| หน้าแรก | ย้อนกลับ |

เรณูดอกฟ้า
คำร้อง แก้ว อัจฉริยะกุล     ทำนอง เอื้อ สุนทรสนาน

        เรณู     กลิ่นเจ้าชื่นชูอยู่เหนือกลิ่นใด
ดอกเจ้าคงสวยงามวิไล    กลิ่นเจ้าเร้าใจให้ชื่นเอย
        รื่นรมย์     ได้ชื่นได้ชมเมื่อลมรำเพย
เรณูดอกฟ้าหอมนักเอย    ชวนชิดชื่นเชยกลิ่นเจ้าเอยเหลือข่ม
         เรณูดอกฟ้า     ชื่นหนักหนาคราล่องลอยลม
ลมหวนชวนให้ตรม    สิ้นกลิ่นดมขื่นขมตรมอาจินต์
        เรณูเจ้าเอ๋ย     กลิ่นเจ้าเปิดเผยเชยสู่พื้นดิน
โอถ่อมตรงใจไม่ห่วงประทิน    เป็นบุญแก่ดินอกใจถวิลอาวรณ์

ล่องใต้
คำร้อง สมศักดิ์ เทพานนท์      ทำนอง เอื้อ สุนทรสนาน

      ...ล่อง ใต้ ไป ตาม เสียงเพลง  กล่อม บรรเลงเป็นเพลงเร้าใจ 
มนต์รักจากแคว้น แดนถิ่น แห่งกลิ่นบุหงา มาลัย เมืองใต้ใครเยือนเหมือนท่องวิมาน 
      ...ล่อง ใต้ ได้ เป็น ขวัญตา ท่อง เที่ยวมารื่นรมย์สำราญ
งามทั้งโขดเขา แนวไพร จับใจห้วยหนอง คลองธาร เกาะแก่งสถาน อันวิไล
      ...โอ้ ชุมพร ขอพรที่แสนสุดดี สุราษฎร์ ธานีเมืองคนดีจึงสุขสดใส
นครศรีธรรมราช อยากประกาศ พระธรรมเกริกไกล
      กระบี่ สุขสดใส ฝากหัวใจ ให้พี่หมายปอง 
...โอ้ พังงา คัดอุรา ให้พี่งงงัน ภูเก็ต เกาะสวรรค์  วิลาวัลย์หนึ่งไม่มีสอง
      ระนอง น้อง จ๋า เหมือนน้ำตา ของพี่ตกนอง           เพราะต้อง จาก น้อง จากระนอง มาทั้งน้ำตา          
...โอ้ เมืองตรัง เหมือนจะยั้ง ให้พี่ติดตรึง แต่ คิดถึง พัทลุง แหละสงขลา
      สตูลปัตตานียะลาโสภี ตรึงตรา ...โอ้ บาง นรา มีวาสนา คง มา อีกที
...จาก ใต้จะไม่ขอเลือน  เสน่ห์ติดเตือนชั่วเดือนและปี
มนต์รักปักษ์ใต้ใจมั่น ผูกพันเสมอ ชีวี ตราบ ชั่ว ชีพ นี้ จะ มิ ลืม

ล่องนาวา

        ลอยล่องนาวาลอยมาในสาคร     แสงจันทร์อ่อน ๆ สะท้อนงามอร่ามตา
ลมสะบัดโชยพัดนาวา    ลอยลิ่วดูระลอกเป็นริ้ว     พริ้วแลกระเพื่อมเลื่อมมลาย
        แสงจันทร์เฉิดฉาย     เห็นเป็นประกายสว่างจ้า
งามระยับจับตา    ดาราเลิศเพริดพราย
        ลอยล่องนาวาลอยมาในวารี     งามยามราตรี ห้วงนทีเป็นที่หย่อนใจ
ดวงศศิธรแขไข    แสงนวลชวนชื่น     ดาราลอยดาษดื่น    พื้นภาคนภามากมาย
        ดาวล้อมเดือนเกลื่อนกระจาย     แสงพรายสว่างวาวกระจ่างตา
ลอยล่องนาวา    ลอยมาพาให้เพลิดเพลิน
สนต้องลม
คำร้อง ธาตรี     ทำนอง เอื้อ สุนทรสนาน

        ลมพัดโชยพริ้วมา  เยือกเย็นอุราพาให้ชื่น     ลมเย็นระรื่น ชุ่มชื่นรื่นฤทัย
ดูสนเป็นแถวทิว แลละลิ่วงามวิไล     ต้องลมพัดไกวกิ่งใบไกวอ่อนโยน
        เมื่อสนต้องลม  โอนอ่อนระเนน     ทอดนอนไหวเอน แลดูต้นอ่อนโยน
ดูสนฉงนใจ    เหตุไฉนใยไม่โค่น     ต้องลมพัดโอน    อ่อนโยนตามสายลม
        ความรักก็เหมือนกัน     เมื่อแรกนั้นรสหวานชื่น    ทุกค่ำทุกคืน     สดชื่นน่าเชยชม
แต่แล้วเมื่อรักจาง    กลับอ้างว้างใจระทม     ฉันชมแล้วตรม    ขื่นขมยากเย็น
        เมื่อนึกถึงเรา     แสนเศร้าหัวใจ    รักอยู่ภายใน     ใคร่เล่าจักแลเห็น
โอ้รักไม่แน่นอน    เปลี่ยนเป็นร้อนแล้วก็เย็น     หัวใจไหวเอน    ดังเช่นสนต้องลม

สายหยุด

        หอมเอยหอมกลิ่น     รวยรินสายหยุดยามเช้า    กลิ่นเจ้าอบอวลลมุน
น้ำค้างยามรุ่ง    ช่วยปรุงกลิ่นรสหอมกรุ่น     หอมเย็นเมื่อแรกอรุณ    รุ่งฟ้าแสงทองราง ๆ
        ทิวาฟ้ารุ่ง     จรุงกลิ่นรสบุปผา    สดชื่นอุรายามสาง
สายลมพริ้วผ่าน    สะท้านใบดอกสะพรั่ง     ถึงโรยล่วงหล่นไปบ้าง    ก็ยังหอมพอตรึงใจ
        ครั้นพอตะวันสาย     แดดร้อนแรงกล้า    แผ่ความร้อนมาปกคลุมทั่วไป
เหมือนมาเร่งเร้า    ให้เฉาจนสิ้นกลิ่นไอ     ไม้พันธุ์นี้แปลกกว่าใคร    หอมซึ้งตรึงใจเมื่อยามเช้าตรู่
        สายหยุดสมชื่อ     ระบือทั่วถิ่นแดนไกล    ผู้ใดก็คงจะรู้
หอมเพียงยามรุ่ง    แสงทองเยี่ยมฟ้ารุบหรู่     หอมเย็นอบอวลชื่นชู    ก็เพียงฟ้ายามอรุณ

สิ้นหวัง

      เด่นเดือนเลื่อนลอยฟ้า ฟ้าก็แจ่มตาน่าเชยชม
ไม่มีจันทราฟ้าก็ขื่นขม ตรมเพราะดวงเดือน
      หลงเฝ้าคอยชมโสมที่เจิดแจ่ม เจ้าจะแย้มลอยเลื่อน
โสมทำแชเชือนมิลอยเลื่อน นภาก็เหมือนสิ้นพลัน
      เปรียบเราเฝ้ารอคอย หวังช่างเลื่อนลอยคอยตั้งตา
อยู่ด้วยความหวังเหมือนดังฟากฟ้า           คราไร้เพ็ญจันทร์
      รักโอ้รักเอ๋ยรักเคยมั่นหมาย กลับสลายไปพลัน
ฟ้ามีเพ็ญจันทร์พริ้งพราวพรรณ แล้วแต่ตัวฉันเดียวดาย

แสงสุริยา
คำร้อง เอิบ ประไพเพลงผสม     ทำนอง เอื้อ สุนทรสนาน

        เรืองแสงสุริยา     เมื่อใกล้เวลาเช้าตรู่สวยงาม
สาดแสงทองกราดงาม    สอดสีฟ้าอร่ามยามรุ่งแจ้งแสงทอง
        ลมเช้าเฉื่อยโชยมา     ชื่นอุราน้ำค้างพร่างพรมละออง
กรุ่นกลิ่นผกาลมพาลอยล่อง    แว่วดุเหว่าร้องก้องดุจทำนองเสียงเพลง
        ยามนี้สุขกระไร     สดชื่นรื่นฤทัยหัวใจบานเบ่ง
ระฆังเสียงดังหง่างเหง่ง    เปรียบดนตรีบรรเลงไพเราะเสนาะเพลิน
        ฟังเสียงไก่แก้วขัน     เร่งกระชั้นฝูงนกผกบินเหิร
ได้ยินกางเขนเจรจาเกริ่น    แจ้วจู๋จี๋เพลินหมู่ปักษาร่าเริง

หาดผาแดง

        คลื่นซัดครืนครืนซ่าที่ผาแดง     ภูผาแห่งนิยายสวาทอาถรรพ์
หาดสวยงามนามผาแดง    ลมพัดแรงรื่นทั้งวัน     ทั้งคืนที่นั่นเหมือนเวียงวัง
        ชายทะเลริมเขื่อนหาดผาแดง     ใจฉันเร้าแรงโรจน์ด้วยความหวัง
ทิวทัศน์งามยามเผลอชม    เพลินภิรมย์ภาพสีชัง     เสียงคลื่นซัดฝั่งดังเสียงพิณ
        โอ้หาดสวรรค์ชื่นตา     ใครได้มาซึ้งใจอยู่อาจิณต์
เย็นสายลมพรมพริ้งพา    ลมพัดมาโลมไล้ชีวิน     ความเศร้าก็สิ้นสูญไปพลัน
        หาดผาแดงนี้คือสถานพักใจ     งามวิไลเหมือนดังถิ่นแดนสวรรค์
เพียงครั้งแรกที่ฉันมา    ยังฝันหาทุกคืนวัน     เพราะว่าที่นั่นเหมือนวิมาน

หาดสงขลา

        ฝั่งน้ำงามริมหาดทราย     เย็นพระพายชายทะเลหาดสงขลา
หาดขาวดูพราวพรายสุดสายตา    สายลมพัดพาฉันชื่น
        ใจว้าเหว่น้ำในทะเลซัดฝั่ง     ทุกวันฉันฟังเสียงคลื่น
คลื่นผสมเคล้ามากับลมกลมกลืน    ทั้งวันทั้งคืนครื้นเครง
แว่วเสียงลมและคลื่นที่บรรเลง    เหมือนเพลงเร้าใจให้ทุกข์คลาย
        เพริดแพร้วดูอ่างแก้วงาน     ใจเคลิ้มตามสมเป็นนามแก้วแพรวพราย
หมู่สนยืนลำต้นอยู่เรียงราย    แหลมทรายเห็นทรายขาวผ่อง
        ลมพัดผ่านหัวใจสำราญทุกเมื่อ     เห็นเรือลับลอยลัดล่อง
โน่นเกาะหนูงามคู่เกาะแมวชวนมอง    ฉันชมสมปองสำราญ
ยอดเขาสูงดูสง่าน่าชื่นบาน    สูงปานวิมานฟ้านั่น
        เมื่อแสงเดือนงามผ่องเพ็ญ     ลมพัดเย็นควรจะเป็นหาดสวรรค์
หนุ่มสาวเดินเคียงคู่อยู่เคียงกับ    ชี้ชมแสงจันทร์แสงดาว
        งามฟ้าเด่นเห็นขอบนภาโค้งต่ำ     ร้อยกรองร้อยคำไหนกล่าว
ผ่องเลื่อมลายน้ำเป็นประกายพรายพราว    สวยงามวับวาวเย้าตา
แห่งนี้งามเหลือที่จะพรรณนา    สงขลานั้นพาฉันเพลิน

หาดแสนสุข

        หาดทรายชายน้ำแสนสุขสุดงาม     ระยิบยามแสงทองส่องสว่าง
เสียงคลื่นซัดเซาะหาดทรายประกายพรายพร่าง    ทุกอย่างทุกสิ่งยิ่งงามน่าชม
        ทะเลไกลสุดตาปักษาโผเล่นลม     โน้มน้าวอารมณ์นิยมแดนงาม
อ่าวใหญ่งามล้ำวิมานสุขใจ    เพลิดเพลินฤทัยฟ้าสีครามแลอร่าม
        ยอดเขาสามมุขสูงเด่น     แลเห็นแหลมงาม    แหลมแท่นสมนามตามคำเรียกมา
อากาศสบายชื่นใจเยือกเย็น    เมื่อได้แลเห็นแดนแสนงามนามสง่า
        เบิกบานสำราญฤดีมองศรีราชา     ยิ่งชมยิ่งงามเพลินตาน่าดู
ลมโชยโบยโบกปลิวกิ่งมะพร้าวพริ้งอยู่    หญิงชายเคียงคู่เห็นอยู่เพลินใจ
        ถิ่นงาม แห่งนี้มีความรื่นรมย์     ธรรมชาติทิวทัศน์สม    สรรสร้างเริงฤทัย
หมู่เรือใบขาวเรียงรายพระพายซัดฝั่ง    แสนสุขสุดดังนามนี้ไม่ลืม

หาดหัวหิน

        หาดหัวหินเดือนเมษาคราหน้าร้อน     เป็นที่ผ่อนหย่อนอารมณ์ช่างสมยิ่ง
ธรรมชาติสร้างเพราะเหมาะสมจริง    ทุก ๆ สิ่งงามตาหน้าสำราญ
       งามชายหาดคลื่นสาดอากาศชื่น     เพลินฟังคลื่นกระทบหาดอยู่ฉาดฉาน
งามสายัณห์ตะวันรอนผ่อนชื่นบาน    คราวจากบ้านตากอากาศไม่คลาดแคลง
        เมื่อทินกรค่อย ๆ ผ่อนเริ่มอ่อนแสง     ราตรีแดงสอดสีชาดสะอาดตา
หมู่ปักษาบินถลาเลิกหากิน    ต่างโผผินบินคลอคู่พาที
        ศศิธรไขแสงอ่อนผ่อนแทนที่     คลื่นเร็วรี่กระทบหาดฟาดผึงผัง
เสียงครื้นเครงฟังกังวาลประสานดัง    เพลิน ๆ ฟังธรรมชาติหาดหัวหิน

| ย้อนกลับ | บน |