| หน้าแรก | ย้อนกลับ |

หนังสือกราบบังคมทูลความเห็นจัดการเปลี่ยนแปลงราชการแผ่นดิน ร.ศ.๑๐๓ (พ.ศ.๒๔๒๗)
            เหตุทั้งปวงที่มีประสงค์และสามารถกราบบังคมทูล  ด้วยเห็นว่า เป็นเวลาที่อันตรายจะมาถึงกรุงสยามได้ด้วยเหตุภัยต่าง ๆ ซึ่งถ้าไม่ได้กราบบังคมทูล ฯ ตามที่รู้เห็นแล้วก็เป็นการขาดกตัญญู และน้ำพระพัฒน์ทั้งความรักใคร่ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้า ฯ กับทั้งพระราชอาณาเขต
            เรื่องที่จะกราบบังคมทูล ฯ มีอยู่สามข้อเป็นประธาน คือ
                อันตรายซึ่งจะมีมาถึงกรุงสยาม  ด้วยความปกครองของกรุงสยามอย่างเช่นมีอยู่ในปัตยุบันจะเป็นไปได้ด้วยเหตุต่าง ๆ ดังเช่นมีตัวอย่างของชาติที่มีอำนาจใหญ่ ได้ประพฤติต่อชาติซึ่งหาอำนาจป้องกันปกครองมิได้
                ทางที่จะป้องกันอันตรายได้  คือ การที่จะรักษาบ้านเมืองให้พ้นอันตรายที่จะเกิดขึ้นได้ด้วยการปกครองบ้านเมืองอย่างที่มีอยู่ในปัตยุบันนี้ โดยทางยุติธรรมฤาอยุติธรรมของศัตรูก็ดี ต้องอาศัยความเปลี่ยนแปลงในทางทะนุบำรุงรักษาบ้านเมือง ตามทางที่ญี่ปุ่นได้เดินทางยุโรปมาแล้วแลซึ่งประเทศทั้งปวงที่มีศิวิไลซ์ นับกันว่าเป็นทางอันเดียวที่จะรักษาบ้านเมืองได้
                ทางป้องกันนั้นจะสำเร็จมิสำเร็จอาศัยสิ่งอันใด  ที่จะจัดการตามข้อสองให้สำเร็จได้จริงนั้นอาจเป็นไปได้อย่างเดียว แต่จะตั้งพระราชหฤทัยว่าสรรพสิ่งทั้งปวง ต้องจัดให้เป็นไปโดยจริงอย่างอุกฤษฎ์ ทุกสิ่งทุกประการไม่เว้นว่าง
            อันตราย
                ว่าด้วยอันตรายทั้งปวงซึ่งจะมาถึงกรุงสยามด้วยชาติยุโรปจะเบียดเบียน และยกขึ้นอ้างว่าเป็นยุติธรรมด้วยเหตุใด  ภัยอันตรายที่จะมีมานั้น ต้องมาแต่ข้างนอกพระราชอาณาเขต และจะมาจากประเทศที่มีอำนาจมากกว่ากรุงสยาม มีประเทศหนึ่งประเทศใดในยุโรปเป็นต้น ชาติยุโรปชาติหนึ่งชาติใด จะต้องประสงค์เมืองหนึ่งเมืองใดเป็นเมืองขึ้นแล้ว ต้องมีทางที่เขาเรียกว่ายุติธรรมที่จะเอาเมืองนั้น ๆ ได้ ทางธรรมดาที่ชาติยุโรปใช้อยู่นั้น
                    ๑. อ้างความกรุณามนุษย์  อ้างว่าเป็นธรรมดา ผู้มีความกรุณาต่อมนุษย์ด้วยกันทั่วไป ต้องประสงค์ที่จะให้มนุษย์มีความสุขความเจริญ และได้รับความยุติธรรมเสมอทั่วกัน
                    ๒. อ้างความเจริญของประเทศยุโรปแลความไม่เจริญของเอเซีย  แล้วจึงเห็นต่อไปว่า ใช่แต่จะเป็นการกีดขวางความเจริญของเอเซียเท่านั้น ไม่แต่เป็นทางกีดขวางของความเจริญแห่งประเทศที่เดินทางศิวิไลซ์ด้วย จึงเป็นช่องให้ประเทศหนึ่งประเทศใดในยุโรปคิดเข้าเป็นผู้ปกครองจัดการบ้านเมืองให้เจริญ เพื่อจะได้ประโยชน์ทั่วกัน
                    ๓. อ้างว่าโจรผู้ร้ายและการบำรุงรักษาไม่เรียบร้อย ทำให้เกิดอันตรายถึงชาวยุโรปด้วย  ยกว่ารัฐบาลนั้น ๆ จัดการบ้านเมืองไม่เรียบร้อย จึงมีโจรผู้ร้ายทำอันตรายต่อชีวิต และทรัพย์สมบัติทั้งปวง อันตรายนั้นมาถึงชาวยุโรป ซึ่งทำผลประโยชน์อยู่ในประเทศนั้นด้วย จึงเป็นช่องทางอันหนึ่งของชาวยุโรป ที่จะเข้าจัดการบ้านเมืองนั้นได้ เพื่อประโยชน์ที่จะให้ได้ความสุขทั่วไปทั้งชาวยุโรปและคนในชาตินั้น ๆ และทั้งจะกำจัดคนพาลด้วย
                    ๔. อ้างการที่ไม่เปิดบ้านเมืองให้เกิดผลต่อมนุษย์ทั่วกันเป็นการเหนี่ยวความเจริญของยุโรป  ชาติใด ๆ ในยุโรปซึ่งมีความเจริญใหญ่โตมาแล้ว และจะตั้งอยู่ได้ต่อไปก็ดี ต้องอาศัยการค้าขายเป็นกำลัง เหตุฉะนั้นบ้านเมืองใด ซึ่งมีสินค้าและทรัพย์แผ่นดิน แต่หาได้เปิดและคิดให้เป็นทางค้าขาย เพื่อเป็นกำลัง และประโยชน์ต่อตน และท่านไม่ก็เป็นช่องทางที่ชาวยุโรปจะมาเปิดบ้านเมืองให้เป็นทางค้าขาย และทำบ่อแร่บ่อทองให้เป็นประโยชน์ขึ้น
                รวมทางซึ่งประกอบสี่ข้อข้างบนนี้ลงความอย่างใด  แต่ทางทั้งสี่ข้อนี้ต้องมารวมกันอยู่ในข้อเดียวว่า ทางให้ความสุขแก่มนุษย์เสมอกัน อ้างความเจริญของประเทศยุโรป ทางระงับโจรผู้ร้ายหรือเปิดทางค้าขาย ต้องประกอบไปด้วยการปกครองรักษาแผ่นดินของเมืองนั้น ๆ ทั้งสิ้น เมื่อเมืองใดมีแผ่นดิน มีทรัพย์ในแผ่นดิน และราษฎรอยู่ในแผ่นดินนั้นตามสมควร แต่เมืองนั้นไม่มีอำนาจ และความคิดที่จะจัดแจงปกครองบ้านเมืองของตน ให้เป็นประโยชน์แก่ตน และท่านได้แล้ว ก็ไม่ควรที่จะยึดเหนี่ยวเอาแผ่นดิน และทรัพย์ที่เป็นของสำหรับให้มนุษย์ทั้งโลกได้สวมประโยชน์ และความสุขในนั้นด้วยให้เสียไปเปล่า ซึ่งยุโรปคิดดังนี้เป็นการถูกโดยทางยุติธรรมของโลกอย่างยิ่ง
                    ยุติธรรมของยุโรปเสมอยุติธรรมในกฎหมายไทย  เหมือนหนึ่งกฎหมายไทยมีอยู่ข้อ ๑ ว่า ถ้าผู้จับจองไร่นาไว้ มิอาจสามารถที่จะทำให้เป็นผลประโยชน์ได้ เมื่อพ้นพระราชกำหนดแล้วผู้หนึ่งผู้ใดจะมาจับจองไปทำให้เป็นประโยชน์ ผู้ที่เป็นเจ้าของเดิมก็ไม่มีอำนาจที่จะขัดขืนได้ฉันใด การที่ประเทศยุโรปได้เที่ยวครอบครองบ้านเมืองน้อยใหญ่ในประเทศเอเซีย มีโกโลนี (อาณานิคม) ของอังกฤษและฝรั่งเศสเป็นต้น และการที่เข้าครอบครองนั้นได้ด้วยสาเหตุศาลหรืออย่างใด ๆ ก็ดี ไม่มีชาติใดว่ากล่าวติเตียนว่าเป็นอยุยติธรรมไม่ เพราะสาเหตุนั้นจะมีพอหรือไม่ที่จะพาลรบ หรือเข้าครอบครองด้วยอุบายอย่างใดก็ดี แต่ความป่า
                    ความประสงค์อันประเสริฐของยุโรปสามารถปิดทางป้องกันมิให้ยุโรปเบียดเบียนเอเซียได้  แต่ความประสงค์ของยุโรปนั้นมีอยู่อย่างเดียว แต่ที่จะบำรุงความเจริญของโลกให้มนุษย์มีความสุขเสมอทั่วกัน
                ป้องกันไม่ให้ยุโรปเบียดเบียนเอเซียได้  แต่ประเทศที่ต้องกดขี่อยู่ในใต้ปกครองของชาวยุโรปนั้น ก็ยังคิดเห็นๆ ไปต่าง ๆ ว่า ยุโรปทำการข่มเหงเพราะว่ามีอำนาจน้อย แต่เมื่อได้พิเคราะห์ดูโดยละเอียดแล้วก็จะเห็นได้ว่า การที่ทำนั้นเป็นทางเมตตากรุณา แต่เพื่อประโยชน์และความสุขของตน และราษฎรในเมืองซึ่งอยู่ในการปกครองด้วย
                ข้อความในหนังสือพิมพ์ที่ประเทศยุโรปกดขี่เข้าครอบครองประเทศเอเซีย  ในทางยุโรปเดิม และความคิดเห็นของชาวยุโรป ในการที่เขาเห็นควรจะเข้าปกครองบ้านเมืองใด ๆ ซึ่งเห็นว่าบำรุงรักษาตัวเองไม่ได้
                เหตุใดชาติยุโรปจึงเข้ากันในทางเบียดเบียนชาติเอเซีย  ชาติยุโรปอิ่น ๆ ก็พลอยเห็นดี หาได้คิดที่จะช่วยชาติเล็กน้อยไม่ เพราะว่าการที่ชาติใดจะไปช่วยนั้น เขาต้องมีประโยชน์อย่างหนึ่งหรือเมื่อชาติใดไปข่มเหงเมืองเล็กน้อย ประโยชน์ของเขาที่ได้อยู่อาศัยพลอยเสียไปด้วยหนึ่ง แต่ทั้งสองข้อนี้ชาติที่จะช่วยยังต้องคิดเหมือนกันว่า เมืองที่กำลังน้อยนั้นตั้งอยู่ตามนิสัยประเทศเอเซียแล้ว เขาจะมีผลประโยชน์มากน้อยเท่าใด และถ้าเขาอยู่ในใต้ปกครองของชาติยุโรปชาติหนึ่งชาติใด ผลประโยชน์ของเขาจะประมูลขึ้นหรือไม่ เมื่อคิดไปดังนี้แล้ว ความเห็นของชาวยุโรปต่าง ๆ  ก็พร้อมเพรียงกันว่า ชาติเล็กน้อยนั้น ถึงชาติใด ๆ ในยุโรป จะมีผลประโยชน์ในการค้าขาย หรือสิ่งหนึ่งสิ่งใดมากอยู่แล้วก็ดี แต่ให้อยู่ในความปกครองของชาติหนึ่งชาติใดในยุโรป แล้วชาติทั้งปวง คงจะต้องได้ผลประโยชน์มากขึ้นเป็นแน่ การที่เขาคิดดังนั้นก็เพราะการปกครองรักษาของชาติเล็กนั้นไม่ดีพอ หรือมิอาจสู้ความปกครองของชาติยุโรป ที่จะทำให้แก่ชาติในใต้บังคับของเขาได้
                การปกครองกรุงสยามทุกวันนี้เป็นช่องที่จะให้ยุโรปเบียดเบียน  เห็นอย่างเดียวว่ากรุงสยามที่มีการปกครองอย่างทุกวันนี้ เป็นช่องทางอันใหญ่ ที่ชาติหนึ่งชาติใดจะมารบเอาหรือปกครองด้วยอุบายทางหนึ่งทางใด จะมารบเขาหรือปกครองด้วยอุบายทางหนึ่งทางใด ดังมีตัวอย่างแล้วนั้น
                อันตรายซึ่งจะเกิดขึ้นด้วยฝรั่งมีดินแดนใกล้กรุงสยามด้วยเหตุใด  ในเวลาทุกวันนี้ฝรั่งเศสได้ไปใกล้กรุงสยามมาก และคิดจะขึ้นมาเวลาใด ก็อาจสามารถที่จะทำได้ในเวลานั้นเอง เพราะการที่ฝรั่งเศสได้ทำต่อประเทศต่าง ๆ นั้นมีช่องทางที่กรุงสยามพอที่เขาจะจับสาเหตุเอาได้เหมือนกัน อันตรายนั้นเป็นการใกล้กรุงสยามอย่างที่สุดจนมีหนังสือพิมพ์ออกความเห็นกะเวลาทำนายว่าไม่ช้าใน ๕ ปี คงจะต้องเกิดเหตุการณ์ กรุงสยามถ้าจะคิดรักษาแล้ว ต้องเป็นการจำเป็นที่จะนิ่งอยู่ไม่ได้เลย
            การแก้ไข
                ว่าด้วยการแก้ไขป้องกันอันตราย  จากอันตรายดังกล่าวแล้วนั้น คงจะมีการแก้ไขรักษากรุงสยามให้พ้นอันตราย
                ทางป้องกันซึ่งได้คิดแล้วไม่เป็นทางป้องกันได้จริงเพราะเหตุใด  ทางแก้ไขต่าง ๆ และได้เดินทางนั้นซึ่งเห็นว่าเป็นที่พ้นภัยอันตรายได้ แต่ทางเหล่านั้นก็ดี หรือคิดกันอยู่แต่ว่าจะเดินต่อไป เห็นว่าไม่เป็นทางที่ป้องกันอันตรายได้จริงเลย
                ว่าด้วยทางป้องกันซึ่งได้คิดแล้วใช้ไม่ได้อย่างใด  เปรียบเทียบในทางดังกล่าวนั้น
                    ๑. ทางอ่อนหวานอะลุ้มอล่วยใช้ไม่ได้อย่างใด  ทางมีความอ่อนหวานที่ยอมอะลุ้มอล่วยเมื่อเวลาศัตรูมาจับสาเหตุจับข้อที่จะเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย เพื่อประสงค์ให้ศัตรูมีความสงสาร ผ่อนผันให้บ้างพอสำเร็จตลอดไปได้เป็นเมื่อเป็นคราว และโดยถ้าจะเสียพระราชอาณาเขตบ้าง หรือค่าปรับไหมก็ยอม แต่ความคิดอ่อนน้อมยินยอมอันนี้เป็นความคิดผิด และใช้ไม่ได้ ด้วยตัวอย่างซึ่งชาติมีอำนาจได้ประพฤติแก่ชาติมหาอำนาจมิได้
                        - ญี่ปุ่นได้เดินทางอ่อนหวานผิดไปอย่างใด  ความคิดอันอ่อนหวานอันนี้ ญี่ปุ่นได้ใช้มาช้านานแล้ว แต่เป็นการที่เขาเห็นว่าใช้ไม่ได้อีกต่อไป เพราะได้เห็นชัดในการอ่อนน้อมอะลุ้มอล่วยตามไปนั้นมีแต่จะเสียทุนเข้าไปทุกครั้งทุกคราว และเพื่อประสงค์ที่จะให้เขาสงสารนั้นก็เป็นประกันได้แต่เพียงผ่อนสั้นให้เป็นยาว และต่อไปสาเหตุเก่าที่แล้วไปนั้น ก็คงกลับมาให้เป็นข้อเป็นเหตุเดิมร่ำไป จนญี่ปุ่นเห็นจริงใจว่าการที่จะให้ยุโรปสงสารนั้นได้อย่างเดียว แต่ที่จะจัดการบ้านเมืองของตน ให้สมควรที่เขาจะสงสาร และเกรงใจได้ญี่ปุ่นจึงมิได้คิดหวังใจในการอุดหนุน หรือความสงสารของประเทศยุโรปเลย ตั้งใจแต่จะจัดการให้เป็นยุติธรรม และเอาข้อยุติธรรมนั้น เป็นเครื่องกดขี่ให้ประเทศยุโรปนับถือ ยอมให้มีทางได้เสียเสมอกัน จนในเร็ว ๆ นี้จะได้ใช้กฎหมายของญี่ปุ่น ให้ชาวยุโรปที่อยู่ในเมืองนั้นปฏิบัติตาม เหมือนดังราษฎรญี่ปุ่นเอง เห็นว่าเมืองใด ๆ ที่มีอำนาจน้อยย่อมต้องใช้ความอ่อนหวานนี้ แต่เมืองนั้น ๆ เมื่อเวลาที่ชาติมีอำนาจใหญ่จะต้องประสงค์แล้ว ทางอ่อนหวานยินยอมเท่านั้น ก็ไม่ปรากฏว่าทำให้บ้านเมืองรอดจากเป็นข้าได้
                    ๒. ทางที่จะป้องกันด้วยกำลังทหาร  ทางที่จะต่อสู้ด้วยกำลังทหารเมื่อเวลาที่ภัยอันตรายภายนอกมาถึงนั้นเป็นทางที่ใช้ไม่ได้เหมือนกัน
                        - เป็นทางผิด ป้องกันไม่ได้ด้วยเหตุใด  ได้สังเกตตามพงศาวดารยุโรปที่มีมา ยังไม่พบว่าชาวยุโรปรบชาติต่ำกว่า ซึ่งเป็นชาติในเอเซียแล้วปราชัยแก่เอเชียนั้น ๆ ชาติยุโรปมีแต่ได้ชัยชนะและอาจสามารถที่จะทำสัญญาเอาตามความประสงค์ของเขาในตอนปลายได้ และเมื่อชาติยุโรปได้รบเมืองใดชนะแล้ว ก็ย่อมคิดเอาเงินค่าที่ใช้ในการรบที่เขาต้องเสียไปนั้นแก่ชาติที่แพ้จนเหลือเกินที่จะนึกว่าชาติยุโรปที่ไหน จะมีรบเราเพราะเขากลัวเสียเงินนั้น คิดดังนี้ไม่ถูก เพราะเขารบครั้งใด เงินที่เสียไปก็ได้คืน ยังซ้ำกลับคิดเอากำไรทุกครั้ง เขาจะต้องกลัวเสียเงินทำไม
                        - ชาวยุโรปเห็นชัยชนะของชาติเอเชียต่อชาติยุโรปเหมือนกำลังทำให้ชาติเอเชียนั้นเดินถอยหลังในทางประเสร็จไป  ความคิดที่ได้พูดจากันในยุโรปมีอยู่เสมอว่า ถ้าชาติยุโรปชาติใดได้ไปรบแล้ว พ่ายแพ้แก่ชาติน้อย เป็นความเสียอันใหญ่ ดังไปทำให้ชาตินั่นกลับเดินถอยหลัง ในความเจริญรุ่งเรืองในบ้านเมืองนั้น ทั้งเป็นการเสียประโยชน์ และความป้องกันอันตรายของชาติยุโรปและอื่น ๆ ด้วย ถ้ายุโรปได้รบแล้วควรต้องเอาชัยชนะให้ได้ และเมื่อได้เมืองนั้น ๆ มาแล้ว ก็อาจสามารถที่จะทะนุบำรุงให้เจริญขึ้นได้
                        จะว่าโดยละเอียดขึ้นอีก ที่สุดไทยจะมีทหารที่จะต่อสู้ได้อย่างมากเพียง ๕๐,๐๐๐ และการที่จะจัดทหารให้ได้ ๕๐,๐๐๐ ก็ต้องออกพระราชทรัพย์ซื้ออาวุธต่าง ๆ และเครื่องสำหรับทหารพร้อมทุกสิ่งทุกอย่าง เงินนี้ได้คิดถัวให้ได้จริงเหมือนทหารในยุโรปแล้ว ก็เป็นเงิน ๕๐,๐๐๐ ชั่ง อย่างน้อยที่จะต้องเสียในชั้นต้น การที่จะจัดทหารให้สำเร็จขึ้นได้มากถึง ๕๐,๐๐๐ นั่นจะต้องเสียเวลาหลายปี
                        - จัดทหารไม่เสร็จทันการด้วยเหตุใด  อันตรายนั้นใกล้กรุงสยามที่สุด เวลาที่จะรอจัดทหารให้ถึง ๕๐,๐๐๐ หาพอกันกับเวลาที่อันตรายจะมาถึงไม่ โดยถ้ามีเวลาพอหรือจะรอไปให้จวนตัวอีกแล้ว จึงจะคิดจัดนั้น การหาซื้อเครื่องศัตราวุธมิใช่เป็นการเร็ว ต้องเสียเวลามากเหมือนกัน และถ้าเมืองหนึ่งเมืองใดในยุโรป หรืออเมริกาทราบข่าวว่า เมืองไมตรีของเขาจะทำสงครามกับไทย และทั้งเขาจะคิดอิจฉาริษยากันเองก็ดี รัฐบาลไทยคงจะได้ความลำบากมาก ที่จะซื้ออาวุธและเครื่องต่าง ๆ สำหรับทหาร ฯลฯ
                        - เหตุใดถ้ากรุงสยามมีชัยชนะแล้วยังรักษาต่อไปไม่ตลอดได้  ฯลฯ  เห็นว่าถึงเราจะมีชัยชนะแก่เขาก็ดี ก็เป็นจะชนะได้เป็นคราว ฯลฯ
                        - ถึงไทยจะรักษาด้วยกำลังทหารสำเร็จ ก็ไม่เป็นการเจริญต่อบ้านเมืองได้ด้วยเหตุใด  เห็นด้วยกับความเห็นของชาวยุโรปว่า จะเป็นการเดินถอยหลังของความเจริญแห่งบ้านเมือง เพราะว่าไทยเมื่อมีชัยชนะแก่ชาติยุโรปแล้ว ความประสงค์อันดีอันยุตธรรมของยุโรปเป็นต้น การเปิดสินค้า การระงับโจรร้าย และทั้งการให้ความสุขแก่มนุษย์ให้เสมอทั่วกัน ฯลฯ  เหล่านี้ไม่อาจจะเป็นได้ โดยจริงที่จะเป็นประโยชน์แก่บ้านเมือง เห็นว่าขนบธรรมเนียมของไทยทุกวันนี้ อย่างดีก็มากที่ผิดทั้งทางโลกทางธรรมแท้ก็มี และถ้าธรรมเนียมชั่วเหล่านี้มิได้เปลี่ยนแปลง และชาติยุโรปจะไปบังคับให้เปลี่ยนแปลง ถ้าไทยขัดขืนได้ด้วยกำลังทหาร แล้วธรรมเนียมนั้นก็คงยังตั้งอยู่เสมอ และเมื่อตั้งอยู่ตราบใด จำเป็นต้องกีดขวางความเจริญของกรุงสยามและราษฎรทั่วไป ฯลฯ
                    ๓. ความเห็นในทางอาศัยภูมิประเทศของกรุงสยามเป็นที่ป้องกันอยู่แล้ว ไม่ป้องกันได้จริงด้วยเหตุใด  ตามภูมิประเทศของกรุงสยาม ที่มีเขตแดนติดต่อกับประเทศที่อยู่ในบำรุงชาติของยุโรปทั้งสองคือ อังกฤษ และฝรั่งเศส จึงยังเป็นที่พูดให้เห็นจริงได้อีกทางหนึ่งว่า กรุงสยามจะตั้งอยู่เป็นเอกราชได้ เหมืองเมืองอิยิปต์ หรือเมืองเบลเยี่ยม และเมืองสวิตเซอร์แลนด์ เป็นต้น เพราะจะได้เป็นกำแพงในระหว่างเขตแดนอังกฤษและฝรั่งเศส ฯลฯ  ถ้าไทยรักษาบ้านเมืองให้เรียบร้อย และรักษาทางพระราชไมตรีทั้งสองชาติให้เจริญ ก็มิต้องกลัวภัยอันตรายต่อไปอีกเลย
                    ที่ถือเอาดังนี้ เห็นว่าเป็นการถูกต้อง  แต่จะต้องเข้าใจว่ากรุงสยามที่จะตั้งอยู่ดังนั้นอยู่ได้ เหมือนกำแพงกั้นเขตแดนของชาติทั้งสองเท่านั้น และเขาจะยอมให้มีอยู่แต่แผ่นดินอย่างแคบที่สุด แต่ยาวพอตลอดเขตแดนของเขาก็ได้ ฯลฯ
                        - อังกฤษและฝรั่งเศสไม่ได้ริษยากันและกันจะแบ่งดินแดนไทยให้เหลืออยู่เป็นกำแพงกั้นเท่านั้น  การที่อังกฤษกับฝรั่งเศส คิดจะแบ่งดินแดนกรุงสยาม ให้เหลือพอเป็นกำแพงนี้ เมืองทั้งสองได้คิดและลงมือทำอยู่แล้ว อังกฤษยอมให้ฝรั่งเศสเอาเมืองเขมร และอังกฤษเองก็คิดล่วงลามเข้ามาเขตแดนมลายู เป็นที่ให้เห็นได้ว่าเขามิได้มีความริษยาซึ่งกันและกัน การที่แบ่งบ้านเมืองไทยให้เหลือเป็นแต่กำแพงดังนี้ เขาอาจที่จะทำได้ด้วยทางต่าง ๆ ฯลฯ  และที่จะคิดว่าทางแก้ไขการอันนี้ เพียงแต่จะรักษาทางพระราชไมตรี และจัดการรักษาบ้านเมืองอย่างเดิมดังนี้ไม่ได้ ฯลฯ
                    ๔. เถียงว่าไทยได้จัดแจงบำรุงบ้านเมืองอยู่แล้วอย่างทุกวันนี้  อีกทางหนึ่งซึ่งเห็นว่า เป็นการถือผิด ๆ คือ มีความหวังใจว่าชาติหนึ่งชาติใด จะมาข่มเหง กดขี่ด้วยกำลังอำนาจแล้ว เข้าครอบครองกรุงสยามด้วยความยุติธรรมคือ อ้างว่าไทยไม่จัดการให้มีผลประโยชน์ จะเข้ามาจัดการให้เกิดความเจริญขึ้นแก่ไทย
                        - ไม่ล้างความที่ยุโรปถือว่าเป็นยุติธรรมในการที่เขาไปเบียดเบียนด้วยเหตุใด ไทยยังจะมีข้อเถึยงตามยุติธรรมให้โลกเห็นจริง และสงสารได้ว่า ไทยได้จัดการบ้านเมืองบริบูรณ์ขึ้นกว่าแต่ก่อนหลายเท่า จนมีราชทูตสำหรับประเทศยุโรป มีการก่อสร้างประกอบผลประโยชน์ เหมือนมี สายโทรเลขและกรมไปรษณีย์ เป็นต้น และได้เลิกทาษ เลิกธรรมเนียมหมอบคลาน เป็นต้น แล้วเอาธรรมเนียมยุโรปเข้ามาเป็นแบบแผนหลายอย่าง มีการแต่งตัวและมีโซโซเอติ รับรองอย่างยุโรป เป็นต้น ทั้งได้มีสัญญาทางพระราชไมตรี และทางค้าขายต่อชาติในยุโรปเป็นอันมาก การที่ชาติมหาอำนาจมากดขี่ข่มเหงโดยทางพาล ดังนี้ไม่ได้ ฯลฯ  ที่ไทยทำเพียงนี้ก็มีการคุ้มเกรงรักษาพออยู่แล้ว และท่านแต่ก่อนนั้นได้จัดแจงอย่างไรเล่า จึงรักษาบ้านเมืองมาได้จนป่านนี้ ต่อไปก็คงจะพลิกแพลงแก้ไขให้จงได้เหมือนกัน
                        ที่คิดดังนี้ เห็นว่เป็นการผิดอีกอย่างหนึ่ง ด้วยการปกครองที่อ้างขึ้นนั้นหาใช่การจัดแจงให้ดีขึ้น แต่พื้นรากของการไม่ เป็นแต่เพิ่มเติมขึ้นให้เข้าพวกยุโรปได้ในเวลาจำเป็น ฯลฯ  จึงเห็นได้ว่า จะเถียงเอาทางยุติธรรมว่า การนี้เป็นการจัดแจงบ้านเมืองให้ดี และเป็นการป้องกันบ้านเมืองนั้นไม่ได้เลย ฯลฯ
                    ๕. ถือสัญญาทางไมตรีเป็นที่ป้องกันอันตรายนั้นผิดด้วยเหตุใด  ที่ว่ากรุงสยามมีสัญญาทางพระราชไมตรีต่อประเทศนั้น ๆ จะเป็นที่ป้องกันกีดขวางต่างประเทศ เบียดเบียนได้ก็หาไม่ ประเทศจีนได้สัญญากับต่างประเทศทั้งหมดเหมือนกัน และในสัญญาอเมริกันซึ่งมีข้อว่า อเมริกาจะช่วยตัดสินไกล่เกลี่ย เมื่อเวลาที่ชาติใดมาข่มเหง ครั้นบัดนี้มีเข้าจริง อเมริกาก็มิได้ช่วย หรือสัญญากับประเทศทั้งปวง ก็มิอาจคุ้มการกดขี่ได้
                    สัญญาที่มีต่อต่างประเทศนั้น เป็นเครื่องป้องกันกดขี่ได้แต่ในครั้งแรกทำเท่านั้น เพราะถ้ากรุงสยามมิได้ยอมรับทำสัญญา ให้ผลประโยชน์แก่ต่างประเทศเสียแต่เดิมแล้ว ก็คงจะเข้ารบพุ่งกดขี่ให้ทำจนได้ ถ้ามิทำก็คงจะต้องเสียบ้านเมือง
                    ๖. ผลประโยชน์ต่างประเทศ  การค้าขายและผลประโยชน์ของชาวยุโรป ซึ่งว่ามีในกรุงสยามจะเป็นที่กีดขวาง ต่อประเทศยุโรปก็เหมือนกัน จะเป็นที่กีดขวางได้ก็จริง
                        - ในกรุงสยามไม่กีดกันการเบียดเบียนของต่างประเทศได้ด้วยเหตุใด เมื่อต่างประเทศได้ผลประโยชน์เต็มตามที่บ้านเมืองเจริญได้ ด้วยความบำรุงรักษานั้นเรียบร้อยดีอย่างประเทศยุโรป จนถึงจะมีชาติยุโรปมาบำรุงรักษานั้น เรียบร้อยดีอย่างประเทศยุโรป จนถึงจะมีชาติยุโรปมาบำรุง ก็ไม่เกินความดีเรียบร้อยของเรานั้นไปได้
                    การค้าขายในเมืองจีน ซึ่งยุโรปได้ผลประโยชน์ทั่วกันนั้น มีมากกว่าในกรุงสยามโดยมาก ยังมิอาจคุ้มหรือกีดกันประเทศฝรั่งเศสเบียดเบียนได้ ฯลฯ
                    ๗. ถือว่าแต่ก่อนรักษามาได้ดังนี้ คงรักษาต่อไปได้ดังทุกวันนี้ไม่ได้ด้วยเหตุใด  อีกข้อหนึ่งที่ว่า ท่านแต่ก่อนทำไมจึงรักษาบ้านเมืองมาได้เล่านั้น ถ้าได้พิจารณาไปก็เห็นว่าแต่ก่อนนั้น การไปมาหากัน และข่าวคราวกรุงสยามจะรู้ได้ถึงประเทศยุโรปนั้นยากเพียงใด ความคิดต่อกรุงสยามกับประเทศยุโรปแต่ก่อนมีน้อย ฯลฯ  และในเวลานั้นประเทศเอเชีย ซึ่งเปรียบเหมือนอาหารของประเทศยุโรป ก็ยังมีเมืองมีชาติที่ไม่เคยผ่อนผันตามกาลเวลาอยู่หลายเมือง เพราะฉะนั้นยุโรปยังหากินได้ในเมือง ที่ไม่ความเจริญกว่า หรือผ่อนตามกาลเวลาอย่างไทย เป็นต้นว่า พม่าเมืองขึ้นของจีน และแขกทั้งปวง จึงเห็นได้ว่า แต่ก่อนนั้นการรักษาบ้านเมืองของไทยก็ง่ายอยู่เอง ฯลฯ  ทั้งยุโรปก็ยังไม่รู้กำลังอิทธิฤทธิ์ ขนบธรรมเนียมชาวสยามเหมืองเขารู้ไส้รู้พุงละเอียดอย่างทุกวันนี้ไม่ จึงเป็นการรักษาง่ายดาย แต่บัดนี้ประเทศทั้งปวง ซึ่งเป็นอาหารก็หมดไปแล้ว ถ้าไม่คิดแก้ไขแล้ว น่าที่กรุงสยามจะต้องเป็นไปตามประเทศนั้น ๆ เหมือนกัน
                    ๘. ถือความป้องกันด้วยยุติธรรมตามกฎหมายอินเตอร์แนชแนลนั้นผิดไปด้วยเหตุใด  อีกประการหนึ่งซึ่งบางท่านหลงเชื่ออยู่ว่า เป็นทางป้องกันของกรุงสยามได้คือ ถือเอาตามอินเตอร์เแนชแนลลอ ซึ่งประเทศเอกราชทั้งปวงย่อมได้รับความเคารพและนับถือ และสมควรที่จะได้รับไรท์ของกฎหมายทุกอย่าง
                        การที่ละเมอไปดังนี้ ด้วยลืมคิดไปว่ากฎหมายอินเตอร์แนชแนลนั้น แต่งขึ้นไว้สำหรับประเทศซึ่งมีศิวิไลซ์ มีความคิดความเห็นผิดชอบชั่วดีทางเดียวกัน และมียุติธรรมถือกฎหมายตัดสินถ้อยความ และขนบธรรมเนียมก็คล้ายคลึงกัน จึงจะได้รับและนับถือตามกฎหมายนั้นได้ ฯลฯ
                        แต่ญี่ปุ่นได้บำรุงความเจริญของบ้านเมืองตามทางศิวิไลซ์มาก็มาก ยังหาได้รับอนุญาตของยุโรปให้เข้าในพวกถือกฎหมายไม่ และญี่ปุ่นนั้นแต่เดิม ก็ได้คิดผิดไปในทางนี้เหมือนกัน ฯลฯ  จนภายหลังรู้สึกตนจึงได้คิดจัดแจงการบ้านเมืองเปลี่ยนแปลงขนบธรรมเนียม และกฎหมายที่ชั่ว ให้คล้ายคลึงกับของยุโรป ฯลฯ  และยุโรปเดี๋ยวนี้ก็ตั้งใจจะยอมให้ แต่ยังรอให้ญี่ปุ่นทำกฎหมายให้สำเร็จ และฝึกสอนคนที่จะรักษากฎหมายนั้นได้แล้ว ญี่ปุ่นคงจะได้รับอินเตอร์แนชแนลไรต์ในเร็ว ๆ นี้ และไทยที่จะได้รับไรต์อันนี้ฉันใด ก็ต้องจัดแจงบำรุงการแผ่นดินรักษาผลประโยชน์ และราษฎรในราชอาณาเขต ให้เจริญขึ้นตามสมัยกาล และให้เป็นที่เชื่อถือแก่ชาวยุโรป ดังญี่ปุ่นได้จัดการมาแล้ว ชาติยุโรปทั้ปวง ก็คงจะต้องยอมให้ไทยได้ผลประโยชน์ เสมอชาติญี่ปุ่นนั้นบ้าง ความเจริญอันนี้จะเป็นการป้องกันกรุงสยามได้ด้วย
                การครอบครองกรุงสยามทุกวันนี้ ใช่แต่จะเป็นช่องให้เกิดอันตรายแต่ภายนอกอย่างเดียวหามิได้ด้วยเหตุใด  เมื่อภัยอันตรายและทางแก้ไขซึ่งใช้ไม่ได้ทั้ง ๘ ทาง ดังกล่าวแล้ว ก็ขอเพิ่มเติมให้พิจารณาคือ
                การครอบครองของกรุงสยามอย่างเช่นมีอยู่ในปัตยุบันนี้ ใช่จะทำให้บ้านเมืองทำลายไปได้ฝ่ายเดียว เพราะศัตรูภายนอกจะเข้ารบเอาโดยอำนาจ หรืออุบายนั้นหามิได้ ฯลฯ  การปกครองอันนี้ก็ยังไม่เป็นประเพณีของบ้านเมืองอันประเสริฐ ฯลฯ  การปกครองทุกวันนี้เห็นว่า ถ้าประดุจหนึ่งไม่มีพระองค์ ฯ ทรงเป็นพระราชธุระแล้ว การบ้านเมืองทุกอย่างก็จะเป็นที่ฟกช้ำระส่ำระสาย และบางทีถึงจะให้เกิดจลาจลแก่บ้านเมืองได้ ฯลฯ
                ว่าด้วยทางแก้ไขที่จะป้องกันอันตรายได้จริง  ทางแก้ไขที่จะให้พ้นภัยอันตรายภายนอก และพ้นจากภัยที่จะเกิดขึ้นได้ในบ้านเมือง ฯลฯ
                    เหตุใดทางนี้จึงเป็นทางเดียวและทางที่จะป้องกันอันตรายได้จริง  เห็นว่ามีทางเดียวที่จะจัดการบำรุงรักษาตามทางยุโรปทั้งปวง ฯลฯ เพราะที่จะรักษาบ้านเมืองให้พ้นจากความกดขี่ซึ่งเป็นต้นเหตุของอันตรายนั้นต้องทำให้เป็นที่นับถือวางใจซึ่งกันและกัน ที่เห็นชั่วเห็นดีเห็นผิดเห็นชอบทางเดียวกัน จึงนับว่าเป็นผู้เห็นทางชอบธรรมเสมอกันได้ แต่การบำรุงรักษาอย่างเช่น มีในกรุงสยามทุกวันนี้เป็นทางผิดตรงกันข้ามต่อทางยุโรป ปราศจากแบบแผนและกฎหมายที่เรียกว่าคอนสติติวชัน ซึ่งประกอบด้วย สติปัญญาและกำลังของราษฎร เป็นการพร้อมเพรียงกันเป็นประมาณ ซึ่งเขานับว่ามียุติธรรมทั่วถึงกัน ฯลฯ  แต่บัดนี้ชาวยุโรปพากันลงเนื้อเชื่อกันเป็นอันมาก ฯลฯ  ว่าการรักษากรุงสยามในทุกวันนี้ไม่มีเสนาบดี และเจ้าพนักงานกรมใดเอาใจใส่ในพนักงานหน้าที่
ของตน มีผู้บำรุงรักษา และคิดการแผ่นดินอยู่ก็แต่พระองค์เดียว กับผู้ที่ได้ช่วยในราชการเป็นกำลังจริงก็แต่พระเจ้าน้องยาเธอ กรมหมื่นเทวะวงศ์วโรปการ ฯลฯ  จะมีชาติใดในยุโรปเชื่อถือว่า กรุงสยามจะมีความยุติธรรม และบำรุงรักษาให้เจริญ และเรียบร้อยไปได้ ฯลฯ  การบำรุงรักษา โดยทางที่จะให้ได้ยุติธรรม จะมีได้ก็ต้องอาศัยความพร้อมเพรียง ผู้ที่เป็นเสนาบดีก็เป็นผู้แทนของราษฎร ซึ่งเลือกต่อ ๆ ขึ้นไปเป็นชั้น ๆ ทั้งต้องรับผิดชอบร่วมกัน ฯลฯ
                    ว่าด้วยการจัดแจงเปลี่ยนแปลงให้เดินทางป้องกันอันจริงได้  เหตุฉะนี้จึงจะต้องจัดการบ้านเมือง เปลี่ยนแปลงพระราชประเพณีของเก่า ให้เป็นประเพณีคอนสติติวชันใหม่ตามทางชาวยุโรป ฯลฯ เหมือนดังเมืองญี่ปุ่น ซึ่งเป็นประเทศเดียวในตะวันออก ที่ได้เดินในทางยุโรปมาแล้ว ฯลฯ  ทางที่กราบบังคมทูล ฯ ว่าเป็นคอนสติติวชันยุโรปนั้น หาได้ประสงค์จะให้มีปาลีเมนต์ในเวลานี้ไม่ แต่ทางนั้นคือ
                        - ๑. เปลี่ยนพระราชประเพณีปกครอง ให้เป็นคอนสติตูชาแนลโมนากี  ต้องเปลี่ยนแปลงประเพณีปัตยุบัน ฯลฯ  ซึ่งมีประเพณีที่อังกฤษเรียกว่า แอพโซลุดโมนากี ให้เป็นประเพณีที่เรียกว่า คอนสติตูชาแนลโมนากี ฯลฯ
                        - ๒. ให้เสนาบดีรับผิดชอบและมีอำนาจจัดการได้เอง ไม่ต้องเป็นพระราชกังวลไปทุกอย่าง  การป้องกันรักษาและทำนุบำรุงบ้านเมืองทุกอย่างนั้น ต้องอยู่ในความคิดความตัดสินของข้าราชการผู้ใหญ่ ซึ่งได้โปรดเกล้า ฯ ตั้งขึ้นไว้ในที่เป็นพวกแคบิเนต ฯลฯ  ข้าราชการเหล่านี้เป็นหัวหน้าของกรมหรือดิปาดเมนต์ ทุก ๆ กรมและมีอำนาจตัดสินบังคับการรับผิดชอบในกรมนั้น ๆ ด้วยตนเอง ฯลฯ
                        - ๓. ปิดทางสินบนให้ตกหมดทุกอย่าง ฯลฯ  ต้องให้ผู้ทำราชการได้ผลประโยชน์ตรง ๆ เงินเดือนให้พอใช้ตาม
ฐานานุรูปจริง
                        - ๔. ให้มนุษย์มีความสุขได้เสียเสมอกัน ฯลฯ
                        - ๕. เลิกธรรมเนียมและกฎหมายซึ่งเป็นอยุติธรรมติเตียนต่อต่างประเทศ ฯลฯ
                        - ๖. เปิดความคิดเห็นของราษฎรและข้าราชการ ให้เป็นโสดในการคิดเห็น ฯลฯ
                        - ๗. เลือกและถอดข้าราชการตามกฎหมายที่แน่นอน ฯลฯ
                    รวมความเปลี่ยนแปลงเพื่อให้ได้ประสงค์อันใด ทั้ง ๗ ข้อนั้น ฯลฯ  เป็นใจความของการจัดการตามแบบยูโรป มีรวมความว่า เปลี่ยนแปลงยกถอนธรรมเนียมเก่า และกฎหมายเก่า เพิ่มเติมธรรมเนียม และกฎหมายซึ่งเป็นทางบำรุงความเจริญขึ้นใหม่ และจัดการเหล่านี้ให้มีผลประโยชน์ทั้วไปในพระราชอาณาเขต ให้ราษฎรมีความคิดรู้สึกตัวว่าการกดขี่ และอยุติธรรมต่าง ๆ ไม่มีอีกต่อไปแล้ว จึงจะมีความรักบ้านเมือง จนเห็นชัดว่ากรุงสยามนั้น เป็นเมืองของราษฎร และจะต้องช่วยกันบำรุงรักษา ฯลฯ  และเมื่อถึงเวลาศัตรู หรือภัยอันตรายจะมาถึงตนเข้าแล้ว ก็จะคิดช่วยป้องกัน ช่วยเจ็บร้อน ฯลฯ
                    จัดการปกครองให้เดินเองได้ดังเครื่องจักร  ชาวยุโรปได้แปลคำจัดแจงบ้านเมืองของเขาคือคอนสติติวชันว่าเป็นเหมือนดังเครื่องจักร ฯลฯ
                    เหตุใดจึงเห็นทางนี้เป็นทางป้องกันได้ทางเดียว  เห็นว่าทางที่จะจัดแจงรักษากรุงสยามได้จริงนั้นมีทางเดียว
                    ยุโรปตั้งเจริญอยู่ได้ด้วยเหตุใด  ประเทศทั้งปวงในยุโรปซึ่งมีความเจริญ และแน่นอนว่าจะตั้งเป็นเอกราชต่อไปได้นั้น ได้ด้วยเหตุ ๔ ประการ
                        - ๑ ความนับถือซึ่งกันและกัน ฯลฯ
                        - ๒ ความประสงค์เดียวกันในทางครอบครองมิให้มีทัพศึก ฯลฯ  คิดหาทางช่วยเหลือกันในเวลาเมื่อชาติหนึ่งได้มีอำนาจมากมาเบียดเบียนชาติเล็กน้อย ฯลฯ  เรียกว่า อำนาจชั่งกันหรือแบแลนด์ออฟเปาเวอร์
                        - ๓ ถือกฎหมายอินเเตอร์แนชแนลอันเดียวกัน  ด้วยกฎหมายอินเตอร์แนชแนล ซึ่งเป็นประธานที่จะตัดสินความเข้าใจผิดชอบ และการยุติธรรมในระหว่างประเทศทั้งปวงในยุโรป ซึ่งถือตามกฎหมายนั้น
                        - ๔ ด้วยเหตุนี้มีสินค้าไปขายแลกเปลี่ยนซึ่งกันและกัน ฯลฯ  อาศัยซึ่งกันและกัน เหตุฉะนั้นจึงเห็นว่า กรุงสยามจะรักษาป้องกัน ให้อยู่เป็นเอกราชต่อไป ในทางอื่นไม่ได้ นอกจากที่จะเดินตามทางให้มีเครื่องป้องกันทั้ง ๓ ข้อ อย่างที่ประเทศน้อยใหญ่ในยุโรปทั้งปวงได้ถือว่าเป็นทางป้องกันซึ่ง เพราะว่าอันตรายหรือการใด ๆ ก็ดีอาจสามารถที่จะเกิดขึ้นได้ด้วยชาติที่มีอำนาจทั้งสิ้น
                    เหตุฉะนั้นไทยต้องประพฤติตามยุโรปซึ่งเป็นที่จะป้องกันอันตรายได้  ไทยจึงต้องมีความอุตสาหะบากบั่น ที่จะให้ได้เครื่องป้องกันของชาติที่มีอำนาจใหญ่นั้นด้วย การประพฤติให้ดีตามทางของเขาเหมือนอย่างญี่ปุ่นได้ประพฤติตามอย่างเขาก็จะได้รับอำนาจ ฯลฯ  ถ้าไทยเดินตามทางญี่ปุ่นแล้วยุโรปก็จะมีความนับถือไทยดังในข้อหนึ่ง ฯลฯ
                    การบำรุงเพื่อประกอบการป้องกันชั้นที่สอง  อนึ่งการป้องกันอันตราย ซึ่งบจะคุ้มการกดขี่ของประเทศยุโรปต่าง ๆ นั้น ยังมีข้อสำคัญอีกข้อ ๑ คือ
                        - การบำรุงการค้าขายจะป้องกันภัยไม่ได้ด้วยเหตุใด  คือ การบำรุงผลประโยชน์ของยุโรปในการสินค้า ให้มีทุนรอนของเขาออกไปในการก่อสร้าง หรือประโยชน์สิ่งหนึ่งสิ่งใดในแผ่นดินสยาม ฯลฯ  เคาเวอร์เมนต์ สยามต้องอุดหนุนโดยเต็มกำลัง เพื่อจะได้ประโยฃน์ทั้งสองฝ่าย และเมื่อชาวยุโรปลงทุนรอนไว้มาก ถ้าจะมีชาติใดชาติหนึ่งมาพาลข่มเหง ชาติทั้งปวงซึ่งมีประโยชน์ก็จะช่วยห้ามปราม
                        - ถ้าการปกครองไม่เรียบร้อยการบำรุงผลประโยชน์ยุโรปกลับให้มีช่องเกิดภัย  แต่การที่บำรุงผลประโยชน์ของชาวยุโรป ฯลฯ  จึงกลายเป็นช่องที่จะกลับให้เกิดอันตรายขึ้นได้เหมือนกัน มีตัวอย่างคือ อินเดีย จีน พม่า เป็นต้น ฯลฯ
                    การปกครองเรียบร้อยการบำรุงผลประโยชน์ยุโรปอุดหนุนการป้องกันอันตราย  ถ้าบ้านเมืองใด ๆ เมื่อมีเคาเวอนเมนต์ และกำหนดกฎหมายความยุติธรรมอันแน่นอน ผลประโยชน์ของชาวยุโรปซึ่งได้บำรุงนั้น ก็เป็นการช่วยป้องกันขึ้นอีก แลไม่ต้องวิตกในการพาลของชาติยุโรป ที่มีผลประโยชน์อยู่ในบ้านเมือง ฯลฯ  เหตุฉะนี้ ถ้าเมืองใด ๆ มีเคาเวอนเมนต์ความปกครองรักษายุติธรรมอยู่แล้ว ผลประโยชน์ของชาวยุโรปที่จะประมูลขึ้น ก็เป็นทางรักษาเอกราชของเมืองนั้น ๆ มีญี่ปุ่น และประเทศทั้งปวงในยุโรป เป็นต้น และถ้าไทยได้จัดบ้านเมืองบำรุงการรักษาตามาแบบยุโรปมั่นคง ทางที่จำเป็นจะประมูลผลประโยชน์ของประเทศยุโรป ให้มีทรัพย์สินทุนรอนของเขาอยู่ในบ้านเมือง
                    การบำรุงผลประโยชน์ยุโรปและสยามสิ่งใดเป็นการประเสริฐ  เพื่อรักษาเอกราชของกรุงสยามให้แน่นอนขึ้น สิ่งที่ประเสริฐนั้นมีทางให้ต่างประเทศทำรถไฟ มีกำปนีเดินเรือ ขุดคลอง ทำถนน เป็นต้น เพราะทางเหล่านี้จะเป็นประโยชน์ได้แก่บ้านเมืองมาก ฯลฯ
                    ว่าด้วยการขัดข้องที่จะจัดแจงแก้ไขเปลี่ยนแปลงไปไม่ได้อย่างใด และที่ไม่เห็นทางขัดข้องเหล่านี้ขัดอยู่จริงเพราะเหตุใด  เห็นว่ามีทางอันเดียว ที่จะป้องกันรักษากรุงสยาม ให้เจริญเป็นเอกราชต่อไป และได้ปรูฟของทางนี้แล้ว ฯลฯ  ทางที่ได้ตริตรองนั้น มีดังนี้
                        - ๑. ขัดด้วยจะไม่พรักพร้อมด้วยเสนาบดีจะไม่เห็นตาม  ฯลฯ  การครั้งนี้เป็นการใหญ่อันสำคัญ คงจะต้องปรึกษากับเสนาบดีให้เห็นพร้อมกันก่อน จึงจะเปลี่ยนแปลงไปได้ แต่การที่จะเปลี่ยนแปลงนี้เป็นการที่จะตัดผลประโยชน์ ของเสนาบดีที่เคยได้ในทางตรงบ้างก็มี ทางลับบ้างก็มี ฯลฯ
                        - ไม่เห็นขัดข้องด้วยเหตุใด ฯลฯ  แต่ราชการกรุงสยามในทุกวันนี้ได้อยู่ด้วยเสนาบดี ไม่ตั้งใจฉลองพระเดชพระคุณโดยเต็มกำลังนั้น ไม่เป็นด้วยเหตุอื่นไกล เป็นด้วยทรงพระมหากรุณา แลท่านเสนาบดีมากเกินไป จนให้ท่านเสนาบดีเห็นไปว่า ทรงเกรงใจจึงได้คิดบิดเบือนไปต่าง ๆ ฯลฯ  ถ้าตั้งพระราชหฤทัยในราชกิจโดยทางอันกวดขัน แข็งแรงไม่ละเว้นเห็นแก่หน้าผู้ใหญ่ผู้น้อยแล้ว การขัดขวางอันนี้จะมีมาแต่ไหน ฯลฯ
                        - ๒. ขัดด้วยข้าราชการจะคิดทรยศเพราะการจัดแจงใหม่ ตัดผลประโยชน์และอำนาจ ฯลฯ  ท่านเสนาบดีที่รับราชการอยู่ทุกวันนี้ ได้เป็นเพราะความชอบความดีที่ตัวรับราชการ ฯลฯ  ก็มี ได้เป็นเพราะตามเหล่าตามตระกูลก็มี ที่มีอำนาจ และผลประโยชน์ในราชการมากน้อย ก็มีไม่เสมอกัน ฯลฯ  ฝ่ายพวกที่ได้เป็นเพราะมีตระกูลสืบอุดหนุน ฯลฯ  จะหาสู้จงรักภักดีเหมือนผู้ซึ่งได้รับราชการมีความดี ด้วยผลแห่งราชการไม่ ถ้าเห็นกระแสพระราชดำริ หรือทางจัดพระนครไปตามการที่ถูกที่ควร แต่ว่าการนั้นเป็นความตัดประโยชน์ ตัดอำนาจที่เคยได้เคยมีอยู่แล้ว ฯลฯ  ก็จะละความสัตย์ซื่อกตัญญูเสีย จะไปทำเหตุเป็นทางประทุษร้าย คิดส่งเสริมอุดหนุนยกผู้หนึ่งผู้ใดขึ้น เอาเป็นโล่ห์เป็นดั้ง ทำเหตุจลาจลขึ้นก็ดี ฯลฯ  ยกขึ้นขัดขวางแห่งการที่ทรงพระราชดำริเปลี่ยนไปก็ดี ฯลฯ  ก็จะเกิดเป็นช่องให้ชาวต่างประเทศพลอดสอดมือเข้ามารวบรัดเอากรุงสยาม ฯลฯ  มีทางที่จะเรียกเรือรบเข้าไปรักษาผลประโยชน์ของตัว แล้วก็กลับเลยเป็นเหตุใหญ่โตไปได้ ถึงจะไม่ถึงกับเสียบ้านเสียเมืองได้ ก็คงจะมีอำนาจมากขึ้นในกรุงสยาม ฯลฯ
                        - ว่าด้วยการแก้ข้อขัดขวางอันนี้ด้วยกำลังทหาร  ข้อขัดขวางอันนี้ เห็นว่าเป็นข้อสำคัญอย่างยิ่ง เพราะว่าทางที่จะแก้ไขให้หมดสิ้น เป็นที่เชื่อมั่นใจได้ก็มีแต่กำลังอย่างเดียว ฯลฯ
                        - เหตุใดการบำรุงกำลังทหารป้องกันจึงเป็นการจับปลายมาหาต้นต้องเป็นการที่สุดจึงควรเดินทางนี้   ซึ่งจะหากำลังให้ต่อสู้ และดับภัยอันตรายในกรุง ที่จะเกิดขึ้นทางนี้ เห็นว่าจะต้องคิดจัดทหารรบรัดการฝึกหัด โดยกวดขันให้เชื่อว่าใช้ได้ ฯลฯ  ในการป้องกันภัยภายในได้จริงก่อน แล้วจึงเปลี่ยนแปลงพระราชประเพณีต่อไปภายหลัง แต่การที่จะจัดทหารในชั้นต้นดังนี้ เห็นว่าเป็นการลำบาก และมีช่องทางที่จะไม่สำเร็จได้หลายอย่างหลายประการ ฯลฯ
                        - ควรจัดทหารในชั้นต้นอย่างใดและจะสำเร็จได้ด้วยอย่างใด  การที่จะจัดนี้ต้องอาศัยวิธี ที่จะรวบรวมทหารเข้าให้มีกำลังขึ้นมาก แต่อย่าให้เป็นที่เดือดร้อน และหวาดหวั่นของเจ้าหมู่นายกรม และต้องอาศัยผู้หัวหน้าที่จะบังคับการเป็นสำคัญอย่างหนึ่ง ฯลฯ  การที่จะเปลี่ยนแปลงพระราชประเพณีนั้น เป็นการใหญ่การสำคัญอย่างยิ่ง เป็นความจำเป็นต้องควรหวาดหวั่นในภัยอันตรายให้มาก ฯลฯ  การนี้จึงจะเป็นไปโดยเร็วพลัน ยังไม่ได้ก็ควรงดไว้จนกว่าการที่จะจัดทหารขึ้นให้ได้จริงนี้ ฯลฯ
                        - ทางที่จะจัดแจงบำรุงทหารควรเดินและจัดทางใด ฯลฯ  เห็นว่าควรต้องปิดความที่จะเปลี่ยนพระราชประเพณีนั้น ให้เงียบไว้ก่อน อย่าให้ผู้ใดทราบความ เพราะจะเป็นช่องแห่งความขัดขวางคนที่ไม่เห็นชอบ จะทำให้การลำบากมากไป ฯลฯ เห็นว่ากรมต่าง ๆ ที่เป็นทหารมาแต่โบราณ เป็นต้นว่า กรมอาสาทั้งปวงนั้น อันที่จริงแต่เดิมก็เป็นทหารทั้งสิ้น ถ้าจะทรงจัดโดยจริงรวบรวมเอาไพร่ หลวงกรมอาสาต่าง ๆ หมดทุกกรม ตามหมู่ทหารเอามาฝึกหัดยกขึ้นเป็นทหารให้ได้จริง ฯลฯ  ก็จะเป็นการจัดพระราชประเพณีเดิมให้มั่นคงแข็งแรงขึ้น ฯลฯ
                        - ๓. ขัดขวางด้วยพวกที่เสียผลประโยชน์เพราะการเปลี่ยนแปลงจะหาอำนาจต่างประเทศมาเกี่ยวข้อง ฯลฯ  พวกที่มีความเสียอกเสียใจ ในการที่จะขาดประโยชน์ไป ฯลฯ  จะไปทำเหตุอีกอย่างหนึ่ง จะเข้าหาอำนาจชาวต่างประเทศให้ช่วยปกครองป้องกัน หรือบางทีเอาบ้านเมืองไปมอบหมายกำนัลอย่างหนึ่งอย่างใด ให้เป็นเหตุขึ้น ฯลฯ
                        - ความเห็นในการแก้ไขข้อขัดข้องนี้  ฯลฯ  การที่จะเปลี่ยนแปลงพระราชกำหนดกฎหมาย และพระราชประเพณีจัดการพระนครใหม่นั้น ฯลฯ  ฝ่ายเราจำเป็นและควรจะต้องแจ้งความให้เคาเวอนเมนต์ต่างประเทศทราย เพื่อเขาจะได้เห็นแก่ความยุติธรรม ซึ่งเราจะบำรุงมนุษย์ทั่วกันให้ได้ความสุข อย่างเช่นเขาบำรุงตามทางที่แลเห็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ฯลฯ  ป้องกันมิให้เขายกเหตุว่าเราไม่ได้ทะนุบำรุงบ้านเมือง และป้องกันเหตุภัยอันตรายในข้างหน้า ฯลฯ  เวลานี้ชาวต่างประเทศต่าง ๆ มีฝรั่งเศส หรืออังกฤษ เป็นต้น กำลังคอยมุ่งหมายจะพาลหาเหตุ หาช่องซึ่งจะเข้าเบียดเบียนเรา ฯลฯ
                        - ๔. ขัดขวางด้วยราษฎรและข้าราชการ จะเห็นการเปลี่ยนแปลงเป็นลางเป็นเหตุที่จะเสียบ้านเมือง  การเลิกถอนพระราชประเพณีเดิม จะตั้งพระราชประเพณีใหม่ เป็นความเปลี่ยนแปลงนี้ จะเป็นเหตุให้ข้าราชการและราษฎร ที่ถือเคล็ดถือเงื่อน ฯลฯ  จะพากันเห็นไปว่า ฯลฯ  จะเป็นเหตุอันตราย หรือลางร้ายต่าง ๆ แก่บ้านเมือง ฯลฯ
                        - เหตุใดจึงเห็นความข้อนี้ไม่ควรกลัว ฯลฯ  ถ้าทรงทำได้ตลอด ความติเตียนนั้นจะก็สงบหายไป ไม่เป็นการแปลกประหลาดลงในที่สุด ก็จะต้องกลับเป็นการสรรเสริญ ฯลฯ
                        - ๕. ขัดด้วยจะไม่มีผู้ทำราชการได้ดังประเพณีที่จะเปลี่ยนใหม่ ฯลฯ  ด้วยทุกวันนี้เพียงแต่จะให้การเป็นไปตามพระราชประสงค์ หรือพระราชประเพณีบ้านเมือง ก็ยังไม่สำเร็จเป็นไปได้จริง ฯลฯ
                        - เหตุใดจึงเห็นว่าความข้อนี้ไม่ควรทรงพระปริวิตก ฯลฯ  ข้าราชการที่จะฉลองพระเดชพระคุณก็มีมาก และที่ได้ทำไปในคราวแรก โดยพระราชประสงค์สำเร็จได้ทุกประการ ฯลฯ เหมือนการเคานซิลที่ทรงพระราชดำริจัดตั้งขึ้นใช้การมาคราวหนึ่ง ฯลฯ  พระราชกำหนด กฎหมายและประเพณี ที่เปลี่ยนแปลงมาทุกวันนี้สำเร็จได้ในคราวครั้งเคานซิลนั้นแทบทุกสิ่งทุกอย่างโดยมาก ฯลฯ
                        - เหตุใดข้าราชการจึงทำการแข็งแรงได้จริงในชั้นต้น ไปปลายมือจึงเสียร่วงโรยไป  ภายหลังเมื่อทรงพระมหากรุณาแก่ข้าราชการละเลยไป หาได้ทรงกวดขันให้เป็นตัวอย่างขึ้นแล้ว ราชการในหน้าที่ต่าง ๆ ก็คลายลงทุกที ฯลฯ
                        - เหตุใดจึงเห็นว่าข้อขัดขวางนี้จะให้มีก็ได้ ไม่ให้มีก็ได้  ฯลฯ  เห็นว่าถ้าได้ตั้งพระราชหฤทัยที่จะทรงพระราชวินิจฉัยราชการทั้งปวงเป็นอย่างอุกฤษฎ์ ให้เป็นที่เห็นได้ทั่วไปในข้าราชการ ว่าจะไม่ทรงพระกรุณาแก่ผู้มีวงศ์ตระกูล หรือหาตระกูลมิได้ผิดชอบประการใดต้องได้รับเสมอกัน และสรรพสิ่งทั้งปวง ต้องให้เป็นการสำเร็จจริงแท้ทั้งสิ้น ผู้ที่จะรับราชการก็จะต้องคิดรักษาหน้าที่หาความดีในทางที่กวดขันให้ได้จริง ฯลฯ
                        - ความมุ่งหมายอันประเสริฐซึ่งมีในพระบรมราชสันดาน ฯลฯ  ควรทรงพระราชดำริถึงรัชกาลปัตยุบันนี้ซึ่งตั้งอยู่ในสมัยการอันประเสริฐคือ "ศิวิไลเซชัน" นี้ ไม่ควรจะให้มีความดีความเจริญเพียงเสมอรัชกาลของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวแต่โบราณมา ฯลฯ
                ความประสงค์ของผู้ซึ่งมีในท้ายหนังสือนี้  ด้วยความประสงค์อันนี้ ข้าพระพุทธเจ้าทั้งปวงจึ่งสามารถพระกรุณาบังอาจชี้แจงยืดยาวโดยพิสดาร แลใช้ถ้อยคำอันเรี่ยวแรงดังนี้ เพราะเป็นความประสงค์ของข้าพระพุทธเจ้าทั้งปวงที่จะกราบบังคมทูลแสดงความกตัญญู รักใคร่ในใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท แลบ้านเมืองซึ่งได้เป็นของไทยมาหลายร้อยปี โดยเต็มตามที่ใจคิดทุกอย่าง ฯลฯ มีความประสงค์ที่จะได้ฉลองพระเดชพระคุณซึ่งได้ทรงพระกรุณาชุบเกล้า ฯ มา แลทำความดีให้แก่บ้านเมือง ซึ่งเป็นที่รักของข้าพระพุทธเจ้าทั้งหลาย เพื่อให้เป็นเอกราชต่อไป ฯลฯ  ถ้าคำซึ่งข้าพระพุทธเจ้ากราบบังคมทูลพระกรุณานี้ต้องด้วยพระราชดำริ
แล้ว ข้าพระพุทธเจ้าทั้งปวง จะขอรับพระราชทานพระบรมราชานุญาต ถวายบังคมทูลพระกรุณาในความแก้ไขจัดการบ้านเมืองอย่างยุโรปให้ละเอียดขึ้นอีกในคราวหน้า เพื่อได้ทรงพระราชดำริในการนั้นแลสร้างจัดขึ้นตามพระราชประสงค์ต่อไป

| หน้าแรก | ย้อนกลับ | บน |