| ย้อนกลับ | หน้าต่อไป |
| พัฒนาทางประวัติศาสตร์ | มรดกทางธรรมชาติ | มรดกทางวัฒนธรรม | มรดกทางพระพุทธศาสนา |

แหล่งประวัติศาสตร์

             บึงโง้ง  อยู่ในเขตตำบลเมืองเก่า อำเภอเสาไห้ เป็นหนองน้ำรูปเกือกม้า เดิมเป็นหนองน้ำที่เกิดจากการขุดดินมาทำอิฐเพื่อสร้างเมืองสระบุรีในอดีต ตัวบึงมีพื้นที่ประมาณ ๗๕ ไร่ ปัจจุบันได้มีการขุดแต่งบึงนี้ให้ราษฎรมีน้ำใช้ในการเกษตร เพาะพันธุ์ปลาและเป็นแหล่งท่องเที่ยว

             ถนนฝรั่งส่องกล้อง  ตามพงศาวดารกล่าวว่า เมื่อสมเด็จพระเจ้าทรงธรรม (พ.ศ.๒๑๕๓ - ๒๑๗๑ ) ได้มีผู้พบรอยพระพุทธบาท และพระองค์ได้เสด็จไปนมัสการพระพุทธบาทแล้ว" จึงได้ให้ฝรั่งส่องกล้องตัดทางสถลมารคกว้างสิบวาตลอดถึงท่าเรือให้แผ้วถางทุบปราบให้รื่นราบเป็นถนนหลวงเสร็จ" ฝรั่งในที่นี้คือชาวฮอลันดาที่มารับราชการในสมัยนั้น
             การเดินทางจากพระนครศรีอยุธยาไปนมัสการพระพุทธบาทสระบุรีในครั้งนั้นต้องไปทางเรือก่อน แล้วจึงไปขึ้นบกที่ท่าเรือ แล้วขึ้นช้างต่อไปยังพระพุทธบาท ต่อมาเมื่อสมเด็จพระเจ้าปราสาททอง (พ.ศ.๒๑๗๓ - ๒๑๙๙ ) จะเสด็จไปนมัสการพระพุทธบาท ได้โปรดเกล้า ฯ ให้ช่างไปตกแต่งพระตำหนัก และเตรียมเส้นทางที่จะเสด็จพระราชดำเนิน ตามที่ปรากฎในพงศาวดารตอนหนึ่ง มีความว่า
                 "ในเดือน ๑๒ นั้น (พ.ศ.๒๑๗๖ ทรงพระกรุณารับสั่งว่า พ้นเทศกาลราษฎรเกี่ยวข้าวแล้วจะเสด็จไปนมัสการพระพุทธบาท ให้ยกช่างขึ้นไปตกแต่งพระตำหนักใต้ธารทองแดง และไขบัวให้มาแต่ธารทองแดงให้สนุกสนานและทรงสถลมารค แต่ท่าเจ้าสนุกขึ้นไปท้ายพิกกุลนั้น คิดให้มีน้ำและศาลาโดยระยะทาง ผู้คนจะได้อาศัย เสนาบดีรับพระราชโองการแล้วก็ยกช่างและไพร่ขึ้นไป เกณท์แบ่งให้ตกแต่งพระตำหนักเจ้าท่าสนุก และแบ่งให้ทำศาลา ขุดบ่อบางโขมด ตำบลบ่อโศก ให้ขุดบ่อริมต้นโศก จึงให้ชื่อว่า บ่อโศก แล้วขึ้นไปขุดบ่อทำศาลากลางทาง พอพระสงฆ์และสามเณรเดินขึ้นไปเห็นศาลาอยู่ เจ้าสามเณรจึงว่าศาลาทั้ง ๕ ห้อง คับเสีย ๑ ห้อง ก่อเป็นฝากรงให้ดี คนจะได้อาศัยนอนถ้าไม่มีฝาเสือจะกินเสีย ช่างทั้งปวงฟังเจ้าสามเณรว่า เห็นชอบก็ทำตาม ครั้นแล้วจึงได้นามว่า ศาลาเจ้าเณร และที่ตำบลหนองคณฑีนั้นมีน้ำอยู่แล้ว ก็ทำศาลาไว้สำหรับอาศัยและไพร่ซึ่งทำศาลาลงไปตักน้ำกินได้คณฑีใบหนึ่งจึงให้ชื่อว่า หนองคณฑี
             การเดินทางตามเส้นทางบก จากท่าเรือถึงพระพุทธบาท ระยะทางประมาณ ๑๙ กิโลเมตร  เริ่มจากหัวถนนอยู่บริเวณท่าเกย ใกล้กับวัดรวก อำเภอท่าเรือ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เดิมเคยมีเกยช้างปลูกสร้างอยู่ แต่ปัจจุบันไม่มีแล้ว ถนนตอนี้กว้าง ๑๐ วา หรือ ๒๐ วา ตัดผ่านพื้นที่สามอำเภอสองจังหวัดคือ อำเภอท่าเรือ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา อำเภอบ้านหมอ และอำเภอพระพทุธบาท จังหวัดสระบุรี ปัจจุบันเส้นทางนี้คึงเหลืออยู่ประมาณ ๙ กิโลเมตร เริ่มจากบริเวณเยื้องกับวัดสร่างโศก (อำเภอบ้านหมอ จังหวัดสระบุรี) ช่วงกิโลเมตรแรกเป็นถนนดินไม่ได้ใช้เป็นถนนอีกต่อไป ถัดนั้นไปเปฌนถนนลูกรังผ่านหลังวัดปัฐจาภิรมย์ วัดหนองคณฑี ไปตัดกบถนนสายพระพุทธบาท - บ้านหมอ บริเวณน้าวัดกัลยาณบรรพต (เขาเสี้ยว) ช่วงที่ผ่านศาลเจ้าพ่อเขาตก และพระตำหนักสระยอหายไป ไปปรากฎอีกครั้งที่บรเวณชุมชนเทศบาลพระพุทธบาท ช่วงนี้เป็นถนนลูกรังและคอนกรีตความกว้างประมาณ ๖ - ๘ เมตร ตามเส้นทางดังกล่าว มีสถานที่ซึ่งมีกล่าวอยู่ในพระราชพงศาวดารคือ
                 - บ่อบางโขมด  เป็นบ่อน้ำที่ขุดขึ้นในรัชสมัยสมเด็จพระเจ้าปราสาททอง ต่อมาคงชำรุด ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้โปรดเกล้า ฯ ให้สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาพิชัยญาติบูรณะซ่อมแซมขึ้นใหม่ บ่อนี้ตั้งอยู่ใต้วัดสุนทรเทพมุนี (วัดสะพานช้าง) ประมาณ ๑ กิโลเมตร อยู่ริมถนนสายพระพุทธบาท - บ้านหมอ - ท่าเรือ ห่างจากถนนนี้ไปทางทิศตะวันตกประมาณ ๕๐ เมตร บริเวณนี้เดิมเป็นโคกอยู่กลางนา ตัวบ่อมีร่องรอยกรุอิฐถือปูน เล่ากันว่าเมื่อก่อนนี้เคยมีศาลาอยู่หลังหนึ่งเรียกว่า ศาลาสมเด็จ ปัจจุบันไม่มีทั้งโคกและศาลาดังกล่าวแล้ว

                 - สะพานบางโขมดหรือสะพานช้าง  อยู่ในเขตตำบลบางโขมด อำเภอบ้านหมอ เป็นสะพานข้ามคลองเริงราง เดิมทำด้วยท่อนซุงสำหรับให้ขบวนช้างข้าม เมื่อพระมหากษัตริย์หรือเจ้านายเสด็จพระพุทธบาท จึงได้ชื่อว่าสะพานช้าง ปัจจุบันสร้างเป็นสะพานคอนกรีตเสริมเหล็ก เป็นส่วนหนึ่งของถนนสายพระพุทธบาท - บ้านหมอ - ท่าเรือ ที่เชิงสะพานนี้มีวัด เดิมชื่อวัดสะพานช้าง ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็นวัดสุนทรเทพมุนี  เมื่อครั้งสุนทรภู่ไปนมัสการพระพุทธบาท เมื่อปี พ.ศ.๒๓๔๐ ได้กล่าวถึงสะพานนี้ไว้ว่า

        "ถึงบางโขมดมีธารสะพานช้าง        บรรลุทางครบร้อยห้าสิบเส้น
มีโพธิ์พุ่มชุ่มชื่นระรื่นเย็น        ไม่ว่างเว้นสัปบุรุษเขาหยุดเรียง
บ้างขายของสองทางตามทางป่า        จำนรรจาจอแจออกแซ่เสียง
ที่แกล้งไสให้คชสารเคียง        เห็นของเรียงอยู่บนร้านทั้งหวานคาว"
                 - บ่อโศก  ตั้งอยู่ริมถนนฝรั่งส่องกล้องซึ่งอยู่ทางทิศตะวันตกขนานไปกับทางหลวงสายพระพุทธบาท - บ้านหมอ - ท่าเรือ ประมาณหลักกิโลเมตรที่ ๙ ห่างกันประมาณ ๒๐๐ เมตร ณ แนวริมบ่อโศกจะสังเกตเห็นแนวถนน ซึ่งเริ่มสร้างขึ้นในรัชสมัยพระเจ้าทรงธรรม ได้ชัดเจน  ทางตะวันตกของถนนเป็นที่ลุ่ม แสดงว่าเดิมเป็นหนองน้ำใหญ่ มีบ่อกรุอิฐแต่ชำรุดอยู่ริมหนองหนึ่งบ่อ กับอยู่ห่างจากแนวถนนออกไปทางด้านทิศตะวันตกอีกหนึ่งบ่อ และใต้ลงมามีอีกหนึ่งบ่อ  บ่อทางด้านทิศตะวันตกมีตาน้ำไหลดี ในฤดูแล้งชาวบ้านได้อาศัยน้ำในบ่อนี้ บริเวณโคกริมแนวถนนมีอิฐหัก และกระเบื้องแตกอยู่ทั่วไป แสดงว่าแต่ก่อนเคยมีศาลาที่พัก ปัจจุบันไม่ปรากฏร่องรอยของบ่อโศก เนื่องจากมีการขุดเป็นบ่อดินขาวลึกและกว้างเพื่อการทำซีเมนต์

                 - บ่อศาลาดงโอบ  ชื่อบ่อนี้ไม่ปรากฏอยู่ในพระราชพงศาวดาร แต่บ่อนี้เป็นที่รู้จักของชาวบ้านว่าเป็นที่พักอีกแห่งหนึ่ง ระหว่างทางไปพระพุทธบาท ตั้งอยู่ระหว่างทางด้านตะวันตกของถนนพระเจ้าทรงธรรม ก่อนถึงวัดปัญจาภิรมย์ ประมาณ ๕๐๐ เมตร มีต้นมะขามและต้นมะเดื่อขนาดใหญ่ขึ้นอยู่ริมปากบ่อ เป็นบ่อน้ำทรงกลมขนาดใหญ่กรุอิฐฝีมือประณีตเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ ๔ เมตร ปัจจุบันยังมีน้ำอยู่ในบ่อบ้าง

                 - บ่อศาลาเจ้าเณร  ตั้งอยู่ในที่ลุ่มทางด้านทิศตะวันตกใกล้โคกที่ถนนฝรั่งส่องกล้องตัดผ่านไป ห่างออกไปประมาณ ๒๕๐ เมตร จากทางหลวงสายพระพุทธบาท - บ้านหมอ - ท่าเรือ ประมาณหลักกิโลเมตร ๗  เป็นบ่อกลมกรุอิฐถือปูนมีขอบ ยังอยู่ในสภาพค่อนข้างดี ชาวบ้านได้อาศัยน้ำในบ่อนี้ได้ตลอดฤดูแล้ง แต่ศาลาสูญหายไปหมดแล้วเหลืออยู่แต่เศษอิฐและกระเบื้องหลังคาชนิดกาบุ กองอยู่เกลื่อนกลาดบนเนินดินบริเวณนั้น
             บ่อศาลาเจ้าเณร   อยู่ห่างจากวัดปัญจาภิรมย์ประมาณหนึ่งกิโลเมตร สภาพบ่อรกร้างอยู่ในพงหญ้ากลางไร่ ชาวบ้านเล่าว่า บ่อศาลาเจ้าเณรลึก ๑๐ ศอก
                 - หนองคณฑี  อยู่ห่างจากวัดหนองคณฑีไปทางเหนือประมาณ ๒๐๐ เมตร มีเนื้อที่ประมาณ ๕ ไร่ อยู่ริมถนนฝรั่งส่องกล้อง

| ย้อนกลับ | หน้าต่อไป | บน |