| ย้อนกลับ | หน้าต่อไป | |
เลือดไทยไหลริน ทาแผ่นดินไว้ชื่อ ให้โลกเขาร่ำลือ ว่าเลือดไทยกล้าหาญ |
เลือดไทยไหลหลั่ง ดุจน้ำเต็มฝั่ง ไหลหลั่งท้องธาร |
ท่วมแผ่นดินทอง บ้านพี่เมืองน้อง กันทุกถิ่นฐาน |
เลือดไทยเจ้าเอ๋ย ไหลเลยมานี่ ปรองดองน้องพี่ อย่ามีร้าวราน |
โลหิตสายเดียว กลมเกลียวกันไว้ อย่าแตกแยกไป เป็นหลายลำธาร |
เลือดสุพรรณ
เลือดสุพรรณเคยหาญในการศึก เหี้ยมฮึกกล้าสู้ไม่รู้หนี |
ไม่ครั่นคร้ามขามใจต่อไพรี ผู้ใดมีมีดพร้าคว้ามารบ |
(สร้อย) มาด้วยกัน มาด้วยกัน เลือดสุพรรณเอ๋ย เลือดสุพรรณเข้าประจัญ อย่าได้พรั่นเลย |
อยู่ไม่สุขเขามารุกแดนตระหน่ำ ให้ชอกช้ำแสนอนาถชาติไทยเอ๋ย |
เขาเฆี่ยนฆ่าเพราะว่าเห็นเป็นเชลย จะนิ่งเฉยอยู่ทำไมพวกไทยเรา |
|
อันเมืองไทยเป็นของไทยใช่ของอื่น มาต่อสู้กู้คืนเถอะเราเอ๋ย |
ถึงตัวตายอย่าเสียดายชีวิตเลย มาเถอะเหวยพวกเรามากล้าประจญ |
|
วอลซ์นาวี
ทะเลนั้นเป็นเหมือนถิ่นของเรา จะขอเฝ้าตราบจนชีวิตเราสิ้น |
ยามคลื่นซัดกระเซ็นเช้าเย็นสำเนียงเคยชิน เลือดไหลรินเพื่อคงเกียรติของนาวี |
ธงที่ถูกสายลมโบยสบัดยังพัดพริ้ว ทิวท้องถิ่นทะเลมิยอมให้ใครย่ำยี |
เรือแม้จะต้องจมเพื่อปกป้องเสรี เราขอสละชีพพร้อมกันทุกคน |
ศึกถลาง
ศึกถลาง ปางศัตรูมาย่ำ |
ด้วยกำลังทางน้ำ ไทยยังไม่แน่นหนา |
ศึกถลางปางนี้ไทยต้องทำ กำลังรบทางน้ำต้องรีบหา |
เมื่อศัตรูเหี้ยมฮึกศึกมีมา ถึงไทยกล้าขาดอาวุธก็สุดกัน |
เขตต์สยามทางทะเลยาวไม่น้อย ต้องมีเรือรบคอยเป็นรั้วกั้น |
หากมัวรออยู่บนฝั่งตั้งประจัน คงตายก่อนไม่ทันได้รบเลย |
เมื่อนาวีข้าศึกมาโจมจู่ ต้องมีเรือออกไปสู้ไม่อยู่เฉย |
พวกชาวไทยอย่าได้ไว้ใจเลย เรานี้เคยถูกเจ็บจึงต้องจำ |
ศึกบางระจันทร์
ศึกบางระจัน จำให้มั่นพี่น้องชาวไทย เกียรติประวัติสร้างไว้แด่ชนชาติไทยรุ่นหลัง |
แม้ชีวิต ยอมอุทิศเมื่อชาติอับปาง เลือดไทยต้องมาไหลหลั่งทาทั่วพื้นแผ่นดินทอง |
ไทยคงเป็นไทย มิใช่ชาติเป็นเชลย ไทยไม่เคยถอยร่นชนชาติศัตรู |
บางระจันแม้สิ้นอาวุธสู้ สองดาบฟาดฟันศัตรสู้จนชีพตนมลาย |
ตัวตายดีกว่าชาติตาย เพียงเลือดหยาดสุดท้ายขอให้ไทยคงอยู่ |
แดนทองของไทยมิให้ศัตรู แม้นใครรุกรานเราสู้เพื่อกู้แหลมถิ่นไทยงาม |
สดุดีมหาราชา
ขอเดชะองค์พระประมุขภูมิพล มิ่งขวัญปวงชนประชาชาติไทย |
มหาราชขัตติยะ ภูวนัย ดุจร่มโพธิ์ร่มไทรของปวงประชา |
ขอเดชะองค์สมเด็จพระราชินี คู่บุญบารมีจักรีเกริกฟ้า |
องค์สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาราชา ข้าพระพุทธเจ้าขอสดุดี |
อ้าองค์พระปฐมบรมราชันย์ขวัญหล้า เปล่งบุญญาสมสง่าบารมี |
ผองข้าพระพุทธเจ้า น้อมเกล้าขออัญชุลี |
สดุดีมหาราชา สดุดีมหาราชินี |
สร้างชาติ
พี่น้องชาวไทย จงพร้อมใจสร้างชาติ ไทยนี้เคยสามารถ เรานี้เคยเป็นชาติใหญ่หลวง |
ตื่นเถิดลุกขึ้นเถิด ทำงานใให้เกิดโภคผล เขาก็คนเราก็คน อย่ายอมแพ้เพื่อนทั้งปวง |
เรามีทรัพย์อยู่ในดิน เรามีสินอยู่ในน้ำ ควรจะคิดสร้างทำ มิได้มีใครห้ามใครหวง |
เราต้องขยันขันแข็ง ให้เป็นเรี่ยวเป็นแรงของชาติ ไทยจะต้องสามารถ ให้เสมอกับชาติทั้งปวง |
สองฝั่งโขง
...สาย นทีรินหลั่งจากฟ้า | แบ่งพสุธาเป็นซ้ายและขวา สองฝั่ง |
หากน้ำกั้นกลางนั้นบ่สำคัญ | แต่ความสัมพันธ์ ของเรามั่นคงเรื่อยไป |
...ถึง ไกลกันคนละฝั่งของ | ต่างหมายปองดองมุ่งหวังทั้งสอง จนได้ |
ด้วยความใฝ่ฝันมั่นสุดหัวใจ | ปักฝังทรวงใน เหมือนใจ เดียวกัน... |
...ทั้งสองฝั่งกั้นกลางด้วยสายนที | แต่ประเพณี นั้นบ่ต่างกัน |
ชาติลาวและไทยก่อนนั้นเคยได้ สัมพันธ์ | ร่วมสายโลหิตเดียวกัน เพียงน้ำเท่านั้นมากั้นแบ่งกลาง |
...ขอ ฟ้าดินจงเป็นสักขี | โปรดคิดปราณีจงอย่าได้มี วันห่าง |
...อย่าให้สัมพันธ์นั้นต้องจืดจาง | ฝากฝังชีวี เหนือนทีสองฝั่งเอย |
...ขอ ฟ้าดินจงเป็นสักขี | โปรดคิดปราณีจงอย่าได้มี วันห่าง |
อย่าให้สัมพันธ์นั้นต้องจืดจาง | ฝากฝังชีวี เหนือนทีสองฝั่งเอย.. |
สามัคคีชุมนุม
เนื้อร้อง
เจ้าพระยาพระเสด็จสุเรนทราธิบดี
ทำนอง
Auld Land Syne
พวกเราเหล่ามาชุมนุม ต่างคุมใจรักสมัครสมาน |
ล้วนมิตรจิตชื่นบาน สราญเริงอยู่ทุกผู้ทุกนาม |
(สร้อย) อันความกลมเกลียว กันเป็นใจเดียวประเสริฐศรี |
ทุกสิ่งประสงค์จงใจ จักเสร็จสมได้ด้วยสามัคคี |
กิจใด ธ ประสงค์มี ร่วมใจภักดีต่อพระจอมสยาม |
พร้อมพรึบดังมือเดี่ยวยาม ยากเย็นเห็นง่ายบ่หน่ายบ่วาง |
|
ที่หนักก็จักเบาคลาย ที่อันตรายก็ขจัดขัดขวาง |
ฉลองพระเดชบ่จาง กตเวทิคุณพระกรุณา |
|
สามัคคีนี่แหละล้ำเลิศ จักชูชาติเชิดพระศาสนา |
สยามรัฐจักวัฒนาปรา- กฎฟุ้งเฟื่องกระเดื่องแดนดิน (สร้อย) |
สุดแผ่นดิน
สุดดินคือถิ่นน้ำ เขตคามไทยสุดแนว |
เราถอยไปไม่ได้อีกแล้ว ผืนถิ่นสิ้นแนว ทะเลกว้างใหญ่ |
ชาติไทยในเก่ากาล ถูกเขารานย่ำใจ |
เคยเสียน้ำตามากเพียงไหน เสียเนื้อเลือดเท่าไร ชาวไทยจำได้ดี |
เราถอยมาอยู่แสนไกล รวมเผ่าไทยอยู่อย่างเสรี |
พระสยามทรงนำโชคดี ผืนดินถิ่นนี้คือแผ่นดินทอง |
ไม่มีที่แห่งไหน ให้ไทยจับจอง |
เราถอยไปไม่ได้พี่น้อง ใครคิดมาแย่งครอง ผองไทยจงสู้ตาย |
สู้อมิตร
อันหมู่อมิตร ที่คิดประทุษฐ์ |
เราต้องยงยุทธ์ จนสิ้นชีวิต |
รื่นเริงกันเถอะเหวย รื่นเริงกันเถอะวา |
ในน้ำมีปลา ในนามีข้าว |
ทำมาหากิน แผ่นดินของเรา |
ใครแบ่งแย่งเอา เราต้องสู้มัน |
อันหมู่อมิตร ที่คิดประทุษฐ์ |
เราต้องยงยุทธ จนสิ้นชีวิต |
รื่นเริงกันเถอะเหวย รื่นเริงกันเถอะ หวา |
ทำไร่ไถนา หาเช้ากินค่ำ |
ถึงแม้จนยาก ลำบากตรากตรำ |
ก็ร้องก็รำ กันให้สนุกเอย |
เสียงระฆัง
เมื่อมีเสียงระฆัง ที่แขวนนอกวัง เคาะดังขึ้นมา |
พ่อขุนก็โปรด ไม่ทรงถือโทษ เรียกเข้าไปหา |
มีคดีคำร้องผิดพ้องหมองใจ ทุกข์ร้อนอย่างไรก็ทรงแก้ปัญหา |
เป็นพระคุณอุ่นใจ ของชาวไร่ชาวนา เกษมสำราญทั่วหน้า เขตแคว้นสุโขทัย |
โอ้องค์พ่อขุนราม ผู้เลื่องชื่อลือพระนาม ว่าเป็นพระยอดกษัตริย์ไทย |
ทรงผดุงรุ่งเรือง เขตแคว้นประเทือง สร้างบ้านแปลงเมือง ให้แก่ไทยทั้งหลาย |
ขอยกพระคุณขึ้นเทอดทูนไว้ ประชาชาวไทย จะรักพระองค์ตลอดกาล |
ชาติไทยผองไทยจะใฝ่ใจรู้คุณ ผู้เมตตาการุญ ค้ำชูชาติเสมอมา |
ก่อความดีงามสร้างความก้าวหน้า ช่วยทุกข์ประชาทั่วแคว้นแดนไทย |
แสงทินกร
จวนค่ำยามเย็น พี่เคยได้เห็น ทินกรส่องแสง |
พี่คอยตั้งตา นั่งดูขอบฟ้า เหมือนทาชาดแดง |
ลมโชยบุบผา หอมผกากลิ่นแรง |
ธรรมชาติ จำแลง โลกเรารื่นรมย์ |
งามสายสุดสวาท ทั้งงามธรรมชาติ เข้ามาประสม |
แสงแดดแผดส่อง ผิวนวลหน้าน้อง เรียกร้องพี่ชม |
แต่พี่ต้องฝืน หน้าชื่นอกตรม |
เมื่อไรจะสม ความหวังตั้งใจ |
| ย้อนกลับ | หน้าต่อไป | บน| |