นางสุชาดากวนข้าวมธุปายาส
|
-
นางสุชาดาธิดาของกฎมพี
ชาวเสนานิคม ผู้มั่งคั่งสมบูรณ์ด้วยโภคทรัพย์ ครั้งหนึ่ง เธอตั้งความปรารถนาต่อรุกขเทวดา
ผู้สิงอยู่ ณ ต้นไม้แห่งหนึ่งว่า หากตนได้บุตรเป็นชายแล้ว จะกระทำบวงสรวงด้วยมธุปายาสอันโอชะ
ครั้นเธอได้บุตรชายสมความปรารถนาแล้ว จึงได้จัดแจงกวนข้าวมธุปายาสด้วยตนเอง
ซึ่งมีขั้นตอนการดำเนินการที่ซับซ้อน ละเอียดอ่อนและใช้เวลาในการจัดทำมาก
-
ตามภาพเมื่อกำลังปรุงอยู่
พระอินทร์ได้นำทิพยอาหารอันโอชะ มาโปรยลงในกะทะทองที่เธอกำลังกวนข้าวมธุปายาสอยู่
เพื่อให้ข้าวมธุปายาสมีรสโอชะยิ่งขึ้น
-
เมื่อเสร็จแล้วเธอก็เตรียมนำข้าวมธุปายาส
ไปถวายรุกขเทวดาตามความเชื่อของตน
|
พระมหาโคดมทรงรับถาดข้าวมธุปายาสจากนางสุชาดา
|
-
เมื่อนางสุชาดาถือถาดทองที่บรรจุข้าวมธุปายาสเต็ม
ออกจากบ้านมุ่งไปสู่นิโครธพฤกษ์สถาน พร้อมด้วยนางบริวารเป็นอันมาก เมื่อนางมาถึง
ณ ที่นั้นแล้วได้เห็น พระมหาบุรุษประทับอยู่ มีบุคคลิกลักษณะ
เป็นที่น่าเลื่อมใสศรัทธา
นางสำคัญว่า พระมหาบุรุษนี้เป็นรุกขเทวดาโดยแท้ จึงน้อมนำถาดข้าวมธุปายาสเข้าไปถวาย
พระมหาบุรุษทรงเหยียดพระหัตถ์ขวาออกรับข้าวมธุปายาส และทอดพระเนตรดูนาง นางทราบอาการเช่นนั้นแล้วจึงกราบทูลว่า
"ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้า ข้าพเจ้าขอถวายข้าวมธุปายาส พร้อมกับภาชนะทองอันรองใส่
ขอพระผู้เป็นเจ้าจงรับไปโดยควรแก่พระหฤทัยปรารถนาเถิด" แล้วนางก็กราบถวายบังคมลากลับสู่นิเวศน์ของตน |
พระมหาโคดมทรงเสี่ยงบารมีลอยถาด
|
-
ก่อนที่พระมหาบุรุษจะได้ตรัสรู้
เป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า มีเรื่องเล่าว่า เมื่อทรงบำเพ็ญทุกกรกิริยาอยู่
6 พรรษา แล้วยังไม่พบทางตรัสรู้ ทรงแน่พระทัยว่า ทุกกรกิริยานั้น เป็นการทำตนให้ลำบากเปล่า
ไม่ใช่ทางตรัสรู้ จึงทรงเลิกทุกกรกิริยา แล้วแสวงหาโมกขธรรมทางมัชฌิมาปฏิปทา
เริ่มเสวยพระกระยาหารตามปกติ
-
ในเช้าของวันตรัสรู้นั้น
นางสุชาดาธิดาของกฏุมพีชาวเสนานิคม ได้นำข้าวมธุปายาสมาถวาย พระมหาบุรุษทรงรับไว้และเสวยหมดแล้ว
จึงได้เสด็จไปริมฝั่งแม่น้ำเนรัญชรา แล้วเสี่ยงบารมีว่า
"ถ้าจะได้ตรัสรู้พระอนุตรสัมมาสัมโพธิญาณ
ขอให้ถาดลอยทวนกระแสน้ำไป" ถาดก็ได้ลอยทวนกระแสน้ำไปด้วยแรงอธิษฐาน
และได้จมลงสู่นาคพิภพ รวมกับถาดอีก 3 ใบ ของอดีตพระพุทธเจ้าในภัททกัปป์นี้
มีพระพุทธกกุสันโธ เป็นต้น |
โสตถิยะพราหมณ์ถวายฟ่อนหญ้าคาแด่พระมหาโคดม
|
-
เป็นภาพแสดงพุทธประวัติตอนโสติถิยพราหมณ์
ถวายฟ่อนหญ้าคาแก่พระมหาบุรุษ
ก่อนที่พระองค์จะทรงบำเพ็ญเพียรทางจิตเพื่อตรัสรู้ เมื่อทรงรับหญ้าคา แล้วก็ทรงเอามาปูลาดเป็นสันถัตแล้ว
ประทับนั่งบนสันถัตนั้น
บำเพ็ญเพียรทางจิต จนได้ตรัสรู้อนุตรสัมมาสัมโพธิญาณ เป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
-
ตามธรรมเนียมของพุทธศาสนิกชนชาวไทย
เมื่อเวลาประกอบพิธีในพุทธศาสนา มักใช้ฟ่อนหญ้าคาสำหรับ ประพรมน้ำพระพุทธมนต์
เพราะถือว่าหญ้าคา ใช้ทำเป็นพุทธบัลลังก์ ตามพุทธประวัติดังกล่าว
|
พระมหาบุรุษผจญพญาวัสวดีมาราธิราช
|
-
เมื่อพญาวัสวดีมารเห็นพระมหาบุรุษ
กำลังจะพ้นอำนาจของตน จึงได้ระดมพลพร้อมด้วยศัตราวุธนานาชนิด
มาประชิดอาสนะบัลลังก์ หมายมั่นที่จะจู่โจมทำลาย พระมหาบุรุษไม่ทรงหวั่นไหว
ได้ทรงน้อมพระทัยถึงพระบารมีธรรม สิบทัศ ที่ได้ทรงบำเพ็ญมาแล้วในอดีต
ทรงอธิษฐานพระปฐพีมณฑลเป็นสักขีพยาน เสี่ยงพระบารมีธรรมให้เป็นที่ประจักษ์
ด้วยเดชะอำนาจพระบารมีธรรมนั้น พระนางธรณี
เทพยดาผู้รักษาแผ่นดิน จึงแปลงเพศเป็นหญิงมาปรากฎกาย อยู่ภายใต้อาสนะบัลลังก์อธิษฐาน
แล้วบีบพระเกศาเป็นอุทกธาราใหลหลั่งออกมา ท่วมท้นพญามารและเสนามาร
ให้ปราศนาการพ่ายแพ้ไปหมดสิ้น ตั้งแต่พระอาทิตย์ยังไม่อัสดง
-
หลังจากนั้น
พระมหาบุรุษก็ทรงตั้งมโนปณิธาน บำเพ็ญเพียรทางจิตต่อไป จนได้บรรลุ
พระอนุตรสัมมาสัมโพธิญาณ
ตรัสรู้เป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
ณ ราตรีเพ็ญวิสาขมาสนั้น
-
ภาพนี้เขียนขึ้นด้วยมโนภาพ
แสดงให้เห็นว่า พระมหาบุรุษต้องเผชิญกับอุปสรรค แห่งการบรรลุมรรคผลนานาประการ
อันเกิดด้วยอำนาจกิเลสในส่วนที่เป็น โลภะ โทษะ โมหะ ตัณหา
ราคา อรตี อันเป็นมารน้อยใหญ่ เป็นเครื่องบั่นทอนมิให้บุคคลบรรลุผลอันเป็นความดีงามที่ปรารถนา
การที่พระมหาบุรุษทรงมีชัยชนะต่อพญามาร ผู้ล้างผลาญความดีงามภายในเหล่านี้ได้
ก็ด้วยอำนาจพระบารมีธรรมที่ได้ทรงอบรมมาแล้วอย่างเต็มเปี่ยม มีทาน
ศีล เมตตา ขันติ เป็นต้น ด้วยเหตุนั้นพระองค์จึงสามารถบรรลุพระอมตธรรมได้ในที่สุด
|
พระพุทธเจ้าทรงเพ่งศรีมหาโพธิ
|
-
ในสัปดาห์ที่สอง
จากวันที่ตรัสรู้แล้ว พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้เสด็จพระราชดำเนินไปทาง
ทิศตะวันออกเฉียงเหนือของต้นพระศรีมหาโพธิ ในระยะทางพอสมควรแก่การทอดพระเนตรแล้ว
พระองค์ก็ได้ประทับยืน พิจารณาต้นพระศรีมหาโพธิ อันเป็นที่ตรัสรู้นั้น
โดยมิได้กระพริบพระเนตร ตลอดหนึ่งสัปดาห์ เสมือนหนึ่งจะทรงทบทวนความทรงจำ
ต่อเหตุการณ์ที่ผ่านมาแล้วโดยลำดับ และได้หยุดการเวียนว่ายในสังสารวัฏลงเพียงนี้
ต้นไม้ต้นนี้ เป็นที่ให้กำเนิดพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์หนึ่ง
ผู้ที่จะนำสัจธรรมอันบริสุทธิ์ สำหรับชำระกิเลสนานาประการของสัตว์โลก
เป็นการยืนยันการตรัสรู้ โดยความพอพระทัย
-
สถานที่นี้จึงเรียกว่า
อนิมิสเจดีย์
|
พระพุทธเจ้าประทับในรัตนฆรเจดีย์
|
-
หลังจากตรัสรู้แล้วสัปดาห์แรก
พระองค์ได้ประทับอยู่ภายใต้ต้นโพธิที่ตรัสรู้นั้น สัปดาห์ที่สอง เสด็จประทับทางด้านทิศอิสานของต้นโพธิ
เพ่งพระเนตรต้นโพธิโดยไม่กระพริบพระเนตรตลอดเจ็ดวัน เพื่อคารวะพระธรรม
สถานที่นั้นเรียกว่า อนิมิสเจดีย์ แล้วเสด็จจากที่นั้นมาหยุดระหว่างกลางแห่ง
พระศรีมหาโพธิ และอนิมิสเจดีย์ ทรงนิรมิตที่จงกรมขึ้น แล้วเดินจงกรม
ณ ที่นั้นสิ้นเจ็ดวัน สถานที่นั้นเรียก รัตนจงกรมเจดีย์
-
ในสัปดาห์ที่สี่
เทวดาได้นิรมิตเรือนแก้วขึ้นทางทิศพายัพแห่งต้นโพธิ เสด็จนั่งขัดสมาธิบัลลังก์
ทรงพิจารณาพระอภิธรรมสิ้นเจ็ดวัน
สถานที่นี้เรียกว่ารัตนฆรเจดีย์ |