| ย้อนกลับ | หน้าต่อไป |


๒ เมษายน ๒๓๙๔
            พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้า ฯ ขึ้นครองราชย์ แล้วสถาปนาสมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้ากรมขุนอิศเรศรังสรรค์ ขึ้นเป็นสมเด็จพระปิ่นเกล้า ฯ ทรงมีฐานะเทียบเท่าพระเจ้าแผ่นดิน

๔ เมษายน ๒๓๙๔
            พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้า ฯ ทรงลาผนวช

๑๔ พฤษภาคม ๒๓๙๔
            วันพระบรมราชาภิเษก พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้า ฯ

๑๕ พฤษภาคม ๒๓๙๔
            พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้า ฯ เถลิงถวัลยราชสมบัติ เป็นพระมหากษัตริย์พระองค์ที่ ๔ แห่งราชวงศ์ และแห่งกรุงรัตนโกสินทร์

๒๕ พฤษภาคม ๒๓๙๔
            พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้า ฯ ทรงตั้งพระราชพิธีบวรราชาภิเษก สมเด็จพระอนุชาธิราช พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้า ฯ เป็นพระมหาอุปราช แต่ให้มีพระเกียรติยศเทียบเท่าพระเจ้าแผ่นดิน

๒๘ พฤษภาคม ๒๓๙๔
            พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้า ฯ ทรงสถาปนาเจ้าฟ้าน้อย หรือกรมขุนอิศเรศรังสรรค์ขึ้นเป็นพระมหาอุปราช แต่ให้มีพระเกียรติยศอย่างพระเจ้าแผ่นดิน

๓ มิถุนายน ๒๓๙๔
            แก้พระนามพระพุทธรูป ในวัดพระศรีรัตนศาสดารามคือ "พระพุทธเลิศหล้าสุราลัย" เป็น "พระพุทธเลิศหล้านภาลัย"

๑๔ สิงหาคม ๒๓๙๔
            พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้า ฯ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้เจ้านายศึกษาภาษาอังกฤษ เป็นครั้งแรก

๑๑ ตุลาคม ๒๓๙๔
            อผยยยใสร้อยเอกอิมเปย์ (Impey) นายทหารนอกราชการของกองทัพอังกฤษประจำอินเดีย เดินทางมาจากเมืองเมาะลำเลิง เข้ารับราชการเป็นครูฝึกทหารวังหลวง และฝึกทหารในกรมอาสาลาวและเขมร

๒๕ ตุลาคม ๒๓๙๔
            วันลงมือขุดคลองผดุงกรุงเกษม เป็นคูเมืองรอบนอกในสมัย พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้า ฯ วัตถุประสงค์เพื่อการคมนาคมและยุทธศาสตร์ ขุดอยู่ ๑๐ เดือน เสร็จเมื่อ ๑๔ ตุลาคม ๒๓๙๕ ฉลองสมโภชคลองเมื่อ ๓ ธันวาคม ๒๓๙๗

๑๐ มีนาคม ๒๓๙๔
            พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้า ฯ ถวายพระนามพระเจ้าแผ่นดินพระบรมราชชนนี และกรมพระราชวังบวร ฯ ที่สวรรคตแล้ว (รัชกาลที่ ๑ – ๓)

๒๗ มีนาคม ๒๓๙๔
            วันเกิด จอมพลเจ้าพระยาสุรศักดิ์หรือธรรมศักดิ์มนตรี (เจิม แสงชูโต) ท่านเป็นแม่ทัพผู้ซึ่ง รัชกาลที่ ๕ โปรดเกล้า ฯ ให้ไปปราบฮ่อใน พ.ศ.๒๔๓๐ และปราบเงี้ยวใน พ.ศ.๒๔๔๕ ถึงแก่อนิจกรรมเมื่อ ๑ กรกฎาคม ๒๔๗๔

พ.ศ.๒๓๙๕
            พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้า ฯ โปรดเกล้า ฯ ให้ตั้งกองทหารรักษาพระองค์ ตามนิยมต่างประเทศและโปรดเกล้า ฯ ให้ตั้งกองทหารปืนใหญ่อาสาญวน ทดแทนกองอาสาญวนที่โอนไปสังกัดวังหน้า และโปรดเกล้าให้ตั้งกองทหารหน้าสังกัดกรมพระกลาโหม

กรกฎาคม ๒๓๙๕
            เรือรบสหรัฐ ฯ เดินทางถึงกรุงเทพ ฯ เอ็ดมัน รอเบิตส์ นำสาสน์ของประธานาธิบดี แอนดรูว์ จอห์นสัน ถวายพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้า ฯ

๑๘ พฤศจิกายน ๒๓๙๕
            วันออกเดินทางจากกรุงเทพ ฯ ของกรมหลวงวงศาธิราชสนิท เป็นแม่ทัพไปตีเมืองเชียงตุง

พ.ศ.๒๓๙๖
            พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้า ฯ โปรดเกล้า ฯ ให้นายร้อยโทโทมัส ยอร์ช น๊อก ครูฝึกทหารชาวอังกฤษ นำกองทหารหน้าไปช่วยรบในคราวศึกเชียงตุง

๒๐ กันยายน ๒๓๙๖
            เป็นวันพระราชสมภพของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ ๕) ทรงเป็นพระราชโอรสองค์ที่ ๙ ในรัชกาลที่ ๔ และองค์แรกในสมเด็จพระเทพสิรินทราบรมราชินี พระองค์ได้เสด็จเถลิงถวัลย์ราชสมบัติ เมื่อ พ.ศ.๒๔๑๑ ขณะพระชนม์ ๑๕ พรรษา โดยมีสมเด็จพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ (ช่วง บุนนาค) เป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ จนทรงบรรลุราชนิติภาวะ ในรัชสมัยของพระองค์ ได้ทรงสร้างสิ่งที่เป็นประโยชน์แก่ประเทศและประชาชนคนไทยเป็นเอนกประการ ทำให้ประเทศไทยเจริญรุ่งเรืองมาก เรื่องที่สำคัญที่สุดคือ ทรงประกาศเลิกทาส พระองค์ได้เสด็จสวรรคต เมื่อ ๒๓ ตุลาคม ๒๔๕๓ พระชนมายุ ๕๘ พรรษา เสวยราชย์นาน ๔๒ ปี

พ.ศ.๒๓๙๗
            พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้า ฯ โปรดเกล้า ฯ ให้สร้างป้อมขึ้นไว้ป้องกันพระนคร จากการรุกรานจากข้าศึก ๘ ป้อม มีระยะทางประมาณ ๑๒ เส้น

พ.ศ.๒๓๙๗
            พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้า ฯ โปรดเกล้า ฯ ให้ตั้งกองทหารล้อมวัง

๕ ธันวาคม ๒๓๙๗
            ฉลองคลองผดุงกรุงเกษม ซึ่งขุดเสร็จเมื่อ ปี พ.ศ.๒๔๙๕ ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ ๔)

พ.ศ.๒๓๙๘
            พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้า ฯ โปรดเกล้า ฯ ให้ย้ายกองทหารอย่างยุโรป ทั้งสามกองคือ กองทหารรักษาพระองค์ กองทหารปืนใหญ่อาสาญวนและกองทหารหน้า มาตั้ง ณ ท้องสนามไชย (ถนนสนามไชยปัจจุบัน) ต่อมาได้โปรดเกล้า ฯ ให้สร้างโรงทหารบริเวณท้องสนามไชยขึ้น

พ.ศ. ๒๓๙๘
            สมเด็จพระนางเจ้าวิคตอเรีย พระบรมราชินีแห่งอังกฤษ ได้ส่งราชทูตชื่อ เซอร์ จอห์น เบาริ่ง มาทำสัญญาทางพระราชไมตรีและพาณิชย์ระหว่างไทยกับอังกฤษ เป็นประเทศแรก เป็นที่รู้จักกันทั่วไปว่า สนธิสัญญาเบาริ่ง

พ.ศ.๒๓๙๘
            พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้า ฯ ทรงประกาศชื่อประเทศจากชื่อเดิมกรุงศรีอยุธยาเป็น สยาม

พ.ศ.๒๓๙๘
            พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้า ฯ โปรดเกล้า ฯให้พระเจ้าพี่ยาเธอ กรมหลวงมหิศวรินทรามเรศ ดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการกองทหารหน้า ซึ่งทรงปรับปรุงการตั้งกองทหารไว้ตามหน่วยต่าง ๆ ในกรุงเทพ ฯ ให้มารวมกันที่สนามชัยแห่งเดียวคือ กองทหารฝึกแบบยุโรป กองทหารมหาดไทย กองทหารกลาโหม และกองทหารเกณฑ์หัด

๑๘ เมษายน ๒๓๙๘
            ไทยทำสัญญากับอังกฤษ เรื่องอำนาจกงสุลอังกฤษในไทย

พ.ศ.๒๓๙๙
            มีการแต่งตั้งสถานกงสุลขึ้นในไทยเป็นครั้งแรก กงสุลอเมริกันคนแรก คือ หมอสตีเฟน แมคดูน

๑๒ เมษายน ๒๓๙๙
            ทูตสหรัฐ ฯ คือ เทาเซนด์ แฮร์ริส เข้ามาทำสัญญาทางไมตรีและพาณิชย์กับไทย ในสมัยรัชกาลที่ ๔

๑๒ เมษายน ๒๓๙๙
            ตั้งกระทรวงการต่างประเทศขึ้นเป็นครั้งแรก โดยแยกจากกระทรวงพระคลัง ในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้า ฯ

๒๑ เมษายน ๒๓๙๙
            นาย ทาวเซนต์ แฮรีส กงสุลอเมริกันประจำญี่ปุ่น เข้ามาเจริญทางไมตรีกับไทยที่กรุงเทพ ฯ เดินทางมาถึง

๒๙ พฤษภาคม ๒๓๙๙
            ไทยทำสัญญาทางไมตรีกับ สหรัฐ เช่นเดียวกับที่ทำกับอังกฤษ และจัดตั้งกงสุลขึ้นที่ กรุงเทพ ฯ ในวันเดียวกันนี้ โดยมี หมอ แมททูน เป็นกงสุลคนแรก

๓๐ กรกฎาคม ๒๓๙๙
            พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้า ฯ โปรดให้ข้าราชการผู้ใหญ่ ๕ ท่าน โดยมีกรมหลวงวงศาธิราชสนิทเป็นหัวหน้าไปทำสัญญากับมองติญี ราชทูตฝรั่งเศส รวม ๓๒ ข้อ ณ พระราชวังเดิม

๑๘ กันยายน ๒๓๙๙
            พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้า ฯ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ เลื่อนพระยาเมืองแก้วมหาสุริยวงศ์ ขึ้นเป็นพระเจ้ากาวิโลรสสุริยวงศ์ ฯ เจ้านครเชียงใหม่

๑๙ กันยายน ๒๓๙๙
            พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้า ฯ ทรงมีพระราชสาส์นจารึกในแผ่นพระสุพรรณบัตรถึงพระเจ้านโปเลียนที่ ๓ แห่งพระราชอาณาจักรกรุงฝรั่งเศส มีใจความว่าขอเจริญทางพระราชไมตรีมายังสำนักสมเด็จพระเจ้านโปเลยอนที่สาม และการจัดแจงสัญญาการไมตรีและการค้าขายคืนต่อกับการซึ่งได้เป็นแล้วแต่หนหลัง ครั้งแผ่นดินพระบาทสมเด็จพระนารายณ์มหาราช

๒๗ ตุลาคม ๒๓๙๙
            เป็นวันประสูติของ พลตรีพระเจ้าวรวงศ์เธอ ฯ กรมหลวงพิชิตปรีชากร โอรสในรัชกาลที่ ๔ ต้นราชสกุลคัคณางค์ ในสมัยรัชกาลที่ ๕ ได้รับโปรดเกล้า ฯ ให้ทรงดำรงตำแหน่งอธิบดีศาลฎีกาเป็นองค์แรกและทรงมีส่วนในการเลิกทาส ทรงเป็นคนไทยคนแรกที่คิดค้นยาไทยผสมกับยาฝรั่ง

พ.ศ.๒๔๐๐
            พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้า ฯ ได้ทรงส่งคณะทูตไปเจริญพระราชไมตรีกับประเทศอังกฤษเป็นครั้งแรก ในรัชสมัยพระนางเจ้าวิคตอเรีย พระบรมราชินี โดยมีพระยาศรีสุริยวงศ์ (ช่วง บุนนาค) เป็นราชทูต

๑๐ มิถุนายน ๒๔๐๐
            พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้า ฯ ทรงมีพระราชสาส์นถึงประธานาธิบดีอเมริกา มีใจความว่าขอเจริญทางพระราชไมตรีมายัง แฟรงกลินเปียศปริศเดน ผู้บังการแผ่นดินยุไนติศเตศ อเมริกา และเรื่องการขอแก้สัญญาเก่าในทางไมตรี และการค้าขายในแผ่นดินสยาม ที่ได้เคยทำกันมาตั้งแต่ครั้งพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว

๑๐ มิถุนายน ๒๔๐๐
            มีการฉายภาพยนตร์ครั้งแรกในไทยที่โรงละคร หม่อมเจ้าอลังการ์

๑๔ กันยายน ๒๔๐๐
            วันเริ่มขุดคลองมหาสวัสดิ์ ตั้งแต่วัดชัยพฤกษ์มาลา ไปออกแม่น้ำท่าจีน

๒ พฤศจิกายน ๒๔๐๐
            พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้า ฯ ทรงมีพระราชหัตเลขา ถึงราชทูตไทย กรุงลอนดอน ให้แสวงหาเครื่องทำเงินตรา (เหรียญกษาปณ์)

๒๒ มกราคม ๒๔๐๐
            พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้า ฯ ทรงประกาศแต่งตั้งพระยามนตรีสุริยวงศ์ เป็นราชฑูตไปลอนดอน เจ้าหมื่นสรรเพธภักดี เป็นอุปทูต จมื่นมณเฑียรพิทักษ์ เป็นตรีฑูต ประกาศนี้ได้มอบสำหรับ พวกฑูตานุทูต ณ ท้องสนาม ในพระบรมมหาราชวัง ได้ทรงมีพระราชสาส์น ถึงสมเด็จพระนางวิกตอเรียมหาราชินีแห่งสหราชอาณาจักร อันได้แก่บริเตนใหญ่ ไอร์แลนด์และประเทศในอาณานิคม มีใจความว่า พระเจ้ากรุงบริตาเนียได้ส่งทูตานุทูตอังกฤษเข้ามาเจรจาทาง พระราชไมตรีกับกรุงสยามสองครั้งแล้ว ฝ่ายกรุงสยามควรจะให้ทูตานุทูตสยามออกไปคำนับให้ถึง พระเจ้ากรุงบริตาเนีย

๒๔ มกราคม ๒๔๐๐
            เริ่มสร้างกำแพงเมืองเชียงราย

๑๕ มีนาคม ๒๔๐๐
            กำเนิดหนังสือราชกิจจานุเบกษา โดยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้า ฯ ให้พิมพ์ออกแจกจ่ายประชาชน พระราชทานนามว่าหนังสือราชกิจจานุเบกษา ซึ่งแปลว่า หนังสือเป็นที่เพ่งดูราชกิจ

๒๒ พฤษภาคม ๒๔๐๑
            คณะราชทูตกลับจากอังกฤษ มีหม่อมราโชทัย เป็นล่ามเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท

๑๕ มิถุนายน ๒๔๐๑
            หมอบรัดเลย์ ซื้อลิขสิทธิ์หนังสือนิราศลอนดอนของหม่อมราโชทัย เป็นการซื้อลิขสิทธิ์ครั้งแรกในเมืองไทย

๒๒ ตุลาคม ๒๔๐๑
            โรงสีข้าวแห่งแรกของไทยเปิดทำการ ต่อมาเมื่อ ๑๐ ธันวาคม ๒๔๐๙ เจ้าพระยามหินทรศักดิ์ธารา ได้ซื้อโรงสีจากบริษัทสก๊อตแอนด์กำปะนี นับเป็นคนไทยคนแรกที่ตั้งโรงสีไฟในไทย

| ย้อนกลับ | หน้าต่อไป | บน |