กฤษณาสอนน้อง


| ย้อนกลับ | หน้าต่อไป |
loading picture
แถลงเรื่องเบื้องเริ่มเดิมกษัตริย์
ถวัลยรัชย์ครองพาราณสี
คือพรหมทัตชัดความพระนามมี เพิ่มธานีสุโขมโหฬาร
ฯลฯ
มีพระราชบุตรีศรีสวัสดิ์ ประไพภัสร์สององค์ทรงนุสนธ์
กฤษณานามพระพีนิรมล สองนิพนธ์จิรประภากุมารี
ฯลฯ
โอ้อกเอ๋ยอาภัพอัปลักษณ์ ดั่งทรลักษณ์ต่ำช้าในราศี
ไฉนพระพี่กฤษณาพระสามี จึ่งเปรมปรีดิ์สวาทไม่ขาดวัน
ฯลฯ
ฝ่ายพระพี่นี้มนัสขัตยท้าว มิอาจร้าวเริดร้างไม่ห่างแห
ร่วมประทมสมสวาทไม่คลาดแล โปรดกระแสลอบเล่ห์เสน่ห์กล
หรือองค์ได้กิติยามหาประสิทธิ์ อันเรืองฤทธิ์เชิญพระพี่ชี้นุสนธ์
ซึ่งอาจน้าวโน้มขัติยามาบัดดล เชิญนิพนธ์พจนนาทประกาศคำ
ปางพระพี่กฤษณาปรีชาเฉลย พระน้องเอํยแม่อย่าควรประมวลสำ
เหนียกชนิดกิติยาแม่อย่าทำ เป็นกลัมพรพลีที่จัณฑาล
อาจรอนประยูรยศให้ถดถอย ชนจะพลอยเลื่องลือชื่อขนาน
ใช่คนชั่วหินชาติประดาษพาล ประพฤติการอธรรม์ฉะนั้นควร
นี่พระน้องเป็นเอกดิเรกนาฏ ฉลองบาทบทเรณูอยู่เหหวน
พระเวทมนต์คนใช้ไม่บังควร นานก็รวนเสื่อมร้างไปห่างพลัน
สุจริตนั้นเป็นเล่ห์เสน่ห์รัก อาจจะชักโน้มน้าวให้ท้าวหัน
เป็นที่เจริญพระดำริประดิพันธ์ ตราบสวรรคตไปประลัยลาญ
แม้นจะทำโดยเล่ห์เสน่ห์ใช้ ให้รักใคร่วรลักษณ์สมัครสมาน
จงถือสุจริตเห็นเป็นประธาน ประกอบการกดเวทิ์อย่าเรรวน
ถนอมพระทัยอย่าให้เคืองในเบื้องบาท อย่าเอื้อมอาจทุจริตให้ผิดผวน
ยามพิโรธแม่จงละมานะนวล หน่อยก็หวนหาสวาทไม่คลาดจาง
คชแล่นหรือใครจะใคร่ฉุด ให้ยั้งหยุดเพราะอะหังเข้ารั้งทาง
โคมิกินตฤณระบัดอย่าคัดง้าง เห็นสุดอย่างข่มขืนให้กลืนกิน
ก็ต้องหย่อนผ่อนตามนะทรามสวาท กำลังอาจสักเท่าไรจะได้ผิน
ให้เร็วผลันทันพระทัยใจยุพิน พอสร่างสิ้นกริ้วคงทรงเมตตา
อันสุบรรณเร่วนบนเวหน
ไหนจะพ้นประทับจับพฤกษา
คงกลับอยู่สู่สถานผ่านพารา ไม่ต้องหาเวทมนต์ให้ยลยิน
จะแสดงโอวาทนุศาสน์สอน ดวงสมรแม่จงก็ร่ำถวิล
ปฏิบัติภัสดาเป็นอาจิณส่งราคิน อย่าทำให้พระทัยเคือง
จะซื่อสัตย์โดยกตเวที ตราบชีวีไปสวรรค์ไม่ปลดเปลื้อง
สุภาพเบญจลักษณ์น้อมให้พร้อมเมือง พิทักษ์เบื้องบทรัชพระภัสดา
เป็นที่ยิ่งสิ่งนิยมภิรมย์เยศ บุเรศเจตนาใกล้เฝ้าไฝ่หา
บ่ร้างระคายหมายเคียดเกียดยุพา ธรรมดาบรรพบุรุษอุดมพงศ์
คือธวัชฉัตรชั้นขึ้นกั้นเกศ ย่อมพิเศษเฉลิมสุรางค์นางหงส์
ในภพมณฑลกุฏสมมุติทรง ประหนึ่งวงศ์วิเชียรรัตน์จำรัสเรือง
ซึ่งสวมใส่ในหัตถายุพาพักตร์ ย่อมเป็นศักดิ์ศรีสุรางค์นางเนื่อง
แม้นชาติไร้กนิษฐานิภาเรือง ไม่ประเทืองถอยยศปรากฎขจร
ย่อมจำเนียรเนื่องความอันหมายฉิน เฉกนทินขาดสายหายกระฉ่อน
บุรีใดไร้นรินทร์ปิ่นนคร ไม่ถาวรพูนสวัสดิ์พิพัฒน์การ
สูญศรีเสื่อมยศปรากฎเลื่อง นิกรเนื่องประมาทหมิ่นทุกถิ่นสถาน
อันธงชัยก็ปรากฎแก่รถยาน เป็นเกียรติการสิ่งเลิศประเสริฐแสดง
อันธุมาควันมีที่ประจักษ์ ปรากฎแก่อัคคีเริงถเลิงแสง
ขัติยาก็ปรากฎแก่ยศแสดง เป็นปิ่นแขวงธานีบุรีรมย์
บุรุษลักษณ์ก็เป็นศักดิ์สง่านาฎ เฉลิมวิลาสชฉวีราศีสม
อันชายไร้วิชาที่มีนิยม กอบอารมณ์โง่เขลาเยาว์ปัญญา
แม้นได้เป็นสวามีหมดศรีศักดิ์ ไม่ชูพักตร์ถอยขาดวาสนา
ต้องเสื่อมสูญวิริยะมีที่ปรีชา ดั่งเพชรราคาตกหมกธุลี
จึงควรคิดกนิษฐาอย่าประมาท เคารพบาทเสน่ห์สนองผ่องศรี
เฉกฉัตรพรหมเมศตั้งบังระพี อยู่กึ่งศรีโรจน์เกล้าเหล่าสุรางค์
อาจขจัดปัทวันด์ให้พลันศูนย์ สิ่งอาดูรก็มิให้พระทัยหมาง
ดั่งเชษฐาปกครองพระน้องนาง ประดิษฐ์ทางผองภัยมิให้กลาย
อย่าเยี่ยงหญิงทุจริตที่คิดชั่ว ตวาดผัวขู่ข่มเอาสมหมาย
ไม่ยำเยงเกรงจิตคิดละอาย คอยปองร้ายเรื่องผิดเป็นนิจรันดร์
ต่อหน้าปราศัยทำทีรัก พอลับพักตร์ริษยายิ่งทุกสิ่งสรรพ์
กลับหมิ่นซ้อนซ่อนเงื่อนแก่เพื่อนกัน ประทุษทัณฑ์ทารุณคุณสามี
ทั้งกิจการไม่เป็นภารธุระวิตก ทิ้งให้หกเปียกแห้งทุกแห่งที่
การสะดึงรึงไหมไม่ใยดี หูกในมีก็ไม่ทำไม่นำพา
เย็บเสี้ยวร้อยปักก็ชักคร้าน คบเพื่อนพาลเข้าเป็นมิตรริษยา
โภชนาหารก็ไม่เอื้อเฟื้อภรรดา ไม่คิดปรนนิบัติผัวของตัวตน
มีแต่เกี่ยงเลี่ยงล้อก่อคารม ด้วยคำคมซึ่งโกรธให้โหดผล
ปากก็ต่อมือก็ตีไม่มีจน ล้วนแยบยลมิได้หย่อนห่อนยำเยง
ชวนวิวาททั้งตาปีไม่มีลด งอนดังรถทำจริตจิตโฉงเฉง
ไม่ย่อท้อง้อผัวของตัวเอง ทำครื้นเครงเต้นร่าเป็นน่าอาย
จะหากินก็เกลียดรังเกียจผัว ให้เข้าครัวกอบการงานทั้งหลาย
ทิ้งไว้คาราอยู่แลแช่ออกราย ทุกเช้าสายเย็นย่ำจนค่ำคืน
แขกไปมาหาสู่เกรงพลูหมาก จะเปลืองมาก ทานทัด ทำขัดขืน
พอผัวพูดเมียขัดสบัดยืน คอยแต่ฝืนใจท่านผู้ภรรดา
ทำเยื้องยักพักตร์ค้อนย้อนกระทบ ให้แขกสบเนตรแลแปรเคหา
อย่าเยี่ยงหญิงโลภกิเลสในเจตนา เที่ยวเร่หาชู้ชายเป็นหลายกล
ทรลักษณ์ศักดิ์สูญประยูรญาติ ล้วนชั่วชาติฉาวฉ่าดังกาหล
รับแต่เครื่องอัปมาณประจานตน ฉีกหนามชนชนกชนิดบิตุลา
สวามีก็เป็นที่หทัยขุ่น กมลมุ่งร้าวฉานการหรรษา
ทั้งญาติมิตรผิดพ้องหมองวิญญา พลอยแต่หาผิดพาลเพื่อนบ้านเรือน
ชักแต่ครุ่นขุ่นเคียดแลเดียดฉันท์ หรือว่างวันริษยาหาไม่เหมือน
ไม่ผูกไมตรีรักทำชักเชือน ก็คลาดเคลื่อนสิ่งเกษมอันเปรมปรีดิ์
ประทุษกรรมทำกลเป็นยลแยบ มุสาแอบเพทุบายไม่หน่ายหนี
ต่อหน้าซื่อลับหลังลับกลับไพรี แม้นจะมีเงินทองของรูปพรรณ
แลแพรผ้าสารพัดก็จัดย้าย ครองแต่หมายซุกซ่อนคิดผ่อนผัน
มิให้สามีเห็นเป็นนิรันดร์ ร่ำรำพันพูดแง่เฝ้าแสงอน
ทำลามกพกลมนิยมหยาบ ประพฤติบาปไปเสียสิ้นไม่ผินผ่อน
ชายจึงห่วงร้างนิราศสวาทจร เพราะอาทรหฤโหดจะโทษใคร
ไม่สมสู่คู่เคียงเผดียงผดัด สิ่งสัมผัสจึงไม่คิดพิสมัย
บำราศร้างห่างชมเพราะตรมใจ เยี่ยงนี้ไร้ริษยาแต่สามานย์
แม่อย่าได้เป็นอารมณ์นิยมรัก จะพาศักดิ์สุริยวงศ์พงศ์ขนาน
เสื่อมประยูรสูญพระญาติขาดสำราญ ยุพาพาลจงสดับรับนิพนธ์
อนึ่งองค์ยุพินปิ่นสมร ดั่งศศิธรแจ่มกระจ่างกลางเวหน
เมฆมิต้องพานพาเข้าปะปน เจริญชนม์เฉลิมราชธานี
ประกอบในไอสูรย์วิบูลธนะ มหิสรภาพยิ่งทุกสิ่งศรี
จงรักศักดิ์สุริยวงศ์ให้จงดี เหมือนหนึ่งจามรสงวนงาม
ถึงจะวายไม่ให้ขนนั้นหล่นร่วง โดยเป็นห่วงรักยศปรากฎสยาม
จงถือศักดิ์รักษาสัตย์สวัสดินาม ดังเช่นจามรีที่มีมา
เปรียบพระน้องครองศักดิ์รักในสัตย์ ปฏิบัตินฤเบศร์พระเชษฐา
สงวนความสุจริต เป็นกิติปรา ถือสัตยาสู่สวรรนิครรไล
สนองคุณมุลิกาฝ่าพระบาท อย่าให้ขาดซื่อสัตย์จนตัดษัย
อย่าตรัสถ้อยทารุณให้ขุ่นพระทัย ถนอมในหฤทัยท้าวอย่าร้าวราน
ฯลฯ
อย่าทะนงหยามหยันพระภรรดา จงสุภาพพร้อมละม่อมกาย
ฯลฯ
ยามประชวรขุ่นไข้ไม่สำราญ ยุพาพาลจงพิทักษ์รักษ์บำรุง
ฯลฯ
ปางนรินทร์ปิ่นท้าวเจ้าถวัลย์ รางวัลปันสนมนาฎในราชฐาน
โดยนุสรทรงประสาทพระราชทาน แม่อย่าหาญทูลขัดพระหัทยา
ฯลฯ
รักนวลสงวนองค์ให้จงหนัก สมามิภักดิ์พยายามตามแบบแผน
ฯลฯ
แม้นใครผิดกิจพลั้งจงยั้งยล อย่านิพนธ์เพิ่มราชอาชญา
ครั้งหนึ่งถึงสองครั้งจงสั่งสอน ยกโทษกรณ์โปรดประทานการโทษา
ครั้นสามจงเป็นตามพระกฤษฎีกา รับอาชญาบทในพระอัยการ
ฯลฯ
แม้นท้าวทุกข์แม่อย่าทูลประมูลกิจ ต้องเกรงจิตนะยุพินปิ่นสมร
ฯลฯ
เร่งบำรุงบริรักษ์พิทักษ์ราช แลข้าบาทถั่วหน้าจงปราศัย
ฯลฯ
อนึ่งเฒ่าแก่ชะแม่หมู่ใดผิด พึงพินิจคิดก่อนจึงโกรธร่ำ
อย่าครื้นเครงผรุสโทษด้วยโอษฐคำ เป็นที่ทำลายศรีอินทรีย์โทรม
ฯลฯ
พระชนกชนนีมีพระเดช ได้ปกเกศรักษามาจนใหญ่
ฯลฯ
อันพฤษภกาสรกุญชรชาติ ปลดชีวาตม์สำคัญหมายในกายขน
ทั้งโททนต์เสน่งคงดำรงชนม์ เป็นที่ยลเยี่ยงชัดประหยัดการ
นรชนวางวายทำลายขันธ์ ชั่วดีนั้นสืบเนื่องเรื่องขนาน
ประดับไว้ในหล้าอยู่ช้านาน ประกอบการกิติเฟื่องเลื่องขจร
ความดีก็ปรากฎเป็นยศเกียรติ ความชั่วเสียดสิ่งผรุสไม่หยุดหย่อน
เป็นที่ฉินนินทาประชากร เนื่องนครชั่วย่อมทั่วไป
ฯลฯ
อย่าเผยแกลบานพิศาลทอด พระเนตรสอดนิสัยใช่นุสร
แม้นจักตรัสอรรถไขในสุนทร อย่าซอกซอนสรวลเสียงสำเนียงดัง
อย่าระเริงกิริยาเป็นน่าชัง ถ้ายามพลั้งชนจะชวนสำรวลพลัน
อย่าด่วนดำเนินไคลครรไลแล่น กรกรีดแหวนแกว่งหัตถาพาหาหัน
อย่ามุ่งเมินเดินบาทจะพลาดพลัน อย่าทัดพันธุ์มาลาเมื่อคลาไคล
ฯลฯ
อีกอิริยาบถกำหนดถ้วน ทุกสิ่งล้วนนั่งนอนจรวิถี
แลยืนพร้อมละม่อมด้วยความดี วิริยะมีมิเกลียดรังเกียจการ
ฯลฯ
แม้รักตนต้องรักษาศรัทธาทาน ปรารภการโดยระบอบที่ชอบธรรม์
แม้นรักสัตว์นานาอุตสาห์ถนอม ประนีประนอมอย่าขี้เกียจคิดเดียดฉันท์
จะเลี้ยงดูอยู่เป็นนิตย์น้ำจิตพัน ทุกคืนวันให้อิ่มหนำร่ำอาจิณ
แม้นรักชนเลี้ยงดูให้อยู่สุข อุดมทุกสิ่งบำรุงด้วยนุ่งห่ม 
ภักษาหารบริบูรณ์พูนนิยม สำราญรมณ์ฤห่อนลี้หนีในการ
จะใช้สรอยรับประสงค์โดยจงรัก ไม่ห่างพักตร์ตราบชีวังสิ้นสังขาร
ผูกงูด้วยมนตราวิชาชาญ แม้นผูกสารเชือกบาศไม่คลาดคลาย
จะผูกชนด้วยมีไมตรีจิต ความดำริปรีดีไม่มีหนีหน่าย
รักจนตราบมรณาชีวาวาย กระสันหมายจิตรักไม่ชักแปร
ฯลฯ
มธุรสที่พี่แถลง ล้วนแสดงธรรมเลิศประเสริฐสรรพ์
มธุรสพจนาทนุศาสน์ธรรม์ จงเรียกกรรณสดับรับธำรง
ฯลฯ
กฤษณาสาธกยกอดีต โดยภาษิตสืบไว้มิให้ศูนย์
สำหรับยศยุพยงพงศ์ประยูร บำเพ็ญพูนประดิพัทธ์ขัติยา
โดยความเพียรซึ่งผดุงบำรุงรัก สมามิภักดิ์โบราณนานหนักหนา
ประกอบสัตย์กตเวทีบุพเพมา สืบสันนิวาสบรรยายภิปรายมี
ฯลฯ
เฉลิมศรีสตรีไว้ให้วิมล โดยนิพนธ์กฤษณาอันถาวร
จบนุศาสน์เท่านี้ที่บรรหาร จารึกจารพื่อความนามนุสร
สฤษฏีร่ำไว้ในบวร เพื่อสุนทรตราบคงดำรงกัลป์


| ย้อนกลับ | หน้าต่อไป | บน |