| หน้าแรก | ย้อนกลับ | หน้าต่อไป | |
สไบน้องแทนกาย หอมมิวายคลายกลุ้ม | หอมกระถินกลิ่นปทุม | ดั่งไฟรุมสุมทรวงห่วงหา |
สไบเจ้าเอ๋ยแทนกาย หอมมิวายคลายพร่า | ทุกค่ำคืนกลืนน้ำตา | ปวดอุราเพราะเจ้าของสไบ |
รักคนที่เขาไม่รักเรา | จึงต้องเศร้าเคล้าแต่สไบ | |
แสนสุดระทมใจ | โอ้สไบขอให้เจ้าเป็นพยาน | |
อกข้านี้คงต้องร้าวราน | ทรมานทุกวันคืน | |
แม้ชีวิตจะขมขื่น | ข้าทนฝืนยอมรักเพียงสไบแพร | |
อกข้านี้คงต้องร้าวราน | ทรมานทุกวันคืน | |
แม้ชีวิตจะขมขื่น | ข้าทนฝืนยอมรักเพียงสไบแพร |
สามหัวใจ
...สาปแล้วไม่ขอรักใครใฝ่ปอง | คิดครองเป็นคู่ | ทุกวันนี้อยู่กล้ำกลืนน้ำตา ตกใน |
เกิดมามีมาร เฝ้าแต่ประหารดวงใจ | ช้ำจิตคิดไป | หมองไหม้ทุกตรม |
กรวดน้ำคว่ำขันรักกันชาติเดียว | ล้างเกลียวสวาท | หัวใจแทบขาด พลาดความหวังเคย ชื่นชม |
เจ็บจำไปนาน หลงเชื่อคำหวานภิรมย์ | รักจึงระทม | ทุกข์ตรมทรวงใน |
คนเดียวมีสามหัวใจครอบครอง | รักปองไม่จริง | รักเผื่อเลือกทิ้งนี่คนอะไร |
ผ่านความโสมม สังคมยุคใหม่ | เหลียวหาหัวใจ | แน่นอนไม่มี |
อย่าพบอย่าพานพวกมารผจญ | ต้องทนวิบาก | รักกันแล้วจาก พรากกันเหมือนตาย หน่ายหน |
เกลียดกลัวจนตาย ขอสาปมารร้ายชีวี | พ้นไปเสียที | ไม่มีกรรมเวร |
อย่าพบอย่าพานพวกมารผจญ | ต้องทนวิบาก | รักกันแล้วจาก พรากกันเหมือนตาย หน่ายหน |
เกลียดกลัวจนตาย | ขอสาปมารร้ายชีวี | พ้นไปเสียที ไม่มีกรรมเวร |
สายลมว่าว
คำร้อง ม.จ. จักรพันธ์เพ็ญศิริ จักรพันธ์ ทำนอง ม.จ. จักรพันธ์เพ็ญศิริ จักรพันธ์
โอ้สายลมว่าวเมื่อคนร้อนเร่า เจ้าพัดโบยพัดโชยให้ชื่นใจ |
ลมเอยเมื่อไรเจ้าจะพัด หทัยสำราญผ่านหวิวโชยมา |
ร้อนใจไกลจากเธอ ละเมอคอยเรื่อยมา |
ร้อนรนใจในอุรา หวังลมพัดพาให้คลายร้อนถอนความเศร้า |
ลมเอ๋ยลมว่าวจิตใจร้อนเร่า เจ้าเคยพัดโบยพัดโชยให้ชื่นใจ |
เฉื่อยฉิวรำเพยข้าวอนขอเอ่ย เจ้าเคยพัดเย็นไม่เว้นเวลา |
ร้อนใจไกลจากเธอ ละเมอคอยเรื่อยมา |
ร้อนรนใจในอุรา หวังลมพัดพาให้คลายร้อนถอนความเศร้า |
ลมเอ๋ยลมว่าวจิตใจร้อนเร่า เจ้าเคยพัดโบยพัดโชยให้ชื่นใจ |
สายลมเหนือ
พลิ้วลมลอยอยู่ดอกบานแล้วดูโสภา | แลสวยงามสง่า อยากเด็ดเจ้ามาไว้ชม |
บุญน้อยเลยไม่สมภิรมย์ได้ | เฉิดฉวีมีสง่าร้อยมาลัย |
เด็ดไปเอาไว้เชย เจ้าเคยเอาไว้ชม | เกลัดเสียบผมชมต่างตาคราจากกัน |
ฉันคอยเธออยู่ผ่านเลยฤดูเหมันต์ | คอยหายใจหวั่น ภาพเธอผ่องพรรณเย้าตา |
คืนนี้เดือนเด่นฟ้านภาผ่อง | สุขนี้มีเธออยู่รู้ใจปอง |
มีเชยปรางเนื้อทองเจ้ามองสะเทิ้นอาย | หลบชะม้ายชายเนตรเมินเชิญพี่ชม |
ลมเหนือโชยรักเอย | เจ้าโรยร่วงหล่นใจหม่นทนระทม |
ลมเหนือเยือนรักเอย | เจ้าเตือนใจข่มสุดหาใดข่มฤทัย |
ลมพัดพามณฑาเจ้าหอมยังไม่สิ้น | หอมเอยเพียงกลิ่นนวลเนื้อละไม |
คนรักกันมาพลันห่างเหินเมินไปได้ | ไม่เหลือเยื่อใยโอ้ใจเจ้าเอ๋ย |
สิ้นรักสิ้นสุข
คำร้อง แก้ว อัฉริยะกุล ทำนอง หลวงสุขุมนัยประดิษฐ์
รักเจ้าเอ๋ยเคยใฝ่ฝัน รักกระสั่นรัญจวน รักที่หวังดังลมหวล รักกำศรวลครวญคร่ำ |
ก่อนเคยรักซาบซ่าน ปั้นคำหวานพรอตพร่ำ กลับชอกช้ำ กลืนกล้ำจำผืน |
ตัดขาดจากกัน ความโศกศัลย์รักนั้นมามาก สุขก็คลายรักสลายคลายคืน |
จะหลักจะนอน ใจทอดถอนสท้อนสอื้น โศกสู้กลืนทุกข์สู้ผืน ขมขื่นหัวใจ |
หมดสิ้นอาลัยเหมือนไฟหมดเชื้อ นิดเดียวไม่เลือเยื่อใย |
จิตสุดฝืนรักคืนสิ้นไป ไม่เหลืออาลัยให้ฉัน |
จะสุขอย่างไรในเมื่อใจ ต้องไหวต้องหวั่น |
เฝ้าผูกพัน รักอันนั้นรักปั่นหัวใจ |
สิ้นสวาท
เฝ้า แต่คอย รอรักอยู่ | หมาย ชื่นชู รักคู่ใจ |
กลับ ไม่สม ดังฝันใฝ่ | นับวัน ร้างไกล เขาใย ด่วน ตัดรอน |
...แอบ ไปมี คนรักใหม | แท้ ดวงใจ ไร้แน่นอน |
...ไม่ นานนัก รักคลายคลอน | นับวัน ผันจร มิเคย ย้อน กลับคืน |
...ปวด ร้าว เพียงใด | ช้ำ ใจ สู้ทน กล้ำกลืน |
ไป รัก คนอื่น. | ดี แล้ว อย่าคืน มาเลย. |
...สิ้น สวาท กันเสียที | รัก ไม่มี เหมือนดั่งเคย |
อย่า กลับหวน ชวนชื่นเชย | ฉันกลัว แล้วเอย เพราะเคย ช้ำอกตรม |
...ปวด ร้าว เพียงใด | ...ช้ำ ใจ สู้ทน กล้ำกลืน |
ไป รัก คนอื่น. | ดี แล้ว อย่าคืน มาเลย |
...สิ้น สวาท กันเสียที | รัก ไม่มี เหมือนดั่งเคย |
อย่า กลับหวน ชวนชื่นเชย | ฉันกลัว แล้วเอย เพราะเคย ช้ำอกตรม |
สุดฟากฟ้า
สุดฟากฟ้า แสนไกล ถ้าแม้นได้ รักกัน | สุดฟ้านั้น สั้นนัก ยามรักรำพึง |
ยิ่งสายลม แสงเดือน เตือนรักให้ คะนึง | ยิ่งนึกถึง ความหลัง และคำสัญญา |
ถึงสิ้นดินแหละฟ้ามหาสมุทร | รักเราไม่สิ้นสุดเสน่หา |
จะอยู่ยงคู่เคียงดินและฟ้า | ด้วยศรัทธา สองเราคงมั่น |
สุดฟากฟ้า แสนไกล ถ้าแม้นได้รักกัน | สุดฟ้านั้น สั้นแท้แพ้ความรักเราเอย |
สุดสงวน
คำร้อง สุรัฐ พุกกะเวส ทำนอง เอื้อ สุนทรสนาน
โอ้เจ้าสุดสงวน น้องรัญจวนใจพี่ |
รักประคองรักสุดปองขวัญฤดี รักเจ้าแต่พี่สุดตรม |
รักนวลสงวนต้องกลัวน้องจักชม พี่หักอารมณ์พี่ต้องสงวนนวลชม หักความรักข่มอาลัย |
พี่หักอารมณ์พี่ต้องสงวนพวกชม หักความรักข่มอาลัย |
เพราะพี่รักจริงเจ้า กลัวน้องจะเศร้าเจ้าอย่าอาลัย |
พี่สงวนนวลเจ้าเห็นใจ สงวนตัวไว้ให้นะแก้วตา สงวนตัวจนกว่าพี่มาชม |
สุริยัน - จันทรา
ถึงกลางวัน สุริยัน..แจ่มประจักษ์ | ไม่เห็นหน้านงลักษณ์ ยิ่งมืดใหญ่ |
ถึงราตรีมีจันทร์..อันอำไพ | ไม่เห็น..โฉมประโลมใจยิ่งมืดมน |
อ้าดวงสุรีย์ศรีของพี่เอย | ขอจงเผยหน้าต่างนางอีกหน |
ขอเชิญจันทร์แจ่มกระจ่างกลางสกล | เยี่ยมให้พี่ยลเยือกอุรา |
เสียงกระซิบจากเกลียวคลื่น
คำร้อง ธม ธาตรี ทำนอง เอื้อ สุนทรสนาน
เสียงคลื่นซัดฝั่ง มันคลุ้มคลั้งฝังรอยสวาทใจ |
มันซุกมันไซ้มันซบทรวงทราย แซบซึมไม่มีวันวาย |
มันเคลิ้มมันคลุกมันเคล้ามิคลาย รสทรายรื่นรม |
เสียงกระซิบแผ่ว ฟังหวานแว่วพริ้งตามเกลียวคลื่นมา |
เรารักหนามาหามาชม คลื่นลอยติดตามเกลียวลม |
มาร้อยรอยรักมาพักคลื่นชม ภิรมย์เพียวฝัง |
ฟังซีคลื่นมันละเมอ ฝากสวาทเหมือนเธอละเมอเพ้อให้ฟัง |
เห็นใจฝั่งบ้างหรือยัง ฝั่งรักจีรังเหมือนคลื่นยืนใจ |
เสียงคลื่นซัดฝั่ง กระซิบสั่งฝังรักตลอดไป |
มักซุกมันซิกกันชื่นใจ มันซบมันหนุนจนอุ่นไอ |
กระซิกกระซี้กันเรื่อยไป จะรักกันไว้ตลอดกาล |
เสียงกระซิบสั่ง
เสียงกระซิบสั่ง ฉันฟังยังแว่วแจ้ว ๆ อยู่ในหู |
เหมือนเตือนให้รู้ ว่ารักคู่เคยคลอ เขาจะรออยู่เคียง |
ยามเมื่อจากมาไกล หัวใจอย่าเอนเอียง |
เสียงสั่งถ้อยคำและสำเนียง สั่นกังวาลระรัว กลัวจะไม่กลับคืน |
เสียงกระซิบสั่ง ฉันฟังแว่วกังวาลหวานปนสะอื้น |
เสียงเธอขมขื่น พาฉันตื้นตันใจ ห่วงใยอยู่กับเธอ |
แม้ตัวจะจากไกล หัวใจก็คงเคียงคู่อยู่กับเธอ |
คิดถึงเสมอ ใจฉันมุ่งละเมอ ถึงเธออยู่ทุกวัน |
ยามเมื่อจากมาไกล หัวใจเฝ้าใฝ่ฝัน |
คิดถึงเธอคนเดียวทุกวัน อยากจะมารับขวัญ เธอที่อุตส่าห์คอย |
เสียงกระซิบสั่ง ฟังแล้วดูก็ยิ่งพา หัวใจให้เหงาหงอย |
เสียงเธอเศร้าสร้อย พลอยฉันเศร้าระทม ตรอมตรมอยู่กับเธอ |
เสี่ยงรัก
คำร้อง มจ.จักรพันธ์ เพ็ญศิริ จักรพันธ์ ทำนอง มจ.จักรพันธ์ เพ็ญศิริ จักรพันธ์
โอ้ดวงใจเฝ้าใฝ่แต่คอยหา ดูเหมือนว่าจะขาดใจ |
จิตระทมเฝ้าข่มฤทัยไว้ ใจหนอใจไม่คลายรักสิ้น |
จิตกังวลเฝ้าหม่นฤทัยถอน นอนนึกนอนน้ำตาไหลริน |
ยอมฉันยอมสละทั้งสิ้น ยอมทิ้งถิ่นเพื่อจะติดตามเธอไป |
พระพรหมลิขิตขีดแนวชีวิตฉัน ไว้ให้สัมพันธ์กันกับดวงใจ |
รอยบุญรอยกรรมก่อนทำอันใดไฉน บันดาลดลให้ใจฉันรักจริง |
เสี่ยงบุญกรรมทำก่อนแต่ปางหลัง บุญฉันยังเป็นบุญไว้อิง |
ยอมฉันยอมสละทุกสิ่ง ใจรักยิ่งไม่ทอดไม่ทิ้งจนตาย |
เสียแรงรักใคร่
คำร้อง แก้ว อัจฉริยะกุล ทำนอง เอื้อ สุนทรสนาน
เสียแรงรักใคร่เสียแรงปักใจจริง หวังได้พักพิงกลับทิ้งกันไป |
เสียแรงฉันซื่อและถือจริงใจ เหินห่างเริศร้างแรมไกง สิ่งที่ฝากไว้แรมรา |
เสียแรงหมายมั่นเสียแรงฝากกันนาน เสียถ้อยสาบานเสกสรรค์วาจา |
เสียแรงร่วมสุขร่วมทุกข์กันมา เธอสิไม่เห็นนำพา หรือไปใฝ่หาคู่ใหม่ |
ช้ำนักรักเอยเคยพร่ำ เสียถ้อยเสียคำที่เคยให้ |
ถูกเธอผลักใส ตัดบัวสิเหลือเยื่อใย ตัดใจไม่เหลือเลย |
เสียแรงสมสู่เสียแรงชื่นชูชม เสียสิ้นภิรมย์สู่สมเราเอย |
เสียแรงเป็นคู่ร่วมชู้ชูเชย เสียสิ้นความรักเราเอย ช้ำจริงอกเอ๋ยตัวเรา |
แสนวิโยค
คำร้อง เอิบ ประไพเพลงผสม ทำนอง เอื้อ สุนทรสนาน
แสนวิโยคโศกไม่รู้หาย น่าเสียดายรักมากลายจืดจาง |
สัญญาไว้จะไม่เริดร้าง กลับเหินห่างต้องอ้างว้างไม่รู้วาย |
อ่อนอาลัยหมดหวังแล้วซิเรา ต้องโศกเศร้าเฝ้างมงาย |
โธ่ใจหนอใจใยมาหน่าย เสียดายที่แรกมั่นหมายว่าจริง |
แสนวิโยคโศกเศร้าอาวรณ์ เฝ้าทุกข์ร้อนไม่ได้แนบแอบอิง |
รักลืมเลือนเคลื่อนคลายทอดทิ้ง ไม่เห็นจริงยิ่งคิดไปให้ระทม |
ช่างกระไรโธ่หนอน้ำใจ ตัดเยื่อใยไม่ชื่นชม |
โอ้กรรมหนอกรรมช้ำระทม หวังแต่ชมแต่กลับไม่สมดังปอง |
แสนวิโยคโศกเศร้าอาดูร ถ้าแม้สูญสิ้นอาลัยใจหม่นหมอง |
เช้าค่ำร่ำแต่น้ำตานอง ยิ่งคิดตรองในอกกลุ้มดังสุมไฟ |
จิตพะวงมุ่งหลงรักจริง ถูกทอดทิ้งยิ่งเศร้าใจ |
ไม่เคยนึกเลยเป็นไปได้ น้อยใจที่หมดอาลัยอาวรณ์ |
แสนแสบ
...อกพี่กลัดหนอง พี่หมองดั่งคลองแสนแสบ | เจ็บจำดังหนามยอกแปลบ | แปลบ แสบแสนจะทน |
โอ้ว่ากังหัน ทุกวันมันพัดสะบัดวน | อยากจะรู้จิตคน | จะหมุนกี่หนต่อวัน |
ย่างเดือนสิบสอง ฟากคลองเจิ่งนองน้ำหลั่ง | อยู่ไกลกันคนละฝั่ง | ฝั่ง ยังร้องสั่งกัน |
สิ้นเดือนสิบสอง น้ำนองแห้งคลองขอดพลัน | สิ้นความรักจากกัน | เหมือนกังหันเปลี่ยนทางลม |
แสนแสบ แสบแสนเปรียบแม้นชื่อคลอง | นี่คือโลงทองของเรียม | ขวัญ เขาฝากชีพจม |
แต่คลองยังช้ำ เหลือไว้แต่น้ำขุ่นตม | พี่จึงช้ำจึงช้ำขื่นขม | ขม ตรมเสียกว่าคลอง |
เจ้าจากพี่มา เจ้าลืมทุ่งนาฟ้ากว้าง | เจ้าลืมฟากคลองสองฝั่ง | ฝั่ง ลืมทั้งทุ่งทอง |
จวบจนบัดนี้ มิเห็นมีน้ำเจิ่งนอง | ชื่อว่าแสนแสบคลอง | เหมือนคนหมองต้องแสบแสน |
เจ้าจากพี่มา เจ้าลืมทุ่งนาฟ้ากว้าง | เจ้าลืมฟากคลองสองฝั่ง | ฝั่ง ลืมทั้งทุ่งทอง |
จวบจนบัดนี้ มิเห็นมีน้ำเจิ่งนอง | ชื่อว่าแสนแสบคลอง | เหมือนคนหมองต้องแสบแสน |
หญิงก็มีหัวใจ
ปวดใจยิ่งนัก ความรักทำลายจนตรม |
โธ่เธอคงเห็นเริงรมย์ มาหยอกมาชม พอสมบันเทิงนะใจ |
หลอกฉันให้มีหวังมั่น มาหลอกรักกัน เฝ้าวอนจนฉันฝันใฝ่ |
ต้องครวญรำพึงคนึงอาลัย ผูกพันรักไว้เพียงเธอ |
ใช้ความเป็นชาย เที่ยวล่าหญิงทุกราย ดังเนื้อทรายที่เจอ |
หลอกลวงจนฉันละเมอ ใจเทอดทูนเธอจงรักเพียงเธอ |
เพียงหลงบำเรอจนสมใจเธอ โถเธอมาลืมกัน |
โธ่คนใจร้าย ปองหมายเพียงเริงชีวัน |
จืดจางเธอร้างไปพลัน มาด่วนลืมกัน จนฉันระทมมิวาย |
ผู้หญิงก็มีหัวใจ ยามเมื่อรักใคร หทัยไม่หลงลืมง่าย |
พอชิงชังเหมือนดังใจชาย เจ็บจำช้ำคล้ายชายชาญ |
ขอกรรมเวรตาม ให้เธอเจอหญิงงาม งามสมความต้องการ |
ให้เวรกรรมนั้นบันดาล ให้ต้องซมซานให้หญิงรอนราน |
ให้รักรังควานจนช้ำดวงมาลย์ เหมือนผลาญใจนารี |
| หน้าแรก | ย้อนกลับ | หน้าต่อไป | บน | |