐๐๐ ห้อง ๆ ราคาแพงสุดคืนละ ๔๐,๐๐๐ บาท รอถูกรางวัลที่ ๑ ก่อน จะมาพักสักคืน ตอนนี้พักคืนละ ๑,๒๐๐ บาท ตึกด้านการ์เด้นท์ วิว ติดถนนใหญ่ ไม่เห็นทะเล ด้านเห็นทะเลเต็มหมด ราคาที่พักรวมอาหารเช้าไว้ด้วย เมื่อกลับจากชมที่อลังการ ก่อนไปมองได้มองไว้แล้วร้านข้าวต้ม เพราะหากจะย้อนไปกินข้าวต้มเจ้าประจำที่ถนนพังทยากลาง มีผักบุ้งลอยฟ้า ก็ไม่แน่ใจว่าเดี๋ยวนี้จะหาที่จอดรถได้ง่ายหรือไม่ และกลางคืนตาผมชักจะสู้แสงไฟรถสวนไม่ไหว
                ร้านข้าวต้มตึกแถวตรงข้ามกับทางเข้าโรงแรม อาหารใช้ได้ราคาย่อมเยา กินเสีย ๒ คืนเลย กุ่ยฉ่ายขาวผัดเต้าหู้ ไส้พะโล้ ยำไข่เยี่ยวม้า ปลากะพงทอดกระเทียมพริกไทย จับฉ่าย คะน้าผัดหมูกรอบ สั่งมาคืนละ ๓ อย่าง และข้าวต้ม
            วันรุ่งขึ้นมีเวลาก็เที่ยวอยู่แถวนั้น ที่ต้องไปทุกครั้งที่พัทยาคือ
            วัดญาณสังวราราม  เป็นพระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดวรมหาวิหาร อยู่ประมาณ กม.๑๖๐ แล้วเลี้ยวซ้ายไปอีก ๔ กม.จะถึงทางแยกขวาไปยังวิหารเซียน และพระพุทธรูปเขาชีจรรย์ ตรงไปอีก ๑ กม.ก็จะถึงวัดญาณ ฯ ตั้งแต่ผมไปครั้งแรกเมื่อเกือบสามสิบปีมาแล้ว ไปทีไรก็จะเห็นการก่อสร้างใหม่ ๆ เกิดขึ้นเสมอ ไปครั้งนี้ก็เช่นกัน วัดเริ่มสร้างเมื่อ พ.ศ.๒๕๑๙ โดยได้รับการถวายที่ดินจากคุณหญิงนิธิวดี อันตระการ ถวายแก่องค์สมเด็จพระสังฆราชและแสดงความประสงค์ว่าขอให้สร้างวัดคือวัดญาณสังวร และเมื่อเริ่มสร้างคุณหญิงได้บริจาคที่ดินเพิ่มอีก ต่อมาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงรับไว้ในวพระบรมราชูปถัมภ์
                พระอุโบสถ  ดัดแปลมาจากพระอุโบสถของวัดรังษีสุทธาวาส ปัจจุบันวัดนี้ยุบรวมกับวัดบวรนิเวศวิหารเป็นคณะรังษี พระอุโบสถสร้างเพื่อถวายแก่ สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ส่วนพระประธานคือ สมเด็จพระพุทธญาณนเรศวร์ สร้างถวายสมเด็จพระนเรศวรมหาราช มีขนาดเท่ากับพระพุทธชินสีห์คือหน้าตักกว้าง ๕ ศอก ๑ คืบ ๗ นิ้ว เดี๋ยวนี้ห้ามถ่ายภาพ ในพระอุโบสถแห่งนี้ร่มเย็นด้วยพระบารมี ผมไปทุกครั้งผมนั่งได้นาน ๆ และจะมีศรัทธาไปนั่งสมาธิกันเป็นประจำ
                พระบรมธาตุเจดียฺมหาจักรีศรีพิพัฒน์  อยู่ด้านหลังพระอุโบสถ สูง ๓๙ เมตร
                พระมหามณฑปพระพุทธบาท  สร้างอยู่บนยอดเขารถขึ้นได้
                อุทยานพระราชานุสาวรีย์  พระบรมราชชนกและสมเด็จพระบรมราชชนนี

                พระเจดีย์พุทธคยา  และยังมีอีกมากมายหลายแห่ง
                ย่านนี้เรียกว่า บ้านอำเภอ เลี้ยวขวาเข้าตรง กม.๑๕๘ พอเลี้ยวเข้าไปในซอยนี้จะมีร้านอาหารประเภทซีฟู๊ดหลายร้าน ความอร่อยดูจะทัดเทียมกัน เคยชิมมาทุกร้าน อร่อยใกล้เคียงกัน รวมทั้งราคาตามสไตล์อาหารทะเล พอเลี้ยวขวาเข้ามาแล้วแยกทางซ้ายผ่านตลาดป้าเล็ก เลยตลาดป้าเล็กไปสัก ๑๐๐ เมตร ร้านอยู่ทางขวา เดี๋ยวนี้เจริญรุ่งเรืองจนต้องขยายเป็น ๒ ศาลาแล้ว อาหารแนะนำของทางร้านคือยำปูดอง เนื้อปลาน้ำแดง กะพงน้ำแดง กะพงย่างเกลือ หอยกะโดง โจงผัดน้ำมันหอย ส้มยตำกรอบ ห่อหมกทะเล กั้งทอดกระเทียมพริกไทย แกงส้มไข่ปลาเชียว แต่ผมสั่งมาดังนี้
                ปูม้านึ่ง ๑ กก. นึ่งแล้วเสริฟมาทั้งตัว จะกินให้อร่อยต้องใช้มือ เลขา ฯ ผมไปสนใจโต๊ะข้างหลังผมที่เขาสั่งปูมาจานละ ๒ ตัว แต่สั่งหลายครั้ง กินด้วยมือ แกะด้วยความสนุกสนาน ยกกระดองปูซดน้ำ แกะก้ามปูกัดเนื้อปู ตามด้วยน้ำส้ม ไม่ทราบว่าสั่งปูมากี่จาน เพราะตอนจ่ายเงินพอดูบิล ๑,๔๐๐ บาท ร้องลั่นไปเลย ทำไมแพงนักวะ
                ส่วนของผมสั่งปูมา ๑ กก. ได้ปูนึ่งตัวโตมา ๓ ตัว แต่ไม่ถึงขั้นยกกระดองปูซดน้ำ
                ปลาฉลามผัดฉ่า หาฉลามกินจนได้ พลาดมาจากร้านสลาตัน มาได้ร้านนี้แทน
                ออส่วนกระทะร้อน แยกถั่วงอกผัดใส่จานมาต่างหาก พร้อมด้วยซ๊อสศรีราชา ทอดแป้งกรอบ ตักแป้งชุบหอยนางรม ตักถั่วผัด แล้วเหยาะเสียด้วยซ๊อสศรีราชา
                ปิดท้ายด้วยเฉาก๊วย ลูกชิต อีกถ้วยลอดช่องน้ำกะทิ หวานเย็นชื่นใจ

...................................................


| บน |