| ย้อนกลับ | หน้าต่อไป |
| พัฒนาทางประวัติศาสตร์ | มรดกทางธรรมชาติ | มรดกทางวัฒนธรรม | มรดกทางพระพุทธศาสนา |


จังหวัดเพชรบุรี

          จังหวัดเพชรบุรี  ตั้งอยู่ในภาคกลางด้านตะวันตกของประเทศไทย มีอาณาเขตติดต่อดังนี้
          ทิศเหนือ  ติดต่อกับอำเภอปากท่อ จังหวัดราชบุรี และอำเภอเมือง ฯ  และอำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม
          ทิศตะวันออก  ติอต่อกับอ่าวไทย ตั้งแต่ปากอ่าวบางตะบูน อำเภอบ้านแหลม ถึงสนามบินบ่อฝ้าย อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
          ทิศใต้  ติดต่อกับอำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
          ทิศตะวันตก  ติดต่อกับเทือกเขาตะนาวศรี อันเป็นพรมแดนไทยกับประเทศพม่า
          จังหวัดเพชรบุรี  มีพื้นที่ประมาณ ๖,๒๒๐ ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ ๓,๘๙๐,๐๐๐ ไร่ มี ๘ อำเภอคือ อำเภอเมือง ฯ อำเภอเขาย้อย อำเภอบ้านแหลม อำเภอบ้านลาด อำเภอท่ายาง อำเภอชะอำ อำเภอหนองหญ้าปล้อง และอำเภอแก่งกระจาน

          ลักษณะภูมิประเทศ  พื้นที่ประมาณสองในสามส่วนมีลักษณะเป็นลูกคลื่นลอนลาด ลูกคลื่นลอนชัน และพื้นที่ภูเขา พื้นที่ราบมีอยู่ประมาณหนึ่งในสามส่วน ลักษณะพื้นที่ดังกล่าววางตัวอยู่ในแนวเหนือ - ใต้ มีพิ้นที่ราบอยู่ทางชายฝั่งทะเลด้านตะวันออก พื้นที่ลูกคลื่นลอนลาดอยู่ตอนกลาง และพื้นที่ลอนชัน และพื้นที่ภูเขาทางด้านทิศตะวันตก มีความสูงตั้งแต่ ๓๐๐ เมตรขึ้นไป โดยมียอดเขาสูงสุดคือ ยอดเขาพะเนินทุ่ง สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ ๑,๒๑๐ เมตร
ที่ราบลุ่มแม่น้ำ
           ที่ราบลุ่มแม่น้ำตอนกลาง  เป็นที่ราบลุ่มเกิดจากการทับถมของตะกอนแม่น้ำเพชรบุรี เป็นพื้นที่อุดมสมบูรณ์ มีประชากรอยู่หนาแน่น

          แม่น้ำเพชรบุรี  ต้นกำเนิดจากทิวเขาตะนาวศรี ในเขตอำเภอแก่งกระจาน แล้วไหลมาทางด้านทิศตะวันออก จากนั้นไหลวกขึ้นไปทางเหนือถึงฝั่งแม่น้ำบางกลอย แล้วไหลไปทางทิศตะวันออกถึงห้วยแม่ประโคน เข้าสู่อ่างเก็บน้ำเขื่อนแก่งกระจานทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ มีสาขาจากห้วยแม่ประจันต์ไหลมาบรรจบที่เขื่อนเพชร แล้วไหลผ่านอำเภอท่ายาง อำเภอบ้านลาด อำเภอเมือง ฯ แล้วไหลลงสู่อ่าวไทยที่อำเภอบ้านแหลม ก่อนที่แม่น้ำเพชรบุรีจะไหลออกทะเล ลำน้ำจะแยกออกเป็นสองสาย ที่บ้านปากคลอง ตำบลบางครก อำเภอบ้านแหลม สายแรกไหลไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ออกสู่ทะเลที่ตำบลบ้านแหลม อีกสายหนึ่งแยกไปทางทิศเหนือ ไปรวมกับลำน้ำจากอำเภอบ้านลาด ซึ่งไหลผ่านตำบลหัวสะพาน และตำบลบางจาก อำเภอเมือง ฯ ผ่านเขาสมอระยัง มาบรรจบกับคลองบ้านน้อย อำเภอเขาย้อย ที่บ้านสามแพรก อำเภอบ้านแหลม โดยมีลำน้ำจากอำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงครามไหลมาบรรจบ
          ที่ราบลุ่มแม่น้ำเพชรบุรี  เป็นที่ราบลุ่มแม่น้ำขนาดกลาง มีพื้นที่ประมาณ ๕,๖๐๐ ตารางกิโลเมตร มีลักษณะเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า

          ที่ราบชายฝั่งทะเลตะวันออก  มีความยาวประมาณ ๙๐ กิโเมตร เป็นพื้นที่ติดต่อกับอ่าวไทย ทางด้านตะวันออกของจังหวัด พื้นที่อยู่สูงจากระดับน้ำทะเลเล็กน้อยจนถึงประมาณ ๑ เมตร ตอนในเข้ามาเป็นที่ราบซึ่งน้ำทะเลท่วมถึงในฤดูฝน ชายฝั่งตอนเหนือประกอบด้วยหาดเลน และมีป่าชายเลนขึ้นปกคลุม ตามแนวชายฝั่ง ตั้งแต่อ่าวบางตะบูน และอ่าวบ้านแหลมจนถึงแหลมผักเบี้ย ยาวประมาณ ๔๔ กิโลเมตร ใต้แหลมหลวง ซึ่งเป็นสันดอนทรายงอกยื่นลงไปในทะเล ปรากฎเป็นหาดทรายต่อเนื่องไปตั้งแต่หาดเจ้าสำราญ ถึงหาดชะอำ ทางตอนใต้ ยาวประมาณ ๔๗ กิโลเมตร ชายฝั่งบางตอนจะมีการทับถมของเปลือกหอยขนานไปกับชายฝั่ง เช่น ที่บ้านบางแก้ว และบ้านปากทะเล ชาวบ้านเรียกเนินที่มีเปลือกหอยกองทับถมนี้ว่า กะซ้า
          แหลมหลวง  จัดเป็นสันดอนจงอย ด้านหนึ่งจะงอเป็นรูปโค้งเข้าหาแผ่นดิน มีความยาวยื่นลงไปในทะเลประมาณสองกิโลเมตร กระแสน้ำไหลขนานกับชายฝั่งเป็นตัวนำตะกอนทรายมาสะสม และการซัดพาของคลื่นทะเลทำให้เกิดรูปร่างเป็นจงอย
          แนวสันดอนของแหลมหลวง เป็นแนวแบ่งเขตระหว่างหาดเลนกับหาดทราย จากชายฝั่งแหลมหลวงขึ้นไปทางทิศเหนือจดสุดเขตจังหวัด ที่ตำบลบางตะบูน อำเภอบ้านแหลม ชายหาดมีตะกอนและโคลนที่แม่น้ำเพชรบุรไหลนำมาทับถมจนเกิดเป็นสันดอนแผ่ขยายปกคลุมพื้นที่ชายฝั่งตอนเหนือ ทำให้เกิดป่าไม้ชายเลนปกคลุมชายฝั่งดังกล่าว เป็นแหล่งประมงที่สำคัญ มีสัตว์น้ำชุกชุม และเป็นแหล่งกำเนิดหอยแครงตามธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไทย
          บริเวณที่ถัดจากสันดอนแหลมหลวงลงไปทางทิศใต้เริ่มปรากฎเป็นหาดทรายอย่างชัดเจน นับตั้งแต่หาดเจ้าสำราญ หาดปึกเตียน หาดโตนดน้อย หาดบ้านทา หาดคลองเทียน และหาดชะอำ จนสุดเขตชายฝั่งทะเลที่ต่อเนื่องกับหาดหัวหินของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์
          น้ำทะเลบริเวณชายฝั่งยังมีความลึกเฉลี่ย ๑๕ - ๒๐ เมตร น้ำทะเลทางฝั่งตอนเหนือจะตื้น เนื่องจากมีตะกอนจากแม่น้ำเพชรบุรีไหลลงมาทับถมมาก น้ำทะเลจะมีสีเขียว และค่อนข้างขุ่น บริเวณใต้แหลมหลวงลงมาทางใต้น้ำทะเลมีความลึกและมีความเค็มมากขึ้น มีสีฟ้าใสกว่าตอนบน

| ย้อนกลับ | หน้าต่อไป | บน |