ปันจักสิลัต

            หากผมจะชวนไปเที่ยวภาคใต้ในตอนนี้คงจะต้องเว้นไว้ ๓ จังหวัดภาคใต้คือ ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส และจะเล่าเรื่องกีฬาที่ตกเหรียญทองมาหลายซีเกมส์แล้วให้ทราบ มาติดตรงที่คงไม่ค่อยมีใครอยากไปเที่ยว ๓ จังหวัดภาคใต้กันมากนักนับตั้งแต่เดือนมกราคม ๒๕๔๗ เป็นต้นมา ส่วนสาเหตุคงไม่ต้องนำมาเล่า เพราะเกิดการฆ่ารายวัน การเผาโรงเรียนและอื่น ๆ ที่ร้าย ๆ ทั้งนั้นอยู่ตลอดเวลา และในวันที่ผมเขียนนี้เป็นเดือนเมษายน ก็ยังไม่มีทีท่าจะสงบลงได้ง่าย ๆ
            เมื่อ พ.ศ.๒๕๒๙  ก็มีเหตุการณ์ทำนองนี้แต่รุนแรงกว่านี้ที่ ๕ จังหวัดชายแดนภาคใต้ ไม่ใช่แค่ ๓ จังหวัด คือที่จังหวัดสงขลา (บางอำเภอที่อยู่ชายแดน)  ปัตตานี ยะลา นราธิวาส และสตูล เป็นผลให้กองทัพบกต้องจัดตั้งกองทัพภาคที่ ๔ ส่วนหน้า ซึ่งจะตั้งก็ต่อเมื่อมีเหตุการณ์คับขัน จำเป็นต้องประกาศกฎอัยการศึก (หากไม่ประกาศ ทหารไม่มีอำนาจในการจับกุม) และพอวันที่ ๑๐ ตุลาคม ๒๕๒๙  ผมก็ถูกส่งไปทำหน้าที่แม่ทัพภาคที่ ๔ ส่วนหน้า ตั้งกองบัญชาการอยู่ที่ อ.หนองจิก จ.ปัตตานี ในค่ายอิงคยุทธบริหาร ซึ่งอยู่ห่างจากตัวเมืองปัตตานีประมาณ ๒๐ กิโลเมตร และในขณะนั้นการขยายถนนที่กำลังก่อสร้าง ตั้งแต่อำเภอหนองจิก แต่ไม่สามารถสร้างต่อไปได้ เพราะพวกก่อการร้ายได้ระเบิดเครื่องจักรกลที่ทำงานสร้างถนน ลอบยิงคนงานและผู้รับเหมาซึ่งแบ่งงานกันหลายบริษัท ถนนพอที่ให้รถวิ่งได้ แต่พอขยายก็จำเป็นต้องขุดเจาะเรียกว่าเลอะไปทั้งสาย แต่ทุกคนก็คิดว่าไม่ช้าชาวปัตตานีจะมีถนน ๔ เลนกันแล้ว ดังนั้นเมื่อหยุดการก่อสร้าง ถนนที่กรุยทางแล้วเริ่มคราดไถไปแล้วก็กลายเป็นธารน้ำน้อย ๆ ไปเท่นนั้นเองคือ ยิ่งลำบากเสียยิ่งกว่าตอนที่ยังไม่คิดขยายถนน
            สภาพของปัตตานีในเวลานั้น ล่อแหลมต่ออันตรายจากพวกก่อการร้าย ซึ่งเวลานั้นใน ๕ จังหวัดชายแดนภาคใต้นี้มีพวกก่อการร้ายอยุ่ถึง ๓ พวก หรือจะนับพวกโจรห้าร้อยเข้าไปด้วยก็จะเป็น ๔ พวกคือ
            พวกโจรห้าร้อย  ซึ่งรับผิดชอบโดยตำรวจรับไปเต็ม ๆ เลยทีเดียว
            พวกผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์  ซึ่งยังมีเชื้อเหลือกระเส็นกระสายอยู่บ้าง หลังจากทที่ พล.อ.หาญ ลีลานนท์ เจ้าของใต้ร่มเย็นดำเนินการปราบปรามเป็นผลสำเร็จตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๕๒๔ - ๒๕๒๖
            พวกขบวนการโจรก่อการร้ายแบ่งแยกดินแดน  พวกนี้มีคำว่า แบ่งแยกดินแดนต่อท้ายขบวนการด้วย แต่ชั่วเวลาไม่นานกองทัพภาคที่ ๔ ส่วนหน้า ก็ตัดหางทิ้งเหลือแต่ขบวนการโจรก่อการร้าย หรือใกล้จะเป็นโจร ๕๐๐ ด้วยซ้ำไป พวกนี้แบ่งกลุ่มย่อยออกไปเป็น ๓ พวกคือ
            กลุ่มขบวนการพูโล พ. คืออักษร "P" หมายถึง ปัตตานี
            กลุ่มขบวนการ บี.อาร์.เอ็น
            กลุ่มขบวนการ บี.เอ็น.พี.พี. พี คือ "P" หมายถึง ปัตตานี
            ทั้งสามกลุ่มนี้มีจุดมุ่งหมายในการแบ่งแยกดินแดน จากไทย ๔ จังหวัด จากมาเลย์เซียอีก ๒ จังหวัด ในกลุ่มของพวกที่พูดภาษายาวีเป็นภาษาท้องถิ่น
            ในเวลานั้นทางอัฟกานิสถาน กำลังมีกลุ่มต่อต้านอิทธิพลของรัสเซียอยู่เรียกว่าพวก "มูจาฮีดีน" พวกขบวนการโจรก่อการร้ายในภาคใต้ของเราเห็นว่า ชื่อของเขากำลังมีอิทธิพล แต่มูจาฮีดีนในขณะนั้นทำเพื่อเอกราชของชาติ ไม่ใช่ทำเพื่อแบ่งแยกดินแดน ของอัฟกานิสถานออกไป กลุ่มขบวนการ ฯ ในไทยทั้ง ๓ กลุ่ม จึงรวมกันเพื่อหวังผลในการปฎิบัติ แล้วตั้งชื่อการรวมกลุ่มของพวกตัวว่า "กลุ่มมูจาฮีดีน" เป็นการรวมกลุ่มที่น่ากลัวอย่างยิ่ง เพราะหากเขารวมกันสำเร็จและเหนียวแน่น ปฎิบัติการอย่างจริงจังแล้ว ปัตตานีจะเป็นจังหวัดแรกที่จะอยู่ไม่ได้  แต่พระสยามเทวาธิราชยังคุ้มครองประเทศชาติไทยคุ้ทครองผู้คนทุกศาสนาในไทย ที่เป็นคนไทย อาศัยอยู่บนแผ่นดินไทย เป็นผลให้การรวมกลุ่มของขบวนการไม่เหนียวแน่น และข้อสำคัญคือ การแก่งแย่งผลประโยชนืกัน การแบ่งผลประโยชน์ที่ได้มาไม่ลงตัว เมื่อรวมกันไม่เหนียวแน่น มีผลประโยชน์เป็นตัวชี้นำ การปฎิบัติการจึงไม่เข้มแข็ง และยังมีคนที่รับผิดชอบในมัสยิดโกงเงินของมัสยิดไปจนต้องหนีไปอยู่ต่างประเทศ ซึ่งฝ่ายทหารเราทำในทางกลับกัน "ผู้เขียน" ซึ่งเคยเป็นประธานกีฬาของกองทัพภาคที่ ๔ จึงเอากีฬามาใช้ให้เป็นประโยชน์กองทัพภาคที่ ๔ มีทีมฟุตบอลที่เข้มแข็งพอควร ผมเลยจัดการแข่งขันกีฬาฟุตบอล (จวนถึงเรื่องปันจักสิลัตแล้ว) ทีมทหารไทย กับทีมเทศบาลของมาเลย์เซีย ทีมมาเลย์เซียนั้นเป็นทีมชนะเลิศของมาเลย์เซีย แข่งขันกับเราจะแพ้วันยังค่ำแต่ก็จะแข่ง ผมขายบัตรให้แก่พ่อค้าประชาชนไปทั่ว ขายก่อนวันแข่งที่ได้มากคือ จากผู้บังคับหน่วยทหารทั่วประเทศที่ผมส่งบัตรไปให้ เขาเชื่อในความบริสุทธิ์ของเราก็ส่งเงินมาให้ แต่รับรองผู้บังคับหน่วยเหล่านั้นไม่มาดูหรอก เช่นอยู่เชียงใหม่ เชียงราย อุบลราชธานี ฯ เขาไม่วิ่งมาชมฟุตบอล ดังนั้นเราก็ขายบัตรที่หน้าประตูได้อย่างสบายไม่ต้องกลัวว่าจะไม่มีที่นั่ง
            พอถึงวันแข่งขันชาวเมืองเขามาดูกันตั้งแต่ตอนประมาณบ่ายโมง ก่อนเวลาแข่งขันหลายชั่วโมง เข้ามาตั้งแต่ยังไม่ขายบัตรผ่านประตู ก็ดีจะได้มีคนดูแน่น ๆ นักกีฬาจะได้มีกำลังใจในการแข่งขัน ผมเคยเป็นนักรักบี้ทีม รร.นายร้อย จปร. และทีมสโมสร ทบ. มาแล้ว ทีมชาติสมัยก่อนนาน ๆ จะมีแข่งขันเสียทีหนึ่ง ผมก็อุตสาห์ได้ลงทัมชาติกับเขาครั้งหนึ่ง ทีมชาติไทยแข่งกับทีมจากแคว้นจิตตากองในอินเดีย นึกว่าแข่งกับแขก แต่พอลงแข่งจริง ๆ กลายเป็นฝรั่งชาวอังกฤาทั้งทีม เป็นคนอังกฤษที่จัดทีมอยู่ในแคว้นจิตตากอง จึงเข้าใจดีว่าหากนักกีฬาลงแข่งขันสมัยนั้นสนามสำคัญคือ สนามศุภชลาศัย ลงแข่งขันสนามสำคัญแล้วไม่มีคนดู หรือคนน้อยละก็นักกีฬาหงอยไปเลยทีเดียว ไม่เหมือนเวลาลงแข่งคนดูเต็มสนาม ฮึกอย่าบอกใครเชียว
            การแข่งขันฟุตบอล ระหว่างทีมทหารในพื้นที่ทัพภาคที่ ๔ กับทีมเทศบาลมาเลย์เซียจบลงด้วยดีคือ ไทยแพ้  แพ้กันมาตั้งแต่ในมุ้งแล้ว จบอย่างมีความสุขด้วยกันทุกฝ่าย ฝ่ายมาเลย์ ฯ เขาได้ถ้วยรางวัลไปได้รับความขอบคุณจากไทย ได้รับการเลี้ยงดูอย่างดีเลิศ ส่วนฝ่ายทหารไทยเรารู้อยู่แล้วว่าเราสู้ไม่ได้ แต่เราพอใจในผลงานที่ได้เงิน ได้ครองใจประชาชนที่เขาได้มาชมฟุตบอลระดับชาติ (ส่วนใหญ่ไม่เสียเงิน)  และเขารู้จากประกาศของเราว่า เราจะเอาเงินที่ได้จากการขายบัตรทั้งสิ้น ไม่หักค่าใช้จ่าย ส่งไปบำรุงมัสยิดคือ มัสยิดกลางของปัตตานี (ถือว่าเป็นมัสยิดที่สวยที่สุดของประเทศไทย) มัสยิดกลางของนราธิวาส (เฉพาะที่นี่มี ๒ แห่ง) มัสยิดกลางของยะลา และสตูล
            ผมเคยเล่าไปบ้างแล้วเกี่ยวกับการปฎิบัติของกองทัพภาคที่ ๔ ส่วนหน้า สมันฃยที่ผมทำหน้าที่แม่ทัพ และด้วยเวลาเพียง ๖ เดือนที่ทำงานกัน ถนนสายหนองจิกปัตตานีที่ค้างการก่อสร้างมานานก็แล้วเสร็จเกือบจะสมบูรณ์ ด้วยวิธีการที่ผมเชิญมาทั้ง ๓ บริษัท ตกลงกันในรายละเอียดว่าจะทำงานกันอย่างไร ฝ่ายทหารจะป้องกันอย่างไร
            ผมเอาบทเรียนจากการรบที่เวียตนามที่เราจะรถออกลาดตระเวนในเวลากลางคืน หมายถึงลาดตระเวนตามถนนที่เราจะต้องผ่านในตอนเช้าเพื่อเคลื่อนย้ายกำลัง หรือให้สูทกรรมของทหารออกไปจ่ายตลาดเช้า ตอนเช้าก่อนรถงานจะออกทำงานกัน จะมีรถของทหารช่างออกเคลียร์ถนนเสียก่อน เพื่อหากับระเบิดที่จะวางง่ายมากหากถนนไม่ได้ราดยาง หรือเทคอนกรีต เช่นเดียวกับถนนที่ปัตตานีจากหนองจิกในเวลานั้น กลางคืนผมจึงจัดรถลาดตระเวนระยะใกล้ คือหมู่หนึ่ง (รถ ๑ คัน ทหารติดอาวุธประมาณ ๑๐ คน) ก็ลาดตระเวนสัก ๕ กิโลเมตร แล้วให้วิ่งสวนทางกัน จัดรถสัก ๘ - ๑๐ คัน ในแต่ละคืนก็คุ้มครองได้ทั้งสาย และยังมีรถที่มีเครื่องมือหาทุ่นระเบิด กับระเบิดคอยสำรวจอีกด้วย เครื่องจักรกลของบริษัทรับเหมาสามารถโหมทำงานได้ทั้งกลางวันและกลางคืน โดยไม่ได้รับอันตรายจากการก่อกวนของพวกก่อการร้ายอีกเลย ๖ เดือนผ่านไป ถนนราดยางอย่างดีที่รถวิ่งกันปร๋ออยู่ในเวลานี้ นั่นแหละเสร็จเรียบร้อยเกือบสมบูรณ์เหลือแต่การตกแต่ง เช่นการตีเส้น เป็นต้น
            ๑ ตุลาคม ๒๕๓๐ ผมได้รับตำแหน่งสูงขึ้น ได้รับพระราชทานยศสูงขึ้น ย้ายเข้ากรุงเทพ ฯ กองทัพภาคที่ ๔ ส่วนหน้า สำเร็จตามภารกิจที่ได้รับมอบ ปิดกองบัญชาการ ๑๗ ปีผ่านไป กองทัพบกตั้งกองทัพภาคที่ ๔ ส่วนหน้า กันใหม่เมื่อ มกราคม ๒๕๔๗ ผลงานที่พวกผมทำไว้คุ้มครองให้ความปลอดภัยอยู่ได้เป็นเวลาถึง ๑๗ ปี
            ทีนี้กีฬาเข้ามาเกี่ยวข้องแล้ว ๑ ครั้ง คือการจัดแข่งฟุตบอลระหว่างทีมทหารไทย กับทีมเทศบาลมาเลย์เซีย กีฬาเข้ามาอีกคราวนี้เรื่องใหญ่เลยทีเดียว ผมไม่ขอออกนามท่านละ เพราะบางท่านก็ยังเป็นผู้ยิ่งใหญ่อยู่ในการกีฬาของไทย ในโอลิมปิกไทยในสมัยนั้นคือเมื่อ ๑๗ ปีที่แล้ว ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก ท่านหนึ่งเป็นรองนายกรัฐมนตรีด้วย และคุมการกีฬาของชาติด้วย อีกท่านเป็น สส.สงขลา อีกท่านใหญ่ในวงการกีฬาแต่รู้จักกับผมดี (เดี๋ยวนี้ก็ยังใหญ่อยู่) ในการประชุมเพื่อจัดประเภทกีฬาที่จะแข่งขันในซีเกมส์ ครั้งที่ ๑๓ ที่อินโดนิเซียเป็นเจ้าภาพ ที่กรุงจาการ์ต้า อินโดนิเซียก็เริ่มในการนำกีฬาปันจักสิลัต (PENKAK SILAT) หรือจะแปลเป็นไทยก็คงต้องบอกว่ามวยแขกมุสลิมในย่านนี้ ซึ่งปันจักสิลัตนี้ท่านที่ไปประชุมไม่ทราบว่าเขาเล่นกันอย่างไร เขามีประเภทไหนบ้าง เมื่อ ๔ ชาติมุสลิมเขาเสนอคือ อินโดนิเซีย มาเลย์เซีย บรูไน ตามด้วยสิงคโปร์ ที่เขาเป็นชาติที่แยกตัวมาจากมาเลย์เซียและฟิลิปปินส์ (ตอนใต้ของฟิลิปปินส์ส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลาม) ตกลงกันว่าจะเอากีฬาปันจักสิลัตเข้าแข่งขันในซีเกมส์ครั้งนี้ ผู้แทนไทยนึกว่าทางใต้ของไทยก็คงมีการละเล่น และการแข่งขันปันจักสิลัตเช่นกัน จึงรับเขามา ตกลงยินยอมให้มีการแข่งขันกีฬาปันจักสิลัตในซีเกมส์ครั้งที่ ๑๓ ที่กรุงจาการ์ต้า
            เมื่อท่านรับมาแล้ว ท่านมารายงานรองนายกรัฐมนตรี ท่านที่รับผิดชอบกีฬาระดับชาติและท่านเคยรับราชการอยู่ภาคใต้มาก่อน แต่ท่านไม่ทราบละเอียดว่า ปันจักสิลัตเป็นอย่างไร ท่านก็บอกว่าเรื่องนี้ต้องส่งให้ทางกองทัพภาคที่ ๔ (กองทัพบก) รับผิดชอบจัดกีฬาปันจักสิลัตเข้าแข่งขันในซีเกมส์และท่านก็ลงทุนบินตรงมาพร้อมกัน ๓ ท่านคือ รองนายกรัฐมนตรี ท่าน สส. สงขลา และท่านกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทย มาถึงเรียกประชุมทันที โดยกจัดการประชุมที่ห้องประชุมจังหวัดทหารบกสงขลา ในค่ายเสนาณรงค์ ผมต้องไปประชุมเองเพราะนายใหญ่มาประชุมคือ ท่านรองนายกรัฐมนตรีและประชุมในพื้นที่ผมรับผิดชอบ
            ผมจึงอธิบายให้ที่ประชุมทราบว่า ปันจักสิลัตที่เขาจะแข่งขันกันในซีเกมส์นั้น ทางภาตใต้ของไทยไม่มี PENKAK SILAT  ภาคใต้ของไทยใน ๔ จังหวัดชายแดนนี้นั้นมีเล่นเหมือนกัน เขาเรียกว่า "สิลัต หรือ สิระ" แล้วก็อธิบายให้ที่ประชุมได้ทราบ จะได้รูจักว่าสิลัต หรือ สิละ นั้นที ๓ อย่าง คือ
            สิลัตหรือสิละคือการร่ายรำในท่วงท่าในท่วงท่าของการต่อสู้ ไม่มีการถูกเนื้อต้องตัว ภาคใต้ของไทยเล่น แต่ไม่ได้ใช้ในการไปต่อยตีกับใคร เป็นท่วงท่าศิลปะของการต่อสู้
            ปันจักสิลัต (PENKAK SILAT) เป็นการต่อสู้ด้วยมือเปล่า ประกอบการร่ายรำ คือต้องรำก่อน จึงเข้าหาโอกาส เตะ ต่อยกัน หากแข่งขันจะต่อยหน้าไม่ได้ ต้องใส่เสื้อเกราะ เตะได้ เว้นหน้าคือ ตั้งแต่คอขึ้นไปห้ามแตะต้อง เตะต่ำกว่าเอวหรือต่อยต่ำกว่าเอว หากจงใจถือเป็นฟลาว์ แต่หากเตะตัดข้อเท้าโดยคนเตะต้องนั่งราบอย่างรวดเร็ว แล้วตวัดขาเตะตัดข้อเท้าให้ล้ม อย่างนี้ได้คะแนนดี ระหว่างยังไม่ได้ทำอะไรกัน ก็ตีวงร่ายรำกันเรื่อยไป มีคะแนนในการร่ายรำให้ (และเมื่อแข่งขันจริง ๆ ในซีเกมส์แขกยังวางกติกาให้รัดกุมยิ่งขึ้นเพื่อระวังการเตะ การต่อย การใช้ศอก เข่าของนักมวย หากทำให้แพ้ฟลาว์หมด)
            ปันจักสิลิต ที่จะแข่งขันกันนั้น ไม่มีการเล่น การแข่งขันในเมืองไทย
            กริช ปันจักสิลัต คือการร่ายรำ ประกอบการต่อสู้ และเป็นการต่อสู้ด้วย "กริช" เอากันตายไปข้างหนึ่ง หากเป็นเด็กสมัยก่อนคงจะจำกันได้ว่าเราเรียนเรื่องอิเหนา พระเอกของเราคือ อิเหนารบเก่งนักและฝีมือในการใช้กริช ที่เรียกว่ากริชชวาเป็นยอด ซึ่งครั้งสำคัญคือการต่อสู้กับ กุหมัง กุหนิง สู้กันด้ยกริช กุหมัง กุหนิงถือว่าเป็นยอดฝีมือกริช แต่ก็แพ้อิเหนาแพ้ถึงตายเลยทีเดียว เรียกว่า " กริชปันจักสิลัต"
            ผมชี้แจงจบ ที่ประชุมร้องกันฮือ เพราะไม่รู้เรื่องมาก่อนแค่ไปรับเขามาแล้วอย่างไรก็ต้องจัดทีมปันจักสิลัต ไปสู้กัเขาในซีเกมส์ ซึ่งจากประชุมกันในวันนั้นจะมีเวลาเพียง ๖ เดือน เพื่อสร้างทีมปันจักสิลัตไปสู้ในซีเกมส์โดยเริ่มจาก " ติดลบ" คือไม่รู้จักเลยว่าเขาเล่นอย่างไร และที่ประชุมก็โยนให้ผมรับหน้าที่นายกสมาคม ซึ่งภาษาอังกฤษเขาเรียกว่า "PRESIDENT" โดยยังไม่มีการจัดตั้งสมาคมเป็นนายกที่ไม่มีเงินสนับสนุนแม้แต่บาทเดียว ปันจักสิลัตเป็นอย่างไรก็ไม่เคยเห็น แต่ทางอินโดนิเซียที่ต้อนไทยเข้มุม ก็แก้โง่ด้วยการส่งครูมาฝึกให้ ๒ คน มากิน มานอนอยู่กับผมเลยที่เดียว พูดไทยก็ไม่ได้ แต่ลูกน้องของผมเขาพูดภาษายาวีได้ และพูดกับอินโดนิเซียพอรู้เรื่อง มากินมานอนอยู่ด้วยกัน ๑ - ๒ เดือน ผมจำไม่ได้แล้ว รู้แต่ว่าความสัมพันธ์ระหว่างครูกับลูกศิษย์เป็นไปด้วยดี ถึงขนาดตอนไปแข่งที่จาร์กาต้า ลูกศิษย์ถูกโกง ไม่ได้เหรียญทอง ครูโกรธแทน ด่ากรรมการชาติเดียวกันไปเลย
            ครั้งแรกที่ผมคัดเอา นักมวยไทยมาฝึก เช่นแมวป่า ระดับแชมป์มวยไทย พอมาฝึกได้ก็ให้ลองต่อสู้กับพวกที่จบพละศึกษา ไม่ใช่นักมวย ฝึกง่ายกว่าแยะ พอให้สู้กัน นักมวยไทยที่จับเอามาฝึกเห็นคางว่าง ๆ เลยเตะเปรี้ยงเข้าให้ ผลคือนักปันจักสิลัตที่จับเอาคนจบพละศึกษามาฝึก "สลบ" ครูรอให้ฟื้นแล้วยกมือทั้ง ๆ ที่นอนอยู่นั่นแหละ เป็นผู้ชนะ เพราะฝ่ายเตะคางสลบแพ้ฟลาว์ ผิดกติกา เขาห้ามแตะต้องตั้งแต่คอขึ้นไป สุดท้ายก็เอาทหาร ตำรวจ ตชด. นักเรียนพละศึกษาจากยะลาเป็นส่วนใหญ่ไม่ได้คัดมาทั้งประเทศ แม้แต่เดี๋ยวนี้ก็เช่นกัน คงคัดเลือกมาจากกลุ่มแคบ ๆ คือ ภาคใต้ตอนล่างเท่านั้น หากเราได้คัดจากทั้งประเทศ และบรรจุลงในหลักสูตรพละศึกษาของนักเรียนสามัญ เหมือน มวย ยูโด อย่างนี้การแข่งขันจะมีผลมาก อย่าลืมว่าปันจักสิลัตเวลานี้มีถึง ๒๑ เหรียญทอง เมื่อเริ่มแข่งขันนั้นมีเพียง ๑๕ เหรียญทอง มีทั้งทีมชายและหญิง นักกีฬาหญิงของเรานั้นพออีกปีก็ไต่เต้าไปเป็นแชมป์โลกปันจักสิลัต ซึ่งชิงแชมป์กันที่ จาการ์ต้า ได้ถึง ๒ คน ต่อมาไปชิงที่เนอร์เธอร์แลนด์ผ่ายชายได้อีก ๑ คน ทุกวันนี้แชมป์ฝ่ายหญิง ๒ คน ซึ่งครองแชมป์อยู่ถึง ๑๐ ปี เลิกเข้าแข่งขันแล้วเพราะสูงวัย แต่ยังเป็นครูฝึกอยู่
            การแข่งขันซีเกมส์ในครั้งแรกของทีมปันจักสิลัต ไทยได้ ๑ เหรียญทอง และหลายเหรียญเงินและเหรียญทองแดง ถือว่าทำได้ดีมาก เพราะจากไม่รู้จักแต่คว้าเหรียญทองมาได้อีก ๒ ปี ต่อมาแข่งขันซีเกมส์ที่มาเลย์เซีย คราวนี้ทำได้หลายเหรียญทอง และพอกลับมาผมก็ตั้งสมาคมปันจักสิลัตแห่งประเทศไทยเป็นผลสำเร็จ ได้รับการคัดเลือกเป็นนายกสมาคมเป็นคนแรก สตางค์ก็ไม่ค่อยมีกับเขา และย้ายมารับราชการในกรุงเทพ ฯ แล้ว ต้องวิ่งขึ้นล่องไปปัตตานีที่ตั้งของสมาคม ซึ่งได้รับความอนุเคราะห์จากมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี รวมทั้งอาจารย์หลายท่านก็เป็นกรรมการของสมาคมเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงที่สำคัญอีก ๒ ปี ต่อมา นำไปแข่งขันที่ประเทศสิงคโปร์หวิดเป็นเจ้าเหรียญทอง เมื่อกลับมาผมก็ขอลาออกจากการเป็นนายกสมาคม คงรับเป็นที่ปรึกษาต่อไปอีก ๒ ปี จากนั้นก็ขอวางมือและที่สำคัญคือแทบหมดตัวเพราะเป็นกีฬาที่ไม่ค่อยได้รับการสนับสนุนทั้งที่หากมีการสนับสนุนดี ๆ และนำเข้าฝึกในโรงเรียนสามัญ เอาเข้าแข่งในกีฬาแห่งชาติได้แล้ว ไม่ยากเลยสำหรับคนไทยที่มีฝีมือในการชกมวยเป็นเลิศอยู่แล้ว แต่จะเอานักมวยไทยที่เตะ ต่อยเก่งมาฝึกไม่ได้ เพราะจะเป็นอย่างที่ผมเล่าให้ฟังคือ จะแพ้ฟาลว์หากไปเตะคางเขาจนสลบหรือคางหักไปเลย ค่าใช้จ่ายสูงมาก นายกสมาคมรับไปเต็ม ๆ ผมไม่มีทุนรอนอะไรกับเขานอกจากขายของเก่า เลยต้องขอลาโรง ทุกวันนี้นักการเมืองเป็นนายกสมาคม คิดว่าเอาเงินเข้าทุ่มคงจะชนะได้ ผลคือ ๒ ซีเกมส์แล้วที่ไม่ได้เหรียญทอง ปันจักสิลัตไม่ได้อยู่ในคอลัมน์กีใาของสื่อมวลชนเลย เพราะแทบจะไม่รู้จักเหรียญทอง เหรียญเงิน นายกสมาคมและกรรมการต้องเข้าถึงจิตใจของนักกีฬา ไปคลุกคลีด้วย จำชื่อ ประวัตินักกีฬาทุกคนได้ นักกีฬาเรียกผมว่า พ่อ เรียกภริยาของผมที่ทำหน้าที่เลขา ฯ ของผมด้วยว่า แม่ เช้า ๆ เราต้องออกไปซื้อผลไม้ในตลาดของประเทศที่ไปแข่ง หิ้วกันมา ๒ คน เอามาฝากลูก ๆ ทำกันอย่างนี้เขาจะไม่เรียกว่าพ่อ แม่ได้อย่างไร ใครชนะได้เหรียญทอง หากจะหางานทำผมจับเป็นทหารหมด เดี๋ยวนี้เป็นถึงพันโทแล้วก็มี คงต้องขอจบกีฬาปันจักสิลัตเอาไว้แค่นี้ และหวังว่าซีเกมส์ปีนี้ ทีมไทยคงไม่ชวดเหรียญทอง พวกผมกรรมการผู้ก่อตั้ง แม้ไม่เกี่ยวข้องก็ยังรักกีฬานี้และติดตามผลอยู่
            ไปร้านอาหาร ร้านที่ปัตตานี ที่ชิมกันประจำคือ ร้านอาหารอิสลาม อีกร้านคือ ร้านอาหารจีน และอาหารทะเล ให้รถตุ๊ก ๆ พาไปได้เลย ส่วนที่นราธิวาส ร้านก่อนทางเข้าตากใบ ดูเหมือนจะเคยพาไปชิมแล้วทุกร้าน
            ขอพาไปชิมอาหารในกรุงเทพ ฯ แต่เป็นอาหารฝรั่งที่ปรุงแต่งโดยคนไทยอิสลาม ร้านนี้เลยไม่มีเครื่องดื่มประเภทของมึนเมา มีทั้งอาหารจานเดียว และอาหารชุด
            เส้นทางไปได้ ๒ เส้นทาง สะดวกที่สุดคือ ไปตามถนนรามคำแหง ผ่านหน้าราม ขึ้นสะพานข้ามไปแล้ววิ่งตรงไปจะผ่านคาฟูร์ทางซ้ายให้เลยไปกลับรถมาเข้าซอยรามคำแหง ๗๐ พอเข้าซอยให้เลี้ยวซ้ายทันที่ไปจอดที่ลานหน้าร้านได้
            เส้นทางที่ ๒ ไปตามถนนลาดพร้าว เลยอำเภอบางกะปิ แล้วเลี้ยวขวาข้ามสะพาน ไปเลี้ยวซ้ายที่สี่แยก มาผ่านคาฟูร์ซ้ำกับเส้นทางแรก
            อาหารชุด จะมี น้ำฟรี เช่นโค๊ก น้ำเปล่า กาแฟ และไอศกรีม มีซุป ๑ ถ้วยและอาหารจานหลัก เช่นชุด ทีโบนสเต็ก ๒๑๘ บาท ชุดเปปเปอร์สเต็ก ๒๓๕ บาท ชุดนี้แพงที่สุด ชุดริบอาย เนื้อสัน แซนมอน, ปลาอินทรีย์,ปลากะพง สะดวก ง่ายต่อการสั่งและสำคัญที่อร่อย
            ประเภทข้าวของก็มีเช่น ข้าวเนื้อพริกไทยดำ ข้าวสามสี ข้าวเนื้อน้ำมันหอย ข้าวแกงเขียวหวานเนื้อ และสลัดกุ้งสด น่ากินมากควรสั่ง
            ร้านนี้ได้รับประกาศนียบัตร "ครัวฮาราล" จากช่อง ๙ ในรายการรับรองความอร่อยของ ช่อง ๙ ครัวฮาราลออกอากาศทุกวันศุกร์เช้า ๐๘.๓๐
            สั่งสเต็กเปปเปอร์ มีซุปให้เลือก ซุปเห็ดหรือซุปผักโขม ซดร้อน ๆ วิเศษนัก มีขนมปังกระเทียมให้ด้วย
            สเต็กเนื้อนุ่ม มีผักสลัด ราดน้ำสลัดสีส้ม มันฝรั่งทอด
            สลัดกุ้งสด ใส่จานแปลกแก้วในเล็๋ก มีผักสลัดต่าง ๆ มีกุ้งสดวางข้างหน้า ราดน้ำสลัด
            ข้าวเนื้อพริกไทยดำ เนื้อผัดใส่หอมใหญ่ พริกยักษ์ หวานกรอบ มีข้าวสวยมา ๑ ถ้วย
            ปิดท้ายด้วยไอศกรีม และที่น่าสั่งคือ " ชาซีลอน" ถ้วยละ ๓๐ บาท หวานหอมชื่นใจนัก

...............................................

| บน |