| ย้อนกลับ | หน้าต่อไป |

ล่องใต้ (๕)

            ขอทบทวนอีกทีว่า อุทยานแห่งชาติจังหวัดระนองนั้น มีมากถึง ๔ แห่ง คือ
                อุทยานแห่งชาติแหลมสน  อยู่ห่างจาก อ.เมือง ๕๓ กม. ห่างจาก อ.กะเปอร์ ๖ กม. แยกจากถนนเพชรเกษมไปอีก ๙ กม. สถานที่ท่องเที่ยวคือ หาดที่งดงาม ได้แก่ หาดประพาส หาดบางเบน และแหลมสน เที่ยวเกาะในทะเลอันดามัน
                อุทยานแห่งชาติลำน้ำกระบุรี  เขต อ.กระบุรี และ อ.เมือง บริเวณแม่น้ำกระบุรี ซึ่งเป็นแม่น้ำกั้นชายแดนไทย - พม่า
                อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะพยาม  ห่างจากปากน้ำระนองไปประมาณ ๓๓ กม.
                อุทยานแห่งชาติน้ำตกหงาว  อยู่ห่างจากตัวเมืองไปตามถนนเพชรเกษมประมาณ ๑๓ กม. สภาพป่าร่มรื่น มีน้ำตกจากผาสูงและเป็นแหล่งอาศัยของ ปูเจ้าฟ้า
            ระนองเป็นเมืองที่บ่อน้ำพุร้อนหลายบ่อและเปิดให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว แหล่งอาบน้ำร้อนรักษาโรคได้ด้วย หากมาจากชุมพร พอเลยน้ำตกปุญบาลมาแล้ว ก็จะเข้าสู่เขตตัวเมืองด้านนอก มีโรงแรมหลายโรงแรม โรงแรมที่เด่น และสร้างอย่างดีก่อนโรงแรมอื่น อยู่ริมถนนทางด้านซ้ายมือ และมีการต่อท่อนำน้ำแร่ร้อนมายังห้องอาบน้ำในห้องพัก
            ก่อนถึงโรงงแรมดังกล่าวประมาณ ๕๐ เมตร มีถนนเลี้ยวซ้ายเข้าไปยังถนนชลระอุ  ถนนสายนี้จะไปยังบ่อน้ำร้อน รักษะวาริน ไประนองแคนย่อน ไปวัดหาดส้มแป้น ไปวัดตโปทารามได้  วิ่งจากทางแยกไปไม่ไกลก็จะถึงบ่อน้ำร้อน ซึ่งมี ๓ บ่อคือ บ่อพ่อ บ่อแม่ และบ่อลูก เป็นที่มีน้ำร้อนอยู่กลางแจ้งไม่เหมาะที่จะอาบนอกจากจะไปตักอาบ ห้ามลงไปอาบน้ำในบ่อ มีอีกบ่อสำหรับให้นั่งเอาเท้าแช่น้ำร้อนได้ อยู่ใกล้กัน ด้านขวาของบ่อน้ำร้อนมีธารน้ำที่ไหลมาจากภูเขา ไม่แน่ใจว่าน้ำจะเย็นหรืออุ่น เป็นธารน้ำใหญ่ ลงไปเล่นน้ำกันได้น้ำคงจะไม่ร้อน สถานที่อาบน้ำต้องเสียค่าบริการมี ๓ แห่ง แห่งแรกคือ ทางเทศบาลจัดห้องเอาไว้ให้ และเลย ๆ ไปอีกนิดหนึ่ง วัดตโปทาราม ก็จัดไว้ให้ค่าบริหารครั้งละ ๑๐ บาทเท่านั้น (ไม่ทราบว่าขึ้นราคาหรือเปล่า) ห้องอาบน้ำของวัดนิยมอาบกันมาก คงบจะเป็นเพราะราคาถูก อีกแห่งบริการเพื่อรักษาโรคด้วยคือ โรงพยาบาลระนอง ถ้าจะเพิ่มอีกแห่งก็คงเป็นที่โรงแรมดังกล่าว

                ระนองแคนย่อน  จากบ่อน้ำร้อนรักษะวาริน หากวิ่งเลียบธารน้ำไหลที่ไหลขนานกับถนนบางตอนก็มาอยู่ทางซ้าย มีเกาะแก่งมาก ฤดูน้ำหลากจะสวยเพราะแก่งหิน เมื่อวิ่งไปประมาณ ๕ - ๖ กม.จะพบสระน้ำขนาดใหญ่ดุจทะเลสาบน้อย มีน้ำเต็มตลอดปี ลำน้ำเขียวขจีแสดงถึงความลึกของสระ สระนี้เคยเป็นเหมืองแร่เก่า เพราะระนองมีการทำแร่ดีบุกมาก่อน เมืองเจริญเพราะแร่ดีบุก เวลานี้แร่หมดไปทั้งเมืองแล้ว แต่ระนองก็ยังมีของดีที่เมืองอื่นต้องมาซื้อคือ "ดินขาว" ที่ใช้สำหรับปั้นแต่งเครื่องสังคโลก เซรามิคทั้งหลายล้วนต้องมาซื้อดินขาวไปจากระนองทั้งสิ้น
                จากบ่อน้ำร้อนหากวิ่งประมาณ ๙ กม. ผ่านบ่อหาดส้มแป้น วัดส้มแป้นไปแล้วก็จะถึงบึงน้ำขนาดใหญ่ หรือทะเลสาบน้อยก็ได้ ทะเลสาบน้อยจะอยู่ทางขวาของถนน น้ำลึกประมาณ ๓๐ เมตร ล้อมรอบด้วยหน้าผาสูงชัน แต่มีทางให้เดินขึ้นไปได้ ผมเคยตะกายขึ้นไปมาแล้ว ไปคราวนี้ไม่ได้ขึ้นไปเพราะร่างกายชักจะไม่อำนวย หากขึ้นไปแล้วมองลงมาที่พื้นน้ำจะสวยมาก ริมบึงน้ำมีศาลาในน้ำ ๒ หลัง ไปนั่งเล่น ไปนั่งกินอาหารได้ และที่สำคัญในบึงนี้มีปลามากมาย พอเราเดินเล่นริมบึงจะมีเด็กสะพายย่าม เอาอาหารปลามาขายถุงละ ๑๐ บาทเท่านั้น ควรแก่การอุดหนุนหว่านอาหารปลาลงไป แล้วดูปลากินอาหารเพลินทีเดียว ยิ่งเด็กยิ่งชอบ ไปให้อาหารปลาที่ศาลาก็ได้ เคยไปวันหยุดราชการริมถนนมีร้านอาหารอยู่หลายร้าน แต่วันนี้ไปวันราชการไม่มีร้านอาหารเปิดบริการเลย
                ไปเที่ยวตามโปรแกรมนี้ จะต้องกินมื้อกลางวันเสียที่ในเมือง หรือจะลองพื้นเมืองแท้ก็ต้องขนมจีน อร่อยนัก
                ขนมจีนไปกินได้ตั้งแต่เช้า บ่ายก็หมด แต่หากไปยามเช้าจะมีปาท่องโก๋เอามาราดน้ำยาได้ด้วย ไปสายปาท่องโก๋หมด ขนมจีนและข้าวแกงจะขายตั้งแต่เช้าไปจนเที่ยง หมดแล้วเกิดกันไม่ทำเพิ่มอีก
                เส้นทางไปร้านขนมจีน ผมบอกทางค่อนข้างจะอ้อมโลก มาผ่านสนามกีฬา ผ่านปั๊มเอสโซ่ พอพ้นศูนย์ ISUZU  ที่ กม.๖๑๔ ก็กลับรถแล้วเลี้ยวซ้ายเข้าถนน จากจุดเลี้ยววิ่งไปประมาณ ๔๐๐ เมตร ทางขวาจะเป็นสถานีอุตุ เลี้ยวซ้ายร้านขนมจีนอยู่ทางซ้ายมือ เป็นศาลาหลังใหญ่ โปร่ง โล่งนั่งสบาย มีหม้อแกงตั้งไว้หลายหม้อ จะสั่งข้าวราดแกง หรือสั่งกับข้าวตักใส่ชามมาเป็นกองกลาง กินรวมกันก็ดี ที่ไม่ควรลืมสั่งกือ "ไข่ต้ม"
                บนโต๊ะ ตั้งถาดใส่ผักเหนาะไว้ถาดใหญ่ มีผ้าขาวคลุมเอาไว้ให้กินฟรี ในถาดผักมีจานเล็ก ๆ แยกเอาไว้ ใส่ผักดองต่าง ๆ แตงดอง ผักกาดดอง ถั่วงอกดอง และถั่วงอกสด ผักบุ้งดอง เป็นต้น ส่วนน้ำราดขนมจีน มีน้ำยา น้ำพริก แกงเขียวหวาน และที่จะลืมไม่ได้ต้องสั่งคือ แกงไตปลา ตัวนี้จะเป็นตัวชูรส ราดน้ำอะไรเหยาะแกงไตปลาลงไปหน่อยหนึ่งจะได้ความหอม ความเผ็ดนิด ๆ ที่เป็นเผ็ดอร่อย ขนมจีนจะจัดใส่จานเอามาให้ จานแรกราดด้วยน้ำยา เหยาะแกงไตปลาลงไปนิดหนึ่ง ตักใส่ปากแล้วตามด้วยผักสดหรือผักดอง จานที่ ๒ ดับเผ็ดด้วยขนมจีนน้ำพริก จานที่ ๓ ขนมจีนราดด้วยแกงเขียวหวาน อย่าลืมตามด้วยการเหยาะแกงไตปลาและตามด้วยผักดอง
                อิ่มแล้วเดินไปที่โต๊ะขนมหวาน หยิบข้าวเหนียวปิ้ง ไส้กล้วย ไส้เผือก ใส่จานมากินเป็นของหวาน หากยังไม่อิ่มขนม สั่งสาคูเปียกมะพร้าววอ่อน ราดด้วยกะทิสด หรือยังไม่สมใจ ให้สั่งมาเป็นกองกลางคือ กล้วยไข่เชื่อมราดด้วยกะทิสด หอม หวาน ชื่นใจ
                อุทยานแห่งชาติน้ำตกหงาว  ตั้งอยู่ที่ อ.เมือง จ.ระนอง เดิมชื่ออุทยานแห่งชาติน้ำตกคลองเพรา จัดตั้งเมื่อปี พ.ศ.๒๕๒๑ สภาพป่าและภูมิประเทศ ส่วนใหญ่เป็นภูเขาสลับซับซ้อนมีไม้มีค่าเป็นจำนวนมาก  เป็นต้นน้ำลำธารเหมาะสมแก่การตั้ง เป็นอุทยานแห่งชาติ ในปี พ.ศ.๒๕๒๔ สส.ชุมพร ได้เสนอต่อนายกรัฐมนตรี ว่าที่หมู่ที่ ๑๓ ต.ทุ่งตะโก อ.ทุ่งตะโก จ.ชุมพร มีน้ำตกสวยงาม มีน้ำไหลตลอดปี สภาพป่าอุดมสมบูรณ์ น่าจะสงวนไว้เป็นอุทยานของชาติ กองอุทยานแห่งชาติ  กรมป่าไม้ (ยังไม่ได้ตั้งกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ ฯ) จึงได้ส่งเจ้าหน้าที่ออกไปสำรวจเมื่อ ปี พ.ศ.๒๕๒๖ แล้วจัดตั้งอุทยานแห่งชาติคลองเพรา สำหรับน้ำตกหงาวนั้นเดิมคือ วนอุทยานน้ำตกหงาว อยู่ในท้องที่ ต.หงาว อ.เมือง จ.ระนอง  มีแนวเขตตามแนวป่าสงวน แห่งชาติน้ำตกหงาว มีเนื้อที่ประมาณ ๒.๙๓ ตารางกิโลเมตร เป็นแหลางท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของระนอง อยู่ในความดูแลของงป่าไม้ระนอง ตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๔๙๘ จึงได้โอนไปขึ้นกับกองอุทยานแห่งชาติ แหลมสนเป็นผู้ดูแล ต่อมาเมื่อปี พ.ศ.๒๕๓๒ ได้ผนวกเอาวนอุทยานน้ำตกหงาวเข้าไปอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติคลองเพรา  แล้วเปลี่ยนชื่อมาเป็น อุทยานแห่งชาติน้ำตกหงาว ตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๕๓๗ เป็นต้นมา
                เขตรักษาพันธ์สัตว์ป่า ระนองมี ๔ แห่ง เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าคลองนาคา ที่ อ.กะเปอร์ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ทุ่งระยะ - นาสัก อ.กระบุรี เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า อุทยานเสด็จในกรม กรมหลวงชุมพร อ.กระบุรี และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าชายเลนม่วงกลวง ท้องที่ กิ่งอำเภอสุขสำราญ
                หากเดินทางมาจากชุมพร ตั้งต้นที่สี่แยกปฐมพร ผ่านดงซาลาเปาทับหลี มาผ่านหิน จปร. ผ่าน อ.กระบุรี มาผ่านน้ำตกปุญญบาล ตรงเรื่อยมาตามถนนสาย ๔ หรือเพชรเกษม จนเข้าสู่ชานเมืองระนอง จะมาผ่านโรงแรมชั้นดี อยู่ทางซ้ายมือ ก่อนถึงโรงแรมนิดเดียว จะมีถนนแยกซ้าย รัชกาลที่ ๕ พระราชทานนามไว้ว่า ถนนชลระอุ ถนนสายนี้คือ สาย ๔๐๐๕ วิ่งไปประมาณ ๒ กม. ก็จะถึง บ่อน้ำร้อนสวนสาธารณะรักษะวาริน เป็นบ่อน้ำร้อนเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ มีอยู่ ๓ บ่อ ตั้งชื่อว่า บ่อพ่อ บ่อแม่ และบ่อลูก และยังมีบ่อที่ไม่มีชื่อ ให้นั่งแช่เท้ารักษาโรคได้ น้ำในบ่อจะร้อนประมาณ ๖๕ องศาเซ็นเซียส เป็นน้ำที่ใช้ดื่ม และอาบได้ เทศบาลคงจะยังไม่คิดผลิตน้ำแร่จำหน่าย แต่โรงแรมต่อท่อนำน้ำร้อนไปให้อาบได้ถึงห้องพัก และโรงพยาบาลระนอง ก็ต่อท่อนำน้ำไปรักษาโรค โดยมีศูนย์ส่งเสริมสุขภาพน้ำแร่ ติดต่อ ๐๗๗ ๘๒๒ ๕๑๖ - ๙ ถือว่าเป็นน้ำบริสุทธิ์ เป็นแหล่งน้ำแห่งหนึ่ง ที่นำไปผ่านพิธีพุทธาภิเษกทำน้ำศักดิ์สิทธิ์ เพื่อใช้เป็นน้ำพระพุทธมนต์ ในคราวพระราชพิธีฉลองพระชนมพรรษาครบ ๕ รอบ

ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และด้านหลังของบ่อน้ำร้อนคือ ธารน้ำเย็นที่ไหลมาจากเทือกเขา ลงไปเล่นน้ำได้ สถานที่บริการอาบน้ำร้อนที่จัดเตรียมไว้มี ๒ แห่งคือ ของเทศบาล อยู่เยื้องๆ กับบ่อน้ำร้อน สงสัยสอบถามจากเทศบาล ๐๗๗ ๘๑๑ ๔๒๒ อีกแห่งอยู่ที่วัด เยื้องกับบ่อน้ำร้อน ที่วัดค่าบริการคนละ ๑๐ บาท ไม่ทราบว่าขึ้นราคาหรือเปล่า
                วิ่งต่อไปจากบ่อน้ำประมาณ ๖ กม. ถนนจะเลียบไปตามลำธารน้ำที่มาไหลผ่านบ่อน้ำร้อนบางตอนจะอยู่ทางขวา บางตอนก็จะมาอยู่ทางซ้ายของถนน จะถึงวัดหาดส้มแป้น ริมถนนจะมีบึง หรือทะเลสาบน้อย ๆ น้ำลึกมาก ลึกประมาณ ๓๐ เมตร น้ำใสจนเป็นสีเขียว เลยจากทะเลสาบน้อย ๆ นี้ไปอีกประมาณ ๓ กม.  ก็จะถึงจุดท่องเที่ยวสำคัญอีกแห่งหนึ่งคือ ระนองแคนย่อน เป็นทะเลสาบน้อยๆ อยู่ด้านขวาของถนน และอีกฝั่งหนึ่งจะเป็นโตรกเขาสูง มีทางเดินให้เดินขึ้นไปได้ ผมเคยเดินขึ้นไปชมความงาม ของทะเลสาบแห่งนี้ ในบึงน้ำจะมีศาลาลอยน้ำ ๒ หลัง มีร้านอาหารหลายร้าน แต่วันราชการไม่เห็นเปิดขาย แต่วันหยุดมีขายแน่นอน หรือจะเอาอาหารไปนั่งกินที่ศาลาลอยน้ำก็ได้ ในน้ำมีปลามาก มีเด็กเอาอาหารปลามาขายถุงละสิบบาท
                กลับออกมาจากบ่อน้ำร้อน แล้วเลี้ยวซ้ายวิ่งผ่านโรงแรมจันทร์สมไป ถ้าหิวและไม่ควรเกินบ่ายโมง มีขนมจีนเจ้าอร่อย ที่ได้เล่าไปแล้ว
                ถนนสายผ่านร้านแม่หมีนี้ วิ่งต่อไปจะไปทะลุสี่แยกตลาดเก่าในเมืองได้
                กม.๖๑๙ บ่อน้ำร้อน พรุลุมพรี แยกเข้าทางซ้าย
                กม.๖๒๐ บ่อน้ำแร่พรลั้ง เลี้ยวซ้ายเข้าไปประมาณ ๑.๕ กม. ผ่านวัดชัยมงคล บ่อน้ำร้อนแห่งนี้ พัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวแล้ว เก็บค่าบริการคนะล ๑๐ บาท เดินผ่านด่านเก็บเงินเข้าไปทางเดิน จะขนานกับธารน้ำเย็น ไปจนถึงฝายลงเล่นน้ำกันได้ และมีสะพานข้ามไปอีกฟากหนึ่ง ซึ่งมีบ่อน้ำร้อน บ่อใหญ่ไม่ให้ลงเล่นน้ำ บ่ออ่างเซรามิค ให้ลงแช่ได้ มีคำอธิบายว่า จะแช่น้ำอย่างไร ก่อนลงต้องเปลี่ยนเสื้อผ้า อาบน้ำล้างตัว มีห้องอาบให้อาบ มีห้องสุขา ลงแช่น้ำแร่ร้อนแล้ว ลงไปแช่น้ำเย็นในธาร ที่ไหลผ่านอยู่ข้าง ๆ น่าชมมาก
                กม.๖๒๔.๕๐๐ อุทยานแห่งชาติน้ำตกหงาว เลี้ยวซ้ายเข้าไปยัง อช.ซึ่งเมื่อถึงที่ทำการอุทยาน มองกลับมาจะเห็น ภูเขาหญ้า หรือเขาหัวล้าน ซึ่งอยู่ตรงกันข้าม มองเห็นสวยนัก เพราะหากเข้าไปที่เขาหัวล้าน มองเห็นไปครอบคลุมบริเวณเขาหัวล้าน เขาที่ไม่มีต้นไม้ใหญ่เลย ฤดูฝนทุ่งหญ้าจะเป็นสีเขียวสด ฤดูแล้งทุ่งหญ้าจะเป็นสีน้ำตาล หรือจะเรียกว่าสีทองก็ยังพอได้ ทางเข้าทุ่งหญ้า หรือเขาหัวโล้นนี้ มาจากในเมืองให้เลี้ยวขวาตรง กม.๖๒๓ มีถนนเข้าไปได้จนถึงจุดชมวิวทิวทัศน์ ส่วนใครแรงมากอยากขึ้นไปบนยอดเขา ก็เดินขึ้นไปได้ ในอดีตผมเคยเดินสำรวจ ตอนนี้คงจะต้องคลานขึ้นไป อยู่ที่จะชมวิว บนเขาหญ้า หรือเขาหัวโล้น วิวที่น่าชมและสวนมากคือ "น้ำตกหงาว" ที่ตกจากเทือกเขาสูงใน อช.น้ำตกหงาว เรียกว่ากลับกัน หากจะมองเขาหญ้าให้เต็มตา มองมาจาก อช.หงาว แต่หากจะมอง หรือถ่ายภาพน้ำตกหงาว มองจากเขาหญ้าจะสวยมาก
                กลับเข้าไปที่ อช.หงาว มีศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ตรงศูนย์ ฯ จะมองไม่เห็นน้ำตก แต่เห็นเขาหญ้า ต้องเดินไปอีกประมาณ ๕๐๐ เมตร จึงจะถึงจุดชมน้ำตก มีบ้านพักรับรองหลายหลัง ที่สร้างแปลกดีคือ บ้านแบบทาร์ซาน มีอยู่ ๔ หลัง สร้างบนเสาต้นเดียว ผมไม่ได้ตะกายขึ้นไปชม มองจากข้างล่างสวยดี น่าจะเหมาะสำหรับคนหนุ่มสาวพัก
                ปูเจ้าฟ้า พบที่น้ำตกหงาว ลำตัวของปู และก้ามเป็นสีขาว ขาเดินทั้ง ๔ คู่ เบ้าตาทั้ง ๒ ข้าง และบริเวณปากเป็นสีม่วงดำ อาศัยอยู่ตามซอกหินสองข้างทางธารน้ำตก
                สอบถามข้อมูล อช.น้ำตกหงาว ได้ที่ ๐๗๗ ๘๔๘ ๑๘๑
                โรตี ที่บ้านหงาว  บ้านหงาวเลี้ยวขวาเข้าประมาณ กม.๖๒๕ - ๖๒๖ หากไป อช.ยามเช้า แวะอาหารเช้าที่ร้านโรตี ไปแวะกลางวันกินขนมจีน เลี้ยวขวาเข้าตามป้ายเทศบาลตำบลบ้านหงาว ตรงไปจนถึงสามแยก เลี้ยวขวา ผ่านตลาดสด ตรงมาสัก ๕๐ เมตร ร้านอยู่หัวมุมทางซ้ายมือ ที่นั่งมักจะเต็มไปด้วยไทยอิสลาม ให้เลยไปอีก ๒ ร้าน คั่นด้วยร้านขายเฟอร์นิเจอร์ (เช้า ๆ ไม่เปิด) อยู่ตรงข้ามกับ "ซอยประชาพิทักษ์ ๕" หน้าร้านมีรถเข็นทอดไก่ นั่งกินในร้านนี้ บริกรคำสั่งแล้ว จะไปสั่งโรตียอดอร่อยจากร้านมาให้ ร้านเดียวกัน ระหว่างรอโรตี อย่าข้ามไปให้สั่ง ไก่ทอด ข้าวเหนียวนึ่ง มากินเสียก่อน ไก่ทอดนั้น อร่อยมาก เนื้อนุ่ม หนังกรอบ หากไปวันอาทิตย์มีพิเศษคือ แกงมัสหมั่นไก่ วันธรรมดามีแต่แกงกะหรี่ไก่ เอามาจิ้มโรตี อีกรายการที่ต้องสั่งคือ "ชาร้อน เป็นชาอินโดจีน" สั่งจากหาดใหญ่ ชาตราหนุมาน หอมกรุ่น น่าจิบ
                อิ่มแล้ว หากกลับบ้านเร็ว ซื้อโรตีแช่แข็งมาด้วยก็ดี กลับมาโรงแรมเอาเข้าตู้เย็นไว้ก่อน พอรุ่งขึ้นกลับบ้าน แช่มาในตู้แช่ โรตีของเขาอร่อยนัก แต่เดี๋ยวนี้ร้านโลตัส ก็มีโรตีแช่แข็งแล้ว แต่จะอร่อยเท่ากันหรือไม่ ผมชิมแล้วยังบอกไม่ถูก แต่ไปร้านโรตีนิสรา ทีไร ก็ซื้อโรตีแช่แข็งของเขากลับมาทุกที รวมทั้งของดีอีกอย่างของบ้านหงาวคือ กะปิ ดี
                ไม่ทราบผู้ว่า ฯ ระนอง ท่านใด ชมโรตีร้านนี้ว่า "โรตี บ้านหงาว อร่อยที่สุด ในระนอง" ส่วนผมชมเหมือนกัน ชมไว้ว่า "โรตี อร่อย แกงกะหรี่ไก่ ไร้ผู้เทียมทาน"

...............................................................



| ย้อนกลับ | บน | หน้าต่อไป |