กลบทสุภาษิต


| ย้อนกลับ | หน้าต่อไป |


   ฉัตรสามชั้น
กล่าวคำคิด    จิตจำ    คิดคำกล่าว 
หวังว่าควร    สวนสาวหา    ควรว่าหวัง
ฟังความใน    ให้แน่ตาม    ในความฟัง  ควรให้ตรอง    ต้องตั้งใจ    ตรองให้ควร
เหตุผลเป็น    เช่นใดยล    เป็นผลเหตุ  หวนหักใจ    ให้สังเกต    ใจหักหวน
ควรใคร่ความ    งามใจ    ความใคร่ครวญ  กลเล่ห์ล้วน    รวนเร    ล้วนเล่ห์กล
หน้าหลังคิด    จิตยั้ง    คิดหลังหน้า  ผลเห็นทาง    อย่างท่าเช่น    ทางเห็นผล
ตนหลบหลีก    ปลีกซบ    หลีกหลบตน การแบ่งพอ    ให้พ้นแหนง    พอแบ่งการ

   กบเต้นต่อยหอย
ใจหวนคิด    จิตห่วงข้อง    คือขุมทุกข์ 
ไม่จืดจาง    หมางจากสุข    ในสงสาร
ปางเมื่อเห็น    เป็นมาให้    ใจรำคาญ  ชวนต่อกอบ    ชอบแต่การ    ลำบากกาย
เพื่อตัณหา    พาเตือนให้    เป็นห่วงยุค  เปลื้องไม่ลง    ปลงไม่หลุด    สุดสิ่งหมาย
ลูกที่รัก    ลักที่รู้    อยู่ทุกราย เป็นเช่นบ่วง    ปวงชนบ่าย    ไม่พ้นคอ
เหตุโลภมาก    หากลาภมุ่ง    บำรุงจิต  เหลือทางปลด    ลดทิ้งปิด    จริงเจียวหนอ
ที่สันดาน    ท่านสันโดษ    ประโยชน์พอ  มาตรไม่เตือน    เหมือนไม่ต่อ    ส่อเค้ามูล

   สร้อยสน
จะเผื่อแผ่   แผ่ผล    พิศพื้นพืช
พืชที่   ที่นั้นจืด    ป่วยปุ๋ยหนุน
หนุนเปล่า   เปล่าเปลืองเชื้อ    ที่เกื้อกูล กูลกิจ   กิจจะพูน    พอภูมิยล
ผลสิ่ง   สิ่งไรเกิน    กว่าแรงมาก มากเพียร   เพียรพาก    แต่เพียงผล
ผลได้   ได้โดยที่    ลำพังตน  ตนคิด   คิดผ่อนปรน    ปรองดองใจ
ใจจะเอื้อ   เอื้อเฟื้อ    อย่าเหลือส่วน  ส่วนแบ่ง   แบ่งที่ควร    จึงค่อยให้
ให้มาก   มากพ้น    ประมาณไป  ไปเนิ่น   เนิ่นอย่าเกิน    ในความอารี

   สิงโตเล่นหาง
อย่าจงเจียด    เบียดเบียนทรัพย์    กับผู้ยาก 
ถึงน้อยมาก    หากคิดไป    ไม่ถูกที่
ดูเหลือแค่น    แสนลำบาก    ยากจะมี  ใช่วิถี    ที่จะเดิน    เขินใจตน
เหมือนหาเลือด    เชือดตีนปู    ดูเป็นขัด  จะคิดลัด    ตัดต่อยหัก    สักพันหน
ก็เห็นเหนื่อย    เมื่อยมือเปล่า    เศร้าใจจน  ยากจะค้น    พ้นแห่งหา    น่าอายใจ
กอบการกิจ    คิดผันผ่อน    อ่อนโอบเอื้อ  ตรองจิตเจือ    เชื้อเชิงชัด    อัชฌาศัย
อารีรอบ    กอบเมตตา    ปรานีใน สิ่งชอบให้    ใจแช่มชื่น    รื่นรมย์ยล

   ละลอกแก้วกระทบฝั่ง 
การไรทำ    กิจร่ำถึง    อย่าพึงทิ้ง 
คดโดยใจ    คาดได้จริง    เป็นสิ่งผล
ท่าเกิดชอบ    ทางกอบช่วย    อำนวยตน หวังสิ้นทุกข์    ไว้สุขทน    ผ่อนปรนปรือ
แม้แจ้งทำ    ไม่จำทอด    ธุระร้าง  หากแผกคิด    เห็นผิดข้าง    ไม่ควรถือ
ใจตรองนึก    จิตตรึกหน่วง    ให้แน่มือ  เพลี่ยงที่ค้าง    พลาดทางคือ    คิดใคร่ครวญ
สิ่งไรทำ    ลอบร่ำท่อง    ให้ต้องที่  อย่าเบือนหน่าย    อย่าบ่ายหนี  ไปโดยด่วน
หวังผู้อื่น    เว้นพื้นเอง    เกรงไม่ควร  เช่นทางเลี้ยว    ชักเที่ยวล้วน    ป่วนใจงง

   มักกรคาบแก้ว
กอบกิจใด    ให้พินิจ    ดูกิจกอบ
หลงอย่าลืม    ปลื้มแต่ชอบ    ที่อย่าหลง
พงศ์พื้นเผ่า    เหล่ามิตร    พิศพื้นพงศ์  ไกลใก้ลเรียง    เคียงคง    วงศ์ใกล้ไกล
แผ่เผื่อจิต    คิดโอบเอื้อ    จักเผื่อแผ่ ไหนที่ควร    ครวญให้แน่    แท้ที่ไหน
ใจที่รัก    จักอารี    ดูที่ใจ  ควรจะผ่อน    หย่อนให้    อย่างไรจะควร
ที่ควรให้    หรือไม่ให้    ให้ควรที่ หวนหักจิต    คิดให้ดี    อย่าหักหวน
ครวญใคร่ความ    ตามทำนอง    ตรองใคร่ครวญ พรายแพร่งมี  แต่ที่ควร  จะแพร่งพราย

   กบเต้นสามตอน
ใช่การ    ชาญกอบ    ชอบกิจ
เพ่งมอง    ผองมิตร    พิศหมาย
ข้อกล่าว    ข่าวกล้ำ    คำกลาย เหมือนแทน    แม่นทาย    หมายที
ตริจง    ตรงจอง    ตรองแจ้ง เยื้องหน่าย    ย้ายแหนง    แย้งหนี
หลีกเดา    เลาด่วน    ล้วนดี  ท่าหมาง    ทางมี    ที่มา
คำร้อน    ข้อนแรง    แข่งรู้  เพื่อนหู    ผู้หาญ    พาลหา
เช่นเพื่อ    เชื่อพัก    ชักพา  น้อยอับ    นับอ้า    น่าอาย

   กินนรเก็บบัว
อย่าพึงด่วน   พึงดู    ให้รอบคอบ 
จะควรชอบ   ควรชัง    ฟังเงื่อนสาย
จงตรองหน้า   ตรองหลัง    สังเกตกาย  อย่าคิดหมาย   คิดมุ่ง    แต่ใจตน
หากจะโกรธ   จะแค้น    แสนสาหัส  พึงประหยัด ประโยชน์เพ่ง ให้พอผล
แม้ควรหยุด   ควรยั้ง    ชั่งกระมล  อย่าทุรน   ทุรายหวัง    ลำพังใจ
สิ่งที่ร้าว    ที่ราน    ประหารหัก แล้วจะชัก    จะชอบ    อย่าสงสัย
ฟังคำนวณ   คำนึง    คะเนใน  ที่สิ่งไร   สิ่งร้อน    ผ่อนให้ครวญ

   ตรีพิธพรรณ
สกุลรักษ์   ลักษณ์ส่อ    นรลักษณ์  
พิศผิวพักตร์ ภูมิพักตร จะพักตรสงวน
ทั้งถ้อยคำ    คมคำ    ทุกคำควร ฟังสำนวน    น้ำนวน    ชะนวนใน
เมื่อต่อหน้า    ดูหน้า    ก็น่าคบ  ลับหลังหลบ   เหลือหลบ  หลบไม่ไหว
ดูแสนกล    ซ่อนกล    ซ้อนกลไก  ล้วนเลศใน    แนมใน    อยู่ในที
พอเห็นท่า    พลั้งท่า    เป็นท่าได้  ก็ตรองใจ    กริ่มใจ    เอาใจหนี
ใครหลงลม    เชื่อลม    ลิ้นลมมี  ก็แต่ที่    ถึงที่    ที่อัประมาณ
 

| ย้อนกลับ | หน้าต่อไป | บน |