| ย้อนกลับ | หน้าต่อไป | |
| พัฒนาทางประวัติศาสตร์ | มรดกทางธรรมชาติ | มรดกทางวัฒนธรรม | มรดกทางพระพุทธศาสนา | |
กลุ่มพื้นเมืองเดิมก่อนแคว้นหริภุญชัย
บริเวณแอ่งที่ราบเชียงใหม่ - ลำพูน ได้มีการสำรวจพบร่องรอยของแหล่งโบราณคดี
ในบริเวณที่ราบริมฝั่งแม่น้ำกวง ทางด้านทิศตะวันออก ตั้งแต่เขตอำเภอดอยสะเก็ด
จังหวัดเชียงใหม่ เป็นแนวยาวมาถึงเขตอำเภอเมืองลำพูน มีร่องรอยการอยู่อาศัยของชุมชนโบราณ
สมัยก่อนวัฒนธรรมหริภุญชัย ได้แก่ แหล่งโบราณคดีบ้านวังไฮ
ตำบลเวียงยอง
อำเภอเมือง ฯ พบว่าเคยเป็นสถานที่ฝังศพ นอกจากโครงกระดูกแล้ว ตามชั้นดินต่าง
ๆ ยังพบโบราณวัตถุที่ปะปนกันในหลายลักษณะทั้งรูปแบบ และวัสดุ กล่าวคือ
ลึกลงไปตามชั้นดินประมาณชั้นที่ ๔ - ๕ พบขวานหินกะเทาะ เครื่องมือสะเก็ดหิน
แวดินเผา ค้อนหิน ภาชนะดินเผาเนื้อหยาบ สิ่งของดังกล่าวมีลักษณะเป็นวัฒนธรรมของมนุษย์ที่อาศัยอยู่ในที่สูงตามถ้ำ
หรือเพิงผา มีการดำรงชีพแบบล้าหลัง
ตั้งแต่ชั้นดินที่ ๓ - ๑ พบวัสดุที่ผลิตด้วยการใช้เทคโนโลยีที่สูงกว่า ได้แก่
เครื่องมือเหล็ก เศษภาชนะดินเผาแบบหริภุญชัย กำไลแก้ว ลูกปัดแก้ว ลูกปัดแร่คาร์เนเลียน
ลูกปัดแร่อาเกดและ กำไลสำริด เป็นต้น อันเป็นสิ่งของของสังคมที่เจริญกว่าในลักษณะชุมชนที่เชื่อมต่อกับยุคประวัติศาสตร์
จากการสำรวจพบดังกล่าว ทำให้ได้ข้อสันนิษฐานเกี่ยวกับลักษณะของกลุ่มชนดังเดิมในแถบนี้ว่า
ชุมชนที่ตั้งหลักแหล่งบริเวณลุ่มแม่น้ำกวง อันได้แก่ชุมชนบ้านยางทองใต้ ชุมชนที่บ้านสันป่าคำ
และชุมชนที่บ้านวังไฮ เป็นชุมชนร่วมสมัยเดียวกัน เดิมเป็นชุมชนก่อนประวัติศาสตร์
ที่มีวัฒนธรรมแบบดั้งเดิม จนกระทั่งประมาณพุทธศตวรรษที่ ๑๙ ได้มีกลุ่มชนจากภาคกลางเป็นกลุ่มชนเมือง
อพยพมาตั้งหลักฐานในบริเวณใกล้เคียงกัน มีการติดต่อกัน จากนั้นสังคมเมืองก็แผ่อิทธิพลมายังชุมชนเหล่านี้
ใช้เวลาหลายชั่วอายุคน
กลุ่มชนที่บ้านวังไฮ มีลักษณะว่าได้รับเอารูปแบบวัฒนธรรมทวารวดี จากเมืองหริภุญชัยมากกว่ากลุ่มชนบ้านยางทองใต้
และบ้านสันป่าคำที่อยู่ห่างไกลออกไป
จากการศึกษาจากเอกสารตำนานที่เกี่ยวเนื่องกับพระพุทธศาสนา ลัทธิลังกาวงศ์
ที่เผยแผ่เข้ามายังดินแดนแถบนี้ พบว่ามีการกล่าวถึงกลุ่มสังคม ในลักษณะชนเผ่าที่ตั้งถิ่นฐานบริเวณลุ่มน้ำต่าง
ๆ เช่น กลุ่มชนแถบลุ่มน้ำปิงตอนบน แถบจังหวัดลำพูนในปัจจุบัน และบริเวณลุ่มน้ำวัง
จังหวัดลำปาง ที่มีความสัมพันธ์กับอารยธรรมทวารวดี และลพบุรีจากภาคกลาง
ความสัมพันธ์ระหว่างทวาราวดีละโว้
และหริภุญชัย
ชื่อแคว้นทวารวดีมีปรากฏอยู่ในบันทึกของหลวงจีนที่เดินทางไปศึกษาพระพุทธศาสนาที่อินเดีย
คือ หลวงจีนยวนฉาง ในระหว่างปี พ.ศ.๑๑๗๒ - ๑๑๘๘ และหลวงจีนอี้จิง ระหว่างปี
พ.ศ.๑๒๑๔ - ๑๒๓๖ ส่วนทางด้านโบราณคดีได้มีการพบซากโบราณสถาน และโบราณวัตถุที่แสดงเครือข่ายทางวัฒนธรรมที่มีการนับถือ
พระพุทธศาสนาในแบบแผนเดียวกัน เช่นที่เมืองโบราณนครปฐม จังหวัดนครปฐม เมืองคูบัว
จังหวัดราชบุรี เมืองอู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี เมืองพงตึก จังหวัดกาญจนบุรี
เมืองละโว้ จังหวัดลพบุรี เมืองบน จังหวัดนครสวรรค์ เมืองศรีมโหสถ จังหวัดปราจีนบุรี
เป็นต้น เมืองเหล่านี้เป็นเมืองโบราณขนาดใหญ่ มีศาสนสถานขนาดใหญ่ ปรากฏอยู่มาก
ตั้งอยู่ในบริเวณที่ราบลุ่มแม่น้ำภาคกลาง มีอายุอยู่ในช่วงพุทธศตวรรษที่ ๑๒
- ๑๖
เมืองละโว้
เป็นชื่อเมืองเก่าของเมืองลพบุรีมาตั้งแต่สมัยทวาราวดี มีความเจริญเติบโต
และคลี่คลายทางวัฒนธรรมแบบพื้นเมือง ในสมัยก่อนประวัติศาสตร์ มารับวัฒนธรรมจากอินเดียเข้าผสมผสาน
ดังจะเห็นได้จากซากโบราณสถาน และโบราณวัตถุในพระพุทธศาสนาในรูปแบบศิลปกรรมที่เรียกว่าทวาราวดีละโว้
มีความเจริญรุ่งเรืองในด้านต่าง ๆ ในระดับสูงเท่าเทียมกับเมืองใหญ่อื่น ๆ
ในแว่นแคว้นทวาราวดีบนที่ราบลุ่มแม่น้ำภาคกลางของประเทศไทย
เมืองหริภุญชัย
ชื่อเมืองเก่าของเมืองลำพูน ได้พบโบราณวัตถุที่เป็นรูปปั้นตุ๊กตาขนาดเล็ก
รวมทั้งพระพุทธรูปรุ่นแรก ๆ มีรูปแบบคล้ายคลึงกับโบราณวัตถุ และพระพุทธรูปที่พบตามเมืองโบราณขนาดใหญ่ในที่ราบลุ่มแม่น้ำภาคกลาง
จากตำนานเรื่องจามเทวี ธิดากษัตริย์กรุงละโว้ขึ้นไปครองเมืองหริภุญชัย เป็นเรื่องของอารยธรรมจากเมืองละโว้
ที่ขึ้นไปผสมผสานกับวัฒนธรรมพื้นเมืองของชุมชนก่อนประวัติศาสตร์ที่ลำพูน
กำเนิดเมืองหริภุญชัย
จากประวัติศาสตร์ของเมืองหริภุญชัยตอนต้น เป็นเรื่องนิยายปรัมปรา สะท้อนให้เห็นว่าชาวพื้นเมืองในระยะแรก
ๆ เป็นพวกเมงคบุตร
หรือพวกละว้า
ที่ตั้งถิ่นฐานอยู่ในที่ราบลุ่มเชียงใหม่ ใกล้ดอยสุเทพ มีหลายชุมชนในบริเวณใกล้เคียงกัน
มีความสัมพันธ์ในทางเชื้อสายเดียวกัน ใช้ภาษาเดียวกัน และมีหัวหน้าปกครอง
แต่แบ่งออกเป็นหลายหมู่เหล่า แต่ละหมู่จะมี แรด ช้าง วัว เนื้อ เป็นสัญลักษณ์ของตน
ดังที่ในตำนานกล่าวว่า คนที่เกิดจากรอยเท้าช้าง รอยเท้าแรด และรอยเท้าวัว
เป็นต้น
จากตำนานมูลศาสนาได้กล่าวถึงพวกฤาษีกลุ่มหนึ่งที่ได้เคยบวชเรียนในพระพุทธศาสนามาก่อน แต่ไม่สามารถปฏิบัติตามสิกขาบทในพระธรรมวินัยได้ จึงได้ลาสิกขา แล้วมาบวชเป็นฤาษีมีอยู่ห้ารูปด้วยกันคือ สุเทโว สุกกทันโต อนุสิสสะ พุทธชฎิละ และสุพรหม ชุมชนในลุ่มน้ำพิงค์ (ปิง) เป็นชุมชนของพวกละว้า หรือเมงคบุตร ศูนย์กลางของชุมชนอยู่บริเวณเชิงดอยสุเทพ ที่ฤาษีวาสุเทพมาพำนักอยู่ และฤาษีวาสุเทพก็ได้เป็นผู้นำชาวพื้นเมืองเหล่านี้ในเวลาต่อมา ได้สร้างบ้านเมืองขึ้นให้ลูกหลานปกครอง ได้มีการเปลี่ยนแปลงทางสังคมจากแบบเดิมมาเป็นสังคมแบบเมือง เกิดมีชนชั้น มีกษัตริย์ปกครอง แต่ยังไม่มีความสัมพันธ์กับแว่นแคว้นอื่นบ้านเมืองอื่นมากนัก ต่อมาได้เกิดน้ำท่วมใหญ่บริเวณเชิงดอยสุเทพ ฤาษีวาสุเทพจึงได้นำชาวลัวะกลุ่มหนึ่ง ล่องลงมาตามลำน้ำพิงค์ เห็นสถานที่แห่งหนึ่งมีชัยภูมิดี เคยเป็นสถานที่ประทับของพระพุทธเจ้า จึงให้สร้างขึ้น แล้วคิดหาผู้มีบุญญาธิการ และมีทศพิธราชธรรมมาเป็นท้าวพญา จึงคิดถึงสุกกทันตฤาษีผู้เป็นสหายที่อยู่สำนักเมืองละโว้ จึงได้ส่งข่าวให้มาช่วยเตรียมการสร้างเมือง |
| ย้อนกลับ | หน้าต่อไป | บน | |