| หน้าแรก | ย้อนกลับ | หน้าต่อไป |

ผมน้อยใจ
      มองฟ้ายังเจอะดาว        บางคราวก็เจอะเดือน
ผมมองคุณกลับเบือน หลบเลือนลืมสัมพันธ์ที่ก่อนมี
      มองน้ำยังเจอะปลา มองนัยย์ตายังเจอะไมตรี 
โถคุณก็สวยดี  มองหาไมตรีไม่เจอะเลย
      คุณคงมีเพื่อนใหม่ พบเพื่อนเก่าจึงได้เมินเฉย
่ผิดนักผมยังไม่เคย คุณมาละเลยให้ผมน้อยใจ 
      มองฟ้ายังเจอะดาว วับววาวพราวไสว
รักมาแปรเปลี่ยนไป รู้ไหม ผมน้อยใจอยู่ทุกวันคืน

ผู้ครองใจ

      ในอกข้านี้มีแต่ความรัก  สลักใจซึ้ง เป็นรอยตราตรึงฝังซึ้งผูกใจ
เคยผ่านความรักมาโชกโชน  เคยโดนความรักสลัดไป        เป็นความปวดในใจ ฉันเสียจริง
      ทนอยู่ดังฝืนกลืนเจ็บปวดร้าว        ผะผ่าวใจร้อน ยามเอนกายนอนเห็นหน้ายอดหญิง
เคยหลอกเคยหลอนใจอ่อนจริง ดังมีเธอสิงสถิตใน อาณาจักรใจ ข้านี้เธอครอง
      เป็นราชินีแห่งดวงใจ ครองรักไว้ได้ สุดความหลงใหลหมายปอง
ดั่งสิงห์เกลือกดิ้นสิ้นความลำพอง ดั่งใจนี้ต้อง เสียบธนูทองเล่ห์เสน่หา
      ในอกข้านี้มีแต่ความรัก สลักเอาไว นานแรมปีไปซ้ำใจยิ่งหนา
ครวญคร่ำความรักไม่กลับมา อยู่สุดขอบฟ้าไม่กลับคืน  ทนจำกล้ำกลืนขืนขมตรมตรอม

ผู้ชนะสิบทิศ

      ...ฟ้า..ลุ่ม อิรวดี คืนนี้ มีแต่ดาว แจ่มแสง แวววาว หื่อฮือฮื้อ ฮือ ฮือหื่อ  เด่นอะคร้าว สว่างไสว
...เสียง คลื่น เร้าฤดี คืนนี้ข้าเปลี่ยวใจ เหน็บหนาว ทรวงใน หื่อฮือ ฮื้อ ฮือฮือหื่อ        แต่ไฉนข้าเศร้า วิญญา
      ...ข้ามา..ทำศึก ลำเค็ญ เหนื่อยแสนยากเย็น ไม่เว้นว่างเปล่า
เพื่อศักดิ์ชาว ตองอู ถึงจะตาย จะอยู่ ขอเชิดชู มังตรา
      ...ดวงใจ ข้ามอบ จอมขวัญ มั่นรักต่อกัน มิ่งขวัญจันทรา
กุ สุ มา ยอด ชู้ รักเจ้าเพียงเอ็นดู  ไว้เชิดชู ดวงแด...
      ไป รบอยู่ แห่งไหน ใจ คนึงถึง เจ้า เคยเล้าโลมโฉมแม่
ข้ากลับ มาเมืองแปรมองเหลียวแล แสนเปลี่ยวเปล่า        ไม่มี..แต่เงาข้าเศร้า อาลัย หัวใจแทบขาด อนาถ ใจ ไม่คลาย ..
      เจ็บใจ คนรัก โดนรังแก ข้าจะเผา เมืองแปร  ให้มัน วอดวาย
จะตาย ให้เขาลือชาย  จะให้เขาลือชาย ว่านามชื่อกู ผู้ชนะ สิบทิศ ผู้ชนะ สิบทิศ
ผู้ชนะ สิบทิศ ผู้ชนะ สิบทิศ ผู้ ช...นะ...สิบ...ทิศ... ฮื้อ...ฮือ...หื่อ...ฮือ...ฮื้อ....

ผู้แพ้รัก

         ผู้เคยรักแล้ว     ถึงงามเพริดแพร้วประการใด
ฉันไม่เอาใจใส่     อยากรักคนไม่เคยรักใครเลย
         เฝ้าแต่คิดค้น     หาคนถูกใจเพียงคนเดียว
ฉันจะปองข้องเกี่ยว     นอกนั้นจะไม่แลเหลียวดูเลย
         อันวาจาฉ่ำ     หวานแต่คำพร่ำเอ่ย
แม้น่าอกเอ๋ย     ไม่เคยนึกนิยมประการใด
         หากจะแสนสวย     ถึงงามและรวยสักเพียงใด
ฉันไม่เอาใจใส่     อยากรักคนไม่เคยรักใครเลย

ฝั่งหัวใจ

      ฉันเหมือนลอยคอ ลอยคออยู่กลางทะเล        โอ้อ้างว้างว้าเหว่ เพราะเป็นทะเลแห่งความผิดหวัง
แหวกว่ายน้ำตา กว่าสิ้นพลัง ตะเกียกตะกาย หาฝั่ง ...ฝั่ง โถช่างว่างเปล่า
      ฉันหลงเริงใจ  เริงใจอยู่ในวจี ป้อนคำรักล้นปรี่ เหมือนลงนทีแห่งความโง่เขลา
ต้องลมรักลวง เจ็บทรวงนักเรา กระหน่ำโบยความช้ำเศร้า ...เศร้า เพราะเราผิดหวัง       
      ดัง เหมือนคนจะจมน้ำตาย ทุรนทุราย แหวกว่ายเข้าหาฝั่ง 
ใครไม่คิดชังคนผิดหวัง ช่วยรับเมื่อคนพลาดพลั้ง  ฉุดขึ้นฝั่งหัวใจ
      ฉันเหมือนลอยคอ ลอยคออยู่ในน้ำตา เฝ้าแต่หวังใจว่า  ฟ้าเวทนาคงรอดปลอดภัย
ถ้ามีรักจริง พึ่งพิงพักใจ จะมอบหทัยฉันให้...ให้ ไว้เป็นทาสคุณ
      ฉันเหมือนลอยคอ ลอยคออยู่ในน้ำตา เฝ้าแต่หวังใจว่า  ฟ้าเวทนาคงรอดปลอดภัย 
ถ้ามีรักจริง พึ่งพิงพักใจ  จะมอบหทัยฉันให้..ให้ ไว้เป็นทาสคุณ

ฝันดี

      จากกันคืนนี้ ข่มใจเหลือที่ ฤดีร้าวรอน
อกใจอาวรณ์ มิได้หลับนอนจนค่อนคืน
      รูปรอยประทับ        น้องนอนหลับตาแล้วต้องผวาตื่น
สุขใจระรื่น ชื่นใจเหมือนได้อยู่ใกล้กัน 
      รอยจูบยังฝัง  ทุก ๆ ครั้งพี่ยังจำได้
ก่อนที่จะจากกัน ยังเคยได้ฝากไว้ให้ทุก ๆ วัน
      จากกันคืนนั้น  จงฝันดี ให้มีสุขสันต์ 
นอนหลับก็จงฝัน  ฝันถึงพี่บ้างนะคนดี

ฝากรัก
คำร้อง ม.จ.จักรพันธุ์เพ็ญศิริ จักรพันธุ์      ทำนอง ม.จ.จักรพันธุ์เพ็ญศิริ จักรพันธุ์

         แม้เพียงได้สบนัยน์ตา     ฉันยังประหม่าลืมกาย
สิ้นความละลาย     หักใจไม่วายเพ้อชม
ดูท่าทีอาออง     เร้าใจให้หลงรักนิยม     วงสังคมต่างชื่นชมวิญญา
         หรือเทพบุตรจำแลง     พระพรหมท่านแกล้งแปลงมา
ท่วงทีวาจา     เสน่ห์ตรึงตราเร้าใจ
ปล่อยความรักชักนำ     แล้วแต่กรรมนำไป    คร่ำครวญความในจากดวงใจจริงเจียว
เฝ้าสงวนตัวเพื่อเธอคนเดียว     ไม่แลเหลียวห่วงใยใครเลย
         แม้เราจะอยู่ไกลกัน     ฉันคงรักมั่นยืนยง
ด้วยจิตพะวง     ผูกพันซื่อตรงฝังตรึง
ยามอยู่ใก้ลเคียงเธอ     หัวใจพร่ำเพ้อเฝ้าคนึง     ใจรักตรึง  เฝ้ารำพันคิดไป
         หวังเธอเป็นร่มโพธิทอง     พิทักษ์ปกป้องปวงภัย
ร่มรื่นฤทัย     หากได้ดวงใจอิง
ห่วงพะวงละเมอ     รักแต่เธอจริง ๆ 
ได้เธอพึ่งพิง     มุ่งจะอิงจริงเจียว
เฝ้าสงวนตัวเพื่อเธอคนเดียว     ไม่แลเหลียวห่วงใยใครเลย

พรานล่อเนื้อ
คำร้อง แก้ว อัจฉริยะกุล      ทำนอง เอื้อ สุนทรสนาน

         เจ้ายักคิ้วให้พี่     เจ้ายิ้มในที เหมือนเจ้าจะมีรักอารมณ์
ยั่วเรียมให้เหงามิใช่เจ้าชื่นชม     อกเรียมก็ตรม ๆ     เพราะคมตาเจ้า
         เรียมพะวักพะวง   เรียมคิดทะนง แล้วเรียมก็คงหลงตายเปล่า
ดังพรานล่อเนื้อเงื้อแล้วเล็งเพ่งเอา     ยั่วใจให้เมา ๆ แล้วยิงนั่นแล
         น้าวศรเล็งเพ่งเอาทุกสิ่ง   หากเจ้าหมายยิงก็ยิงซิแม่
ยิงอกเรียมสักแผล     เงื้อแล้วแม่อย่าแปรอย่าเปลี่ยนใจ
         เรียมเจ็บช้ำอุรา     เจ้าเงื้อเจ้าง่า  แล้วเจ้าก็ล่าถอยทันใด
เจ็บปวดหนักหนาเงื้อแล้วราเลิกไป     เจ็บยิ่งสิ่งใดใยมิยิงพี่เอย

พรุ่งนี้วิวาห์

      พรุ่งนี้แล้วหนา เป็นวันวิวาห์คอยมาดั่งใจ  สุขฤทัยให้เพ้อครวญ  ยามหลับนอนป่วนใจใฝ่ฝัน 
เฝ้าคิดพะวงขอรักจงคงมั่น  ร่วมครองคู่ประตูทองกัน  หัวใจฉันสั่นหวั่นไหว
      ตกดึกยิ่งหนาวดวงเดือนพร่างพราวสกาวส่องมา        เคลิบเคลิ้มพาภาพเขาวอน        อิงแอบนอนชิดชมโลมไล้ 
กลับพลิกกายตื่นเหลียวสะอื้นอายใจ  นี่ยังไม่ใช่วันวิวาห์  นิทราเอกาอาวรณ์
      แสงเดือนสาดส่องกายา  ยิ่งพาจิตหวามละเมอ  พลิกกายแก้เก้อกอดหมอน 
วัยสาวถึงคราวร่วมสังข์หลั่งพร วาบหวิวร้าวรอน สุดฝืนกายนอนสะท้อนรำพัน
      พรุ่งนี้แล้วหนา เป็นวันวิวาห์คอยมาเนิ่นนาน  ใกล้ถึงกาลสะท้านใจ   ดวงหทัยคิดไปสุขสันต์
พรุ่งนี้วิวาห์ยิ่งพาใจสั่น อย่าได้ห่างจืดจางสัมพันธ์ ์รักกันนิรันดรเอย

พี่มาทีหลัง

      พี่มาทีหลัง ความหวังจึงลอยล่อง เหลียว มอง ใจปอง ต้องอับเฉา 
เจ้าถูกจอง หมายปองไว้ก่อนเจอเรา  โอ้อาภัพ อับเฉา เฝ้าแต่ครวญทุกวัน 
      พี่มัวแต่ช้า จึงโศกาแพ้พ่าย เสีย ดาย มิวาย ใฝ่ใจฝัน
เจ้าหลุดลอย เหมือนเดือนคล้อยอยู่สวรรค์  อยากเอื้อมฟ้า ฝ่า ฟัน โถมันสุดวาสนา
โอ้ บุญพี่มีน้อย น้อง จึง ไม่คอย พบ หน้า พี่ มัว แต่ ช้า ในอุรา จึงร้าวราน
      พี่มาทีหลัง ความหวังจึงสูญสิ้น ฟ้า ดิน ดูราว สิ้นสงสาร
พี่บาปใด ฟ้าดินจึงไม่ประทาน  สิ่งที่คิด ต้อง การ พบพานแต่ไม่ได้สม
      ...โอ้ บุญพี่มีน้อย น้อง จึง ไม่คอย พบ หน้า        พี่ มัว แต่ ช้า ในอุรา จึงร้าวราน
พี่มาทีหลัง ความหวังจึงสูญสิ้น ฟ้า ดิน ดูราว สิ้นสงสาร
พี่บาปใด ฟ้าดินจึงไม่ประทาน สิ่งที่คิด ต้อง การ พบพานแต่ไม่ได้สม

พี่รักเธอคนเดียว

      นวลอนงค์อ่าองค์โสภา  ที่ยิ้มนั่นหนา ฉันอยากรู้ว่านามใด
กรุณาอย่าปิดบังใจ เมตตา เผยวาจาให้ พี่ซาบซึ้งในวจี 
      จอมนงรามโปรดอย่าหมางเมิน        ช่วยชี้ช่วยเชิญ ให้พี่หายเก้อเขินที
บุญบันดาลหรอกหนาเทพี เจอะกันครั้งเดียวเท่านี้ เหมือนไมตรีมีนาน
      ชาติก่อนพี่คงได้ร่วมบุญ ทั้งการุญเกื้อกูลตลอดกาล  
มาชาตินี้จึงได้แผ้วพาน สมานไมตรีแนบตรึงซึ้งหทัย
      จอมดวงใจโปรดได้หันมา พี่รักดอกหนา ใช่ว่าเซ้าซี้กวนใจ
จงฟังคำพี่สัญญาไว้ ตราบดินฟ้ามอดมลายพี่ขอรักเธอคนเดียว        (ซ้ำทั้งหมดอีกครั้ง)

พี่รักเธอไม่คลาย

      ถึงอย่างไร พี่ยังรักเธอไม่คลาย ตราบชีพนี้…วอดวายเป็นเถ้าถ่าน
ก็จะขอรัก จะขอรัก..ด้วยวัญญาณ แทรกสายลมโชยผ่าน เคล้าเคลียนงราญไม่ห่างไกล
      สายลมพริ้ว จูบเธอมิใช่อื่นไกล โปรดจำไว้นั่นคือลมจูบจากพี่
เป็นสัญญาว่ารัก ด้วยจิตใจภักดียิ่งชีวี        พี่ขอเพียงไมตรี แม้เพียงธุลีก็ชื่นใจ

เพียงคำเดียว

      เพียง คำเดียว ที่ปรารถนา อยากฟัง ให้ชื่นอุรา ใจพะว้า ภวังค์
นาน เท่านาน พี่คอยจะฟัง คำนี้ คำเดียวที่หวัง อยากฟังจากปากดวงใจ
      คำ คำนี้มีค่าใหญ่หลวง พี่รัก พี่แหน พี่หวง เพียงดั่งดวงฤทัย
พี่ ไม่เคย เฉลยกับใคร แต่แล้วพี่บอกเจ้าไป เพื่อให้เจ้าตอบเช่นกัน
      มี หลายคราที่เคย  เหมือนเจ้าจะเอ่ย  เปิดเผยเฉลย คำนั้น 
โอ แล้วใยอัดอั้น มิกล้าจำนรรค์  กลับตื้นกลับตัน ทรวงใน
      ฤา เจ้ามีคู่เคียงอุรา เจ้ารักเป็นหนักเป็นหนา        ตรึงติดตราหัวใจ
จึง จดจำถ้อยคำพี่ไว้  แอบเอาไปบอกคู่ใจ  ทอดทิ้งพี่ให้อกตรม
      ฤา เจ้าลืมถ้อยคำคำนี้  จึงทำไม่รู้ไม่ชี้  ดังไม่มี เยื่อใย
แม้น...เจ้าลืมเจ้าเลือนเคลื่อนคลาย        พี่เตือนให้อีกก็ได้ ก็รักอย่างไร เจ้าเอย

เพื่อคุณ
คำร้อง ธาตรี      ทำนอง เอื้อ สุนทรสนาน

         ขอผากเพลงนี้เพื่อคุณ     ถึงโลกเวียนหมุม  ขออย่าให้คุณลืมได้
บรรจุถ้อยคำหวานซึ้ง     ซึ่งกลั่นจากดวงฤทัย  ให้คุณอาลัยเคลิ้มฝัน
         ขอฝากเทขัญชั้นฟ้า     ช่วยส่งทำนอง  ร้องพาให้คุณจำมั่น
ลำบากยากเย็นเข็ญใจ     ก็ไม่เป็นสิ่งสำคัญ     ขอให้คุณนั้นชื่นใจ
         เตือนรำลึกให้นึกถึงคืนวันหนึ่ง     ซึ่งเราสัญญากันไว้
สาบานว่ามีรักเดียว     จะเกี่ยวจะก้อยจะร้อยดวงใจ     ห่างกันแสนไกลไม่คลาย
         แม้ได้ฟังเพียงเสียงนี้     หวานชื่นชีวี  ขออย่าให้มีวันหน่าย
ถ้าหากจะลืมรักใคร    ขอให้ลืมได้ง่ายดาย     ผู้เดียวไม่คลายคือฉัน

ภาพลวงตา
คำร้อง แก้ว อัจฉริยะกุล      ทำนอง เอื้อ สุนทรสนาน

         ยามข้างแรมฟ้าหม่น     ฉันมองเบื้องบนมืดมนต์ฤทัย
เพียงจะมองขวัญใจ     มืดมัวทั่วไปเหมือนอะไรบังหน้า
หวลถวิลอาวรณ์     ถึงรักครั้งก่อนร้าวรอนวิญญา
คิดอยู่ทุกเวลา     ทุกคืนตื่นตาใฝ่หาอาลัย
         ครวญด้วยใจใคล้คลั่ง     ฟ้ามัวเมฆบังก็ยังคิดไป
ยามเมื่อลมพัดพริ้วไป     พฤกษาแกว่งไกวตาเห็นไปเป็นเธอ
โศกวิโยกทอดถอน     รักคอยหลอกหลอนต้องนอนละเมอ
โอ้อนาถหวาดเผลอ     ฉันคอยแต่เธอหวังบำเรอรักใคร่
         มองด้วยใจแสนเศร้า     เห็นเพียงแต่เงาโศกเศร้าหัวใจ
ยามหลับตาครั้งไร     เห็นเธอร่ำไปยิ้มยวนใจระรื่น
ครั้งเมื่อฉันลืมตา     พบเธอตรงหน้าชักพาให้ชื่น
เห็นยอดชู้มายืน     นึกว่ากลับคืนต้องฝืนมองไป
         มองยิ่งมองเหมือนว่า     เห็นเธอเข้ามาตื่นตาเร้าใจ
ขอเอื้อมมือคว้าไขว่     ลับเลือนวูบไปพาช้ำในวิญญา
สิ้นสวาทไม่สม     หัวใจขื่นขมต้องตรมน้ำตา
เฝ้าแต่เพรียกเรียกหา     ขอให้กลับมารักจะพาชู้ชื่น

| หน้าแรก | ย้อนกลับ | หน้าต่อไป | บน |