| หน้าต่อไป |

อุทัยธานี
            เมืองอุทัยธานี  เป็นจังหวัดที่อยู่ในภาคกลางตอนบน หรือภาคเหนือตอนล่าง เป็นเมืองที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยป่า และภูเขาสูง สภาพป่าอุดมสมบูรณ์มาก
            ตามตำนานกล่าวว่า ท้าวมหาพรหมได้สร้างบ้านเมืองบริเวณบ้านอุทัยเก่า ซึ่งได้พบหลักฐาน เป็นแนวศิลาแลง และระฆังหิน อายุราวสมัยสุโขทัย เชื่อกันว่าคือบ้านอูไทย ในสมัยอยุธยา ผู้นำชาวกะเหรี่ยงนามว่า " พะตะเบิด " ได้พาผู้คนอพยพเข้ามาและได้สร้างเมือง โดยได้สร้างศาสนสำคัญไว้หลายแห่ง เช่น วัดหัวหมาก  วัดยาง  วัดแจ้ง  วัดหัวเมือง  สร้างครบสี่ทิศ และขุดบึงขนาดใหญ่เพื่อป้องกันการขาดแคลนน้ำ สำเนียงเรียกเมืองเริ่มเปลี่ยนไปเป็น " อุไทย " ตามสำเนียงกะเหรี่ยง ต่อมาผู้คนอพยพเข้ามาตั้งบ้านเรือนมากขึ้น จนกลายมาเป็นที่ตั้งของ เมืองอุทัยธานีในปัจจุบัน
            การเดินทาง.-
            ทางรถไฟ ต้องไปลงที่สถานีรถไฟนครสวรรค์ แล้วนั่งรถย้อนกลับมา
            ทางรถยนต์ ไปได้หลายเส้นทาง เส้นทางที่แนะนำคือ.-
            เส้นทางแรก  ไปจากกรุงเทพ ฯ ผ่านอยุธยา สิงห์บุรี ทางแยกเข้าชัยนาท ถึงทางแยกเข้าอำเภอมโนรมย์ ให้เลี้ยวซ้ายไปที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา เอารถลงเรือ (ค่าข้ามเรือ ๒๐ บาท) ข้ามไปขึ้นฝั่งอุทัยธานี (แม่น้ำสระแกกรังมาบรรจบเจ้าพระยาที่จุดนี้) แล้ววิ่งเลี้ยวขวาไปจะไปผ่านวัดท่าซุง หรือวัดจันทาราม ผ่านทางแยกขวาเข้าร้านอาหารอร่อย " พรหมท่าซุง " ไปเข้าเมืองอุทัยธานี
            เส้นทางที่สอง  เมื่อมาจนเลยอำเภอมโนรมย์แล้ว ต่อไปอีกหน่อยจะมีถนนแยกซ้าย หลักกิโลเมตร ๒๐๖ มีป้ายใหญ่บอกไปอุทัยธานี เลี้ยวซ้ายเข้าสายนี้ไปอีก ๑๖ กิโลเมตร จะถึงทางแยกเข้าอุทัยธานี
            สถานที่ท่องเที่ยว
            ไม่มีอุทยานแห่งชาติ แต่มีเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้งที่เป็นมรดกของโลก ซึ่งอยู่ในท้องที่อำเภอลานสัก เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ทุ่งใหญ่นเรศวร - ห้วยขาแข้ง ได้รับการจดทะเบียนเป็นมรดกโลก จากองค์การยูเนสโก (UNESCO) ในการประชุมคณะกรรมการมรดกโลกของยูเนสโกที่เมืองคาร์เทจ ประเทศตูนีเซีย เมื่อ ๙ - ๑๓ ธันวาคม ๒๕๓๔
            เส้นทางไปสู่อำเภอลานสัก จะผ่านอำเภอหนองขาหย่าง และอำเภอหนองฉางไปก่อน ซึ่งในเส้นทางนี้จะเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญยิ่งของอุทัยธานี แต่น่าเสียดายที่ได้รับการส่งเสริมน้อยเกินไป ไม่เห็นคุณค่าความสำคัญของแหล่งท่องเที่ยวในเส้นทางนี้ จึงทำให้ขาดแคลนป้ายชี้ทาง ไม่ว่าในเส้นทางนี้หรือในตัวอำเภอเมือง ฯ หาป้ายบอกไปแหล่งท่องเที่ยวยากเต็มที
            จากอำเภอเมือง ฯ ไปตามถนน ๓๓๓ จะผ่านอำเภอหนองขาหย่าง ซึ่งอำเภอนี้มี บึงทับแต้ มีวัดหนองพลวง วัดเก่าแก่ตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๔๐๐ มีอุโบสถเรียกว่าโบสถ์ท้องสำเภา เป็นโบราณสถาน วัดอยู่ติดกับโรงเรียน
            อำเภอหนองฉาง จากถนน ๓๓๓ เข้าถนน ๓๔๓๘ อำเภอนี้คือเมืองอุทัยธานีเก่า เข้าตัวอำเภอไปแล้ว ผ่านตลาดไปเลี้ยวขวาจะไปยังตัวเมืองเก่าที่เหลือแต่วัดแจ้ง มีพระปรางค์ วัดหัวเมืองมีโบสถ์เก่า วัดหัวหมาก วัดยาง วัดกุฏิเหลือแต่ซากกองอิฐ รอบ ๆ เป็นทุ่งนาไปหมดแล้ว ขาดการบำรุงรักษาทุกวัดที่กล่าวถึง มีวัดใหม่ที่สร้างในสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น ที่บูรณะสวยงามมีพระพุทธบาทจำลอง คือ วัดหนองขุนชาติ
            จากอำเภอหนองฉาง ไปสู่อำเภอลานสัก มีแหล่งท่องเที่ยวมากเหลือเกิน แต่น่าเสียดายที่ขาดป้ายนำทาง ผมจะขอแนะเพียงแห่งเดียวคือ เขาปลาร้า แยกจากถนนสาย ๓๔๓๘ ที่กิโลเมตร ๒๑ และป่าหุบตาดก็ไปทางเดียวกัน ไปอีก ๔ กิโลเมตร  จะพบป้ายบอกว่าไปโบราณสถาน และมีป้ายที่ใหญ่กว่าคือ วัดถ้ำทอง เลี้ยวซ้ายไปทางนี้ประมาณ ๑ กิโลเมตร จะพบวัดถ้ำทอง มีพระนอนในถ้ำที่ไม่ลึกนัก รถยนต์ขึ้นได้ถึงหน้าถ้ำ เลยวัดถ้ำทองไปอีกจะพบดงไม้ที่ร่มรื่นคือ ทางเข้าป่าตาด หุบป่าตาดนี้อยู่ในหุบเขา จะต้องขึ้นเขาไปถึงถ้ำแล้วเข้าถ้ำไปสัก ๑๐๐ เมตร ในถ้ำมืดมาก แล้วจะพบดงไม้ในหุบป่าตาดที่มีแสงสว่างส่องลงมาได้ และพบป่าตาด ไม้ดึกดำบรรพ์ และมีมีพันธุ์ไม้ที่หายากเช่น เต่าร้อง เปล้า คัดค้าว เป็นต้น หุบเขานี้คล้ายป่าดงดิบ แสงตะวันจะส่องถึงพื้นได้เฉพาะตอนเที่ยงวัน เพราะล้อมรอบไปด้วยเขาหินปูนที่แปลกและงดงาม
            เลยทางเข้าหุบป่าตาดไปอีกประมาณ ๒ กิโลเมตร จะเป็นภูเขาหินปูนที่กว้างประมาณ ๒.๕ กิโลเมตร  และยาวประมาณ ๘ กิโลเมตร  เป็นเทือกเขาสูง สวยงามมาก มีช่องเขา มีถ้ำ มีค้างคาวอยู่และเมื่อไปจนสุดทางที่มีป้ายบอกแล้ว ก็จะไปถึงเชิงเขาปลาร้า มีป้ายบอกว่าเป็นโบราณสถานที่ต้องปีนเขาขึ้นไปประมาณ ๘๐๐ เมตร จึงจะถึงถ้ำประทุนซึ่งมีภาพเขียนสีเมื่อ ๓,๐๐๐ ปี อยู่เป็นแนวยาว ๙ เมตร เขียนด้วยสีแดง มีกลุ่มภาพมนุษย์ และสัตว์ ประมาณ ๔๐ ภาพ
            หลายอำเภอในอุทัยธานี จะค้นพบแหล่งชุมชนก่อนประวัติศาสตร์หลายแห่งด้วยกัน แต่ขาดการแนะนำที่ดี
            จากจุดเลี้ยวเข้าเขาปลาร้า จะต่อไปยังอำเภอลานสัก เมื่อเลยตัวอำเภอไปสัก ๒ กิโลเมตร จึงจะถึงตลาดลานสัก ชื่อว่า ตลาดป่าเหมือง เลยโรงพยาบาลไป ต่อจากนั้นเลยไปอีกจนถึงป้อมยามจะมีทางแยกซ้ายไปยังเขื่อนทับเสลา รวมระยะทางถึงจุดแยกเข้าเขื่อน ๑๕ กิโลเมตร  เลี้ยวเข้าไปอีก ๔ กิโลเมตร  เป็นจุดท่องเที่ยว
            เลยจากทางแยกเข้าเขื่อนทับเสลาไปแล้วอีก ๗ กิโลเมตร จึงจะถึงทางแยกเข้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร - ห้วยขาแข้ง มีป้ายบอกไว้ใหญ่มาก แต่ต้องเลี้ยวซ้ายเข้าไปอีก ๑๕ กิโลเมตร จึงจะถึงที่ทำการเขต ฯ มีที่พักอยู่ ๓ หลัง ติดต่อขอรายละเอียดได้ที่ ๐ ๒๕๖๑ ๔๒๙๒
            ขอแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวของลานสักไว้เพียงเท่านี้ ทั้ง ๆ ที่อำเภอนี้มีมากมายหลายแห่ง
            แต่หากไปลานสักได้เที่ยวเขาปลาร้า กับหุบป่าตาด ดูซากเมืองโบราณที่หนองฉางก็น่าจะคุ้ม และจะคุ้มตรงอาหารอร่อยที่ร้าน
" แตนโภชนา " เป็นอาหารที่น่าเปรียบว่าเป็นช้างเผือกในป่า สมกับอยู่ในอำเภอที่มีป่าสักที่สมบูรณ์
            ร้านแตนโภชนา ไปอำเภอลานสัก เมื่อถึงตัวอำเภอแล้ววิ่งต่อไปประมาณ ๒ กิโลเมตร จะถึงโรงพยาบาลประจำอำเภอลานสัก ซึ่งอยู่ริมถนนคู่ขนาน ต้องเลี้ยวเข้าถนนคู่ขนานผ่านหน้าโรงพยาบาลไป ร้านแตนโภชนาจะอยู่ทางซ้ายมือ เลยร้านแตนโภชนาไปจะเป็นธนาคารออมสิน เยื้องธนาคารออมสินคือ ตลาดของอำเภอชื่อว่า ตลาดป่าเหมือง ร้านแตน ฯ โทร ๐๕๖ ๕๓๗๐๗๔
            อาหารจานเด็ด ที่ต้องสั่งตั้งแต่เอ่ยคำแรก ซึ่งจะกินเล่น กินจริง กินแกล้มอร่อยทั้งสิ้นคือ " ผัดสมุนไพร " ไม่มีเนื้อสัตว์เลย มีแต่สมุนไพร และเม็ดมะม่วงหิมพานต์ ผัดเก่งมาก เคี่ยวทั้งสนุก ทั้งมัน
            ผัดฉ่าปลาแม่น้ำ ถามเขาดูว่ามีปลาอะไร แต่ที่นี่ไม่มีปลาจากเขื่อนทับเสลามาทำอาหารขาย เพราะเขาบอกว่ามีแต่ปลานิลเลยไม่เอามาขาย เอามาแต่ปลาจากแม่น้ำสะแกกรัง หรือแม่น้ำเจ้าพระยา สั่งผัดฉ่าให้ผัดด้วยปลาช่อนเนื้อขาวจั๊วะ หรือปลาเนื้ออ่อน ผัดมากับเม็งหรือยอดมะพร้าว กระชาย พริกชี้ฟ้า โหระพา สีอ่อน ๆ น่ากินแต่ไม่ค่อยเผ็ด ต้องการเผ็ดย้ำเขาหน่อยก็ดี
            ยำตะไคร้ รายการกินเล่นอีกจาน เปรี้ยวนิด ๆ แต่หากสั่งผัดสมุนไพรแล้วจะเว้นยำตะไคร้ก็ได้ เว้นแต่จะแกล้ม
            ไข่เจียวขี้เมา จานนี้ผัดไส้แบบผัดขี้เมาเอามายัดไส้ไข่ อร่อยดีพิลึก เหมือนไข่ยัดไส้แต่ได้รสเผ็ดด้วย
            ไข่อบวุ้นเส้น เสริฟมาในหม้ออลูมิเนียม มีด้ามจับ วุ้นเส้นคลุกเคล้าไข่ตุ๋นมาร้อน ฟูเต็มหม้อทีเดียว แต่ระวังหน่อยจะกลืนไม่เข้า (เพราะความร้อน) จะคลายไม่ออก (เพราะความอาย) ซดแกงจืดแทน
            อิ่มแล้วไปเที่ยวต่อ ควรมาเที่ยวเขาปลาร้า หุบป่าตาด แล้วมากินแตนโภชนา มื้อเที่ยง จากนั้นไปเขื่อน ไปเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ฯ ก็คงจะหมด ๑ วัน อย่างดีก็ได้แวะ หนองฉาง หรือ หนองขาหย่างอีกสักนิด
            อำเภอทัพทัน  มีเขาปฐวี เทือกเขาหิน มีถ้ำร่วม ๓๐ ถ้ำ มีฝูงลิงมาก ลงมาเล่นที่ลานเลยทีเดียว
            อำเภอห้วยคด  มีน้ำตกไซเบอร์ น้ำตกหินลาด น้ำพุร้อนสมอทอง พระอาทิตย์ตกงามนัก
            อำเภอบ้านไร่  ไปจากอำเภอลานสางก็ได้ อำเภอนี้ติดต่อกับอำเภอด่านช้าง จังหวัดสุพรรณบุรี เป็นจุดท่องเที่ยวที่สำคัญอีกจุดหนึ่ง ได้แก่ ถ้ำเขาตะพาบ วัดเขาวงพรหมจรรย์ วัดถ้ำเขาวง วนอุทยาน ถ้ำเขาวง ในวนอุทยานมี ถ้ำพุหวาย น้ำตกผาร่มเย็น ศูนย์วัฒนธรรมชาวเขาบ้านอีหมาด - อีทราย  ถ้ำเกร็ดดาว น้ำตกตาดดาว สวนพฤกษศาสตร์
            อำเภอเมือง ฯ  น่าเสียดายที่ป้ายบอกในตัวเมืองมีน้อยเกินไป เลยไปไหนลำบากหน่อย เพราะมีวงเวียนมาก วงเวียนที่สำคัญที่จะมีเส้นทางตะวันออกเข้าสู่ตลาดสดริมแม่น้ำสะแกกรัง คือวงเวียนช้าง วงเวียนน้ำพุ และวงเวียนงาช้าง ๓ วงเวียนนี้สำคัญต้องจับ ๓ วงเวียนนี้ให้ถูกจะหาทิศทางง่ายขึ้น
            แหล่งท่องเที่ยว ชวนชมในตัวอำเภอเมืองแห่งแรกที่เราไปถึงอุทัยธานีคือ.-
            วัดสังกัสรัตนคีรี อยู่เชิงเขาสะแกกรัง เขานี้อยู่ในเมือง ไปที่วัดที่อยู่เชิงเขาก่อนขึ้นสู่ยอดเขา ถ้ามาจากถนนพหลโยธิน ข้ามสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยามาแล้ว วิ่งมา ๑๖ กิโลเมตร เศษ จะชนสามแยกถนนสาย ๓๓๓ ให้เลี้ยวซ้าย (หากเลี้ยวขวาจะมาผ่านสนามกีฬา และเลี้ยวซ้ายขึ้นยอดเขาได้) จนมาพบหอนาฬิกาให้เลี้ยวขวาจะตรงไปจนถึงประตูวัดสังกัสรัตนคีรี ที่วัดนี้มีบันไดสู่ยอดเขา และมีพิธีตักบาตรเทโวในวันแรม ๑ ค่ำ เดือน ๑๑ ทุกปี พระสงฆ์ทั้งอุทัยธานีจะเดินลงบันไดลงมาสู่ฝูงชนที่จะรอใส่บาตร อยู่ที่ลานวัดตรงบันไดประมาณ ๒๐๐ เมตร มีศาลาประดิษฐานพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองอุทัยธานี นามพระพุทธมงคลศักดิ์สิทธิ์ เป็นพระสมัยสุโขทัย พระเนื้อสำริด ปางมารวิชัย พระเศียรบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ
            เขาสะแกกรัง จะขึ้นบันไดไปก็ได้สูงพอสมควร หากเอารถขึ้นไปก็ขึ้นทางด้านข้างสนามกีฬาจังหวัด ระยะทางขึ้นเขาประมาณ ๒ กิโลเมตร ขึ้นไปแล้วจะมีลานจอดรถกว้างขวาง มีโต๊ะ เก้าอี้ทองเหลืองไว้ให้นั่งกินอาหารและชมวิว ทางตะวันตกมีศาลเจ้าแม่กวนอิม มีศาลาเกจิอาจารย์ มีวิหารพระพุทธรูป มีมณฑปพระพุทฐาท งดงามมาก และหน้ามณฑปมีระฆังใบใหญ่มากที่สร้างมาได้ ๑๐๐ ปีเศษแล้ว จึงตีระฆังจะดังกังวาลไปทั่ว

            ด้านทิศตะวันออกคือพลับพลาที่ประดิษฐานพระบรมรูปสมเด็จพระปฐมบรมชนกนาถ แห่งรัชกาลที่ ๑ ซึ่งพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ได้สถาปนาอัฐิของพระราชบิดาขึ้นเป็นสมเด็จพระชนกาธิบดี เมื่อปี พ.ศ.๒๓๓๘
            สถานที่น่าสนใจแหล่งอื่น ๆ ในอำเภอเมือง
            วัดมณีสถิตย์ปิฏฐาราม  วัดสร้างในสมัยรัตนโกสินทร์ มีสระน้ำก่ออิฐเป็นสระน้ำมนต์
            วัดธรรมโฆษก หรือวัดโรงโค  เคยใช้เป็นที่ประกอบพิธีถือน้ำพิพัฒน์สัตยา และเป็นลานประหารนักโทษ
            เกาะเทโพ คนละฝั่งกับอำเภอเมือง ฯ มีสะพานคนเดินแต่เห็นมอเตอร์ไซด์ก็พยายามไปได้ สะพานอยู่ตรงหน้าตลาดสด แต่หากจะเอารถข้ามไปก็มีสะพานคอนกรีตให้รถยนต์ข้ามได้ ต้องเลียบแม่น้ำ ผ่านหน้าศาลากลางไปก่อนจึงจะถึงสะพานพัฒนาภาคเหนือ ๑๕ (สร้าง ๒๕๑๕) ก็จะข้ามไปเกาะเทโพ ซึ่งมีวัดสำคัญคือ วัดโบสถ์หรือวัดอุโบสถาราม เป็นวัดโบราณ หากเดินข้ามไปก็เดินข้ามสะพานหน้าตลาดสดไปได้เลย
            ผมได้บอกตั้งแต่ต้นแล้วว่าถนนในเมืองอุทัยนี้แคบ และสั้นมีวงเวียนมาก ยากแก่การจดจำทางได้ในเวลาอันรวดเร็ว หากจะหาร้านอาหารอร่อย ๆ ก็หาได้จากถนนเกือบจะเป็นสายเดียว ชื่ออะไรไม่ทราบเพราะไม่เห็นป้ายถนนสักป้ายเดียว
            ไปร้านอาหารให้ตั้งต้นจากประตูวัดสังกัสรัตนคีรีที่เขาสะแกกรัง ที่เราจะไปนมัสการพระพุทธมงคลศักดิ์สิทธิ์อยู่แล้วจำเส้นทางไปวัดไว้ตามที่ผมบอก  จากประตูวัดตรงเรื่อยไปจะผ่านร้านอร่อย ๆ ดังต่อไปนี้.-
            ออกจากวัดจะมาผ่านสี่แยกไฟสัญญาณ ที่สี่แยกนี้ให้ตรงต่อไป (หากเลี้ยวมาสนามกีฬา) จะเริ่มผ่านร้านตุ๋ยปลาแรด ทางซ้าย อร่อยคือ ซีอิ้วกรอบ ปลาแรดนึ่งมะนาว กุ้งผัดซ๊อส เลยไปอีก ๑๐๐ เมตร คือร้านบะหมี่ฮ่องกง ๐๕๖ ๕๑๑๗๒๖ ร้านบะหมี่อยู่ติดกับร้านข้าวแกง วิ่งต่อไปอีก ผ่านฮอนด้า ผ่านที่ว่าการอำเภอ ผ่านธนาคารกรุงเทพ ฯ ทีนี้เป็นโจ๊กหม้อดิน กับเกาเหลาเลือดหมู ขายยามเช้า
            ตรงต่อไป มาทางฝั่งขวาของถนนบ้าง พอเลยโจ๊กหม้อดินไปแล้ว โกตี้ข้าวมันไก่ อยู่ตรงข้ามธนาคารทหารไทย ใกล้ ๆ กับก๋วยเตี๋ยวไก่ท้าพิสูจน์ เลยไปอีกนิด ดวงขนมของฝาก ขนมเปี๊ยะอร่อยนัก กลับมาฝั่งซ้ายใหม่ ตรงหัวมุมเยื้องดวงคือ ฮั้วปลาลวก ขายตั้งแต่ ๑๖.๐๐ - ๒๔.๐๐ ที่อร่อยจริงของฮั้วกลายเป็นปลาผัดคึ่นไช่ ปลาผัดพริกใช้ปลาแรดยิ่งดี ยอดฟักทองผัดหมูกรอบ และตามด้วยปลาช่อนลวก จะกินข้าวต้ม ข้าวสวยมีทั้งนั้น ที่ควรสั่งอีกอย่างคือ เป็ดพะโล้ ขายดีจนสับไม่ทัน
            เลยฮั้วปลาลวกไปสัก ๒๐ เมตร คือวงเวียนที่มีงาช้างปักไว้ จากวงเวียนงาช้างนี้หากไปทางซ้ายจะไปยังวงเวียนน้ำพุ (เลี้ยวซ้ายไปร้านฉัตรอุทัยของฝาก เลยไปคือ เม้งเป็นพะโล้ ๐๕๖ ๕๑๑๘๘๕) เลยวงเวียนน้ำพุไปคือวงเวียนช้าง (มีตัวช้างในวงเวียน) ทุกวงเวียนไปสู่ตลาดสดริมแม่น้ำ
            กลับมาวงเวียนงาช้างอีกที ตรงไปคือสะพานข้ามแม่น้ำ เลี้ยวขวาไปศาลากลาง ไปศาล ไปสะพานรถข้ามแม่น้ำ หากเลี้ยวขวาตามป้ายไป อำเภอมโนรมย์ ก็จะไปยัง วัดท่าซุงหรือวัดจันทาราม ที่ยิ่งใหญ่ของหลวงพ่อฤาษีลิงดำ ไปอุทัยธานีต้องไปวัดนี้ให้ได้ วัดเดิมอยู่ริมแม่น้ำสร้างสมัยอยุธยา หลวงพ่อมาสร้างเพิ่มเติมอีกมากมาย โดยเฉพาะฝั่งตรงข้ามมีส่วนอุโบสถ ส่วนที่เป็นวิหารแก้วซึ่งต้องไปให้ได้ ในส่วนนี้จะมี ปราสาททองคำ เจดีย์พุดตาน พระยืน ๓๐ ศอก พระบรมรูป ๖ รัชกาล พระพุทธรูปนับร้อยองค์ตามระเบียง วิหารสมเด็จองค์ปฐม มณฑปพระศรีรัตนตรัย หอพระไตรปฎก ฯ และที่สำคัญที่สุดคือ วิหารแก้ว ๑๐๐ เมตร ประดิษฐานพระพุทธชินราชจำลอง และสังขารที่ไม่เน่าเปื่อยของหลวงพ่อฤาษีลิงดำ ภายในเป็นเสาแก้วประดับกระจกแวววาวงดงามสว่างไสวไปทั้งวิหาร
            ที่พัก อุทัยธานีกลายเป็นเมืองผ่านทั้ง ๆ ที่สถานที่ท่องเที่ยวมีมากมายเที่ยวกัน ๓ วันไม่จบ เลยเป็นผลให้โรงแรมดี ๆ มีน้อย ผมพักที่ห้วยขาแข้งเชษศิลป แถมอาหารเข้าด้วย ห้องพักดี ๐๕๖ ๕๒๔๘๓๓
            ของฝาก มีร้านของฝากหลายร้าน ทางไปสนามกีฬาขวามือมีร้านแม่ปวยลั้ง ขนมเปียกหัวผักกาด เห็ดโคนเพาะดอง ขนมปังสังขยาอร่อยจนทำไม่ทัน ขนมสัมปันนี ข้าวตู พายสับปะรด ฯ ล้วนของอุทัยธานีทั้งสิ้น
            วัดท่าซุง  อยู่ทางเอารถไปลงเรือข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาที่ท่าเรือ ซึ่งจะต้องผ่านวัดท่าซุงไป วิหารแก้วอยู่ตรงหลักกิโลเมตร ๖ เยื้อง ๆ กันคือร้านอาหารพรหมท่าซุง เป็นสวนอาหารอย่างแท้จริง ต้องเลี้ยวซ้าย (หากมาจากในเมือง) ผ่านสวนสวย เข้าไปจนถึงริมฝั่งแม่น้ำ จะนั่งในแพ ที่รอบแพมีปลาแม่น้ำแยะ หาอาหารปลาไปโปรยบ้างก็สนุก ซื้อเขาก็มีขาย เอาข้าวสุกแบ่งโปรยให้ก็ได้ จะนั่งในแพหรือบนบกก็ได้ สบายรับลมแม่น้ำ
            ต้องสั่งทันทีคือ ปลาแรดราดพริก ปลาตัวโต เนื้อนุ่ม เหนียวแน่น พริกแกงที่ราดเข้าใจว่ามีนมสดใส่มาด้วยจึงมัน รสออกหวานนิด ๆ น้ำพริกผัดเข้าเนื้อปลาจนชุ่มฉ่ำ อร่อยสุด ๆ จานนี้ปลาแรดตัวโตมากเต็มจาน ๑๖๐ บาท
            ต้มโคล้งปลากะทิง หรือต้มโคล้งปลากรอบ (ปลาเนื้ออ่อน) ใส่หม้อไฟ ไฟถ่านจึงร้อนแรงซดชื่นใจนัก แกงคั่วหอยขม " มัน " คลุกข้าวอร่อยเคี้ยวหอยกรุ๊บ ๆ ข้าวจานเดียวไม่พอ
            ผักกะเฉดผัดหมูกรอบ กรอบทั้งหมูและกรอบทั้งผัก น้ำขลุกขลิกออกรสหวานนิดเดียวอร่อยไม่เลิก
            ของหวานไม่ทราบว่ามีหรือไม่ แต่ผมเอาขนมฝากมาฝากตัวเองเสียก่อน อร่อย ๆ ทั้งนั้น

...................................................

| หน้าต่อไป | บน |