| ย้อนกลับ | หน้าต่อไป | |
กล่าวถึงพระอภัยกับพระศรีสุวรรณ ทำศพสองกษัตริย์มีงานมหรสพหลายประการ ทั้งโขน ละคร มอญรำ ระบำบรรพ์ เล่นประชันกัน พอตกกลางคืนมีดอกไม้ไฟสว่าง เล่นหนังฆ้องกลองดังสนั่นทุกคืนวัน
พวกไพร่ฟ้ามาประชุมแก่หนุ่มสาว | เจ๊กมอญลาวแขกไทยทั้งไอศวรรย์ |
เป็นหมู่หมู่ดูงานการประชัน | เกษมสันต์สรวลเสกันเฮฮา |
ค พอผู้ถือหนังสือเรื่องเมืองผลึก | บอกข่าวศึกรมจักรซึ่งหักหาญ |
มาพร้อมกันวันฤกษ์เมื่อเลิกงาน | พระอ่านสารทราบว่าเสียธานี |
พระอภัยไปกับสินสมุท | ไม่ยั้งหยุดแยกทางต่างทิศา |
ตามขอบคุ้งมุ่งหมายสายคงคา | ทุกคืนค่ำร่ำมาไม่ราใบ ฯ |
ค ฝ่ายพระน้องล่องลมถึงรมจักร | เสียทรงศักด์เศร้าหมองไม่ผ่องใส |
พระอัคเรศเกษราโศกาลัย | ถึงท้าวไทปิตุราชมาตุรงค์ |
เจ้ามะหุดกำกับกองทัพซ้าย | เจ้ายุขันนั้นฝ่ายข้างปีกขวา |
มังกรนำกำกับทัพโยธา | พระกฤษณากองหนุนเป็นขุนพล |
โอ้เป็นเคราะห์เพราะประมาทจึงพลาดพลั้ง | ด้วยนึกหวังว่าเป็นเนื้อในเชื้อไข |
จะคิดอ่านผลาญมันให้บรรลัย | แล้วแข็งใจกลืนกล้ำกลั้นน้ำตา ฯ |
ค พระนบนอบตอบถ้อยให้ค่อยชื่น | คงได้คืนเวียงวังไม่กังขา |
ลูกจะตามข้ามฝั่งไปลังกา | พิฆาตฆ่าโคตรมันให้บรรลัย |
พวกข้าเฝ้าท้าวพระยาสารภาพ | ต่างก้มกราบเกรงกลัวตัวเป็นหนู |
ซึ่งเสียวังจังหวัดแก่ศัตรู | ไม่ทันรู้สู้รบคิดหลบกาย |
ค พระตรัสตอบขอบใจทั้งใหญ่น้อย | เคยใช้สอยซื่อตรงก็สงสาร |
จะสั่งเวรเกณฑ์กันให้ทันการ | เลือกทหารชาญณรงค์เคยยงยุทธ์ |
แล้วเชิญขึ้นวังใหม่อยู่ในตึก | ให้พวกผลึกรมจักรพักทหาร |
แต่งม้าใช้ไปไม่ขาดสืบราชการ | จะคิดอ่านผลาญศึกต่างตรึกตรา |
คิดจะใคร่ให้ผู้ถือหนังสือสาร | ไปว่ากล่าวตามโบราณอย่าหาญหัก |
แม้ดื้อดึงจึงค่อยปรามตามฮึกฮัก | หรือน้องรักเจ้าจะเห็นเป็นอย่างไร |
พระทรงฟังสั่งให้ทำเป็นคำสาร | แล้วเทียบทานถูกฉบับพับอักษร |
ให้เสนีที่ชำนาญการนคร | ไปผันผ่อนพูดจาดูท่าทาง |
จะสั่งสอนผ่อนปรนให้พ้นผิด | ตามจริตราชวงศ์เผ่าพงศา |
จะฆ่าฟันกันเองเกรงนินทา | เหมือนมือขวาถือมีดกรีดมือซ้าย |
เมื่อมือซ้ายฟันฟาดบาดมือขวา | ตัวต้องหายาแก้แผลจึงหาย |
ใครผลาญวงศ์พงศ์พันธุ์ให้อันตราย | เหมือนมือซ้ายขาดด้วนไม่ควรคิด |
วิสัยญาติพลาดพลั้งเหมือนอย่างแผล | มียาแก้แผลก็จะกลับสนิท |
คนอื่นนั้นครั้นประมาทจึงขาดมิตร | ต่อไม่ติดแตกห่างอย่างศิลา |
ฝ่ายสามองค์ทูลว่าข้าทั้งสาม | สุดแต่ตามพระปัญญาอัชฌาสัย |
พระมังคลาว่าพระเจ้าสอนเราไว้ | ควรเลื่อมใสคัมภีร์ยีโฮวะ |
แม้ผิดชาติศาสนาข้างฝรั่ง | อย่าเชื่อฟังคบค้าวิสาสะ |
พวกพงศ์เผ่าเขาไม่ถือหนังสือพระ | มิควรจะปะพบไปคบค้า |
จะพลอยให้ไปตกนรกดอก | เขาคนนอกโอวาทพระศาสนา |
ถือพระเจ้าเราเกิดน้องสองนัดดา | เมื่อยกมาแล้วก็คงทำสงคราม |
ค พระบารมียีโฮวะคงจะช่วย | ไม่เข้าด้วยสัตว์บาปที่หยาบคาย |
เราคิดทำคำตอบระบอบความ | ให้งดงามตามอารมณ์ชาวชมพู |
ไปแจ้งเรื่องเมืองผลึกรมจักร | ไม่นับพักตร์แผ่เผื่อว่าเชื้อสาย |
ยังซ้ำไล่ขับได้อับอาย | นึกเสียดายด้วยจะขาดญาติประยูร |
ข้าพเจ้าเหล่านี้ทั้งพี่น้อง | สิ้นพวกพ้องพงศาเหมือนอาสัญ |
จะพลอยพาห้าพระองค์ผู้พงศ์พันธุ์ | ต้องมอดม้วยด้วยกันเป็นมั่นคง ฯ |
แม้สืบดูรู้ว่พวกฝรั่ง | มันกักขังห้าองค์ไว้ตรงไหน |
จะผันแปรแก้กลให้พ้นภัย | แล้วจะได้ไล่ล้างให้วางวาย |
ค พอทราบข่าวราวเรื่องเคืองโอรส | ทรยศหยาบคายร้ายหนักหนา |
แล้วเอื้อนอรรถตรัสกับพระอนุชา | นางวัณฬาหล่อนก็ดีอารีรัก |
รำภาเล่าเขาก็ซื่อด้วยถือสัตย์ | ประดิพัทธ์เพิ่มพูนประยูรศักดิ์ |
แต่ลูกเต้าเหล่ากอทรลักษณ์ | ไม่รู้จักพ่อแม่ถือแต่ดี |
แล้วว่าเจ้าเข้าไปได้ในด่าน | ถ้าเห็นการเกินกำลังเจ้าทั้งสอง |
จงรอรั้งตั้งทัพอยู่รับรอง | พอให้กองทัพใหญ่ยกไปตี |
จงวางล่อพอพะวงพวกดงตาล | แบ่งทหารไปอีกคอยหลีกหนี |
เราตีค่ายรายทางไปข้างนี้ | เห็นท่วงทีแทบจะได้ด้วยง่ายดาย ฯ |
พ่อไปถึงจึงช่วยปลอบให้ชอบจิต | ที่ชอบผิดผันแปรช่วยแก้ไข |
แทนบิดาอาพี่ที่อาลัย | ให้ชอบใจนางวัณฬาสามนารี ฯ |
ค ฝ่ายพระศรีสุวรรณรับเป็นทัพหน้า | ให้ลูกยาคุมพหลพลขันธ์ |
กับบุตรพราหมณ์สามนายชายหนุ่มนั้น | กำกับกันกองหน้ายกคลาไคล |
ค ฝ่ายฝรั่งมังคลานราราช | ดำริคาดข้าศึกเห็นฮึกหาญ |
จะวกหลังตั้งล้อมป้อมปราการ | ตีดงตาลด่านเขาเจ้าประจัญ |
เรากับไพร่ห้าสิบจะรีบร้อน | ถืออักษรขึ้นไปยังวังสิงหล |
เจ้ารบล่อพอฝรั่งเป็นกังวล | เผื่ออับจนจึงล่าไปเมืองใหม่เรา ฯ |
พวกโยธาวาโหมรุกโรมไล่ | ฟันนายไพร่ล้มตายพลัดพรายหนี |
จนมืดมนคนเป็นเห็นไม่มี | กลับมาที่หน้าป้อมพรักพร้อมกัน ฯ |
ค ฝ่ายทัพพระอภัยที่ไปหน้า | พระกฤษณานายทัพขับทหาร |
หนทางบกหกวันเดินกันดาร | ถึงดงตาลเห็นแต่ค่ายตั้งรายเรียง |
ค ฝรั่งล่อพอให้ไล่เข้าในค่าย | มันวงสายสิญจน์ผูกถูกอาถรรพ์ |
ไม่เห็นหนมนมืดเป็นหมอกควัน | ต่างตัวสั่นซบหมอบหอบหายใจ |
ด้วยผู้รู้วิเศษทรงเวทขลัง | ให้จังงังบังคนด้วยมนต์ไสย |
แม้ฆ่าตีที่ไม่ตายเคลื่อนคลายใจ | จึงขังไว้ในค่ายจนวายปราณ |
ค พระมังคลาว่าศึกยังฮึกหาญ | อย่ารุกรานรอทัพที่ขับขัน |
ให้ผู้รู้ครูเอกลงเลขยันต์ | ฝังอาถรรพ์ทุกค่ายลงทรายมนต์ |
ปลูกประทับพลับพลาตรงหน้าเขา | แต่งแมวเซาเฝ้าแฝงทุกแห่งหน |
ที่หุบห้องท้องธารเที่ยววางคน | คิดผ่อนปรนกลการคอยราญรอน ฯ |
ค ฝ่ายทัพพระอภัยมาในป่า | ตามทัพหน้านำเดินเนินสิงขร |
ทั้งเสาวคนธ์มณฑาสุดสาคร | ยกมาก่อนถึงด่านดงตาลราย |
แต่ตำราว่าให้เชือดเอาเลือดสด | มาราดรดรอดทัพจะกลับหาย |
แม้ละไว้ไม่รอดจะวอดวาย | พระเป็นชายช่วยทำตามตำรา |
แล้วทูลความตามสมทบรบฝรั่ง | นายทัพทั้งสองกองต้องอาถรรพ์ |
หากนงเยาว์เสาวคนธ์รู้มนต์มัน | ช่วยแก้กันจึงได้ฟื้นกลับคืนมา ฯ |
หยุดประทับยับยั้งคอยฟังข่าว | พวกนางท้าวเจ้าลังกาจะว่าไฉน |
ทุกหมู่หมวดตรวจพลสกลไกร | ให้นั่งยามตามไฟพร้อมไพร่พล ฯ |
ตอนที่ ๖๐ พระอภัยมณีรบกับมังคลา
พระหัสไชยเดินทางไปถึงกรุงลังกา เข้าไปในวังได้พบกษัตริย์ทุกองค์ต่างก็ดีพระทัยเมื่อพบกันกับพระบุตรี สร้อยสุวรรณ จันทร์สุดาก็มีความอาลัยสงสารกัน และกันยิ่งนัก จนซบสลบลงทั้งสามองค์ เมื่อหมอแก้ไขให้ฟื้นขึ้นมาแล้ว ต่างก็เล่าความตามเรื่อง ที่เคืองขัด จากนั้นก็ให้พระหัสไชยอ่านเรื่องในสารมีความว่า เมื่อพระอภัยได้ครองเมืองลังกา มีองค์วัณฬาร่วมสุวรรณบรรจถรณ์ จนเกิดราชโอรส แต่กลับผ่าเผ่าเหล่ากอ เป็นทรชนเหมือนลูกยางห่างต้น เที่ยวปล้นเมืองให้เป็นที่เดือดร้อน จับสามเมืองมาขังไว้ยังเมืองลังกา
หากพระน้องครองสัตย์บรรทัดเที่ยง | ไม่รักเลี้ยงลูกจระเข้เสน่หา |
จึงเชิญองค์พงศ์กษัตริย์ขัตติยา | ไปไว้วังลังกาพยาบาล |
ถึงโทษบุตรทุจริตทำผิดเหลือ | เป็นหน่อเนื้อนวลหงส์ก็สงสาร |
ช่วยว่ากล่าวน้าวโน้มประโลมลาน | ให้ลูกหลานคิดคงเป็นพงศ์พันธุ์ |
ฝ่ายพวกพี่มิใช่แม่เป็นแต่พ่อ | จึงรั้งรอการศึกมาปรึกษา |
แม้คิดเห็นเป็นธรรม์เชิญวัณฬา | ยกโยธามากระหนาบช่วยปราบปราม |
ค นางฟังจบนบนอบเห็นชอบด้วย | จะไปช่วยเข่นฆ่าให้อาสัญ |
แล้วจะเถือเนื้อพะแนงเที่ยวแบ่งปัน | ให้พงศ์พันธุ์พ่อแม่กินแก้แค้น |
แล้วทูลสั่งสุมาลีศรีสวัสดิ์ | ทั้งกษัตริย์หัสไชยอยู่ไอศวรรย์ |
แต่รำภายุพาลาลีวัน | ไปด้วยกันจะได้คิดเรื่องกิจการ |
พระหัสไชยให้สำหรับบังคับขาด | ตามประกาศกฎหมายอยู่ภายหลัง |
ใครขัดขวางล้างชีวาเสียอย่าฟัง | พลางตรัสสั่งหัสเกนเวรศาลา |
ร้องเรียกคนบนเชิงเทินเนินหอรบ | มานอบนบอยู่ตรงหน้านางปราศรัย |
จงเปิดรับทัพเสด็จจะด่วนไป | ช่วงชิงชัยให้แผ่นดินสิ้นสงคราม ฯ |
กราบทูลความตามที่ชนนีนาถ | มาถอดราชโอรสจากยศถา |
ขุนนางเก่าเขาไม่ขัดพระอัธยา | แต่พวกข้าคนใหม่มิให้รับ |
ค ฝ่ายฝรั่งมังคลานุชาหลาน | เห็นเกิดการเกินคาดประมาทหมาย |
ยิ่งแสนแค้นแสนสลดเหลืออดอาย | มากลับกลายกลางศึกเหลือตรึกตรอง |
แต่พ่อมาราวีแล้วมิหนำ | แม่ยังทำซ้ำเข็ญให้เป็นสอง |
เหลือดีแท้แม่พ่อเราหนอน้อง | จะรับรองรบราญประการใด ฯ |
ค วลายุดา วายุพัฒน์คิดขัดขวาง | แค้นสี่นางอย่างว่าเลือดตาไหล |
สะอื้นอั้นตันตึงตะลึงตะไล | พอม้าใช้ชาวด่านดงตาลมา |
พระมาตุรงค์ลงมาเป็นข้าศึก | สมทบกับทัพผลึกเห็นฮึกหาญ |
ท่านโปรดด้วยช่วยคิดกิจการ | เอาถิ่นฐานที่ตั้งเมืองลังกา |
ค ส่วนผู้รู้วิเศษเห็นเหตุใหญ่ | ผิดวิสัยในมนุษย์สุดอาสา |
จะสู้พ่อต่อต้านผลาญมารดา | จะนินทาทั่วจังหวัดปัถพี |
จะรบพุ่งมุ่งหมายทำลายล้าง | ผิดเยี่ยงอย่างควรจำบาปกรรมหนา |
ทุกแว่นแคว้นแดนดินจะนินทา | แม้คิดฆ่าแม่พ่อเหมือนทรยศ |
เหมือนพวกมึงพึ่งพาเข้ามาอยู่ | คิดว่าผู้วิเศษเป็นเปรตผี |
ให้แพ้เขาเอาสิเหวยเฮ้ยเสนี | จับอ้ายสี่คนจำตรากตรำไว้ |
ให้ม้าใช้ไปหาเจ้าวาโหม | พูดเล้าโลมเล่าแจ้งแถลงไข |
บอกเรื่องความตามกษัตริย์หัสไชย | รับสั่งให้ไปเฝ้าพระเสาวนีย์ ฯ |
จึงออกโอษฐโปรดประทานพานพระศรี | ให้นั่งที่โอรสสมยศศักดิ์ |
นางแย้มยิ้มพริ้มพรายภิปรายทัก | เจ้ารู้จักกันไว้ได้ไปมา |
ค ฝ่ายกษัตริย์หัสไชยฤทัยชื่น | ทุกค่ำคืนเคียงนางไม่ห่างเหิน |
สุมาลีมิได้ห้ามปล่อยตามเกิน | ร่ำสรรเสริญเพลินตรัสกับหัสไชย |
พวกฝรั่งมังคลารักษาด่าน | ออกต่อต้านทานรับที่ขับขัน |
สุลาลีตีได้เขาเจ้าประจัญ | เข้าตั้งมั่นกั้นหลังข้างลังกา |
ขอพระองค์จงเข้าตีตัดศีรษะ | เป็นของพระปิตุราชนาถนาถา |
อันพวกพ้องของหม่อมฉันเป็นมารดา | จะแล่ผ่าอกล้วงเอาดวงใจ |
จะได้ส่งองค์พระมเหสี | คืนบุรีร่วมห้องให้ผ่องใส |
ข้าทั้งสี่นี้จะช่วยกันอวยชัย | สิ้นห่วงใยอยู่ประสาเป็นนารี ฯ |
พอจบคำรำพันเหลือกลั้นสรวล | ทั้งสำนวนรู้เล่ห์มเหสี |
พระอนุชาว่าถึงหึงก็ดี | ไม่เหมือนพี่นางผลึกเหลือครึกโครม |
ได้ฤกษ์ดีตีฆ้องมาตกลองศึก | ทหารฮึกโห่ลั่นสนั่นเสียง |
ต่างขับไพร่ไล่ล้อมเข้าพร้อมเพรียง | ฝรั่งเรียงรายทัพออกรับรบ |
ค ฝ่ายพระอนุชานัดดาพาทหาร | เข้าตีด่านเจ้าประจัญเสียงหวั่นไหว |
พวกไส้ศึกครึกครื้นจุดปืนไฟ | เปิดด่านให้ทัพล้อมเข้าพร้อมเพรียง |
พอเดือนดับลับฟ้าในป่ามืด | เดินเป็นยืดชักเพื่อนฟั่นเฟือนหลง |
เห็นรางรางนางวัณฬาขับม้าทรง | วกเลี้ยวลงไปทางบ้านสะพานยนต์ ฯ |
ค วาโหมทูลมูลความตามรับสั่ง | ให้ระวังลังกามหาสวรรค์ |
ทราบว่าศึกฮึกโหมเข้าโรมรัน | จึงพากันรีบมาช่วยราวี |
พระปิ่นเกล้าเจ้าลังกาบัญชาใช้ | ให้คุมไพร่มาบำรุงชาวกรุงศรี |
เร็วเร็วเถิดเปิดประตูพระบุรี | อย่าช้าทีโทษมึงจะถึงตาย ฯ |
ฝ่ายนายกองร้องว่าพระมาตุรงค์ | มิให้องค์โอรสถือกฎหมาย |
พระหัสไชยได้ตราว่าไพร่นาย | อย่าใกล้กรายกลับไปเสียให้พ้น |
เหวยฝรั่งพรั่งพร้อมจงยอมเข้า | ด้วยปิ่นเกล้าเจ้าลังกานราสรรค์ |
ช่วยกันมัดหัสไชยพร้อมใจกัน | จะรางวัลเงินทองให้ต้องใจ ฯ |
| ย้อนกลับ | หน้าต่อไป | บน | |