| ย้อนกลับ | หน้าต่อไป | |
๑๖
สิงหาคม ๒๔๘๕
ยกฐานะเมืองปราณบุรีเป็น จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ตามนามที่พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้า
ฯ พระราชทานไว้
๒๔
สิงหาคม ๒๔๘๕
ได้มีการลงนามในข้อตกลงระหว่างผู้บัญชาการทหารเรือไทย กับทูตทหารเรือญี่ปุ่นประจำกรุงเทพ
ฯ เกี่ยวกับการปฏิบัติการของกองทัพเรือไทย กับ จักรพรรดินาวีญี่ปุ่น ในบริเวณอ่าวไทยและน่านน้ำภาคใต้ของอินโดจีนฝรั่งเศส
สงครามมหาเอเชียบูรพา
๑๔
กันยายน ๒๔๘๕
เป็นวันที่ทางราชการเริ่มกำหนดให้ข้าราชการหยุดยืนเคารพธงชาติ
ในเวลา ๐๘.๐๐ น.
๑๐
ธันวาคม ๒๔๘๕
ธนาคารแห่งประเทศไทยเริ่มดำเนินกิจการ โดยมี ม.จ.วิวัฒนไชย ไชยยันต์ เป็นผู้ว่าการองค์แรก
โดยมีทุนเริ่มแรก ๒๐ ล้านบาท จากรัฐบาล
๒๘
ธันวาคม ๒๔๘๕
เปิดการศึกษาโรงเรียนนายร้อยทหารหญิง
๒๒
มกราคม ๒๔๘๖
ประกาศให้ใช้คำว่า
สวัสดี
เมื่อแรกพบ
๙
เมษายน ๒๔๘๖
ยกฐานะกรมทหารอากาศขึ้นเป็นกองทัพอากาศ ขึ้นกับกระทรวงกลาโหม
๑๐
มิถุนายน ๒๔๘๖
ตั้งมณฑลทหารเรือที่ ๒ ที่สัตหีบ แล้วยุบลงเหลือเป็นสถานีทหารเรือสัตหีบ เมื่อ
๑๔ กรกฎาคม ๒๔๙๔
๔
กรกฎาคม ๒๔๘๖
พลเอก โตโจ (ญี่ปุ่น) ได้มาพบ จอมพล ป. พิบูลสงคราม ที่กรุงเทพ ฯ มอบดินแดนเดิมของไทยที่กองทหารญี่ปุ่นตีได้
ลงนามในสัญญา เมื่อ ๒๐ สิงหาคม ๒๔๘๖ คือ รัฐเชียงตุง รัฐเมืองพาน และรัฐมาลัย
(กลันตัน ตรังกานู ไทรบุรี ปลิส) ดินแดนเหล่านี้ต้องคืนไปเมื่อสงครามสงบ เพราะไทยแพ้สงครามญี่ปุ่นไปด้วย
๙
กรกฎาคม ๒๔๘๖
กระทรวงมหาดไทยออกคำสั่งแบ่งเขตอำเภอในรัฐไทยใหญ่
(เชียงตุง) เป็น ๑๒ อำเภอ คือ อำเภอเชียงตุง เมืองเลน เมืองโก เมืองสาด เมืองพยาค
เมืองยอง เมืองปิง เมืองมะ เมืองยาง เมืองหาง เมืองขาก เมืองยู้ เป็นดินแดนที่ได้จากการเข้าร่วมสงครามกับญี่ปุ่น
แต่แล้วก็ต้องคืนให้อังกฤษไป
๑๖
สิงหาคม ๒๔๘๖
ได้มีการลงนามในสนธิสัญญาระหว่างประเทศไทยกับประเทศญี่ปุ่น ว่าด้วยอาณาเขตของประเทศไทยในรัฐมาลัยและภูมิภาคฉาน
โดยจอมพล ป. พิบูลสงคราม นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเป็นผู้ลงนามฝ่ายไทย
และเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทยเป็นผู้ลงนามฝ่ายญี่ปุ่น มีสาระสำคัญคือ
ญี่ปุ่นยอมรับการรวมรัฐกลันตัน ตรังกานู เคดาห์ (ไทรบุรี) ปะลิส และบรรดาเกาะที่ขึ้นแก่รัฐนั้น
ๆ รัฐเชียงตุงและเมืองพาน ซึ่งตั้งอยู่ในภูมิภาคฉาน เข้าเป็นอาณาเขตของประเทศไทย
๒๐
สิงหาคม ๒๔๘๖
ไทยกับญี่ปุ่น ได้ลงนามในสนธิสัญญา มอบดินแดนของไทยที่ญี่ปุ่นตีได้ จากอังกฤษ
คือ รัฐเชียงตุง รัฐเมืองพาน และรัฐมาลัย (กลันตัน ตรังกานู ไทรบุรี และปาลิส)
ให้แก่ไทย ณ ทำเนียบสามัคคีชัย
๕
มิถุนายน ๒๔๘๗
มีพระราชกำหนดสร้างพุทธบุรีมณฑล
โดยใช้บริเวณพระพุทธบาทสระบุรี เป็นพุทธบุรีมณฑล
๒๔
กรกฎาคม ๒๔๘๗
จอมพล ป. พิบูลสงคราม ได้ยื่นใบลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เนื่องจากพระราชกำหนดจัดระเบียบราชการบริหาร
นครบาลเพชรบูรณ์ และพระราชกำหนดจัดสร้างพุทธบุรีมณฑลที่จังหวัดสระบุรี ไม่ได้รับความเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎร
ต่อมารัฐบาลชุดใหม่โดยมี พันตรี ควง อภัยวงศ์ เป็นนายกรัฐมนตรี ได้ยกเลิกตำแหน่งผู้บัญชาการทหารสูงสุด
และแปรสภาพกองบัญชาการทหารสูงสุดเป็นกองทัพใหญ่
๕
สิงหาคม ๒๔๘๗
ประกาศให้ประชาชนทำการปลูกฝี ป้องกันไข้ทรพิษเป็นครั้งแรก
๑
ธันวาคม ๒๔๘๗
ธนาคารกรุงเทพจำกัด เปิดดำเนินการครั้งแรกโดยมีเงินทุนจดทะเบียนสี่ล้านบาท
แบ่งออกเป็นสี่หมื่นหุ้น โดยมีเจ้าพระยารามราฆพ (ม.ล.เฟื้อ พึ่งบุญ) เป็นประธานกรรมการ
๑
มกราคม ๒๔๘๘
ไทยได้ยินยอมลงนามในความตกลงสมบูรณ์แบบ
เพื่อเลิกสถานะสงครามระหว่างไทยกับสหราชอาณาจักร และอินเดีย รวมทั้งบันทึกแลกเปลี่ยนระหว่างไทยกับ
ออสเตรเลีย เพื่อเลิกสถานะสงคราม ความตกลงสมบูรณ์แบบมี ๒๔ข้อ เน้นเรื่องการถอนกำลังทหารออกจากสหรัฐไทยเดิม
และสี่รัฐมาลัย การคืนดินแดนให้อังกฤษ และไทยต้องส่งข้าวจำนวน ๑.๕ ล้านตันให้อังกฤษโดยไม่คิดมูลค่า
๑๖
มกราคม ๒๔๘๘
รัฐบาลซึ่งมีนายควง อภัยวงศ์ เป็นนายกรัฐมนตรี ได้ตราพระราชบัญญัติครูขึ้นเป็นฉบับแรก
ด้วยความมุ่งหมาย ๓ ประการ คือ
๑. เพื่อประกอบพิธีระลึกถึงพระคุณครูอาจารย์
๒. เพื่อส่งเสริมสามัคคีธรรมระหว่างครู
๓. เพื่อส่งเสริมความเข้าใจอันดีระหว่างครูกับประชาชน ทางราชการได้กำหนดให้วันนี้เป็น
วันครู
ขึ้นเป็นครั้งแรก
๑๗
กุมภาพันธ์ ๒๔๘๘
ประกาศใช้เครื่องแบบทหารเรือฉบับแรก
๑๔
สิงหาคม ๒๔๘๘
รถไฟสายท่าจีน - แม่กลอง หมดสัมปทาน โอนกิจการเป็นของการรถไฟ รถไฟสายท่าจีน
- แม่กลอง เปิดเดิน เมื่อ ๑๕ สิงหาคม ๒๔๔๘ ระยะทางเมื่อเปิดเดินครั้งแรก ๓๓
กิโลเมตร
๑๔
สิงหาคม ๒๔๘๘
ญี่ปุ่นยอมแพ้แก่ฝ่ายสัมพันธมิตร ประเทศไทยประกาศทันทีว่าไทยอยู่ในฐานะสันติภาพและให้ถือว่าคำประกาศสงครามต่อประเทศสัมพันธมิตร
เมื่อวันที่ ๒๕ มกราคม ๒๔๘๕ เป็นโมฆะ เพราะขัดต่อรัฐธรรมนูญ และไม่ต้องด้วยเจตนารมย์ของปวงชนชาวไทย
๑๕
สิงหาคม ๒๔๘๘
ญี่ปุ่นยอมประกาศยอมจำนนต่อฝ่ายสัมพันธมิตรโดยไม่มีเงื่อนไข
๑๖
สิงหาคม ๒๔๘๘
ได้มีพระบรมราชโองการประกาศสันติภาพไทยจะมีพันธมิตรทุกประเทศ หลังสงครามโลกครั้งที่
๒ ยุติ นายปรีดี พนมยงค์ ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ในพระปรมาภิไธย พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล
มีใจความว่า การประกาศสงครามต่อสหรัฐอเมริกา และบริเตนใหญ่ของอังกฤษ เมื่อ
๒๕ มกราคม ๒๔๘๕ เป็นโมฆะ ไม่ผูกพันกับประชาชนชาวไทย เนื่องจากการประกาศสงครามครั้งนั้นเป็นการกระทำอันผิด
จากเจตจำนงของประชาชนชาวไทย และขัดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญและกฎหมายบ้านเมือง
ประเทศไทยได้ตัดสินใจให้กลับคืนมา ซึ่งสัมพันธไมตรีอันเคยมีมากับสหประชาชาติ
เมื่อก่อนวันที่ ๘ ธันวาคม ๒๔๘๔ บรรดาดินแดนซึ่งญี่ปุ่นได้มอบให้ไทยครอบครอง
ประเทศไทยไม่ปรารถนาที่จะได้ดินแดนเหล่านั้น และพร้อมที่จะจัดการส่งมอบคืนให้ดังเดิม
๑๙
สิงหาคม ๒๔๘๘
รัฐบาลสหรัฐอเมริกา และรัฐบาลอังกฤษประกาศรับรองการประกาศสันติภาพของไทย หลังจากสงครามมหาเอเซียบูรพายุติลง
โดยการยอมจำนนของญี่ปุ่นต่อฝ่ายสัมพันธมิตร เมื่อ ๑๔ สิงหาคม ๒๔๘๘ และรัฐบาลไทยได้ประกาศ
เมื่อ ๑๖ สิงหาคม ๒๔๘๘
๒๑
สิงหาคม ๒๔๘๘
นายเจมส์ เบิร์นส์ รัฐมนตรีว่าการต่างประเทศสหรัฐ ฯ ได้ประกาศรับทราบคำประกาศอิสระภาพของไทย
๒
กันยายน ๒๔๘๘
ประธานาธิบดี ทรูแมน แห่งสหรัฐอเมริกา ได้ออกคำสั่งทั่วไปที่ ๑ กำหนดให้กองกำลังญี่ปุ่นตลอดทั่วประเทศไทย
ให้ยอมจำนนต่อผู้บัญชาการทหารสูงสุด ฝ่ายสัมพันธมิตรในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
แต่ผู้เดียว
๓
กันยายน ๒๔๘๘
อังกฤษส่งกองพลที่ ๗ (อินเดีย) เข้ามาปลดอาวุธกองทัพญี่ปุ่นในประเทศไทย และพลเรือเอก
ลอร์ด หลุยส์ เมาท์แบตเทน ได้ยื่นร่างข้อตกลงทางทหาร ( Preliminary Military
Agrement ) รวม ๒๑ ข้อ ต่อคณะผู้แทนทางทหารของไทย ที่เดินทางไปทำความตกลงกับฝ่ายสัมพันธมิตร
ที่เมืองแคนดี ในเกาะลังกา ข้อตกลงดังกล่าวเป็นเงื่อนไขการยอมแพ้โดยรวม ยิ่งกว่าเรื่องการทหารโดยตรง
๗
กันยายน ๒๔๘๘
ประกาศยกเลิกคำว่า "ประเทศไทย" (ไทยแลนด์) ให้ใช้คำว่า "สยาม" "ไทย" กับ "สยาม"
ต่างกัน ไทยเป็นชื่อเชื้อชาติ คำว่า "สยาม" เป็นชื่อดินแดน
๘
กันยายน ๒๔๘๘
ได้มีการลงนามในข้อตกลงทางทหารชั่วคราว ระหว่างแม่ทัพใหญ่ฝ่ายสัมพันธมิตร
ภาคเอเซียตะวันออกเฉียงใต้และหัวหน้าคณะผู้แทนทางทหารของไทย ณ เมืองแคนดี
เกาะลังกา มีสาระเกี่ยวกับ การปลดอาวุธกำลังทหารญี่ปุ่นในไทย การกักกันบุคคลสัญชาติญี่ปุ่นและเยอรมันในไทยการช่วยเหลือเชลยศึก
และผู้ถูกกักกัน
๑๔
กันยายน ๒๔๘๘
รัฐบาลไทยได้ประกาศยกเลิกกติกาพันธไมตรีกับประเทศญี่ปุ่น และต่อมาได้ประกาศยับยั้งความสัมพันธ์กับญี่ปุ่น
๒๒
กันยายน ๒๔๘๘
ไทยได้ส่งมอบรัฐเชียงตุง และรัฐเมืองพาน ให้กับกองพลอินเดียที่ ๗
๒๓
กันยายน๒๔๘๘
ข้าหลวงใหญ่ประจำสี่รัฐมาลัยของไทย
ได้ทำพิธีมอบสี่รัฐมาลัยให้กับฝ่ายทหารอังกฤษ
๕
ธันวาคม ๒๔๘๘
พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล เสด็จนิวัติพระนคร หลังสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่
๒ ระหว่างนั้นกองทัพพันธมิตรภายใต้การบังคับบัญชาของ ลอร์ด หลุยส์ เมาท์แบตเตน
ได้เข้ามาปลดอาวุธทหารญี่ปุ่นในไทย
๑
มกราคม ๒๔๘๙
ได้ตกลงทำสัญญาที่เรียกว่า ความตกลงสมบูรณ์แบบเพื่อเลิกสถานะสงคราม ระหว่างไทยกับสัมพันธมิตร
ประกอบด้วยสัญญา ๒๔ ข้อ
๓
เมษายน ๒๔๘๙
คณะผู้แทนไทยได้ลงนามในความตกลงเลิกสถานะสงคราม กับ ผู้แทนออสเตรเลีย ที่สิงคโปร์
โดยอนุโลมตามความตกลงที่ไทยทำไว้กับอังกฤษ
๓
มิถุนายน ๒๔๘๙
พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล เสด็จประพาสอย่างเป็นทางการ เป็นการสมานรอยร้าวระหว่างชาวไทยกับชาวจีน
ที่เกิดขึ้นตอนปลายสงครามมหาเอเชียบูรพา ให้กลับเป็นไปดังเดิม
๙
มิถุนายน ๒๔๘๙
พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล เสด็จสวรรคต
เวลา ๐๙.๐๐ น. ณ พระที่นั่งบรมพิมาน (ประสูติ ๒๐ กันยนยน ๒๔๖๙) พระชนมายุได้
๒๑ พรรษา ครองราชย์ได้ ๑๒ ปี
| ย้อนกลับ | หน้าต่อไป | บน | |