| ย้อนกลับ | หน้าต่อไป | |
๒
สิงหาคม ๒๔๐๒
พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้า ฯ เสด็จประพาสหัวเมืองตะวันตกโดยทางเรือกลไฟ
๑๑
พฤศจิกายน ๒๔๐๒
พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้า ฯ ทรงมีพระราชสาส์น ถึงพระราชาธิบดีเดนมาร์ค มีใจความว่า
ขอเจริญทางพระราชไมตรี มายังสมเด็จพระเจ้าเฟรเดอริก ที่ ๗ และเรื่องการค้าขาย
๑๑
มกราคม ๒๔๐๒
วันประสูติ จอมพล เจ้าฟ้ากรมพระยาภาณุพันธุ์วงศ์วรเดช ราชโอรสในรัชกาลที่
๔ ทรงดำรงตำแหน่งสำคัญต่าง ๆ มากมาย รัชกาลที่ ๖ ทรงสรรเสริญว่าทรงเป็นพระหลักเมืองแห่งพระบรมราชวงศ์จักรี
๔
กุมภาพันธ์ ๒๔๐๒
พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้า ฯ เสด็จ ฯ ทรงเปิดเดินเครื่องจักรโรงกษาปณ์สิทธิการ
๑๔
กันยายน ๒๔๐๓
ประเทศไทยเริ่มใช้เหรียญบาทเป็นครั้งแรก ในสมัยรัชกาลที่ ๔
๑๗
กันยายน ๒๔๐๓
ประกาศใช้เงินเหรียญบาท และเงินแป (๑ สลึง ๒ สลึง เงินเฟื้อง) กำหนดออกใช้ใน
๑๕
มิถุนายน ๒๔๐๔
หมอบรัดเลย์ ซื้อลิขสิทธิ์หนังสือนิราชลอนดอน ของหม่อมราโชทัยและจัดพิมพ์ขายเป็นครั้งแรก
นับเป็นการเริ่มต้นการซื้อขายลิขสิทธิ์ และการพิมพ์หนังสือเป็นเล่มออกจำหน่ายในประเทศไทย
๑๙
กรกฎาคม ๒๔๐๔
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้า ฯ ครั้งยังไม่ขึ้นครองราชย์ ทรงบรรพชาเป็นสามเณร
๒๐
พฤศจิกายน ๒๔๐๔
วันประสูติ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ ฯ กรมพระนราธิปประพันธ์พงศ์ พระราชโอรสใน รัชกาลที่
๔ เป็นต้นราชสกุล วรวรรณ ทรงได้รับการยกย่องว่าเป็นนักเขียน และนักกวีผู้ยิ่งใหญ่
สมัยกรุงรัตนโกสินทร์ สิ้นพระชนม์ เมื่อ ๑๑ ตุลาคม ๒๔๗๕
๕
กุมภาพันธ์ ๒๔๐๔
พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้า ฯ โปรดเกล้า ฯ ให้สร้างถนนได้แก่ ถนนเจริญกรุง
ซึ่งเป็นถนนสายหนึ่งในกรุงเทพมหานคร เริ่มต้นตั้งแต่ถนนสนามไชย ไปจนจรดแม่น้ำเจ้าพระยา
บริเวณถนนตก รวมความยาวทั้งสิ้น ๘,๕๗๕ กิโลเมตร ส่วนความกว้างไม่เท่ากันตลอดทั้งสาย
บางตอนกว้างถึง ๑๒.๗๕ เมตร บางตอนกว้างเพียง ๗ เมตร เป็นถนนเทคอนกรีต และลาดยางตลอดสาย
และ ถนนบำรุงเมืองถนนเฟื่องนคร ถนนสีลม
และโปรดเกล้า ฯ ให้ขุดคลองผดุงกรุงเกษมคลองมหาสวัสดิ์คลองภาษีเจริญ
คลองดำเนินสะดวก และคลองหัวลำโพง
๗
กุมภาพันธ์ ๒๔๐๔
พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้า ฯ ทรงทำสัญญาทางพระราชไมตรีกับประเทศรัสเซีย
๑๒
มีนาคม ๒๔๐๔
พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้า ฯ โปรดเกล้า ฯ ให้จัดพิมท์ปฎิทิน ทรงคำนวนขึ้นเป็นครั้งแรก
๒๑
มิถุนายน ๒๔๐๕
วันดำรงราชานุภาพ สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ ประสูติ ๒๔๐๕ สิ้นพระชนม์ ๑
ธันวาคม ๒๔๘๖ ได้รับพระนามว่า
พระบิดาแห่งประวัติศาสตร์
๑๗
กุมภาพันธ์ ๒๔๐๕
พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้า ฯ ทรงมีพระราชสาส์น ถึงสมเด็จพระราชาธิบดี เยอรมัน
มีใจความว่า ขอเจริญทางพระราชไมตรีมายัง สมเด็จพระเจ้ากรุงปรุสเซีย และเรื่องการทำสัญญาทางพระราชไมตรีและทางค้าขาย
๑๐
กันยายน ๒๔๐๕
วันประสูติ สมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี พระพันวสาชัยยิกาเจ้า ทรงเป็นพระราชธิดาองค์ที่
๖๐ ในรัชกาลที่ ๔ สิ้นพระชนม์เมื่อ ธันวาคม ๒๔๙๙ พระชนมายุ ๙๓ พรรษา นับเป็นพระบรมวงศานุวงศ์ที่ทรงมีพระชันษายืนยาวพระองค์หนึ่งของราชวงศ์จักรี
พ.ศ.๒๔๐๖
พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้า ฯ โปรดให้ต่อเรือยงยศอโยชฌิยา
ซึ่งขึ้นระวางเป็นเรือรบของวังหน้า เครื่องจักรท้ายมีระวางขับน้ำ ๓๐๐ ตัน
ตัวเรือทำด้วยไม้ มีปืนใหญ่ ๖ กระบอก พลประจำเรือ ๘๐ คน ปลดระวาง เมื่อปี
พ.ศ. ๒๔๕๑
๒๘
เมษายน ๒๔๐๖
วันประสูติ สมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ ราชโอรสรัชกาลที่ ๔ ทรงดำรงตำแหน่งสำคัญมากมาย
ทั้งด้านทหารและพลเรือน ทรงมีความสามารถด้านศิลปอย่างสูง เห็นได้จากการออกแบบสร้างวัดเบญจมบพิตร
ฯ เป็นต้นมา
๑๙
มิถุนายน ๒๔๐๖
พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้า ฯ ทรงมีพระราชสาส์นถึงพระราชาธิบดี ฮอลันดา มีใจความว่าขอเจริญทางพระราชไมตรีมายังสมเด็จพระเจ้าวิเลียมที่สาม
พระเจ้าแผ่นดินกรุงนิเทอร์แลนด์ ทรงย้ำถึงทางพระราชไมตรีของสองพระนครที่จะยั่งยืนสืบไปนาน
และคนของทั้งสองฝ่ายจะค้าขายต่อกันโดยสุขสวัสดิ์
๑๘
กันยายน ๒๔๐๖
เริ่มใช้ เงินตราอย่างใหม่ที่เรียกว่า
อัฐ
และโสฬส ทำด้วยดีบุกผสม
เป็นเงินตราแทน หอยเบี้ย ในสมัยรัชกาลที่ ๔
๒๖
พฤศจิกายน ๒๔๐๗
วันสถาปนาวัดราชประดิษฐ์ ฯ เป็นวัดธรรมยุตินิกาย
๒๙
มกราคม ๒๔๐๗
พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้า ฯ โปรดให้หลวงเดชกับคณะ ไปจัดการเรื่องพรมแดนไทยกับพม่า
ตลอดแนวเทือกเขาตะนาวศรี
พ.ศ.๒๔๐๘
กองทัพกรุงศรีอยุธยา ยกขึ้นไปตีเมืองลำปาง และได้สถาปนาพระอาทิตย์วงศ์ ราชโอรสสมเด็จพระรามาธิบดีที่
๒ เป็นพระบรมราชา ตำแหน่งสมเด็จหน่อพุทธางกูร ให้ครองหัวเมืองเหนือ อยู่ ณ
เมืองพิษณุโลก
๑๔
พฤษภาคม ๒๔๐๘
วันก่อพระฤกษ์พระเจดีย์ภูเขาทอง ในรัชกาลที่ ๔
๒๒
สิงหาคม ๒๔๐๘
พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้า ฯ มีพระบรมราชโองการ ประกาศเลิกการห้ามส่งข้าว ออกนอกพระราชอาณาจักร
๕
กันยายน ๒๔๐
เรือปืนฝรั่งเศส ชื่อ Mitraille เดินทางมาถึงกรุงเทพ ฯ เพื่อรับ M. Aubaret
ซึ่งเข้ามาเจรจาทำสัญญาเรื่องดินแดน ให้ไทยยอมรับสิทธิอธิปไตยของฝรั่งเศสเหนือดินแดนเขมร
แต่ไม่สำเร็จ
๗
มกราคม ๒๔๐๘
พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้า ฯ เสด็จสวรรคตที่วังหน้า พระชนมายุได้ ๕๘ พรรษา
หลังจากทรงประชวรมา ๕ ปี
๘
มกราคม ๒๔๐๘
วันประสูติกรมพระราชวังบวรวิชัยชาญ (พระองค์เจ้ายอดยิ่งยศ) ทิวงคต ๒๘ สิงหาคม
๒๔๒๘
๑๗
กุมภาพันธ์ ๒๔๐๙
พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้า ฯ เสด็จพระราชทานเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว
๓
มิถุนายน ๒๔๑๐
พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้า ฯ มีพระบรมราชโองการประกาศตั้ง เซอร์ ยอน เบาริง
เป็นราชทูตวิสามัญ และอัคราชทูตผู้มีอำนาจเต็มฝ่ายไทยประจำยุโรป และได้ตั้งให้เป็น
พระยาสยามานุกูลกิจ
สยามมิตรมหายศ เมื่อ ๓๐ สิงหาคม ๒๔๑๐
๑๕
กรกฎาคม ๒๔๑๐
ไทยเสียแคว้นเขมร และเกาะใกล้เคียงแก่ฝรั่งเศส
ด้วยเห็นว่าการดำเนินนโยบายประนีประนอมกับฝรั่งเศส เป็นหนทางที่จะรักษาเอกราชของชาติไว้ได้
๓๑
กรกฎาคม ๒๔๑๐
วันถึงแก่กรรม หม่องราโชทัย (กระต่าย อิศรางกูล ณ อยุธยา) กวีผู้แต่งนิราศลอนดอน
๓๐
สิงหาคม ๒๔๑๐
พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้า ฯ พระราชทานบรรดาศักดิ์แก่ Sir John Bowring เป็นพระยาสยามานุกูลกิจ
อันเป็นบรรดาศักดิ์สูงสุดที่ราชทูตไทยได้รับ นับเป็นชาวอังกฤษคนแรกที่ได้รับบรรดาศักดิ์เป็นพระยา
๓๐
กันยายน ๒๔๑๐
พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้า ฯ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ตั้งเซอร์ยอน บาวริ่ง เป็นอัคราชทูตพิเศษไทย
ประจำกรุงลอนดอน
๑๒
พฤศจิกายน ๒๔๑๐
พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้า ฯ โปรดเกล้า ฯ ให้เรือพระที่นั่งอรรคเรศรัตนอาสน์
ออกไปรับผู้ว่าราชการเมืองมาเก๊า ซึ่งได้เชิญพระราชสาสน์ และเครื่องราชบรรณาการของกษัตริย์โปรตุเกสมาถวาย
จากสันดอนปากแม่น้ำเจ้าพระยาเข้ามายังกรุงเทพ ฯ
๒๗
พฤศจิกายน ๒๔๑๐
วันประสูติพระเจ้าบรมวงศ์เธอ ฯ กรมพระยาเทวะวงศ์วโรปการ โอรสองค์ที่ ๔๒ ในรัชกาลที่
๔ ต้นราชสกุลเทวกุล ทรงคิดทำปฏิทินไทยตามสุริยคติ ขึ้นทูลเกล้า ฯ ถวาย รัชกาลที่
๕ จึงได้โปรดเกล้า ฯ ให้ใช้เป็นประเพณี ตั้งแต่ พ.ศ.๒๔๓๒ เป็นต้นมา ทรงริเริ่มงานสำคัญ
๒ เรื่องคือ ให้ตั้งทูตไทยประจำประเทศอังกฤษเป็นประเทศแรก เมื่อ พ.ศ.๒๔๒๕
ทำให้นานาชาติเริ่มยกย่องให้เกียรติประเทศไทย ด้วยการตั้งราชทูตมาประจำประเทศไทยเป็นการตอบแทน
ทรงริเริ่มที่จะทำสัญญากับอังกฤษ เพื่อจัดตั้งศาลต่างประเทศขึ้นที่เชียงใหม่
เมื่อ พ.ศ.๒๔๒๖ อันเป็นการนำคนในบังคับต่างประเทศมาอยู่ในอำนาจศาลไทย พ.ศ.๒๔๒๘
ขณะพระชนมายยุ ๒๗ พรรษา ได้รับโปรดเกล้า ฯ ให้เป็นเสนาบดีกระทรวงการต่างประเทศและทรงเป็นอยู่
๓๘ ปี เมื่อรัชกาลที่ ๕ โปรดเกล้า ฯ ตั้งเสนาบดี ๑๒ ตำแหน่งขึ้นเมื่อ พ.ศ.๒๔๓๕
ก็ได้ทรงเป็นหัวหน้าเสนาบดีในที่ประชุมเสนาบดี ทรงได้รับพระราชทานยศเป็นมหาอำมาตย์นายก
อันเป็นยศสูงสุดของข้าราชการพลเรือน สิ้นพระชนม์เมื่อพระชนมายุ ๖๕ พรรษา
๑๘
มกราคม ๒๔๑๐
พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้า ฯ ส่งราชทูตไปประจำ ณ กรุงปารีส
๒๑
กุมภาพันธ์ ๒๔๑๐
พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้า ฯ โปรดเกล้า ฯ ให้จำลองปราสาทนครวัด ไว้ ณ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม
ในพระบรมมหาราชวัง เพื่อให้คนทั้งหลายเห็นว่าเป็นสิ่งอัศจรรย์
๑๕
มีนาคม ๒๔๑๐
พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้า ฯ โปรดเกล้า ฯ สถาปนาสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าจุฬาลงกรณ์
ขึ้นเป็นกรมขุนพินิตประชานารถ
พ.ศ.๒๔๑๑
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้า ฯ โปรดเกล้า ฯ จัดตั้งทหารสองโหลขึ้น โดยรวบรวมมหาดเล็กที่หลวงเดิม
มารับการฝึกทหารจากกรมเล็ก ครูฝึกจากกรมทหารหน้าและให้เข้าขบวนตามเสด็จ ณ
สถานที่ต่าง ๆ ด้วย
๑๘
พฤษภาคม ๒๔๑๑
ไทยโดย พระสยาม ฯ ลงนามในสัญญาทางพระราชไมตรี ระหว่างไทย กับ สวีเดน นอร์เวย์
๒๙
สิงหาคม ๒๔๑๑
ไทยโดยพระสยาม ฯ ลงนามในสนธิสัญญาทางพระราชไมตรีระหว่างไทยกับเบลเยี่ยม
๑
กันยายน ๒๔๑๑
ออกหนังสือพิมพ์รายวันฉบับแรกของไทย โดยพิมพ์ที่โรงพยาบาลหมอสมิท ชื่อ Siam
Daily Advertiser
๑
ตุลาคม ๒๔๑๑
พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้า ฯ เสด็จสวรรคต ด้วยพระโรคไข้จับสั่น หลังจากเสด็จไปทอดพระเนตรสุริยุปราคาเต็มดวง
ที่ตำบลหว้ากอ แขวงเมืองประจวบคีรีขันธ์ พระชนมายุ ๖๔ พรรษา ดำรงอยู่ในราชสมบัติ
๑๘ ปี ครองราชย์ได้ ๑๙ ปี
| ย้อนกลับ | หน้าต่อไป | บน | |