| ย้อนกลับ
| สมัยทวาราวดี
| สมัยศรีวิชัย
| สมัยลพบุรี
| สมัยเชียงแสน |
| สมัยสุโขทัย
| สมัยอู่ทอง
| สมัยอยุธยา
| สมัยรัตนโกสินทร์ |
พุทธศาสนาและศาสนาฮินดูหรือศาสนาพราหมณ์ ก่อให้เกิดศิลปของโบราณวัตถุและโบราณสถาน
ในประเทศไทยเป็นอย่างมาก ทั้งที่มีมาก่อนที่ชนชาติไทยจะเข้ามาครอบครองดินแดนส่วนนี้ และหลังจากที่
ชนชาติไทยได้ครอบครองแล้ว จากหลักฐานทางโบราณคดีพอจะแบ่งออกได้เป็น ๔ ยุคด้วยกัน คือ
ยุคแรก เป็นลัทธินิกายหินยานอย่างเถรวาท
ยุคที่สอง เป็นลัทธินิกายมหายาน
ยุคที่สาม เป็นลัทธินิกายหินยานแบบพุกาม
ยุคที่สี่ เป็นลัทธินิกายลังกาวงศ์
พระพุทธรูปที่สร้างขึ้นในประเทศไทย จะผันแปรไปตามยุค และลัทธินิกายดังกล่าวข้างต้น พอจะแบ่ง
ศิลปะออกเป็นสมัยต่างๆ ได้ดังนี้
สมัยทวาราวดี
อยู่ในห้วงเวลาพุทธศตวรรษที่ ๑๑-๑๖ เป็นอาณาจักรที่มีศูนย์กลางอยู่บริเวณภาคกลางของไทยในปัจจุบัน
พระพุทธรูปในสมัยนี้ทำด้วย ศิลา ดินเผา และโลหะ มีลักษณะพระเกตุมาลาเป็นต่อมสั้น
ขมวดพระเกตุโตและป้าน ไม่มีไรพระศก พระนลาฏไม่เรียบเสมอกัน หลังพระเนตรอูมเกือบเสมอพระนลาฏ
พระขนงยาว พระพักตร์กว้างและแบน พระโอษฐ์แบะ พระหนุป้าน จีวรบางแนบติดกับพระองค์
ชายผ้าสังฆาฏิมีทั้งแบบสิ้นเหนือพระอุระ และชนิดยาวถึงพระนาภีพระหัตถ์ และพระบาทมีขนาดใหญ่
ฐานบัวเป็นกลีบขนาดใหญ่ และมีกลีบเล็กแซม มีทั้งแบบบัวคว่ำและบัวหงาย และบัวหงายอย่างเดียว
พระพุทธรูปในสมัยนี้มี ๒ ยุค มีพุทธลักษณะแตกต่างกันเล็กน้อย กล่าวคือ ในยุคแรกพระพักตร์จะยาวและกลมกว่ายุคหลัง
ซึ่งพระพักตร์มีลักษณะแบนกว่าและกว้างกว่า พระเนตรโปนโตพระนลาฏแคบ และพระนาสิกแบน
| ย้อนกลับ
| สมัยทวาราวดี
| สมัยศรีวิชัย
| สมัยลพบุรี
| สมัยเชียงแสน |
| สมัยสุโขทัย
| สมัยอู่ทอง
| สมัยอยุธยา
| สมัยรัตนโกสินทร์ |