ทะเลหลังสวน

            ผมพาท่านไปเยี่ยมชมโครงการพัฒนาส่วนพระองค์ ที่ อ.ปะทิว จ.ชุมพร มาแล้ว และอยากให้ท่านผู้อ่านได้มีโอกาสไปเยี่ยมชมโครงการนี้ ไปดูสันทรายติดชายหาดสีทอง ที่ยาวร่วมสิบกิโลเมตร และสันทรายสูง จากชายหาดประมาณ ๓๐ เมตร มีแห่งเดียวในประเทศไทย และไปชมผลิตน้ำมันมะพร้าวที่สำนักงานของโครงการ ฯ ซึ่งน้ำมันมะพร้าวที่บีบเค้นออกมาแล้วปล่อยทิ้งไว้ข้ามคืน จะกลายเป็นน้ำมันลอยขึ้นมา ตักส่วนที่ลอยขึ้นมานี้ไปกรองอีกหลายชั้น แล้วจึงบรรจุขวด หากซื้อในกรุงเทพฯ หรือร้านระหว่างเดินทางล่องใต้ จะซื้อในราคาขวดละ ๑๐๐ บาท แต่หากซื้อที่โครงการขวดละ ๘๐ บาท ซื้อยกโหลราคาโหลละ ๕๔๐ บาท น้ำมันมะพร้าวธรรมชาตินี้ เรียกว่า "ผ่านกระบวนการบีบเย็น " มีบทบาทสูงต่อความงาม ทำให้รูปร่างได้สัดส่วน ไม่อ้วน แต่แข็งแรงผิวสวย ข้อนี้สำคัญ หมักผม ผมจะสลวยเงางาม ผมกลับมาจากชุมพรแล้ว มาค้นคว้าหาอ่านจึงทราบว่า มะพร้าวที่เอามาแกงเขียวหวานไก่นั้นมี " ประมวลสรรพคุณมะพร้าวในตำราแพทย์ไทย " มากถึง ๓๕ รายการ เรียกว่า รักษากันตั้งแต่เส้นผมลงมาจนถึงเล็บเท้า เช่น แก้รังแค รักษาน้ำกัดเท้า แก้ผื่นคัน แก้เบาหวาน แก้ปากเปื่อย รักษาลำไส้อักเสบ" บำรุงผิวพรรณ ให้ดื่มน้ำมะพร้าวอ่อนสัปดาห์ละ ๔ - ๕ ผล "แต่ละโรค หรือการบำรุงก็จะมีวิธีการแตกต่างกันออกไป แต่หากผ่านกระบวนการบีบเย็นแล้วละก็ จะลดโคเลสเตอรอล บำรุงผิว บำรุงเส้นผม ผลิตโดยเจ้าหน้าที่ในโครงการพัฒนาส่วนพระองค์ อ.ปะทิว จ.ชุมพร ล่องใต้เข้าทาง กม.๔๒๕.๘๐๐ ตามป้ายหรือถามทางชาวบ้านดู ผมเขียนไว้ละเอียดในฉบับที่แล้ว อยากให้ไปกัน
            เมื่อไปเยี่ยมชมโครงการพัฒนา ฯ แล้ว ผมไม่ได้ย้อนกลับมาทางเดิม คงเลี้ยวซ้ายเลาะชายหาดที่แสนสวย ไปผ่าน อ.ปะทิว หาดทุ่งวัวแล่น แล้วพาไปกินอาหารกลางวันที่ในเมืองชุมพร ที่อยู่ห่างจากโครงการไปอีกประมาณ ๗๕ กม. ถนนราดยางตลอดสาย พอวันรุ่งขึ้น ก็ไปพะโต๊ะ จะไปล่องแก่งที่ลือลั่น ในความงามของแม่น้ำพะโต๊ะ ต้นน้ำของแม่น้ำหลังสวน จบรายการไปคราวนี้ด้วยการไปทอดผ้าป่าที่ศาสนสถาน กองพันทหารปืนใหญ่ที่ ๒๕ ค่ายเขตอุดมศักดิ์ ซึ่งทอดผ้าป่า เมื่อปี ๒๕๔๙  ปีนี้ทำเพิ่มเติมคือ ปูกระเบื้องรอบศาสนสถาน และเนื่องในโอกาสพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เจริญพระชนมพรรษา ๘๐ พรรษา จึงวาดภาพเสด็จออกสีหบัญชร และภาพในเรื่องมหาชนกที่ผนังของศาสนสถาน วาดโดยจิตรกรท้องถิ่น ปีที่แล้วให้วาดภาพพระพุทธองค์ ประสูติ ตรัสรู้ ปฐมเทศนา และปรินิพพาน เสร็จแล้ว วาดได้สวยมาก ทอดผ้าป่าปีนี้ไม่ได้บอกบุญ ก็อนุโมทนาบุญมายังท่านผู้อ่าน ที่ปีที่แล้วช่วยผมสร้างศาสนสถาน และเมรุวัดพระขวาง อ.เมือง จ.ชุมพร
            ไปพะโต๊ะ เป็นอำเภอหนึ่งของจังหวัดชุมพร ออกเดินทางจากชุมพรตั้งต้นกันที่ สี่แยกปฐมพร (ไปตามสาย ๔ เพชรเกษม จะไประนอง) เลี้ยวซ้ายไปตามถนนสาย ๔๑ มุ่งล่องใต้ไปผ่าน อ.สวี ซึ่งที่อำเภอนี้มีแหล่งท่องเที่ยวสำคัญคือ
            วัดพระธาตุสวี  เป็นวัดเก่าแก่อยู่ริมแม่น้ำสวี ทางเข้าเวลาไปจะอยู่ทางขวามือ ก่อนข้ามสะพานข้ามแม่น้ำสวี กลับรถใต้สะพานแล้ว เลี้ยวซ้ายไปอีกประมาณ ๑ กม.  พระธาตุสวี เก่าแก่กว่า ๗๐๐ ปี บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ เจดีย์สีทอง ทรงระฆังคว่ำ
            วัดพระธาตุถ้ำขวัญเมือง  อยู่เลยวัดพระธาตุสวี เข้าไปอีก เป็นวัดธรรมยุต มีเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ บนยอดเขาเตี้ย ๆ เป็นจุดชมทิวทัศน์ของเมืองสวี
            หาดทรายรีสวี  เป็นหาดที่สวยทีสุดของสวี ห่างจาก อ.สวี ๒๔ กม.
            หาดอรุโณทัย  บ้านปากน้ำตะโก อ.ทุ่งตะโก แยกไปจากสี่แยกเขาปีป ถนน ๔๐๙๖ ไปอีก ๑๐ กม. หาดยาว ทรายขาวละเอียด น้ำทะเลใส มีศาลกรมหลวงชุมพร
            สวนนายดำ  เมื่อก่อนนี้เรียกกันว่า นายดำ น้ำหยด เพราะเป็นผู้คิดวิธีการให้น้ำต้นไม้ใหญ่ ด้วยการวงสายยางผ่านแล้ว มีจุดเปิดให้น้ำซึมออกมา หรือหยดออกมาทำให้แผ่นดินชุ่มชื้น พบกันคราวนี้ถามว่ายังให้น้ำแบบนี้อยู่หรือเปล่า บอกว่าเลิกให้วิธีน้ำหยดแล้ว สู้วิธีฉีดให้น้ำกระจายไม่ได้ สวนนายดำเหมาะสำหรับแวะขากลับ เลี้ยวซ้ายเข้าไปนิดเดียวที่ประมาณ กม.๕๔ สวนกว้างใหญ่ไพศาล มีพร้อมทั้งครัวอาหาร ของฝาก โอท๊อป พันธุไม้ เมล็ดพันธุ์ มีหมด และสำคัญสำหรับคนสูงอายุอย่างผม สวนนายดำมีส้วมสุดยอดแห่งปี อยู่บนต้นไม้ ใครจะออกแรงปีนบันไดเชือก หรือขึ้นบันไดทางด้านหลังก็ได้ สร้างสวยมีทั้งห้องชายและหญิง บอกว่าส้วมของทาร์ซาน และเจน
            ก่อนข้ามสะพานไปฝั่งอำเภอหลังสวนประมาณ กม. ๖๕ จะมีทางแยกขวาไปยังอำเภอพะโต๊ะ และถนนสาย ๔๐๐๖ นี้จะไปได้ถึงบ้านราชกรูด จ.ระนอง ระยะทางจากสามแยกที่เลี้ยวขวามาประมาณ ๔๔ กม. จะถึงตัวอำเภอพะโต๊ะ ติดกับ อบต.พะโต๊ะ มีร้านอาหารตามสั่ง ยังไม่เคยชิม แต่ผู้ที่ชิมแล้วบอกว่า ไก่ตุ๋นน้ำแดงอร่อยนัก ตั้งใจจะไปล่องแพ ซึ่งมีทั้งแพไม้ไผ่ และแพที่ต่อด้วยท่อ พี วี ซี แต่ปรากฎว่า พอไปถึง ทางทัวร์บอกว่างด ล่องแพชั่วคราว เพราะมีประกาศห้าม ฝรั่งไปตายในถ้ำลอดที่เขาสก เพราะน้ำป่า เลยประกาศปิดชั่วคราวไปหลายแห่ง ฤดูที่เหมาะสำหรับล่องแพคือ ระหว่างเดือนมกราคม - เมษายน ผมจะไปใหม่
            ผมไม่ได้ล่องแพ แต่ก็วิ่งรถเข้าไปดูลำน้ำพะโต๊ะ ไปดูท่าที่จะลงแพ น้ำกำลังไหลเชี่ยวกราก แต่สองข้างทาง และสองฟากของลำน้ำนั้นสวยมาก ร่มรื่นไปตลอดทาง รถกระบะจะไปสบาย ทางเข้าหมู่บ้านต่อตั้งเป็น หมู่บ้านโอท๊อป อยู่เลยอำเภอแล้วเลี้ยวซ้ายเข้าไป ท่าล่องแพก็อยู่ในเส้นทางนี้ ระยะทางล่องแพ ประมาณ ๔ กม. เที่ยวพะโต๊ะ ไปเที่ยวถ้ำ เที่ยวน้ำตก ทัวร์ป่า และล่องแพ เสียดายไม่ได้ล่องแพ และกินอาหาร ซึ่งเขาบอกว่ามีอาหารท้องถิ่น เช่น แกงส้มหยวกกล้วย กับหมูสามชั้น แกงเลียง ผักรวมมิตร ผักกูดราดกะทิสด ไข่ตุ๋นในใบตอง ข้าวหุงในกระบอกไม้ไผ่ ผมยังไม่ได้ชิม
            กลับออกมาจากพะโต๊ะ พอถึงถนนสาย ๔๑ ก็เลี้ยวขวาจะเห็นป้ายบอกว่า ไปปากน้ำหลังสวนอยู่ทางซ้ายยังไม่เข้าทางนี้ ให้วิ่งต่อไปข้ามสะพานไปสัก ๕๐๐ เมตร จะถึงสี่แยกมีไฟสัญญาณ เลี้ยวซ้ายไปตามถนน ๔๐๒ (เลี้ยวขวา ๓ กม. จะไปสวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ - ชุมพร) วิ่งตรงไปประมาณ ๙ กม. จะชนชายหาด แต่ให้เลี้ยวซ้ายก่อนถึงชายหาดที่สี่แยก "หัวกรัง" เลี้ยวซ้ายเข้าถนนหัวกรัง แล้วไปเลี้ยวขวาเข้าซอยหัวกรัง ๔ วิ่งไปชนทะเล ผมไปวันเสาร์เห็นมีตลาดนัดชายทะเลด้วย หาดแห่งนี้เรียกว่า หาดแหลมสน มีหาดทรายขาวสะอาด หาดกว้าง เหมาะแก่การพักผ่อน มาเล่นน้ำ มีร้านอาหาร  ติดชายหาดคือ เรือหลวงจักรีนฤเบศร์จำลอง แต่ลำใหญ่โตมาก คนขึ้นไปชมได้ ทางท้ายเรือมีทางเข้าไปในเรือ มีศาลของเสด็จในกรม ฯ อยู่ในเรือลำนี้ เลยร้านริมเลไปคือ วัดแหลมสน อยู่หน้าสถานีตำรวจ หน้าวัดมีพระพุทธรูปสีขาวองค์ใหญ่ ประทับนั่งบนดอกบัว นาม พระพุทธพรชัยมงคลมุนี ด้านหน้ามีพ่อปู่พญานาคทอง และท่านย่าพญานาคเงิน
            ขอเริ่มต้นทิศทางไปโรงแรมใหม่ เมื่อเลี้ยวเข้ามาจากถนนสาย ๔๑ ตรงมาทางหาดแหลมสน ๙ กม. จนถึงสี่แยก เลี้ยวซ้ายเข้าถนนหัวกรัง วิ่งตรงมาประมาณ ๒ กม. ทางเข้าโรงแรมจะอยู่ทางขวามือ ติดชายทะเล ที่ชายหาดจะสวยมาก เวลาน้ำลงหาดจะกว้าง และบางตอนจะกักน้ำเอาไว้เหมือนเป็นลากูน ห้องอาหารอยู่ริมทะเล จะนั่งในห้องแอร์ หรือนั่งที่ระเบียง แต่นั่งที่ระเบียงจะสบายกว่า อากาศก็ไม่ร้อน เขาบอกว่า มาชิมอาหารที่นี่จะอร่อยกับอาหารทะเล ท่ามกลางเสน่ห์ทะเลไทย
            พาชมสถานที่ของเขาเสียก่อน บริเวณรีสอร์ทปลูกต้นไม้ ต้นหญ้าสวยมาก บ้านพักมีหลายขนาด หลังเล็ก ๆ น่าเอ็นดู ก็มี หลังใหญ่ขนาด ๒ - ๓ ห้องนอน ก็มี ราคาที่เป็นราคาเต็มมีตั้งแต่ ๕๐๐ ไปจนถึงหลังละ ๒,๕๐๐ บาท เห็นสถานที่เห็นบ้านพัก และการจัดระเบียบแล้ว ขออาฆาตเอาไว้ก่อนอีก ๒ - ๓ เดือน ผมจะต้องไปตรวจภาพวาดที่ศาสนสถาน ในค่ายเขตอุดมศักดิ์ จะไปพักค้างคืน นอนให้อิ่ม กินอาหารทะเลกันให้อ้วนเลยทีเดียว และจะได้ไปเที่ยว สวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ สวนสวยที่เป็นภูเขาอยู่ริมน้ำ และงามด้วยไม้ดอกไม้ประดับ ไปศาลเจ้าแม่กวนอิม ไปหมู่บ้านชาวประมง ถ้ำเขาเงิน ถ้ำเขาตะเกียบ จะไปนอนสัก ๒ คืน
            อาหารจานเด็ด แต่ผมมาทราบทีหลัง เลยไม่ได้สั่งคือ แกงเลียงยอดมะพร้าว
            กุ้งแชบ๊วย จานร้อน กุ้งตัวโตพอประมาณ เนื้อแน่น สดจริง ๆ
            ปลาดุกทะเลผัดฉ่า เผ็ดนิดเดียว ผัดแบบใต้ ใส่ขมิ้นกลิ่นหอม กินกับข้าวสวย
            กุ้งอบวุ้นเส้น กุ้งสด ทำอะไรก็อร่อยไปหมด วุ้นเส้น ๆ เหนียว นุ่ม
            ต้มส้มปลากระบอก ปลาตัวโต รสแบบภาคกลาง ซดชื่นใจ
            น้ำพริกไข่ปู อย่าโดดข้ามไปเป็นอันขาด มีทั้งผักสด และผักลวก ชะอมชุบไข่ทอด ผักกาดดอง ใบเหลียง ผักกะเฉด (ลวก) ถั่วฝักยาว แตงกวา ถั่วพู ข้าวโพดอ่อน ความอร่อยนั้นให้สั่งอาหารมาจานนี้จานเดียว ก็กินข้าวจนพุงกางแล้ว
            ผัดเผ็ดหมูป่า เผ็ดนิด ๆ ผัดใส่ขมิ้น หมูป่าแท้แน่นอน เคี้ยวหนังกรุ๊บ ๆ
            เมื่อเริ่มกินอาหารรสใต้ของที่นี่ เริ่มต้นเผ็ดนิดเดียว แต่พอกินไป ชิมไป ความเผ็ดร้อนจะค่อย ๆ ทวีขึ้น ๆ แต่เป็นความเผ็ดอร่อยที่หารสนี้ กินยากนัก
            ปิดท้ายเสียด้วย ไอศคริมเผือก สีม่วง ความเผ็ดหายไปทันที


............................................

| บน |