สอยดาว

           เหตุที่ผมไปชิมไกลถึงห้องอาหารในสนามกอล์ฟ สอยดาว จันทบุรี ด้วยเหตุ ๓ ประการ ประการแรก พรรคพวกบอกว่า อากาศที่ผมเล่าว่ามีอากาศเย็น แม้จะเป็นฤดูที่ร้อนจัดในอำเภอวังน้ำเขียว นครราชสีมา ซึ่งอยู่ห่างจากกรุงเทพ ประมาณ ๔๐๐ กม. เขาบอกว่าที่ อ.โป่งน้ำร้อน ช่วงที่ติดทิวเขาสอยดาว ตกตอนเย็นอากาศก็จะเย็น ไปจนถึงกลางคืนเช่นเดียวกัน ซึ่งผมเชื่อว่าจริง เพราะผมเคยมีที่ดิน ทำสวนแถว ๆ อ.โป่งน้ำร้อน มาก่อน  จึงเชื่อว่าอากาศเย็นจริง กลางคืนหากเป็นฤดูร้อน ก็เย็น หากฤดูหนาวก็ขั้นหนาวไปเลยทีเดียว แต่ตอนนี้ไม่รู้ว่าจะไปทำไม หากไปจันทบุรีในเส้นทาง กรุงเทพ ฯ ฉะเชิงเทรา พนมสารคาม สนามไชยเขต โป่งน้ำร้อน จันทบุรี (เส้นนี้ใกล้ที่สุด ถนนไม่ค่อยดี ไม่มีปั๊มน้ำมัน นับตั้งแต่สนามไชยเขต ไปโป่งน้ำร้อน) ผมก็ผ่านโป่งน้ำร้อน ไม่ได้คิดจะแวะพัก หรือกินอาหาร เพราะไปมุ่งแต่ในตัวเมืองจันทบุรี เลยไม่ทราบว่า ที่โป่งน้ำร้อน ที่พักเยี่ยม ราคาไม่แพง อาหารดี ประการที่สอง พรรคพวกบอกอีกนั่นแหละว่า อยากให้ผมไปเที่ยวงานทุเรียนโลก ซึ่งจะจัดทุกปีที่จันทบุรี ในต้นเดือนพฤษภาคม ซึ่งปีที่แล้วผมก็ได้รับการเชิญจากพรรคพวก ที่จันทบุรีให้ไปเที่ยวงาน และไปชิมอาหาร ซึ่งผมได้นำมาเล่าให้ฟังแล้ว ปีนี้คนชวนคนละคนกัน บอกว่าอยากให้ไปอีก ประการที่สาม พรรคพวกคนเดียวกันบอกว่า ปีนี้เป็นปีที่สอง ที่อำเภอโป่งน้ำร้อน มีการจัดงานชื่อว่า "เทศกาลกินกระวาน อาหารสมุนไพร และผลไม้ ครั้งที่ ๒" ของอำเภอโป่งน้ำร้อน โดยจะจัดงานใน ๓ วันสุดท้ายของวันงานทุเรียนโลก ปี ๒๕๕๑ งานทุเรียนโลกมี ๓ - ๑๑ พ.ค.๕๑  งานเทศกาลกินกระวาน อาหารสมุนไพร ก็จะมีที่หน้าอำเภอโป่งน้ำร้อน ตั้งแต่ ๙ - ๑๑ พ.ค.๕๑ ด้วยเหตุผล ๓ ประการนี้ ผมจึงไปกิน ไปนอนที่โป่งน้ำร้อน และรับลมเย็น นอนชนิดไม่ต้องเปิดแอร์ ได้เห็นน้ำค้างบนยอดหญ้า ในตอนสาย  ซึ่งเกิดมาอายุก็ใกล้ร้อยเข้าไปทุกทีแล้ว ยังไม่เคยเห็นหยาดน้ำค้าง ที่เกาะบนยอดหญ้าในยามเช้า ยังกับแสงเพชรมาก่อนเลย
            ไป อ.โป่งน้ำร้อน หากเอาระยะทางสั้น ไปเร็ว แต่ต้องมั่นใจว่า รถดี เพราะถนนไม่ค่อยดี ก็ไปทาง อ.พนมสารคาม ผ่าน อ.สนามไชยเขต ไปโผล่ตัดกับถนนสายจันทบุรี - สระแก้ว สาย ๓๑๗ แต่ผมเข็ดที่ระยะทางประมาณ ๗๐ กม. จะไม่มีปั๊มน้ำมัน ให้อาศัยได้เลย จึงไปตามเส้นทางหลัก คือ ออกจากบ้านลาดพร้าว ก็ขึ้นทางด่วนรามอินทรา แล้วต่อทางด่วนลอยฟ้า ไปลงชลบุรี รวมจ่ายคาทางด่วนไป ๘๕ บาท เมื่อลงจากทางด่วนแล้ว ก็เข้าถนนบายพาส เพื่อไปแยกซ้ายเข้า อ.บ้านบึง แต่ถนนบายพาสของชลบุรี เขาขยายใหม่เสร็จเรียบร้อยแล้ว เป็นถนน ๑๐ หรือ ๑๒ เลน รถวิ่งสะดวกไม่ติดกัน เหมือนปีที่แล้ว ไปพัทยา ระยอง จันทบุรี สะดวกมาก จะไม่สะดวกก็ตรงที่ผมลงจากทางด่วน ก็วิ่งเข้าคู่ขนานพอพบทางแยกซ้าย ก็นึกว่าบายพาสเลี้ยวซ้ายไปทันที ไปตั้งหลาย กม.จึงรู้ว่าเลี้ยวเร็วไป กลายเป็นเลี้ยวไป อ.พานทอง ก็ต้องเลยตามเลย พอถึงพานทอง ก็แยกขวาไป อ.บ้านบึง แล้วไปตามสาย ๓๔๔ ไปอีก ๘๐ กม. ก็จะถึง อ.แกลง จ.ระยอง ระหว่างทางผ่านอำเภอวังจันทร์ กำลังจัดงานผลไม้ประจำปี ระหว่าง ๑ - ๙ พ.ค. แต่ไม่ได้แวะชิมมื้อกลางวัน แวะกินที่ กม.๒๙๘  เขายกป้ายว่า กุลพัฒน์ ทัวร์ริสท์ เซ็นเตอร์ ทีแรกนึกว่า กรมทางหลวงมาเปิดศูนย์บริการไว้ทางภาคนี้ เพราะยังไม่มีศูนย์บริการทางหลวงทางภาคตะวันออก ปรากฎว่า เป็นของเอกชน สถานที่กว้างขวาง มีให้ชิมผลไม้ ในสวนคนละ ๖๐ บาท ขายข้าวแกง ก๋วยเตี๋ยว อาหารใช้ได้ โดยเฉพาะแกงหมูชะมวง ก๋วยเตี๋ยวหมูเลียง
            ไปฤดูนี้ ในเดือนพฤษภาคม ระยอง จันทบุรี เป็นเทศกาลผลไม้ รถมาขาย มาซื้อผลไม้ติดตลาดกันข้างถนนมากมาย หลายร้อยเจ้า ผลไม้ที่มากที่สุดคือ ทุเรียน เงาะ ลองกอง ระกำ สละ มะไฟ มังคุด ราคาแสนถูก มังคุด ๕ กก. ๑๐๐ บาท เป็นต้น พอถึงจันทบุรี ก็แยกซ้ายเข้าถนนสาย ๓๑๗ ไปยังโป่งน้ำร้อน ปีที่แล้วสังเกตว่า หลัก กม.ถนนสายนี้ไม่ได้เขียนเลขเอาไว้ มีแต่เลขด้านข้าง เช่น บอกว่าอีก ๑๐ กม. ถึงโป่งน้ำร้อน แต่หมายเลขด้านหน้าไม่มี  เลยขาดหมายเลขอ้างอิง ที่ผมใช้บอกว่า ถึงไหน เลี้ยวตรงไหน ซึ่งปีที่แล้วก็ไม่มี ไม่ทราบลบหมายเลขหลัก กม. ทำไม ลบแล้วทำไมไม่เขียนใหม่ น่าจะเป็นหน้าที่ของกรมทาง ฯ ที่ควรจะทำ ชาวบ้านบอกว่าลบออกมา ๒ ปีแล้ว แต่ไม่เขียนใหม่ จันทบุรี - อ.โป่งน้ำร้อน ๓๙ กม. ผมเข้าที่พักเลย จึงวิ่งต่อไปอีก ๗ กม. จะถึงวัดน้ำเขียว อยู่ทางซ้ายมือ สุดเขตวัด พบป้าย สอยดาว ไฮแลนด์ ก็เลี้ยวซ้ายไปอีก ๕ กม. จึงจะถึงโรงแรมที่พัก ผ่านประตูทางเข้าไปแล้ว เกาะกลางถนนปลูกเฟื่องฟ้า เอาไว้ยาวเป็นระยะทางกว่าร้อยเมตร ออกดอกสวยงามอย่างยิ่ง ที่พักเป็นโรงแรมชั้นดี ราคาย่อมเยา ราคาห้องพักคืนละ ๑,๕๐๐ บาท รวมอาหารเช้า แต่หากเป็นข้าราชการ ลดเหลือ๑,๓๕๐ บาท ผมเลิกตีกอล์ฟมานานกว่า ๔๐ ปีแล้ว แต่ได้ถามราคากรีนฟี เอาไว้ด้วย กรีนฟีวันหยุด ๑,๕๐๐ บาท วันธรรมดา ๘๐๐ บาท เขาบอกว่า บางคนมาตีตอนเช้า แล้วพักค้าง ๑ คืน พอรุ่งขึ้นเช้ากินอาหารเช้า แล้วเช็คเอาท์ออกจากโรงแรม ตีกอล์ฟอีกตลอดวัน เสียค่าที่พักคืนเดียว ค่ากรีน ๒ วัน มีบริการ คลับเฮาส์ ที่อยู่ติดกับโรงแรม และห้องอาหารอยู่ที่คลับเฮาส์ ราคาเหมือนร้านอาหารธรรมดา ไม่ใช่ราคาโรงแรม มีจากุสซี่ ห้องอบไอน้ำ สระว่ายน้ำ จักรยานและนวดแผนโบราณ มีรถกอล์ฟบริการราคา ๖๕๐ บาท ตลอดวัน ค่าแคดดี้ ผมไม่ได้ถามราคา เพราะไม่ได้ตีกอล์ฟ สนามมีพื้นที่รวมกันประมาณ ๔,๐๐๐ ไร่ ติดทิวเขาสอยดาว อากาศจึงเย็นตั้งแต่ประมาณสี่โมงเย็น เหมือนวังน้ำเขียว กลางวันก็ไม่ร้อน ลมพัดเย็นสบาย สนามมี ๑๘ หลุม ภูมิประเทศสวยมาก ต้นไม้ตามขอบกรีน ร่มรื่นเพราะเขาไม่ใช้วิธีปลูกต้นไม้อย่างเดียว เขามีรถที่น่าจะเรียกว่า สุครีพถอนต้นรัง คือ ขุดถอนต้นไม้แล้ว ยกไปปลูกใหม่ ต้นไม้ในป่าต้นโต จึงย้ายกันอย่างรวดเร็ว ในสนามกอล์ฟ มีซุ้มขายเครื่องดื่ม และอาหารกินแก้หิว ๓ ซุ้มๆ ที่ไกลที่สุดคือ ซุ้ม ๑๒ หากเราเดินต่อไป อีกสัก ๕๐ เมตร นอกเขตสนามแล้ว จะมีธารน้ำตก หินดาษ เป็นน้ำตกที่ไม่สูงนัก น้ำไหลตกตลอดเวลา ไม่ไกลกันมีลานไทร มีต้นชา หลากพันธุ์จากทั่วโลก มาปลูกไว้เป็นชมรมของนกป่า ส่วนภายในห้องพัก กว้างขวางมาก ห้องพักทุกห้องจะมีหน้าต่าง และระเบียงที่หันออกสู่ทิวทัศน์ของสนามกอล์ฟ สวยมาก
            หากเราไปกันหลายคน พวกไม่ตีกอล์ฟ ก็มีไปด้วย พอเช้าพวกหนึ่งไปตีกอล์ฟ อีกพวกไปเที่ยว จะเข้าไปเที่ยวในตัวเมืองจันทบุรี หรือไปน้ำตกพลิ้ว น้ำตกสอยดาว ไปตลาดชายแดนไทย - กัมพูชา บ้านผักกาด หากจะข้ามไปต้องใช้พาสพอร์ท หรือขอใบผ่านแดน ไปเข้าบ่อน ถ้ากลุ่มใหญ่ถึง ๓๕ คน หรืออาจจะน้อยกว่าไม่มากนัก ให้เขาจัดอาหารบุฟเฟต์ให้คิดราคาไม่แพง มื้อเย็นหัวละ ๒๗๕ บาท มื้อกลางวัน ๑๖๕ บาท และบรรดาคอเพลงทั้งหลาย (ชอบร้อง มากกว่าฟัง) จะมีคาราโอเกาะ ให้ร้องตั้งแต่ตอนเย็นไปเลย ห้องพักมีห้องสุขาที่แสนสุขจริง ๆ เอาอ่างล้างหน้าไว้ข้างนอก ห้องอาบน้ำที่ประตูเป็นกระจกฝ้า อ่างอาบน้ำใหญ่ คนตัวโตอย่างผมลงไปแช่น้ำอุ่นได้สบาย
            ห้องอาหาร เดินไปอยู่ติดกับที่พักที่สูงเพียง ๓ ชั้น ไม่มีลิฟท์ เดินผ่านสระน้ำที่น้ำเต็มเปี่ยม ตอนมาเช็คอินเข้าพัก เขาโชว์รูปอาหารเอาไว้ บอกว่าเมนูเด็ดมี ยำผักกูด ผัดผักกูด "ซี่โครงหมาแหงน"  ผัดไทยกุ้งสด บะหมี่ฮกเกี้ยน ข้าวผัดน้ำพริกลงเรือ ข้าวอบหม้อดิน และไก่คั่วสมุนไพร
            พอไปถึงห้องอาหาร ให้เขาจัดโต๊ะที่ระเบียง ริมสระว่ายน้ำ อากาศเย็น และยังมีลมพัดเย็นอีก เดือนหงายด้วย ธรรมชาติสวยจริง ๆ สั่งอาหาร
            ผักกูดไฟแดง ผัดรสเข้มยกมากำลังร้อน สุกแล้วยังกรอบ
            ซี่โครงหมาแหงน เมนูแนะนำ ชื่อพิกล กินแล้วจึงเข้าใจเพราะอร่อยจนเนื้อหมด หมานั่งคอยจนหน้าแหงน จะได้แทะแต่ซี่โครงหมูเท่านั้น เนื้อคนกินหมด ใช้ซี่โครงหมูอ่อน บางชิ้นเคี้ยวได้สบายไม่เหลือให้หมาแทะ ชื่อภาษาฝรั่งเขาบอกไว้ว่า "Dog Watching Soft Spare ribs" มีน้ำขลุกขลิก มีผักบรอดเคอรรี่ แครอต หัวผักกาด จิ้มซ๊อสพริก ซ๊อสมะเขือเทศ แต่ผมว่าไม่จิ้มอะไรเลย อร่อยที่สุด แถมซดน้ำเสียอีก อิ่มแล้ว จานนี้ไม่เหลือแม้แต่กระดูกให้สุนัข ที่นั่งแหงนคอ รอ (บริกร บอกว่าเป็นสูตรของ GM.  นักเรียนนายร้อยเยอรมัน คิดสูตรเอง)  ราคาจานนี้ ๑๒๐ บาท
            ไก่บ้านต้มหน่อกระวาน เมืองกระวานคือ สอยดาว และโป่งน้ำร้อน เป็นสินค้าส่งออกมาตั้งแต่โบราณ จึงจัดงานกินกระวาน ที่โป่งน้ำร้อน ใส่เห็ดนางฟ้า กลิ่นกระวานหอมกรุ่น ตัวหน่อกระวานก็กินได้ ซดน้ำชื่นใจ หม้อนี้ ๙๐/๑๔๐ บาท
            ไก่คั่วสมุนไพร (๙๐ บาท)  ไก่สับมาเป็นชิ้น ทอด มีสมุนไพร เช่น กระเทียม หอม โหระพา พริกไทยอ่อน กลิ่นหอม ทอดกรอบนอก นุ่มใน รสไม่ต้องไปจิ้มอะไรอีก อย่าไปอายใคร รายการนี้ใช้มือจับแทะจะอร่อยที่สุด
            กินอาหารที่นี่ไม่เปลืองข้าว อิ่มกับ ของหวานผลไม้จานรวม
            มื้อเช้า บอกว่านักกอล์ฟ จะสั่งอาหารจานเดียว จะได้ไม่เสียเวลา เขาจะสั่งจานโปรดคือ หมูผัดหน่อนกระวานราดข้าว (๖๕ บาท)  หรือข้าวราดผัดเผ็ดทูน่าหน่อกระวาน พริกไทยอ่อน (๗๐ บาท)  เป็นอาหารจานโปรดของนักกอล์ฟ
            ขอชมสนามกอล์ฟ แห่งนี้สักนิด สนามกอล์ฟแห่งนี้ ติดอันดับท๊อปเทนของเมืองไทย ๓ ปี ติดต่อกัน  โดยการท่องเที่ยว ฯ ร่วมกับการบินไทย จ้างกลุ่ม PGA  จากนิวยอรค์มาเป็นผู้ประเมินค่า สนามกอล์ฟทั่วไทยกว่า ๒๐๐ สนาม
            ยังไปไม่ถึงงานเทศกาลทุเรียนโลก และเทศกาลกินกระวานอาหารสมุนไพร และผลไม้ของอำเภอโป่งน้ำร้อน ไม่ต้องไปตีกอล์ฟ ก็ไปพัก ไปเที่ยว ไปชิมอาหารได้

................................................................


| บน |