| ย้อนกลับ | หน้าต่อไป | |
ปราจีนบุรี
คำขวัญของเมืองปราจีนบุรี ว่าไว้ว่า "ศรีมหาโพธิ์คู่บ้าน ไผ่หวานคงคู่เมือง ผลไม้ลือเลื่อง เขตเมืองทวาราวดี"
ในอำเภอเมือง หากไปในวันที่ไม่ใช่วันจันทร์ อังคาร และวันหยุดนักขัตฤกษ์แล้ว
ผมอยากให้ไปยังพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ
ซึ่งอยู่ด้านข้างของศาลากลางจังหวัดปราจีนบุรีเสียก่อน จะได้รับความรู้อย่างคุ้มค่า
ด้วยการเสียสละเวลาประมาณชั่วโมงเศษ ๆ แล้วค่อยออกไปเที่ยวต่อไป แต่หากเป็นวันจันทร์
อังคาร และวันหยุดนักขัตฤกษ์ พิพิธภัณฑ์เปิด วันเสาร์ อาทิตย์ ไม่ปิด
ค่าผ่านเข้าชมแค่คนละ ๑๐ บาทเท่านั้น ไปดูแล้วอ่านให้มาก ๆ จะได้ความรู้ติดออกมาก่อนไปยังเมืองศรีมโหสถ
และศรีมหาโพธิ์ต่อไป
ผมขอเล่าถึงพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติเสียก่อน
ตั้งอยู่ด้านข้างหรือหลังของศาลากลางจังหวัด เก็บค่าเข้าชมคนละ ๑๐ บาท
รีบไปให้โดยเร็วถูกที่สุดในโลก ภายในพิพิธภัณฑ์แบ่งออกเป็น ๒ ชั้น
การจัดแสดงชั้นล่างของอาคาร (มีมุมขายหนังสือของศิลปากรด้วย) แบ่งหัวข้อการจัดแสดงเป็น
ประวัติศาสตร์โบราณคดีเมืองปราจีนบุรี และโบราณคดีเมืองนครนายก (ดงละคร)
ส่วนชั้นบนของอาคารนั้น แบ่งการจัดการแสดงเป็น ศิลปะโบราณคดีในประเทศไทย
แสดงถึงศิลปะในประเทศไทยนับตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์ มาจนถึงสมัยประวัติศาสตร์
เริ่มต้นตั้งแต่สมัยศิลปะทวาราวดี ศิลปะศรีวิชัย ศิลปะเขมร -
ลพบุรี ศิลปะล้านนา ศิลปะสุโขทัย ศิลปะอยุธยา และศิลปะรัตนโกสินทร์
และยังจัดแสดงเครื่องถ้วยในประเทศไทยแบบต่าง ๆ เช่น เครื่องถ้วยเขมร
เครื่องถ้วยสุโขทัย และเครื่องถ้วยเบญจรงค์
โบราณคดีใต้น้ำ
แสดงการปฏิบัติงานโบราณคดีใต้น้ำ เส้นทางเดินเรือ และค้าขายสมัยโบราณ
และสุดท้ายในอาคารชั้นบนคือ จัดการแสดงโบราณคดีสมัยก่อนประวัติศาสตร์
ในภาคตะวันออกเริ่มกันตั้งแต่การตั้งถิ่นฐานของมนุษย์ในภาคนี้ และพัฒนาการมาตามลำดับ
หาดู หาชมได้ยากยิ่ง
แหล่งท่องเที่ยวอื่น ๆ ในจังหวัดปราจีนบุรี คงพอสรุปได้ดังนี้
แต่บอกกล่าวกันก่อนว่าไปวันเดียวคงจะไม่ได้มีเวลาไปชมมากนัก ควรไปค้างสัก
๒ คืนละก็ได้ดูอิ่มที่เดียว แต่หากมุ่งไปทางล่องแก่งก็ต้องไปค้างที่อำเภอนาดีเลย
จึงจะสะดวกกว่าการพักค้างคืนในเมือง ซึ่งในเมืองก็พอมีโรงแรมที่พอพักได้
แต่โรงแรมที่ยิ่งใหญ่เหลือเกินผมเองก็ยังไม่เคยพัก ได้แต่ผ่านไปก็คงต้องยกให้โรงแรมทวาราวดี
ทำอำเภอศรีมหาโพธิ์ สวยงามมาก และราคาก็งามเช่นเดียวกัน สนใจลองติดต่อ
๒๓๘ ๒๔๖๐ ต่อ ๑๔๙๘ หรือ ๐๓๗ ๒๐๘๔๔๔ โรงแรมนี้ใหญ่มากมีถึง ๑๕๘ ห้อง
ดูแล้วไม่แน่ใจว่าจะมีแขกมาพักกันเต็มหรือไม่ เอาใจช่วยขอให้อยู่ได้
จะได้เป็นศรีสง่าแก่เมืองปราจีนบุรี ทีนี้ไล่กันทีละอำเภอ เอาแบบฉบับย่อเพื่อจะได้วางแผนท่องเที่ยวได้
อำเภอเมือง
ฯ
๑. ตลาดผลไม้สามแยกหนองชอม
ก่อนถึงสี่แยกที่จเข้าเมืองปราจีนบุรี
๒. ศาลสมเด็จพระนเรศวรมหาราช
อยู่ที่สี่แยกเนินหอม ทางแยกเข้าปราจีนบุรี และแยกไปเขาใหญ่
๓. วัดแก้วพิจิตร อยู่ในเมืองหาไม่ยาก
ชมศิลปะที่ผสมกันอยู่ในหลังเดียวกัน คือ เขมร ไทย ฝรั่ง
จีน
๔. ตึกเจ้าพระยาอภัยภูเบศร
อย่าโดดข้ามไป อยู่ในโรงพยาบาลอภัยภูเบศร นอกจากอาคารพิพิธภัณฑ์เก่าแก่แห่งนี้แล้ว
ในโรงพยาบาลนี้ยังเป็นแหล่งผลิตยาจากสมุนไพร ที่ใหญ่ที่สุดและมีขายในราคาถูก
เช่น สบู่ต่าง ๆ เป็นต้น
ศูนย์วัฒนธรรมจังหวัดปราจีนบุรี
ข้างหอประชุมอำเภอเมือง ฯ ซึ่งศูนย์ข้อมูลข่าวสารการท่องเที่ยวจัดตั้ง
โดยการท่องเที่ยวก็อยู่ที่ศูนย์แห่งนี้ บริการเอกสารต่าง ๆ เปิดตั้งแต่
๐๘.๓๐ - ๑๖.๓๐ แต่วันหยุดราชการไม่เปิดเสียตรงนี้เพราะคนไปเที่ยวนั้น ไปกันในวันหยุดราชการเป็นส่วนใหญ่
หากศูนย์จะไม่เปิดควรได้ประสานกับทางพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ เอาเอกสารต่าง
ๆ ให้ทางพิพิธภัณฑ์แจกให้ก็จะอำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวอย่างยิ่ง
๕. วัดโบสถ์
ไม่ควรข้ามไป จากถนนเทศบาลดำริถึงสี่แยกถนนสุวินทวงค์ ทางหลวง
๓๑๙ แล้วไปตามทางหลวงหมายเลข ๓๐๗๑ อีก ๔ กม. วัดตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำบางปะกง
มีพระพุทธรูป ๓ องค์ ประทับยืน ประทับนั่ง และพระพุทธไสยาสน์
ภายในวัดร่มรื่นเงียบสงบ มีสะพานลวดสลิงทอดข้ามแม่น้ำยาว ๕๐ เมตร
กลางวันมีค้างคาวแม่ไก่ฝูงใหญ่หลายร้อยตัวห้อยหัวนอนให้ชม
๖. วัดแจ้ง
วัดเก่าแก่อยู่ตรงหัวโค้งก่อนถึงตัวสถานีรถไฟปราจีนบุรี สังขารของเจ้าอาวาสองค์เดิมไม่เน่าเปื่อยยังเก็บรักษาเอาไว้ให้กราบไหว้บูชากัน
๗. สวนนกวัดสันทรีย์
ไปทางเดียวกับวัดโบสถ์ เป็นที่ชุมนุมของนกนานาชนิด เช่น นกแขวก
นกกาน้ำ นกกะยาง ฯ
๘. สวนพันธุ์ไผ่
ไปจากสี่แยกเนินหอมก่อนแยกเข้าเมือง ไปทางอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ๑๑
กม. รวบรวมพันธุ์ไผ่ไว้
๙. น้ำตกเขาอีโต้
เลยศาลสมเด็จพระนเรศวรมหาราชไปหน่อยหนึ่งแล้วแยกซ้าย สมัยผมรับราชการตอนหนุ่ม
ๆ นั้น วันหยุดเป็นพาสาวหรือพาพรรคพวกที่มาจากกรุงเทพ ฯ ไปเที่ยวน้ำตกเขาอีโต้
แหล่งบันเทิงใจตามธรรมชาติเพียงแห่งเดียวในสมัยนั้น หรือไม่งั้นก็ไปน้ำตกสาริกา
และน้ำตกนางรองที่นครนายก
อำเภอศรีมโหสถ
๑. ต้นโพธิ์ศรีมหาโพธิ์
อยู่ที่วัดศรีมหาโพธิ์ ตำบลโคกปีป อำเภอศรีมโหสถ เป็นหน่อโพธิ์จากอินเดีย
๒. โบราณสถานสระมรกต
ตั้งอยู่วัดสระมรกต ตำบลโคกไทย อำเภอศรีมโหสถ เป็นกลุ่มโบราณสถานขนาดใหญ่ทางพระพุทธศาสนา
สร้างซ้อนทับกันหลายสมัย ซึ่งจะเห็นอารยธรรมโบราณได้จากแห่งนี้และชมได้
ในบริเวณที่ไม่ห่างไกลกันนัก โดยมุ่งหน้าไปยังอำเภอศรีมโหสถก่อนแล้วค่อยถามหาเอา
ซึ่งวิธีการที่ไปที่ดีที่สุดแต่ยากที่จะดูได้ด้วยตาเปล่า ให้ไปดูภาพจำลองในพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติจะชัดเจนกว่า
ภาพเหล่านี้เก่าแก่ ระหว่าง ๑๘๐๐ - ๑๔๐๐ ปีมาแล้ว แนะนำเอาไว้ร้านด้วงไก่ย่าง
อยู่หน้าโรงพยาบาลศรีมโหสถ อาหารอร่อย
๓. อนุสาวรีย์ลายพระหัตถ์ ของรัชกาลที่ ๕
ตำบลหนองโพรง อำเภอศรีมโหสถ เลยที่ว่าการอำเภอศรีมหาโพธิ์ไป ๑.๕ กม.
ทรงจารึกไว้บนแผ่นศิลาแลง เมื่อเสด็จประพาศเมืองปราจีนบุรีเมื่อ พ.ศ.
๒๔๕๑ (ก่อนสวรรคตเพียง ๒ ปี) ในอำเภอศรีมหาโพธิ์ มีเทวสถานสะพานหิน
เป็นเทวาลัยอายุกว่า ๑,๒๐๐ ปี ในสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ ๑
อำเภอนาดี
๑. อุทยานแห่งชาติทับลาน
อยู่ที่ตำบลบุพราหมณ์ ไปตามเส้นทาง ๓๐๔ กบินทร์บุรี - ปักธงชัย อีก
๓๒ กม.เป็นป่าลานที่ขึ้นเองตามธรรมชาติ "แห่งสุดท้ายของประเทศ" เป็นพันธุ์ไม้ดึกดำบรรพ์
จะออกดอกเมื่ออายุได้ ๒๐ ปีขึ้นไป ออกดอกเมื่อไรก็ตาย ฤดูออกดอกเดือน
เมษายน - มิถุนายน ดอกสีเหลืองงดงามมาก ภายในอุทยานยังมี สวนพักผ่อนหย่อนใจ
น้ำตกทับลาน แต่ต้องเดินไปอีกหลายกิโลเมตร อ่างเก็บน้ำทับลาน
และน้ำตกห้วยใหญ่
เมืองปราจีนบุรีนั้นมีงานเทศกาลคือ งานมาฆปุรมีศรีปราจีน จัดวันมาฆบูชา
ที่วัดสระมรกต ศรีมโหสถ งานแห่บ้างไฟ วัดวันวิสาขบูชา
ที่วัดศรีมหาโพธิ์ อำเภอศรีมโหสถ งานวันเกษตรและของดีเมืองปราจีนบุรี
จัดเดือน พฤษภาคม - มิถุนายน ที่หน้าศาลากลางจังหวัด มีตลาดนัดผลไม้ชนิดอิ่มละ
๓๐ บาท ให้ชิมด้วย งานแข่งเรือยาวประเพณี หน้าที่ว่าการอำเภอเมือง
ฯ จัดเดือนกันยายน งานลอยกระทง วันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๒ ที่หน้าอำเภอเมือง
ฯ
ถ้าเป็นเวลาบ่าย ๆ คงต้องสักบ่ายโมง หากมาจากโรงพยาบาลอภัยภูเบศร
เลาะริมแม่น้ำเข้าเมืองมาได้สัก ๒๐๐ เมตร จะมีแผงอาหารไทย รสเยี่ยมประเภทซื้อใส่ถุงกลับบ้านอร่อยนัก
เลยไปอีกสัก ๑๐ เมตร มีร้านขายขนมหวานประเภทใส่น้ำแข็งไส ทั้งน้ำกะทิและน้ำเชื่อม
ร้านนี้ขายทั้งวัน เรียกว่าได้ซดเป็นหายเหนื่อยเลยทีเดียว
ทีนี้ไปร้านอาหาร ชื่อตะโกราย ดั้งเดิมเขาก็ขายอาหารไทย ๆ ไป
แต่อร่อยมากและราคาไม่แพง ผมเคยชิมของเขาเป็นประจำ อยู่ ๆ เจ้าของร้านสาวใหญ่บอกว่าไปติดใจอาหารเจเสียแล้ว
ดังนั้นจะเปลี่ยนไปขายอาหารมังสาวิรัต เริ่มตั้งแต่ ๕ เมษายน ๒๕๔๔ เป็นต้นไป
ผมก็นึกว่ามังสาวิรัตธรรมดา ๆ ก็ไม่สนใจ บ่นให้เขาฟังว่าเสียดายที่อาหารดี
ๆ ทำไมเปลี่ยนประเภทอาหารเสีย วันหลังเขาลองทำให้ชิมคือปอเปี๊ยะวงเดือน
ก็อร่อยดี และเมื่อทำแล้วไม่ดูเป็นมังสาวิรัต วันนี้เลยตั้งใจจะไปชิมของเขา
ต้มยำกุ้ง น้ำแกงที่ลอยหน้าอยู่นั้นเป็นสีแดง มันย่องว่างั้นเถอะ ใส่เห็ด
ใส่เครื่องต้มยำทั้งหลาย ในตัวที่ทำเหมือนกุ้ง ซดแล้วชื่นใจเหลือประมาณ
ไม่บอก ไม่เขี่ยตัวกุ้งขึ้นมาดูจะไม่รู้เลยว่าเป็นอาหารมังสะ ฯ
ออส่วน ผัดออกส่วนที่เป็นออส่วน ไม่มีหอยสักตัว แต่เหมือนใส่หอยนางรมมา
กินร้อน ๆ จะอร่อยเยี่ยม
ลาบเป็ด น้ำตก มองดูเหมือนเป็ดจริง ๆ แต่รสนั้นเหมือนกินลาบเป็ดเกือบทุกประการ
รสดีมากด้วยเปรี้ยวนิด ๆ
ไก่ตะกร้า จานนี้ทีเด็ดจริง ๆ เพราะต้องเอาเผือกมาสานเป็นตะกร้าเสียก่อนแล้วจึงเอาตะกร้าไปทอดให้กินได้
ต่อจากนั้นจึงผัดไก่ (เทียม) เม็ดมะม่วงหิมพานต์ หอมใหญ่ มะเขือเทศ
ผัดออกหวานนิด ๆ ใส่ลงในตะกร้า เวลากิน กินของในตะกร้า เผลอ ๆ
ก็บิตะกร้าเผือกกินตามเข้าไปด้วยอร่อยนัก
นอกจากนี้ยังมี ปลาร้าคั่ว ปลาร้าหลน ปลอมทั้งนั้น
แต่ทำได้เหมือนโดยเฉพาะกลิ่นมีเสียด้วย ปอเปี๊ยะทอดกับเกี๊ยวกรอบ
สั่งมาก่อนกินเล่นแต่อร่อยแทบจะอิ่มเอา มีผักสดจานใหญ่สวยมาให้อีกจาน
จัดอาหารสวยประณีตมาก ปิดท้ายด้วยไอศครีม และปิดท้ายอีกทีก่อนจากร้านไปที่ตู้อาหารสำเร็จรูปวันนี้
นับอาหารในถาดได้ ๑๒ อย่าง สั่งอาหารใส่ถุงกลับมากินเป็นมื้อเย็นอีกหนึ่งหอบ
ถามว่าทำไมต้องซื้อมาแยะก็มันอร่อยและเอามาฝากคนที่ไม่ได้ไปด้วยน่ะซี
| ย้อนกลับ | หน้าต่อไป | บน | |