| หน้าแรก | ย้อนกลับ | หน้าต่อไป |

ผาเงอบ

        งาม  ผาเงอบสวยงาม     ได้ชมยิ่งงามเมื่อน้ำไหลหลั่น
แท่นหินเป็นชั้น    ผาเงอบ เงอบงามหลายหลั่น     แอ่งงามน้ำชันคล้ายกันทั่วไป
       เพลิน  น้ำตกไหลมา     จากดอยสู่ผาจากผามาแอ่งใหญ่
เยือกเย็นเมื่อน้ำรินไหล    ไหลลงห้วยแก้วทางใต้     เมื่อน้ำไหลไปเย็นสบาย
        หนุ่มสาวคราวพักผ่อน     พักร้อนให้ชื่นฉ่ำ    พักด้วยน้ำชำระกาย
        ชุ่มฉ่ำ  มุดดำแหวกว่าย     หญิงชายแสนเพลินใจ
        เย็น  ธารน้ำไหลเย็น     เมื่อมองแลเห็นแอ่งน้ำที่กว้างใหญ่
โอ้น้ำที่เย็นใส    ใสดังจิตชาวเชียงใหม่     โอบเอื้อน้ำใจหาใคร  เทียมเลย

ผีเสื้อกับดอกไม้

        เมื่อยามสุริย์เรืองรอง     แสงทองส่องฟ้าอำไพ
สดสวยดูโน่นซิอะไร    ไหนอ๋อนั่นหมู่ภมรงามตา
        แผ่วเบาคือสำลีลอยลมไปไกล     ต่างหมู่ดูวิไลบินไปบินมา
หมู่หนึ่งลงคลุกเคล้าเชยชมผกา    งามตาพาให้เพลินฤทัย
        ดอกนี้ไปดอกนั้นเวียนวน     เคล้าชมอยู่จนพอใจ
เสร็จแล้วบินถลาลอยไป    ไหนงามมิเท่ามิทัน
        ดอกไม้เกลื่อนเต็มสวนดูงาม     สวยยามต้องแสงตะวัน
ต่างสีงามสดสรรรำพัน    ฉันเพลินชมหมู่ผกา
        ส่งกลิ่นตามสายลมรวยรินรำเพย    สุดเอ่ยความหอมเย็นชุ่มชื่นอุรา
กุหลาบและคัดเค้ามะลิจำปา    ลัดดาชูดอกงามวิไล
        ดอกนั้นนั่นคือเล็บมือนาง     สวยงามดังเล็บนางใน
อ่อนช้อยดังกรีดเล็บมาไป    ไหนงามมิเท่ามิทัน
        เปรียบดังถิ่นสวรรค์มาเยือน     สวยงามติดเตือนใจกัน
สดสวยดังภาพนึกรำพัน    สรรมาล้วนแต่วิไล
        เยือกเย็นยามสายลมรำเผยเบา ๆ      เมฆหมอกเป็นสีเทาลิบๆ ลอยไป
แห่งหนึ่งตัวจิ๊บๆ เอ๊ะนกอะไร     เพลินใจเมื่อฟังเสียงมัน
        เฝ้ามองอยู่โดยคำนึง     เหมือนใครหนึ่งเขารำพัน
ฝากฝังความใฝ่รักในกัน    ฉันเพลินเพราะภาพนั้นงาม

ผีเสื้อยามเช้า
คำร้อง แก้ว อัฉริยะกุล      ทำนอง เอื้อ สุนทรสนาน

        รุ่งอรุณเรืองแรงแสงทอง     งามยิ่งเคลิ้มมองงามส่องนภา
สว่างกระจ่างพรายพราวเร้าตา    งามทั่วท้องฟ้าพื้นหล้าวิไล
        เยือกเย็นลมรำเพยพัดโชย     พากลิ่นหอมโรยโชยฉ่ำฤทัย
กิ่งผกาพากันพริ้วใบ    ชูช่อไหวใบสดตามลม
        เหล่าผีเสื้อแสนงามยามเช้า     คลอเคล้าลัดดา    ลอยเล่นลมเร้าตา
เริงสุขพานิยม บ้างลงไล้ต่ายตอมน้อมโน้ม     สุขสมดมผกา
        โผลงพะวงจะสุด     สุคนธารหวังชม    กางปีกรับลม     เรื่องข่มนภา
ผ่องระยิบระยับวับตา    พราวพร่างนัหนาให้ใฝ่ฝัน
        โผผินบินเร้าฤทัย     เรื่อยไปเหลิงในชีวัน
สุขแต่เช้าเช่นนี้ทุกวัน    ชมชื่นสัมพันธ์     ผีเสื้อแสนงาม

แผ่นดินทอง
คำร้อง ชอุม ปัญจพรรค์      ทำนอง เอื้อ สุนทรสนาน

        งามไม้ดอกต่างสีชวนชม     รื่นอารมณ์เพลินใจ
กุหลาบพยอมหอมไกล    หงอนไก่ซ่อนกลิ่นทานตะวัน
        มะลิหอมฟุ้งจรุงรื่น     บานชื่นรักเร่เหหัน
จำปาจำปีมะลิวัลย์     ด้วยพันธุ์ไม้นั้น    สดสวยอยู่ด้วยดิน
        แผ่นดินทองของไทย     เนืองไปด้วยทรัพย์สิน
ข้าวในนา ปลาในหนอง  ทองในดิน     ใครรู้หากินไม่อดเอย

พรานไพร
คำร้อง เอิบ ประไพเพลงผสม     ทำนอง เอื้อ สุนทรสนาน

        เที่ยวพเนจร     ซอกซอนพนาลัย    ชมเขาลำเนาไพร     เพลินใจเจริญตา
        รื่นระเริงใจ     เที่ยวไปในมรรคา    สำราญในวิญญา     ชมป่าพนาลี
        ลำธารละหาร     ไหลซ่านผ่านภูผา    เพลิดเพลินชมปลา     วนเวียนว่ายกายอินทรี
        อยู่ในดงไพร     เที่ยวในพนาลี    ใจกายสบายดี     สมที่สราญรมย์
        แว่วชะนีฟัง     ก้องดังวังเวงใจ    ครวญร้องคะนองไพร     เร้าใจไร้คู่ชม
        หมู่พญาลอ     ล่อใจให้เริงรมย์    เคล้าคลอพนอชม     สมสู่อยู่ดงดอน
        กวางทรายยั่วเย้า     เคล้าคู่อยู่ริมหนอง    ร่าเริงลำพอง     คะนองวิ่งชิงกันจร
        เกิดเป็นพรานไพร     สุขใจไม่อาวรณ์    หากินพเนจร     เที่ยวป่าเป็นอาจินต์

เพลินชมดง

        มาในดงหลงเดิน     แสนจะเพลิดเพลินชมห้วงละหาร
น้ำใสไหลล้นธาร    เสียงดังกังวาน ไหลผ่านเลยไป
        ฟังสำเนียงปักษา     ร้องก้องพนาแว่วมาแต่ไกล
เพลินฟังวังเวงใจ    เหมือนเพลงกล่อมใจพาให้รื่นรมย์
        พุ่มพฤกษา     ดอกล้วนระย้าส่งกลิ่นชวนดม
เพลิดเพลินใจ    เมื่อเดินเที่ยวไปสุขในอารมณ์
        ลำดวนดง  ชงโค     สารภี  ยี่โถแลไสว
สายหยุดฟุ้งกลิ่นไกล    ชื่นชวนยวนใจให้เพลินเดินชม
        ชมมวลหมู่มาลี     ล้วนงามสดสีน่านิยม
ส่งกลิ่นหอมทวนลม    เมื่อเราได้ชมแสนชื่นฤทัย
        ช่อมาลีสดสวย     มากมีอยู่ทั่วแนวไพร
หมู่ภมร    เล่นเคล้าเกษรแล้วห่างร้างไป
        ดอกมณฑานางแย้ม     ลัดดาส่งกลิ่นหอมไกล
โอ้ยามนี้    ได้ชมมาลีก็เบิกบานใจ

เพลินชมไพร

        รื่นรมย์ชมพันธุ์ไม้ในป่า     เมื่อได้มาชมแล้วเพลินใจ
นกร่าร้องก้องมาแต่ไกล    เสียงกอไผ่เสียดกอดังคล้ายเสียงเพลง
        โน่นไม้ยางนั่นไม้ยูง     ลิบลิ่วแลสูงเคียงข้างไม้แดง
โน่นไม้สักราคาแพง    แลเห็นชะนีโหนห้อยต่องแต่งหลายตัว
         โน่นนกยางนั่นนกยูง     กาเหว่าบินสูงร้องกู่เสียงดัง
นั่นเสียงไก่ขันน่าฟัง    นกเขาคืนรังขุนทองร้องสั่งคู่ตัว
        โน่นเสือดำนั่นเสือดาว     ยืนแยกเขี้ยวขาวชายป่าน่ากลัว
ช้างตัวใหญ่ยืนส่ายหัว    แลล้วนน่ากลัวฉันยืนตัวสั่นพรั่นใจ

ไพรพิศดาร
คำร้อง สมศักดิ์ เทพานนท์      ทำนอง เอื้อ สุนทรสนาน

ช. น้องเอยสองเรารักใคร่ เพลินชมพฤกษ์ไพร หัวใจสำราญ
ญ. หนทางน้ำตกไหลผ่าน ดุจดังวิมาน สายธาร เห็นอยู่
ช. วิหคนกครวญร้องร่ำ เปรียบคำรักนำ พี่พร่ำให้รู้
ญ. เสียงกาหรือไก่ เหมือนใครมากู่
ช. นกเขาขันคู มิสร่าง
ญ. เอ๊ะชะนีหรือไรคะนั่น มันห้อยหัวมันหางพันคบยาง
ช. ไหนชะนี อ๋อลิง เอ๊ยค่าง มันห้อยหัวพลาง ร้องครางว้าวุ่น
ญ. พิกลแท้จริงน้องว่า น่าเวทนา หน้าตาอย่างคุณ
ช. แหมเอาไปเปรียบเทียบเทียมตัวตุ่น พี่น่ะเหมือนแพทบูน น่ะขวัญใจ
ญ. เสียงฮูมเหมือนดังฟ้าผ่า
ช. นั่นแน่ะช้างมาแล้วว่าฉันใด
ญ. ไหนกัน อุ๊ยมันสูงใหญ่
ช. หลบมาให้ไกลจ้ะขวัญใจของพี่
ญ. เห็นตัวสามวาหรือไม่ ตัวมันล้ายลาย ต้องตายคราวนี้
ช. น้องเอ๋ยจงเชื่อ ช้างเสือน่ะเพื่อนพี่ ไม่ต้องวอรี่ หรอกแก้วตา 
ญ. แล้วคืนนี้นอนไหนได้
ช. แอบอิงพฤกษ์ไพร ขวัญใจนิทรา
ญ. หวังลวน หวังลาม หรืออย่า
ช. พี่ให้สัญญาละขวัญตาเนื้ออ่อน
ญ. ขอเดิน มินอนแล้วนี่
ช. ในป่า มิมีภูตผีหลอกหลอน
ญ. ผีไพรในป่า มิเคยอาวรณ์ น้องกลัวผีคุณหลอนหลอก
ช. แหมความหนาวเย็นของป่า กระเถิบชิดมา น้องอย่าหนีออก
ญ. น้องไม่หนาวใจนักหรอก ไม่จักช้ำชอก หนาวนอกร้อนใน
ช. เอ๊ะยุงหรือไรหรือนั่น ถูกกัดทุกวัน เจ้าคันบ้างไหม
ญ. ลิ้นยุงไม่คัน เพราะกันฝนได้ น้องกลัวขวัญใจมากกว่า
ช. โอ๊ยคืนนี้เย็นหนาวสั่น ต้องเบียดชิดกัน ชิดกันเถอะขวัญตา พี่คงต้องเป็นไข้ป่า สุดจะหายารักษามิได้
ญ. น้องมีแล้วยาขนานหนึ่ง แก้ไขดื้อดึง พึงจดจำไว้ หันมาซิพี่ นี่แหละแก้ไข้ นี่แน่ะลูกไม้ไข้ป่า

ภูกระดึง
คำร้อง แก้ว อัฉริยะกุล     ทำนอง เอื้อ สุนทรสนาน

        เขาภูกระดึงเสน่ห์ตรึงใจจริง     สัณฐานเหมือนดังกระดิ่งทับหล้า
สูงล้ำดังค้ำนภา    สูงลิ่วทิวทัศน์ตื่นตา     สวยกว่าเทวาสรรค์สร้าง
        หนทางขึ้นลงไม่เรียบแต่ชวนเพลิน     เห็นเนินซ้อนเนินลดหลั่นสล้าง
น้ำใสตกไหลเป็น    ไหลพุ่งจากสูงสุดทาง     ไหลหลั่งพื้นล่างสุธา
        สระอโนดาตดาษน้ำธาร     น้ำใสตระการดังแก้วแววตา
ริมธารละลานไปด้วยบุปผา    ดอกแดงกุหลาบพนา     ประดับลัดดากล้วยไม้ไพร
        หนาวเย็นด้วยลมอากาศชื่นชมดี     ทุกยามนาทีลมโบกพัดให้
เหมือนแม้นสวรรค์ชาวไทย    ทุกสิ่งยวนเย้าหทัย     โน้มจิตโน้มใจสุดฝืน
        เสียงภูแว่วดังชวนชื่นดังฟังเพลง     เหมือนลมบรรเลงเป็นเพลงรักชื่น
พริ้วพริ้วพร่างพริ้ววันคืน    เหมือนกล่อมและย้อมจิตชื่น     ระรื่นด้วยลมพริ้วพร่าง
        สนยามต้องลมโอนอ่อนเอนลมปลิว     สนยืนเป็นทิวแลลิ่วสล้าง
หงส์เหิรสุดเหิรเนินทาง    ทุกสิ่งสดสวยสอางค์     ทุกแห่งทุกทางตื่นตา
        เมื่อขึ้นสุดเหนื่อยเมื่อยล้ากาย     ทั้งหญิงและชายสุดเหนื่อยเมื่อยล้า
ผิวหญิงเมื่อขึ้นถึงยอดภูผา    แก้มแดงผิวตึงซึ้งตา     เนื้อเต่งโสภาผ่องโสพรรณ
        แม้นใครได้ยลขออยู่ไปจนตาย     เพราะความสบายยอมตายที่นั่น
โสฬสฟากฟ้าลาวัณย์    สามโลกไม่แม้นเทียมทัน     เหมือนหนึ่งสวรรคนั่นเอย

มนต์เมืองเหนือ

        ป่าเหนือเมื่อหน้าดอกไม้บาน     ลมฝนบนฟ้าผ่าน  ฟ้ามองดังม่านน้ำตา
น้ำฝนหล่นจากฟากฟ้า    ขังแก่งเหมือนแอ่งน้ำตา     ไหลตกจากผาแว่วดัง
        ป่าเหนือเมื่อไปได้พบมา     เมืองเหนือเมื่อน้ำบ่า    และธารซ่านซ่าเคล้าดัง
น้ำไหลไปหลากมากทั้ง    หมุนวนสายชลเหมือนดัง     ไหลหลั่งเป็นวังน้ำวน
        ริมฝั่งวังน้ำค่ำลงคงมีแสงจันทร์     คืนหนึ่งคืนนั้นพบกันน้องเอยสองคน
เมืองเหนืออนงค์นั้นคงมีมนต์    เป่าหัวใจเสียจนให้ใฝ่ฝัน
        แอ่วเว้าเจ้าวอนชะอ้อนน้ำคำ     จนสูรย์ลอยคล้อยค่ำ    สายัณห์เย็นค่ำทุกวัน
แล้วไฉนจะให้ลืมนั้น    แม้นใครได้ไปเที่ยวพลัน     หลงมั่นในเมืองเหนือเอย

มาลีแดนสรวง
คำร้อง สุรัส พุกกะเวส     ทำนอง เวส สุนทรจามร

        ฉันเพลิดเพลินวิญญาณสำราญฤทัย     ชมสวนเพลินใจ    วิไลชวนชื่นหนักหนา
ลำดวนอังกาบกุหลาบพนา    มณฑาบุหงาเฟื่องฟ้า     บุบผางามซึ้งตรึงใจ
        ลัดดายี่สุ่น พิกุลฉันชม     กาหลงลั่นทม    ภิรมย์ชมช่อกล้วยไม้
จำปียี่เข่งเร่งเร้าฤทัย    ขจรสดใส     บานชื่นสั่นไหวตามลม
        คัดเค้าสายหยุดพุดซ้อน     อโศกเร่าร้อนรักซ้อนชื่นชม
ดาวเรืองเอื้องฟ้ากรรณิกาน่าชม    ภิรมย์สุขสันต์
        สารภีจำปีสวยสิ้น     ยามเช้าซ่อนกลิ่น    สวยงามดังถิ่นสวรรค์
นมแมวประดู่นั้นคู่อัญชัน    ประยงค์บาหยัน     สวยงามเฉิดฉันท์จริง

เมืองแมนแดนสวรรค์
คำร้อง สมศักดิ์ เทพานนท์      ทำนอง เอื้อ สุนทรสนาน

        ปากน้ำโพเมืองรุ่งเรืองวิไล     เหลียวมองแห่งใดล้วนงามสดใสทุกสิ่ง
งามหญิงชายแต่งกายสวยยิ่ง    เหนี่ยวใจโน้มประวิงอิงนครสวรรค์
        แม่น้ำสำคัญของเจ้าพระยา     ไหลมาสี่แควแล้วแปรสู่สายเดียวกัน
ปิงน่าน วัง อีก ยม น้ำนั่น     สู่นครสวรรค์ฉันเคยไปเที่ยวชม
        ทิวทัศน์นั้นมองเพลิดเพลิน     ครั้งแรกมาเที่ยวเดิน    สุขใจแสนเพลินรื่นรมย์
เพียงเดี๋ยวเดียวที่ฉันเที่ยวชม    ก็สุขสมดังเจอะร่างนางในฝัน
        ปากน้ำโพรวมชุมชนหลายเมือง     รุ่งเรืองสืบมาเพราะเป็นแหล่งค้าสำคัญ
เป็นแคว้นงามหนึ่งพึงหมายมั่น    เปรียบดังแดนสวรรค์วิลาวัณย์เลิศลอย

| ย้อนกลับ | หน้าต่อไป | บน |