อ่าวบ่อทองหลาง
ชื่อนี้อาจจะไม่ค่อยจะคุ้นหูนักท่องเที่ยวนัก แต่หากได้ไปเห็นทิวทัศน์บริเวณอ่าวนี้
เห็นเกาะเล็ก ๆ ที่ในอ่าว ซึ่งเป็นเกาะที่เชื่อมกับแผ่นดิน เห็นคลื่นซัดมายังโขดหินเป็นภาพที่สวยมาก
ได้เห็นแล้วจะติดใจ บริเวณอ่าวมีหาดที่ลงเล่นน้ำได้ แต่รีสอร์ทยังมีน้อยมาก
รวมถึงร้านอาหารด้วย ไปเที่ยวหาดนี้ต้องพักที่หาดบ้านกรูด จะดีที่สุด เพราะที่พักดี
อาหารดี และไม่ไกลจากอ่าวบ่อทองหลาง
อ่าวบ่อทองหลาง อยู่ที่ตำบลบ่อทองหลาง อำเภอบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
เส้นทางไปยังอ่าวนี้ไปได้ ๒ เส้นทาง
เส้นทางตรง ไปตามถนนเพชรเกษม หรือทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๔ ประมาณ กม.๓๙๙ ก็เลี้ยวซ้ายเข้าทางสาย
๓๑๖๙ ตรงเรื่อยไปจะผ่านที่ว่าการอำเภอ ตรงไปอีกจนพบสามแยก ตรงต่อไปอีกจนถึงชายหาดคือ
หาดสมบูรณ์ ย่านนี้จะมีรีสอร์ท
มีร้านอาหาร มีโรงแรม เลี้ยวซ้ายเลียบชายทะเลไป จะไปถึง อบต.แม่รำพึง
ชายหาดจะมีเรือประมงจอดอยู่หลายลำ มีที่ทำการตำรวจน้ำบางสะพาน ข้ามคลองแม่รำพึง
แล้วเลี้ยวซ้ายมายังบ้านบ่อทองหลาง ไปจนถึงริมทะเล จะมีวัดบ่อทองหลาง
เลี้ยวซ้ายเข้าไปจอดรถในวัด วันหยุดในวัดจะมีรถจอดมาก เพราะเป็นจุดที่มาชมคลื่นซัดโขดหิน
ริมอ่าวทองหลาง มากินอาหาร ร้านอาหารอยู่หน้าประตูวัด เสียดายที่ผมไม่ได้ลองชิม
เพราะตอนที่ไปนั้น ยังไม่ได้เวลามื้อเที่ยง แต่ก็มีลูกค้านั่งกันแยะ หาดที่ลงเล่นน้ำ
ชมคลื่นซัดโขดหินคือ หาดในบริเวณวัด นักท่องเที่ยวจะมาอยู่กันในบริเวณนี้
และในวัดมี วิหาร หลวงพ่อเมี้ยน คงจะเป็นระดับเกจิอาจารย์
เส้นทางที่ ๒ พักหรือไปจากอ่าวบ้านกรูด หรือมาจากตัวจังหวัดประจวบคีรีขันธ์
จะแวะไปเขาธงชัย
ศูนย์รวมสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของ อ.บางสะพาน เสียก่อน เพื่อนมัสการพระพุทธกิติชัย
พระบรมธาตุเจดีย์ และศาลกรมหลวงชุมพร จากเขาธงชัย วิ่งเลียบชายหาดบ้านกรูด
หากได้เวลาเที่ยง แวะกินมื้อกลางวัน ที่รีสอร์ท หรือร้านอาหาร หรือวิ่งเลาะชายหาดเรื่อยไป
ทุกร้านเคยชิมมาแล้ว อร่อยทุกร้าน เมื่อผ่านบ้านกลางอ่าว ไปแล้วนับ กม.ได้
๑๔ กม. จะถึงอ่าวแม่รำพึง
ที่จะมีชาวพม่าลูกเรือเดินกันแยะ แถมมีคาราโอเกะเปิดเวลากลางวันเอาใจลูกเรือ
ที่จะออกทะเลในเวลากลางคืน จากอ่าวแม่รำพึงจะมีถนนวิ่งต่อไปยังอ่าวบ่อทองหลาง
สงสัยทาง หรือไม่พบป้ายให้ถามหาทางไปวัดบ่อทองหลาง ชาวบ้านชี้ทางให้เอง เพราะหลายเลี้ยว
บอกลำบากให้เขาชี้ทางให้ง่ายกว่า หรือไม่เช่นนั้นไปแบบผมไป รู้ว่าหาดบ่อทองหลางไปทางนี้
ก็ขับรถเลี้ยววนจนพบเอง
เมื่อเข้าไปจอดรถในวัดแล้ว เดินไปริมทะเล จะเห็นเกาะเล็ก ๆ ติดกับชายหาดคลื่นจะซัดแรงมาก
เข้าสู่เกาะ น่าจะเป็นช่องรับลมพอดี ติดกับเกาะริมหาด ยังมีโขดหินอีกหลายโขด
ที่รอรับการมาปะทะของคลื่น ปะทะแล้วเกิดฟองสีขาวสวยมาก แต่ไม่ถึงขนาดพุ่งรอดช่องของโขดหิน
ขึ้นสูงเป็นน้ำพุ แบบที่ฮาวายเท่านั้น แต่ก็นับว่าสวยมาก
จากอ่าวบ่อทองหลาง วิ่งกลับมาทางอำเภอบางสะพาน หาร้านอาหารในตัวอำเภอถูกใจไม่ได้
เพราะร้านที่น่าจะอร่อยคงจะไปอยู่ที่หาดสมบูรณ์กันหมด ไม่อยากย้อนกลับไปก็เลยวิ่งไปขึ้นถนนเพชรเกษม
แล้วเลี้ยวขวามาพบปั๊มน้ำมันเอสโซ่ มีร้านอาหาร ปั๊มอยู่ตรงข้ามทางเข้าอำเภอบางสะพาน
มีร้านไก่ย่าง แปลกดีที่มาอยู่ในปั๊ม ตามอำเภอที่ไม่ใหญ่นัก หิวพอดีด้วย เลยแวะชิมเสียเลย
ไม่ผิดหวัง สูตรเดียวกันกับในกรุงเทพ ฯ นั่นแหละ สั่งมาชิมคือ ข้าวหน้าไก่อบ
แถมเป๊บซี่ ชุดละ ๗๕ บาท และ โนริเกะ มี ๙ ชิ้น ๔๕ บาท
อุทยานแห่งชาติ น้ำตกห้วยยาง
ผมไปครั้งแรกคงจะร่วม ๔๐ ปีมาแล้ว ตั้งแต่ถนนเกือบไม่ใช่ถนน และยังไม่มีที่ทำการอุทยาน
เพราะพึ่งประกาศเป็นวนอุทยาน เมื่อปี พ.ศ.๒๕๑๓ ต่อมาค้นพบน้ำตกอีกหลายแห่ง
เช่น น้ำตกบัวสวรรค์ น้ำตกเขาล้าน น้ำตกขาอ่อน
ใน เขต อ.ทับสะแก และ อ.บางสะพาน จึงประกาศเป็นอุทยานแห่งชาติน้ำตกห้วยยาง
เมื่อปี พ.ศ.๒๕๓๔ ผมไปก่อนที่จะประกาศเป็น อช.หลายปี แล้วไม่ได้ไปอีกเลย แต่วิ่งผ่านทางแยกเข้าที่
กม.๓๕๐.๕ คงจะหลายร้อยเที่ยว
แยกขวา (มาจากประจวบ ฯ ) เข้าถนนไป อช.ประมาณ กม.๓๕๐.๕ ถนนดีเยี่ยม ไปอีก
๗ กม. ก็ถึงทางเข้า อช. ผมไม่เสียสตางค์ เพราะเป็น สว. ใครอายุเกิน ๖๐ ปี
แสดงบัตรจะเข้า อช. ได้ฟรีทั่วประเทศ แต่หน้าอย่างผมไม่ต้องแสดงบัตร เขาก็เชื่อ
สองข้างทางของถนนที่เข้ามามีต้นมะพร้าวทั้งสองฟาก และบ้านเรือนชาวสวนกระจายกันอยู่เป็นกลุ่ม
ๆ เมื่อเข้าไปใน อช. แล้ว ทางขวาจะมีกลุ่มหิน กลุ่มใหญ่ ๆ หลายกลุ่ม มีทางเดินไประหว่างโขดหิน
เดินไต่ขึ้นสูงเรื่อยไป มีทางเดินแยกซ้ายไปยังจุดชมวิว ระยะทาง ๓๐๐ เมตร ทางด้านขวา
จะเป็นเพิงขายอาหารเครื่องดื่ม และห้องสุขา มีการต่อท่อน้ำขนาดใหญ่ นำน้ำมาจากน้ำตกลงมาใช้
น้ำตกห้วยยาง เป็นน้ำตกสูงเก้าชั้น มีน้ำตกตลอดปี แต่จะสวยมากก็ปลายฝน ต้นหนาว
เพราะน้ำจะแรง และใสสะอาด พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เคยเสด็จประพาสน้ำตกนี้ถึง
๒ ครั้ง
น้ำตกชั้นแรก อยู่ห่างจากจุดออกเดินประมาณ ๔๐๐ เมตร ธารน้ำตกมีแอ่งน้ำรองรับ
เล่นน้ำได้อย่างปลอดภัย จะเดินขึ้นสะดวกแค่ชั้น ๔ ชั้น ๕ จะต้องไต่ขึ้นไปและเป็นชั้นสูงสุด
ที่ยอมให้ขึ้นมาได้ และเป็นชั้นที่สูงและสวยที่สุด ส่วนน้ำตกชั้นที่ ๖ - ๗
ไม่ให้ขึ้นไปเล่นน้ำ เพราะน้ำบริเวณชั้นที่
๗ นำไปใช้ในงานพระราชพิธี
รายละเอียดที่ผมเล่า ผมเล่าจากความหลังครั้งยังหนุ่ม แทบจะวิ่งขึ้นไปได้ แต่ไปคราวนี้
ชมนก ชมไม้ เรื่อยไป กว่าจะเริ่มเดินขึ้นน้ำตกจริง ๆ ก็ประมาณ ๑๕.๐๐ เดินไปได้สัก
๓๐๐ เมตร พบเจ้าหน้าที่ของอุทยาน ฯ คงเห็นผม สว. เลยเตือนด้วยความหวังดีว่า
คุณลุงอย่าขึ้นไปต่อเลย เพราะจะกลับไม่ทัน อช.อนุญาตให้อยู่ได้ถึงเวลา ๑๗.๐๐
เท่านั้น ก็เลยเชื่อฟังโดยดี เพราะสังขารร่างกายชักจะไม่รับ ถ้าไปต่อจนถึงชั้นที่
๑ ระยะทางจากจุดเริ่มต้นก็ ๔๐๐ เมตร และหากมีแรงต้องขึ้นไปให้ถึงชั้น ๕ จึงจะสวยสมใจ
กลับมาพักที่บ้านกรูดอีกคืน พอรุ่งเช้าก็เดินทางกลับ มาตามเส้นทางที่จะมาออกถนนเพชรเกษม
กม.๓๗๒ ซึ่งปากทางมีวัดอ่างทอง
ที่มีพระบรมสารีริกธาตุประดิษฐานอยู่ ผ่านเขาธงชัย จะพบป้ายบอกว่าไป อ.ทับสะแก
ก็ไปตามป้ายไปจนหลัก กม.บอกว่าเหลืออีก ๓ กม. จะถึงเพชรเกษม มีทางแยกขวาบอกว่าไป
อ.ทับสะแก ระยะทาง ๑๑ กม. ผมชอบทดลองเส้นทางใหม่เป็นประจำ แทบจะตกเขาตายก็หลายครั้ง
วันนี้เห็นถนนดี ก็เลี้ยวขวาไปผ่านรีสอร์ทหลายแห่ง ถนนตัดไประหว่างสวนมะพร้าว
ถนนดีเยี่ยม แต่แทบจะไม่มีรถวิ่ง ผ่านรีสอร์ทท่าทางดี อยู่เลยหาดแหลมกุ่ม
มาหน่อยจดเบอร์โทร มาด้วยเผื่อวันหลังไปพัก ๐๓๒ ๘๑๕ ๓๐๐ ถนนสายนี้รีสอร์ท
และร้านอาหารมาก ถนนห่างทะเลสัก ๑๐๐ เมตร
ถนนพาไปโผล่ ถนนเทศบาล ซึ่งยังมีเรือนแถวไม้เก่า ๆ อยู่มาก และบรรจบถนนเพชรเกษมประมาณ
๓ กม. พอเลี้ยวซ้ายก็ถึงร้านอหารที่เคยชวนชิมมาแล้ว อาหารดี ราคาย่อมเยา แวะซื้อของฝาก
ร้านนี้นอกจากอาหารอร่อยแล้ว ยังมีวุ้นมะพร้าวถุงละ ๕ บาท ซื้อมาแช่ตู้เย็นเอาไว้กินได้หลายวัน
ติดร้านนี้มีขนมจากใต้ แบบในตลาดหาดใหญ่ มีของฝากจากทับสะแก เช่น กล้วยกวน
สับปะรด ขนุนอบกรอบ ฯ
อุทานแห่งชาติหาดวนกร
เวลากลับมาจากทับสะแก ทางเข้าอยู่ทางขวามือ เลี้ยวเข้าไปประมาณ ๓ กม. เลี้ยวตรง
กม.๓๔๕ เป็น อช.ทางทะเล หาดสวยมาก เหนือหาดมีทิวสน มีบ้านพัก และระหว่างทิวสนให้การเต้นท์พักได้
ติดต่อ ๐๓๒ ๖๑๙ ๐๓๐ อช.หาดวนกร ได้รับการประกาศเป็นอุทยานแห่งชาติเมื่อ พ.ศ.๒๕๓๕
มีพื้นที่ในน้ำทะเลมากถึง ๑๕.๓๖ ตร.กม. บริเวณ อช.มีต้นข่อยขึ้นตามธรรมชาติ
แต่ได้รับการตกแต่ง
ด่านสิงขร
มาจาก อช.หาดวนกร เลี้ยวซ้ายที่ กม.๓๓๕ ตรงไป ๘ กม. จะถึงสามแยกตรงไปจะเป็นวนอุทยานหินเทิน
ควรแวะไปชมหินสวย หากไปด่านสิงขรให้เลี้ยวซ้ายไปอีก ๔ กม. ตลาดด่านสิงขรปรับปรุงใหมี
ประเภทเพิงร้านค้าลงไปอยู่ตอนล่าง เกือบถึงประตูด่านที่สร้างใหม่ เป็นประตูด่านถาวร
และย่านนี้จะมีสินค้าขายเหมือน ๆ กับด่านชายแดนไทย - พม่า เช่น แม่สอด แม่สาย
แล้วแต่ที่อื่นไม่มี ที่นี่มีคือ ตลาดกล้วยไม้ ตอนนี่ขยายเป็นระดับตลาดกล้วยไม้ไปแล้ว
มีเกินสิบร้าน กล้วยไม้ดี ๆ สวย ๆ ราคาไม่แพง ไปทีไรเสียเงินทุกที ส่วนตอนด้านบนเป็นร้านค้าถาวร
ขายหนักไปทางเพชร นิลจินดา ขายคล้าย ๆ กัน เว้นร้านดั้งเดิมยังขายสารพัดสินค้าอยู่
ร้านอาหารมีร้านใหญ่มาก อยู่ทางซ้ายมือ ๑ ร้าน น่าจะพึ่งเปิดใหม่ บรรยากาศดี
กลับมากินมื้อกลางวัน ที่ชายหาดตัวเมืองประจวบ ฯ วิ่งกลับมาจากด่านสิงขร พอถึงทางแยกเข้าตัวเมือง
ก็เลี้ยวขวาวิ่งไปจนข้ามสะพาน ข้ามทางรถไฟ ตรงไปทางซ้ายคือ สี่แยกเขาช่องกระจก
เลี้ยวขวาผ่านศาลหลักเมือง ที่สร้างเหมือนปรางค์ขอม แล้วเลี้ยวซ้ายวิ่งไปจนชนชายทะเล
เลี้ยวขวาอีกที ถนนเลียบชายทะเลขยายกว้าง วิ่งไปก่อนถึงโรงแรม ร้านที่ชิมประจำ
อาหารแนะนำของทางร้าน ปลาดักแกงส้มพริกสด ปลากะพงเผาเกลือ ปลาผัดพริกไทดำ
ต้มพระรามลุยทะเล ปลากะพงลุยสวน หมึกผัดไข่เค็ม เสียดายสมัยนี้ไม่มีไข่เต่าทะเล
ร้านนี้ยำเก่งนัก
หอยกะทะร้อน หรือ ออกส่วนกรอบ มาทีไรสั่งทุกที รสอร่อยไม่เปลี่ยนแปลง
ปลาดักผัดฉ่า ปลาตัวขนาด ปลาเนื้ออ่อน เอาไปย่างก่อน แล้วนำมาผัด ใส่กระชายสดหั่นฝอย
โรยมาส่งกลิ่นหอม จานนี้ต้องกินกับข้าวสวยร้อน ๆ
แกงต้มส้มปลากระบอก รสแกงแบบภาคกลาง เพราะหากไปสั่งแกงต้มส้ม ทางภาคใต้จะรสเปรี้ยวนำ
ไม่ใช่ ๓ รสแบบภาคกลาง ร้านนี้แกงแบบภาคกลาง ปลากระบอกตัวโต มีไข่เต็มท้อง
ของหวาน ไอศกรีม ร้านแขวนป้าย คลีนฟู๊ด กู๊ดเทสท์ สะอาด อร่อยแน่นอน
........................................
| บน | |