|
|
| "วันทองหมองแม้นเหมือนแขวนเพชร | แตกเม็ดกระจายสิ้นเป็นสองสาม | |
| จะผูกเรือนก็ไม่รับกับเรือนงาม | แม่จึงห้ามหวงเจ้าเพราะเจ็บใจ" |
| "ขึ้นหอพระนารายณ์ระงับจิต | เอาเทียนติดธูปถวายทั้งซ้ายขวา | |
| ลงหินฝนจันทน์น้ำมันทา | ใครเห็นกายาให้ยวนใจ | |
| สอดใส่สนับเพลาม่วงดวงวิหค | นุ่งยกแย่งทองผ่องใส | |
| รอยจีบกลีบกระหวัดรัดละไม | เสื้อสั้นชั้นในล้วนเลขยันต์ | |
| เสื้อนอกดอกช่อฉลุทอง | ตระพองทับเจียรบาดคาดมั่น | |
| แหวนถักพระพิรอดสอดพัน | สังวาลคั่นเครื่องสลับกับผมพราย | |
| จับประเจียดประจุประจงโพก | ได้มหาสิทธิโชคสำคัญหมาย" |
|
|
![]() |
ขุนแผนจึงซัดข้าวสารไปอีก เหล่านางพรายก็หนีไปแล้ว ขุนแผนก็ขี่สีหมอกข้ามคูไปจนถึงเรือนของขุนช้าง
แล้วจึงไปที่ชานของบ้าน ซึ่งปลูกดอกไม้ไว้สวยงาม เมื่อถึงห้องก็สะเดาะกลอนเข้าไปพบนางแก้วกิริยานอนหลับอยู่
ก็รู้ว่าไม่ใช่ห้องของนางวันทอง คิดว่าเป็นเมียน้อยของขุนช้าง ก็เข้าไปร่ายมหาละลวยแล้วคลายมนต์สกดจนนางแก้วกิริยาตื่นขึ้น
เห็นขุนแผนก็ตกใจถามว่า ท่านเป็นใครรูปร่างหน้าตาก็คงจะไม่เป็นโจร
ขุนแผนได้นางแก้วกิริยา
|
|
| "เต่าเตี้ยดอกอย่าต่อให้ตีนสูง | มิใช่ยูงจะมาย้อมให้เห็นขัน | |
| หิ่งห้อยฤาจะแข่งแสงพระจันทร์ | อย่าปั้นน้ำให้หลงตะลึงเงา" |
![]() |
![]() |
| "ม่านนี้ฝีมือวันทองทำ | จำได้ไม่ผิดในตาพี่ | |
| เส้นไหมแม้นเขียนแนบเนียนดี | สิ้นฝีมือแล้วแต่นางเดียว | |
| เจ้าปักเป็นป่าพนาเวศ | ขอบเขตเขาคลุ้มชอุ่มเขียว | |
| รุกขชาติดาดใบระบัดเรียว | พริ้งเพรียวดอกดกระดะดวง | |
| ปักเป็นยุราลงรำร่อน | ฝ่ายฟ้อนอยู่บนยอดภูเขาหลวง | |
| แผ่หางกางปีกเป็นพุ่มพวง | ชะนีหน่วงเหนี่ยวไม้ชม้อยตา | |
| ปักเป็นหิมพานต์ตระหง่านงาม | อร่ามรูปพระสุเมรุภูผา | |
| วินันตกหัศกันเป็นหลั่นมา | การวิกอิสินธรยุคนธร | |
| อากาศคงคาชลาสินธุ์ | มุจลินท์ห้าแถวแนวสลอน | |
| ไกรลาสสะอาดเอี่ยมอรชร | ฝูงกินรคนธรรพ์วิทยา" |
![]() |
![]() |
| "ถึงม่านชั้นสามดูงามพริ้ม | ฝีมือพิมเจ้าทำพี่จำได้ | |
| ยืนพิศม่านน้องต้องติดใจ | ฉลาดนักปักไว้เป็นคาวี" |
|
|
| "เจ้าลืมนอนซ่อนพุ่มกระทุ่มต่ำ | เด็ดใบบอนช้อนน้ำที่ไร่ฝ้าย | |
| พี่เคี้ยวหมากเจ้าอยากพี่ยังคาย | แขนซ้ายคอดแล้วเพราะหนุนนอน | |
| เจ้ามาได้ผัวดีมีทรัพย์มาก | มาลืมเรือนเพื่อนยากแต่เก่าก่อน | |
| หลงเชิงขุนช้างช่างชะอ้อน | กอดท่อนซุงสักสำคัญคน" |
| "นี่ลาวทองจากห้องไปแล้วฤๅ | จึงถึงดื้อเดือดมาเวลาค่ำ | |
| ไม่ตามใจขัดใจจึงเพ้อพำ | นี่อดน้ำแล้วสิเลี้ยวมากินตม" |