| ย้อนกลับ | หน้าต่อไป |
| พัฒนาทางประวัติศาสตร์ | มรดกทางธรรมชาติ | มรดกทางวัฒนธรรม | มรดกทางพระพุทธศาสนา |

มรดกทางธรรมชาติ


           ลักษณะภูมิประเทศทั่วไปของจังหวัดชัยนาท เป็นพื้นที่ราบลุ่มแม่น้ำ มีแม่น้ำไหลผ่านถึงสามสายคือแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งเป็นแม่น้ำสายหลัก ส่วนแม่น้ำท่าจีน และแม่น้ำน้อยเป็นสาขาของแม่น้ำเจ้าพระยาที่ไหลแยกออกไปจากแม่น้ำเจ้าพระยา ในเขตจังหวัดชัยนาท ทำให้พื้นที่จังหวัดชัยนาททุกอำเภอมีแม่น้ำไหลผ่าน
            แม่น้ำเจ้าพระยา  ไหลผ่านอำเภอมโนรมย์อำเภอวัดสิงห์ อำเภอเมือง ฯ และอำเภอสรรพยา เป็นระยะทางรวม ๗๕ กิโลเมตร
            แม่น้ำท่าจีน  แยกจากแม่น้ำเจ้าพระยาทางฝั่งตะวันตกที่ตำบลปากคลองมะขามเฒ่าอำเภอวัดสิงห์ แล้วไหลไปทางทิศตะวันตก ผ่านอำเภอหันคา ช่วงนี้เรียกว่าแม่น้ำมะขามเฒ่าแล้ไหลเข้าเขตจังหวัดสุพรรณบุรี ในเขตอำเภอเดิมบางนางบวช เรียกแม่น้ำสุพรรณบุรีแม่น้ำท่าจีนไหลผ่านจังหวัดชัยนาทเป็นระยะทางประมาณ ๔๐ กิโลเมตร
            แมน้ำน้อย แยกออกไปจากแม่น้ำเจ้าพระยาทางฝั่งตะวันตกที่ปากคลองแพรก เหนือวัดพระบรมธาตุตำบลชัยนาท อำเภอเมือง ฯ แล้วไหลไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ ผ่านอำเภอสวรรคบุรีเข้าเขตจังหวัดสิงห์บุรี ในเขตอำเภอบางระจัน ส่วนที่ไหลผ่านเขตจังหวัดชัยนาทยาวประมาณ๓๐ กิโลเมตร
            นอกจากนั้นมีแม่น้ำหางสาครเกิดจากหนองน้ำธรรมชาติบริเวณวัดคลองกลาง ในเขตตำบลวัดโคก อำเภอมโนรมย์ ไหลผ่านหางน้ำสาครอู่ตะเภา วัดหนองตาคน ช่องแคบตรงแหลมหว้าไปบรรจบกับแม่น้ำเจ้าพระยาที่บางไก่เถื่อนเมื่อมีการขุดคลองอนุศาสนนันท์เพื่อผันน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาทางริมฝั่งซ้ายของแม่น้ำเจ้าพระยา ในเขตตำบลวัดโคกอำเภอมโนรมย์ ให้มาเชื่อมกับลำน้ำหางน้ำสาคร ที่วัดคลองกลาง และขุดคลองต่อไปที่สะพานเบี่ยงตำบลเสือโฮก อำเภอเมือง ฯ ออกไปถึงตำบลจันเสน อำเภอตาคลี จังหวัดนครสวรรค์เรียกว่าแม่น้ำชัยนาท - ป่าสักปัจจุบันเรียกว่า คลองอนุศาสนนันท์ มีความยาวทั้งสิ้น ๑๓๓ กิโลเมตร
เขื่อนเจ้าพระยา

           เป็นเขื่อนแห่งแรก และเป็นเขื่อนทดน้ำที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไทย ตั้งอยู่ที่บริเวณคุ้งบางกระเบียนตำบลบางหลวง อำเภอสรรพยา ตัวเขื่อนมีขนาดกว้าง ๒๓๗.๕๐ เมตร มีช่องระบายน้ำจำนวน ๑๖ ช่อง มีประตูเรือติดกับเขื่อนด้านขวา กว้าง ๔ เมตร สำหรับให้เรือขนาดใหญ่ผ่านได้โดยใช้วิธีปรับระดับน้ำให้เสมอกันแล้วจึงเปิดประตูน้ำนอกจากนั้นยังมีฝายระบายน้ำฉุกเฉิน ช่องวัดและทำนบดินเป็นเขื่อนที่ให้ประโยชน์อย่างกว้างขวางในด้านเศรษฐกิจการคมนาคม การชลประทาน และการเกษตร
บึงฉวาก

            เป็นบึงธรรมชาติขนาดใหญ่ กว้างประมาณ ๖๕๐ เมตร ยาวประมาณ ๖,๕๐๐ เมตร ลึกประมาณ๒ เมตร มีพื้นที่โดยรอบประมาณ ๑,๘๐๐ ไร่ อยู่ในเขตตำบลบ้านเชี่ยน อำเภอหันคาพื้นที่ส่วนหนึ่งอยู่ในเขตอำเภอเดิมบางนางบวช จังหวัดสุพรรณบุรี บึงฉวากเก็บน้ำได้ตลอดปีเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ปลาน้ำจืดที่สำคัญ กรมป่าไม้ได้ประกาศให้เป็นเขตหวงห้ามล่าสัตว์ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. ๒๕๐๓ เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๒๕
            ในปี พ.ศ. ๒๕๓๗ จังหวัดสุพรรณบุรีได้ปรับปรุงบึงฉวากให้เป็นแหล่งน้ำขนาดใหญ่เพื่อให้เป็นที่เก็บกักน้ำไว้ใช้ในการอุปโภค และบริโภค ต่อมาในปี พ.ศ. ๒๕๓๙ได้มีการพัฒนาบริเวณรอบบึงฉวาก โดยปลูกพันธุ์ไม้ใหญ่ต่างๆ ส่งเสริมการเลี้ยงสัตว์น้ำการท่องเที่ยวและแหล่งอนุรักษ์ธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม
บึงละหานใหญ่

           ตั้งอยู่ในเขตตำบลแพรกศรีราชา อำเภอสรรคบุรี และตำบลไก่เถื่อน อำเภอหันคามีพื้นที่ประมาณ ๕,๐๐๐ ไร่ มีน้ำตลอดปี เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ปลา และสัตว์น้ำนานาชนิดจังหวัดชัยนาทกำลังพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว และสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ
บึงละหานบัว
           อยู่ในเขตตำบลวังไก่เถื่อน อำเภอหันคา มีพื้นที่ประมาณ ๒๓๔ ไร่ ทางตำบลได้ทำการพัฒนาบึงแห่งนี้เมื่อปีพ.ศ. ๒๕๓๗ ไปส่วนหนึ่ง และทำให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว
บึงประจำรัง(บึงจำรัง)
           เป็นบึงธรรมชาติขนาดใหญ่ มีน้ำตลอดปี รับน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาโดยคลองชลประทานลักษณะของบึงเป็นรูปวงเดือน หรือเกือกม้า มีความกว้างประมาณ ๘๐๐ เมตร ยาวประมาณ๘ กิโลเมตร มีพื้นที่ประมาณ ๖.๔ ตารางกิโลเมตร อยู่ที่บ้านวงเดือน และบ้านวงศ์พัฒนาตำบลหาดท่าเสา อำเภอเมืองฯ มีปลาชุม เป็นที่อาศัยของนกนานาพันธุ์ ในเดือนมกราคม - กุมภาพันธ์ ของทุกปี จะมีนกเป็ดน้ำมาอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก ทั่วทั้งบึงมีดอกบัวอยู่ทั่วไปจึงเป็นบึงที่มีทัศนียภาพที่สวยงามมาก
           ทางจังหวัดและกรมโยธาธิการ ได้จัดทำโครงการกำจัดผักตบชวา และวัชพืชอื่น ๆออกไปเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๔๑ เพื่อให้บึงแห่งนี้เป็นสถานที่เพาะพันธุ์สัตว์น้ำเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ
เขาพลอง
           เขาพลองอยู่ในเขตตำบลเขาท่าพระ อำเภอเมืองฯ เป็นที่ตั้งของวัดปฐมเทศนาอรัญวาสี(วัดเขาพลอง) บริเวณเชิงเขาพลอง เป็นที่ตั้งของสวนนกชัยนาทและเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธอริยธมฺโม พระพุทธรูปปางมารวิชัย ขนาดหน้าตักกว้าง๖ วาเศษ สูงประมาณ ๑๐ วาจากฐาน สร้างเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๑๙ เมื่อขึ้นไปถึงยอดเขาพลองจะสามารถมองเห็นทิวทัศน์อันสวยงามของตัวเมืองชัยนาทได้ชัดเจน
เขาสรรพยา

           เขาสรรพยา เป็นเขาที่สูงและใหญ่ที่สุดในเขตอำเภอสรรพยา ตั้งเด่นอยู่กลางทุ่งนาเพียงลูกเดียว เป็นที่ตั้งของวัดเขาสรรพยาบูรณาราม เดิมเขาสรรพยาไม่ค่อยเป็นที่รู้จักการเดินทางไปลำบาก ต่อมาเมื่อชาวบ้านไปพบโบราณสถานบนเขา เช่นพระอุโบสถ เจดีย์ศาลาการเปรียญ ถ้ำน้ำมนต์ คนทั่วไปจึงให้ความสนใจ และพากันไปเที่ยวชมมากยิ่งขึ้น
           สถานที่น่าสนใจบนเขาสรรพยา ได้แก่บรรดาถ้ำต่าง ๆ เช่น ถ้ำน้ำมนต์ ถ้ำกบ ถ้ำลับแล และถ้ำค้างคาว ลานตะกร้อ ซึ่งเป็นลานกว้างบนยอดเขา มีขนาดกว้างประมาณ ๕๐ x๕๐ เมตร และมีต้นสังกรณีตรีชวา ซึ่งเป็นยาสมุนไพรที่ชาวบ้านนำมาใช้รักษาโรค
           เขาสรรพยามีประวัติที่เกี่ยวเนื่องกับเรื่องราวในวรรณคดีไทยเรื่องรามเกียรติ์ตอนพระลักษมณ์ต้องหอกโมกขศักดิ์ของกุมภกรรณ พิเภกบอกวิธีแก้ให้ พระรามจึงให้หนุมาณไปเอายาคือต้นสังกรณีตรีชวาที่เขาสรรพยา ไปบดทำยาโดยผสมกับน้ำในแม่น้ำมหานที ตามคำบอกของพิเภกเมื่อนำยาดังกล่าวไปทาที่บาดแผล พระลักษมณ์ก็หายจากพิษของศรโมกขศักดิ์
           เมื่อขึ้นไปบนเขาสรรพยาที่ทำเป็นบันไดขึ้นไปประมาณ ๒๐๐ ขั้น จะพบรูปปั้นหนุมาณซึ่งสลักจากหินก้อนใหญ่และเมื่อขึ้นไปถึงยอดเขาจะเห็นทิวทัศน์อันสวยงามตามธรรมชาติของท้องทุ่ง และอาณาบริเวณโดยรอบที่มีต้นตาลโตนดขึ้นอยู่เรียงรายสวยงามน่าชม
เขาสารพัดดี

           เขาสารพัดดี อยู่ในเขตตำบลบ้านเชี่ยน อำเภอหันคา เป็นที่ตั้งของวัดไกลกังวลซึ่งเป็นวัดที่มีชื่อเสียงด้านวิปัสนากรรมฐาน เป็นเขตอภัยทานสัตว์ป่า มีกำแพงล้อมรอบภูเขายาวถึง๕ กิโลเมตร ภายในมีกำแพงมีสัตว์เลี้ยง และสัตว์ป่าหลายชนิด มีการปลูกป่าตามโครงการปลูกป่าและในเทศกาลออกพรรษาของทุกปี จะมีประเพณีตักบาตรเทโว ในวันแรม ๔ ค่ำเดือน๑๑ มีพุทธศาสนิกชนมาร่วมงานเป็นจำนวนมาก
           ในอดีตเขตจังหวัดชัยนาท มีป่าไม้ปกคลุมอยู่ทั่วไป มีลักษณะเป็นป่าเขตร้อนที่มีความหลากหลายทางชีวภาพสูง มีต้นไม้ขึ้นเป็นชั้น ๆ แน่นทึบมาก ชั้นบนสุดซึ่งเป็นชั้นเรือนยอดมีความสูงประมาณ ๔๐ เมตร ป่าไม้ในเขตจังหวัดชัยนาทเป็นป่าประเภทป่าไม้ผลัดใบได้แก่ป่าเบญจพรรณ ป่าแดง และป่าไม้ไม่ผลัดใบ ได้แก่ป่าดิบ และป่าดิบแล้ง
           บริเวณสองฝั่งแม่น้ำ ซึ่งเป็นที่ราบลุ่ม ป่าไม้จะเป็นชนิดป่าดิบมีลักษณะรกทึบและเขียวชอุ่มตลอดปี ส่วนบริเวณที่อยู่ห่างจากแม่น้ำ ป่าไม้จะเป็นชนิดป่าดิบแล้ง
           บริเวณที่ราบสูงในเขตอำเภอวัดสิงห์ อำเภอหันคา กิ่งอำเภอหนองมะโรง กิ่งอำเภอโนนขามและพื้นที่บริเวณภูเขาต่าง ๆ พื้นที่จะเป็นดินร่วนปนทราย ป่าไม้จะเป็นชนิดป่าเบญจพรรณมีลักษณะเป็นป่าโปร่ง ประกอบด้วย ต้นไม้ขนาดใหญ่ และขนาดกลางหลายชนิด และมีไม้ไผ่ชนิดต่างๆ ขึ้นกระจายอยู่ทั่วไป
           ป่าสงวนแห่งชาติในเขตจังหวัดชัยนาทมีอยู่สองแห่งคือ ป่าสงวนแห่งชาติเขาหลัก- เขาช่องลม และป่าสงวนแห่งชาติเขาราวเทียน รายละเอียดได้กล่าวไว้แล้วแต่ตอนต้น
           ไม้มีค่ายังคงมีขึ้นอยู่ตามหัวไร่ปลายนาในป่าสงวน ในที่ดินกรรมสิทธิ์ ไม้ดังกล่าวได้แก่ ไม้ยางนา ขึ้นอยู่ตามริมฝั่งแม่น้ำ ไม้ประดู่ป่า ไม้แดง ไม้มะค่าโมงไม้รัง และไม้ชิงชัน
สัตว์ป่า


           ในเขตจังหวัดชัยนาทมีอยู่น้อย เนื่องจากมีพื้นที่ป่าอยู่น้อย จึงไม่มีสัตว์ขนาดใหญ่คงมีแต่สัตว์ป่าขนาดเล็ก สัตว์เลื้อยคลานบางชนิด และนกชนิดต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งนกน้ำที่วัดเขาสารพัดดีศรีเจริญธรรม (วัดไกลกังวล) ตำบลบ้านเชี่ยน อำเภอหันคา ได้มีการนำสัตว์ชนิดต่างๆ มาเลี้ยงไว้ในบริเวณวัด ซึ่งมีพื้นที่ประมาณ๑,๐๐๐ ไร่เศษ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่ออนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่าสัตว์ที่เลี้ยงไว้ได้แก่ นกยูง นกหว้า นกแว่น ไก่ป่า ไก่ฟ้าพญาลอ ไก่ฟ้าหลังเงินเก้ง ละมั่ง เนื้อทรายหรือกวางทราย กวางดาว กวางป่า เลียงผา หมี เม่น หมูป่ากระจง เสือโคร่ง เสือปลา กระรอก กระแต เต่า และตะพาบน้ำ นอกจากนี้ยังมีสัตว์ป่าขนาดเล็กเช่น อีเห็น ตะกวด พังพอน งูชนิดต่าง ๆ และนกชนิดต่าง ๆ อยู่ทั่วบริเวณวัดโครงการนี้ได้เริ่มตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๒๙ จนถึงปัจจุบัน บรรดาสัตว์ป่าต่าง ๆดังกล่าวได้แพร่พันธุ์มีนำนวนมากขึ้น จึงได้มีการนำไปบริจาคให้แก่สวนสัตว์ต่างๆ


           ยังมีสัตว์อีกชนิดหนึ่งที่มีอยู่เป็นจำนวนมาก ได้แก่ ลิงชนิดต่าง ๆ สถานที่ที่มีลิงอาศัยอยู่เป็นจำนวนมากคือวัดพิกุลงาม อำเภอมโนรมย์ และวัดธรรมิกาวาส (วัดคังคาว) อำเภอสรรค์บุรี ฝูงลิงดังกล่าวเป็นลิงป่าได้เข้ามาอาศัยอยู่ในวัดตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๔๙๓ ปัจจุบันมีอยู่ประมาณ ๕,๐๐๐ ตัว
สัตว์น้ำ
           ชัยนาทเป็นเมืองที่มีลำน้ำผ่านถึงสามสาย จึงเป็นแหล่งรวมของพันธุ์ปลานานาชนิดบางชนิดเป็นพันธุ์ปลาที่หายาก เช่น ปลาราหู ปลากระเบน ปลากะโห้ ปลาสังกะวาดปลาเนื้ออ่อน หรือปลาแดง ปลาน้ำเงิน ปลาบู่ ปลาลิ้นหมา ปลาสร้อย ปลาสวาย ปลาหมอไทยปลาหมูขาว ปลาไหลนา ปลาเทโพ ปลาตะเพียน ปลาช่อน ปลาเบี้ยว ปลากดเหลือง ปลาแขยงข้างลายเป็นต้น

| ย้อนกลับ | หน้าต่อไป | บน |