
กระบวนพยุหยาตรา
| ย้อนกลับ | หน้าต่อไป |
กระบวนพยุหยาตราเลียบพระนคร คือ กระบวนพระเกียรติยศแห่งจอมทัพไทยในสมัยโบราณ ที่ยิ่งด้วยพระบรมเดชานุภาพแห่งนักรบผู้ยิ่งใหญ่อันได้เฉลิมพระนาม "สมเด็จพระมหากษัตราธิราช" สืบสันติวงศ์เป็นองค์พระประมุขของประเทศ
หลังพระราชพิธีบรมราชาภิเศก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินพยุหยาตราสถลมารค
1 วัน และ ชลมารค 1 วัน ซึ่งเรียกว่า เสด็จพระราชดำเนินพยุหยาตราเลียบพระนคร เพื่อให้อาณาประชาราษฎรได้เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทแสดงความจงรักภักดี
การเสด็จพระราชดำเนินโดย ขบวนพยุหยาตราใหญ่ และ
กระบวนพยุหยาตราน้อย มีทั้งที่เป็นขบวนพยุหยาตราสถลมารค
และ ชลมารค
กระบวนพยุหยาตราสถลมารค 4 กระบวน ประกอบด้วยกระบวนพยุหยาตราใหญ่สถลมารค กระบวนพยุหยาตราน้อยสถลมารค
กระบวนราบใหญ่ และ กระบวนราบน้อย
กระบวนพยุหยาตราชลมารค 5 กระบวน ประกอบด้วยกระบวนพยุหยาตราชลมารคใหญ่ กระบวนพยุหยาตราน้อยชลมารค
กระบวนราบใหญ่ทางเรือ กระบวนราบน้อยทางเรือ และกระบวนราบย่อ
กระบวนพยุหยาตราสถลมารค
ในพระราชพิธีบรมราชาภิเษกพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้จัดเป็นกระบวนราบใหญ่ ทรงประทับที่นั่งราชยานพุดตานทอง เสด็จพระราชดำเนินจากเกยหน้าพระทวารเทเวศน์รักษา พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย ไปประกาศพระองค์เป็น พุทธศาสนูปถัมภก ณ พระอุโบสถ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม และถวายบังคมพระบรมรูปพระบุรพมหากษัตราธิราชเจ้าแห่งพระบรมราชจักรีวงศ์
ณ ปราสาทพระเทพบิดร
ในงานพระราชพิธีเฉลิมพระชนม์พรรษาครบ 3 รอบ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้เสด็จโดยกระบวนพยุหยาตราใหญ่สถลมารค
ตามแบบโบราณราชประเพณี เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม พุทธศักราช 2506
กระบวนพยุหยาตราชลมารค
ในปีพุทธศักราช 2503 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้โปรดเกล้า ฯ ให้จัดพระราชพิธีถวายผ้าพระกฐิน โดยขบวนพยุหยาตราชลมารค เพื่อนำผ้าพระกฐินไปถวาย ณ วัดอรุณราชวรารามมหาวิหาร เป็นครั้งแรก
ในการพระราชพิธีสมโภชน์กรุงรัตนโกสินทร์ 200 ปี เมื่อปี พ.ศ. 2525 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้เสด็จพระราชดำเนิน โดยขบวนพยุหยาตราใหญ่ชลมารค
ไปทรงบวงสรวงสมเด็จพระบูรพมหากษัตราธิราชเจ้า ได้มีการแก้ไขปรับปรุง รูปแบบริ้วขบวนเรือใหม่
มีลักษณะงามสง่าดุจดาวล้อมเดือน
พระราชพิธีถือน้ำพระพิพัฒน์สัตยา
พระราชพิธีถือน้ำพระพิพัฒน์สัตยา หรือพระราชพิธีศรีสัจจปาลกาล เป็นพระราชพิธีใหญ่สำหรับแผ่นดินมาแต่โบราณกาล
และได้ยกเลิกไปเมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลงการปกครองเมื่อปี พ.ศ. 2475 ต่อมาได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ
ให้ตั้งพระราชพิธีนี้ขึ้นอีก เมื่อวันที่ 24 และ 25 มีนาคม พุทธศักราช 2512
ผู้ที่ถือน้ำพระพิพัฒน์สัตยาในพระราชพิธีครั้งนี้ เฉพาะผู้ที่เป็นสมาชิกเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีศักดิ์รามาธิบดีเท่านั้น
และเรียกว่า พระราชพิธีพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีศักดิ์รามาธิบดี
ซึ่งเป็นการผนวกการพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีศักดิ์รามาธิบดี
กับถือน้ำพระพิพัฒน์สัตยา เข้าด้วยกัน
พระราชพิธีถือน้ำพระพิพัฒน์สัตยา เป็นพระราชพิธีที่รวมทั้ง พิธีทางพุทธศาสนาและศาสนาพราหมณ์
ลำดับการพระราชพิธีเป็นดังนี้
- ทำน้ำพระพุทธมนต์
- ทำน้ำพระพุทธมนต์ให้เป็นน้ำพระพิพัฒน์สัตยา (น้ำชำระพระแสง)
- ดื่มน้ำพระพิพัฒน์สัตยา และสาบานตน
ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ประกอบการพระราชพิธีนี้ในพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม
น้ำชำระพระแสงนี้แต่เดิม พระมหากษัตริย์มิได้ทรงเสวย ต่อมาพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้า ฯ
ให้เชิญขึ้นทูลเกล้า ฯ ถวายเพื่อเสวยก่อน แล้วจึงได้แจกน้ำชำระพระแสงในหม้อเงินทั้งปวง ถวายพระบรมวงศานุวงศ์
และข้าราชการดื่ม
| ย้อนกลับ | หน้าต่อไป | บน |
